บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ฉันจำเธอได้แล้ว...

มัลลิกาเดินไปนั่งเก้าอี้ ที่ชายหนุ่มร่างผอมแห้งเลื่อนออกไว้รอท่า เมื่อเดินมาถึงก็ยกมือไหว้เจ้าของฟาร์มพร้อมกับนั่งลง เธอรู้ว่าคนตรงหน้าจำเธอไม่ได้แน่นอน เพราะวันนั้นกับตอนนี้หล่อนต่างกันราวกับเป็นคนละคน ส่วนเจ้าของฟาร์มหนุ่มก็จ้องมองหน้าของผู้มาสัมภาษณ์งานโดยละเอียด ยังไงก็ดูคุ้นตา แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกอยู่ดีว่าเคยเห็นและรู้จักที่ไหน

“สวัสดีครับคุณมัลลิกา” น้ำเสียงทุ้มสุภาพแตกต่างจากวันนั้นที่เจอกันเอ่ยขึ้นหลังจากหญิงสาวตรงหน้ายกมือไหว้ด้วยความเคารพตนเอง

“ค่ะ คุณคมธรรม” น้ำเสียงหวานใสที่แตกต่างจากการแต่งตัวเอ่ยตอบรับพร้อมกับส่งยิ้มให้ตามมารยาท

ยิ่งน้ำเสียงยิ่งทำให้คมธรรมรู้สึกคุ้นหู ยิ่งมองหน้าก็เหมือนเคยเห็นที่ไหน แต่ก็ไม่รู้ว่าเคยเจอที่ไหน ก็หล่อนแต่งตัวเหมือนป้าแก่ๆ แต่ทำไมหน้าตาถึงดูอ่อนวัยไม่เหมือนคนอายุ 27 ปีเหมือนที่อ่านในประวัติเลยล่ะ น้ำเสียงก็ไม่เข้ากับหน้าตาเอาเสียเลย

“เข้ม...มึงออกไป กูจะสัมภาษณ์คุณมัลลิกา” เขาบอกลูกน้องคนสนิทให้ออกไป ทันทีที่ถูกสั่งเข้มก็ออกไปทันที ตอนนี้ในห้องทำงานก็เหลือเพียงเจ้าของห้องและผู้มาใหม่เท่านั้น

“เอาล่ะ คุณคิดยังไงถึงมาสมัครเป็นผู้จัดการฟาร์มของผม ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คุณทำงานอยู่กรุงเทพ เป็นผู้จัดการของโรงแรม งานมันต่างกันนะคุณ” เริ่มสัมภาษณ์หญิงสาวแต่งตัวเชยทันที

“ฉันอยากได้งานนี้เพราะเป็นงานที่ใกล้บ้านของฉัน และฉันเชื่อว่าฉันทำได้แน่นอนค่ะ ถึงแม้ว่าจะต่างกันกับงานที่โรงแรม แต่ฉันพร้อมศึกษาและปรับตัวค่ะ” มัลลิกาตอบตามที่ตัวเองคิด

“บ้านคุณอยู่ใกล้ฟาร์มผมเหรอ”

“ค่ะ เดินทางมาไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง อีกอย่างฉันอยากย้ายกลับมาทำงานที่บ้านเพื่อดูแลป้าของฉันที่อายุเยอะแล้ว ฉันไม่อยากทิ้งให้ท่านอยู่คนเดียวค่ะ”

“อือ...เป็นหลานที่ดี คุณว่าเราสองคนเคยเจอกันมาก่อนไหม ผมรู้สึกคุ้นหน้าและเสียงคุณมากเลย แต่ผมคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก” ถามสาวเชยตรงหน้า

“คะ...คือไม่ค่ะ” ตอบติดขัดเล็กน้อย เขาจำเธอไม่ได้จริงๆ ด้วย และแน่นอนว่าดีแล้ว เธอไม่ต้องการให้เขาจำเธอได้

“อือ...ผมชอบนะ ประสบการณ์ทำงานของคุณ ทั้งๆ ที่อายุแค่นี้แต่เป็นถึงผู้จัดการ แสดงว่าเก่งไม่เบา ถ้างั้นมาเริ่มงานได้เลยพรุ่งนี้ ผมจะให้คนของผมเตรียมห้องทำงานไว้ให้ ช่วงนี้ฟาร์มของเราต้องการผู้จัดการมากเพื่อที่จะได้มาช่วยจัดการวางแผนงาน ว่าแต่เงินเดือนที่คุณเรียกมา ผมให้ตามนั้นเลย และคุณทำบัญชีด้วยได้ไหม”

“ได้ค่ะ”

“ดีครับ ผมจะเพิ่มเงินเดือนให้คุณอีกหนึ่งหมื่นสำหรับทำบัญชีของฟาร์มด้วย เอาล่ะครับ ยินดีที่ได้รู้จักและได้ร่วมงานกัน”

“ยินดีค่ะคุณคมธรรม ขอบคุณนะคะ”

“ครับ ที่นี่มีบ้านพักของผู้จัดการ จะย้ายมาอยู่ที่ฟาร์มก็ได้นะครับ”

“ฉันพักที่บ้านดีกว่าค่ะ บ้านของฉันอยู่ห่างจากฟาร์มแค่นี้เอง เดินทางมาไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง”

“ตามที่คุณสะดวกเลย แต่ถ้าอยากมาค้างมาพักก็ได้นะครับ ผมจะให้คนของผมพาไปดูบ้านพักพรุ่งนี้เผื่อเวลามีงานติดพันอะไรจะได้ค้างไม่ต้องกลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ ”

“ขอบคุณค่ะ ดิฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”

“เชิญครับ พรุ่งนี้เจอกันครับคุณมัลลิกา ยินดีต้อนรับมาเป็นส่วนหนึ่งของฟาร์มกุลธีร์ครับ”

“ขอบคุณเช่นกันค่ะที่ให้โอกาสดิฉัน”

“คุณเป็นคนเก่ง” เขาตอบเพียงสั้นๆ แล้วมองดูร่างเล็กในชุดเชยๆ ลุกเดินออกจากห้องไป ยิ่งมองหน้าหวานที่อยู่ใต้แว่นหนาๆ ของคุณป้าและฟังน้ำเสียงก็ยิ่งคุ้นหูเหมือนเคยได้ยินจากที่ไหน

ปึก!

เสียงประตูห้องปิดแนบสนิท คมธรรมก็ดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที เมื่อนึกออกแล้วว่าเคยเห็นและได้ยินน้ำเสียงนี้จากไหน จึงรีบก้าวเดินเร็วๆ ไปยังประตูห้องแล้วกระชากเปิดออก แต่ก็เห็นเธอขับมอเตอร์ไซค์ออกไปเสียแล้ว

“โธ่เว้ย! พรุ่งนี้เราก็ได้เจอกันแล้วแม่สาวปากจัด”

ทำไมก่อนหน้านี้ถึงจำไม่ได้กันนะ ทำไมถึงจำไม่ได้ คิดเหรอว่าแต่งตัวต่างจากวันนั้นและมีแว่นหนาๆ ประดับอยู่บนหน้าจะทำให้เขาจำไม่ได้ ยอมรับว่าตอนแรกจำไม่ได้จริงๆ ก็การแต่งตัวของมัลลิกาแตกต่างจากวันนั้นมาก

“ไอ้เข้ม ไอ้หมู”

“ครับลูกพี่” ทั้งสองที่อยู่แถวหน้าห้องทำงานขานรับแล้ววิ่งมาหาลูกพี่ของตัวเองทันที

“พวกมึง ใครก็ได้ตามผู้จัดการคนใหม่ของฟาร์มเราไปซิ บ้านเธออยู่ที่ไหน”

“ยังไงครับลูกพี่ ผมไม่เข้าใจ” หมูถาม

“กูสั่งก็ไปเถอะน่า”

“ครับๆ”

หมูและเข้มรีบไปที่มอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ใกล้ๆ แล้วรีบติดเครื่องขับตามรถมอเตอร์ไซค์ของผู้จัดการคนใหม่ไปทันที

“มัลลิกา...หึหึ...ชื่อเพราะดีนี่ เธอไม่รอดแน่ อยากรู้นักว่าจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักผมได้นานแค่ไหนกัน และการแต่งตัวของคุณมันไม่ได้ทำให้ผมลบภาพจำในวันนั้นได้หรอกนะ คุณทั้งสวยและเซ็กซี่แค่ไหน ผมจำได้ และฝีปากอีก จัดจ้านเป็นบ้า”

คมธรรมพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องทำงาน ตั้งแต่วันนั้นวันที่โดนหล่อนตบหน้า เขาก็ไปที่ผับอีกเพื่อหวังว่าจะได้เจอเธออีกครั้ง แต่นั่นแหละเหมือนกับว่าเธอไร้ตัวตนหายไปอย่างไร้ร่องรอย และวันนี้กลับต้องมาเจอในลุคที่แปลกตาจนแทบจำไม่ได้ ใช่...ในตอนแรกเขาจำเธอไม่ได้ แต่พอนึกและได้ยินน้ำเสียงนั้นแล้วก็ทำให้เขานึกออกว่าเคยเจอและได้ยินที่ไหน

“เห็นดีกันแน่...มัลลิกา”

วันนี้มาเริ่มงานวันแรก การเตรียมตัวมาอย่างดีของมัลลิกาทำให้เจ้าของฟาร์มอย่างคมธรรมอดชื่นชมไม่ได้ การแต่งตัวที่รัดกุมและกระฉับกระเฉงของเธอทำให้เขาอดพึงพอใจไม่น้อย แม้ว่าใบหน้าจะมีแว่นตาหนาๆ ก็ตามแต่ มันก็ปิดซ่อนความสวยที่เขาได้พบเห็นในคืนนั้นไม่ได้เลย

ใบหน้าสวยที่แต่งอ่อนๆ มาในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวเข้ารูป กางเกงสแลคสีดำรัดรูป รองเท้าผ้าใบ ดูพร้อมกับการเริ่มงานวันแรกในฟาร์ม คมธรรมพาหญิงสาวไปดูบ้านพักเองโดยไม่มีหมูและเข้มลูกน้องคนสนิทตามติดไปด้วย และพาเดินดูฟาร์ม ดูโคกระบือหลายพันตัวในไร่ และบอกด้วยว่าพวกไหนแม่พันธุ์ พวกไหนพ่อพันธุ์ นอกจากนั้นยังพาไปทำความรู้จักกับสัตวแพทย์ประจำฟาร์มด้วย

“ดีใจที่ได้มีเพื่อนร่วมงานอย่างคุณมัลลิกานะครับ”

เสียงทุ้มสุภาพของสัตวแพทย์หนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อได้รู้จักผู้จัดการคนใหม่ของฟาร์ม ที่ตำแหน่งนี้ว่างมานานตั้งแต่เขาเข้ามาทำงานประจำที่ฟาร์มนี้ได้สามปีกว่าก็ไม่เคยมีผู้จัดการสักที และในวันนี้เจ้าของฟาร์มก็ได้จ้างผู้จัดการสักที เขาที่เป็นทั้งสัตวแพทย์และทำงานทุกอย่างในฟาร์มไม่ต่างจากผู้จัดการ เพราะเจ้าของฟาร์มที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิทอย่างคมธรรมมักโยนงานหนักๆ มาให้ ไหนจะบัญชีที่เขาไม่ถนัดจนตอนนี้ทำทุกอย่างจนชำนาญราวกับเรียนจบมาทางสายบัญชีก็มิปาน

“ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนร่วมงานใหม่ๆ อย่างคุณดิศรณ์ค่ะ” มัลลิกาเอ่ยยิ้มพร้อมก้มหน้าเขินอายเล็กน้อย ก็สัตวแพทย์หนุ่มนั้นยิ้มส่งมาให้บวกกับหน้าตาที่หล่อด้วยทำให้เธออดเขินไม่ได้

ส่วนเจ้าของฟาร์มที่ตอนนี้เหมือนเป็นอากาศธาตุเหมือนคนที่ไร้ตัวตนไปเสียแล้วสำหรับทั้งสองคนนี้ เขาจึงกระแอมขึ้นเพื่อบอกให้รู้ว่าเขายังอยู่ตรงนี้

อะแฮ่ม!

“อะไรของมึงไอ้หอย” สัตวแพทย์หนุ่มถามเพื่อนรักที่อยู่ๆ ก็กระแอมขึ้น

“เหมือนมึงจะลืมไปว่ามีกูอยู่ตรงนี้ไปรึเปล่าไอ้เปอร์”

“ก็นานๆ ทีจะมีเพื่อนร่วมงานมาใหม่ คุณมัลลิกาพักที่ไหนครับ” ดิศรณ์หันมาสนใจเพื่อนร่วมงานคนใหม่พร้อมสังเกตสายตาของคมธรรมที่เขม้นมองมาทางตนเหมือนมีอะไร ทั้งๆ ที่เขายังไม่ทันทำอะไร ทำไมคมธรรมถึงมองเขาด้วยสายตาเอาเรื่องแบบนั้นล่ะ หรือว่า...ไม่หรอกน่า คุณมัลลิกาไม่ใช่สเปคและแบบที่คมธรรมชอบ

“บ้านค่ะ พอดีบ้านของเพื่อนอยู่ใกล้ฟาร์มแค่นี้เอง” สาวเจ้าเผลอลืมตัวแทนชื่อเล่นตัวเองไปในประโยค

“เพื่อน? ชื่อเล่นเหรอครับ” ดิศรณ์เอ่ยถามอย่างสนใจ ยิ่งเห็นสายตาของเพื่อนยิ่งมั่นใจแล้วว่าต้องมีอะไรแน่นอน

“ค่ะ เรียกเพื่อนก็ได้นะคะ ไหนๆ เราก็จะร่วมงานกันจะได้สนิทกัน”

“ครับ งั้นก็เรียกผมว่าหมอเปอร์เหมือนทุกคนในฟาร์มก็ได้นะครับ”

“ค่ะ หมอเปอร์”

“ส่วนฉันหอย เรียกฉันว่าพี่หอยก็ได้นะ ฉันอายุเยอะกว่าเธอ” คนที่อยากมีส่วนร่วมด้วยเอ่ยขึ้น

“ดิฉันว่าเรียกคุณคมธรรมดีกว่าค่ะ จะได้แบ่งแยกกัน เพราะคุณเป็นเจ้านาย ส่วนคุณจะเรียกฉันว่าเพื่อนแบบหมอเปอร์ก็ได้ค่ะ ฉันไม่ถือ” ไม่อยากสนิทด้วย ไม่ถูกชะตาตั้งแต่วันนั้น และถ้าหากว่าเขารู้ว่าเธอคือคนที่ตบหน้าเขาในวันนั้นจะทำยังไงล่ะ และแน่นอนจะไม่มีวันนั้น เขาจำเธอไม่ได้หรอก ถ้าจำได้ป่านนี้คงพูดแล้ว

หึหึ

“เราควรจะสนิทกันไว้ เพราะเราจะต้องทำงานด้วยกันอีกนานน้องเพื่อน”

“คุณ!”

“อย่าถือสามันเลยครับคุณเพื่อน ไอ้หอยมันเป็นคนแบบนี้แหละ กวนๆ แต่มันเป็นคนดี”

“ดีกับผีน่ะสิ” ด้วยความปากไวทำให้พลั้งเผลอพูดออกมา

“อะไรนะครับ” สัตวแพทย์หนุ่มได้ยินไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ส่วนคมธรรมนั้นได้ยินชัดเจนเลยทีเดียว

“มึงไปทำงานได้แล้วไอ้หมอ”

“เออ...จะไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมไปก่อนนะครับคุณเพื่อน แล้วค่อยเจอกันนะครับ เรื่องบัญชีคุณค่อยมาถามผมได้ เพราะผมเป็นคนดูบัญชีคนเก่า”

“ค่ะหมอเปอร์ ยินดีที่ได้ร่วมงานกันอีกครั้งนะคะ”

“ยินดีเช่นกันครับ” สัตวแพทย์หนุ่มตอบยิ้มๆ แล้วหันไปยักคิ้วให้เจ้าของฟาร์ม ก่อนจะเดินเป่าปากออกไปอย่างอารมณ์ดี

“ไปที่ทำงานของน้องเพื่อนกันดีกว่า”

“คุณคมธรรมคะ ฉันว่าเราไม่ได้สนิทกันถึงขั้นเรียกพี่เรียกน้องกันนะคะ เราเพิ่งรู้จักกันและฉันก็เป็นลูกจ้างคุณด้วย”

“พี่ไม่ถือ ไปเถอะ ไปทำงานกัน พี่จะพาไปดูห้องเก็บเอกสารด้วย เพราะเรายังไม่ได้ไปดูเลย” คนมึนพูดพร้อมฉวยโอกาสคว้าข้อมือเล็กดึงลากให้เดินตามตัวเองไป โดยไม่สนอาการดิ้นขัดขืนของสาวตัวเล็ก

“ปล่อยก่อนค่ะ ฉันเดินเองได้” เธอบิดข้อมือของตัวเองออกจากอุ้งมือใหญ่ แต่ก็ไร้ประโยชน์เมื่อมือใหญ่กำแน่นเหลือเกิน

“พี่กลัวหลง ให้พี่จับดึงเถอะน้องเพื่อน”

“คุณคมธรรม!”

“ครับผม” เขาหยุดเดินแล้วหันมาทำหน้ากวนประสาทกลับ

“ฉันเป็นลูกจ้าง คุณควรให้เกียรติฉันด้วยค่ะ เราไม่ได้สนิทกัน อีกอย่างฉันเป็นผู้หญิงด้วย คุณไม่ควร...”

“พี่ไม่ถือ” เขาตอบกลับโดยไม่รอให้สาวเจ้าพูดจบ

“แต่ฉันถือค่ะ ฉันไม่อยากมาทำงานวันแรกแล้วตกเป็นเรื่องนินทาของคนในฟาร์ม”

“ใครมันจะกล้านินทาน้องเพื่อนของพี่ อุ๊ย! ไม่ใช่สิ ยังไม่ได้กันยังไม่ใช่ของพี่ แต่อีกไม่นานคงเป็นของพี่แหละ”

“หมายความว่ายังไงที่พูดน่ะ คุณพูดเหมือนจะทำอะไรฉัน”

“จำไม่ได้เหรอที่ตบวันนั้นน่ะ”

“คุณจำฉันได้?”

“จำได้สิ จำได้ดีเชียวล่ะ”

“แล้วทำไมเมื่อวานคุณไม่พูดอะไร”

“ตอนนั้นพี่จำน้องเพื่อนไม่ได้ แต่พอนึกแล้วนึกอีกก็ฉุกนึกขึ้นได้ว่าเราเคยเจอกันและพี่ก็โดนตบหน้าด้วย”

“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ฉันหวังว่าคุณจะเป็นเจ้านายที่ดี ไม่ลวนลามฉันเหมือนวันที่เจอในผับ”

“แน่นอน พี่เป็นเจ้านายที่ดี ทีไอ้เปอร์เรียกหมอเปอร์เสียงอ่อนเสียงหวาน ทีกับพี่ที่อีกไม่นานจะเลื่อนตำแหน่งจากเจ้านายมาเป็นผัวล่ะเรียกเหมือนรังเกียจเชียวนะ”

“ก็ฉันเกลียดคุณ ปล่อยฉันได้แล้วคนหื่นกาม”

“ถ้ายังไม่เห็นความหื่นเต็มขั้นอย่าเพิ่งตัดสินพี่เลยคนสวย เรียกพี่ว่าพี่หอยสิ พี่จะปล่อย พี่อยากมีน้องสาว ไม่สิ...อยากได้คนคนนี้บนเตียงมาก อยากได้มากตั้งแต่วันนั้นจนตอนนี้ ดูสิ...ดูน้องชายพี่สิ มันตื่นเร่าแค่ไหน” ไม่พูดเปล่า แต่ดึงมือเล็กที่จับแน่นอยู่เคลื่อนมายังเป้ากางเกงตัวเองแล้วก็ต้องปล่อยเสียงหัวเราะดังลั่นเมื่อเห็นสีหน้าจะเป็นลมของมัลลิกา

“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะคุณคมธรรม ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ” สั่งทั้งๆ ที่มองไปทางอื่นโดยไม่มองตามมือของตัวเองที่ถูกดึงรั้งไปหาเลยสักนิด

“ปล่อยแน่ถ้ายอมเรียกพี่ว่าพี่หอยก่อน”

“คุณมัน...”

“เรียกสิจ๊ะ ถ้าไม่เรียก พี่จับมือเพื่อนมาถูพี่นะ”

“ไอ้! ไอ้หื่น!”

หึหึ

“แค่นี้เบาๆ จ้ะ ไม่เรียกหื่น ว่าไงจะเรียกไม่เรียก เรียกสิจ๊ะคนสวย และคิดว่าแต่งตัวป้าๆ ใส่แว่นหนาๆ แล้วจะทำให้พี่จำไม่ได้ฝันไปเถอะ พี่อาจจะโง่ไม่ฉลาด แต่พี่ความจำดีทีเดียวล่ะคนสวย”

“จะปล่อยมือฉันใช่ไหมถ้ายอมเรียก”

“แน่นอน ไม่ใช่แค่เรียกเฉพาะตอนนี้นะ ต้องเรียกตลอดด้วย อย่าคิดโกงล่ะ ถ้าไม่ทำตามที่สั่งจะบังคับใช้กำลังด้วยคอยดูสิ พี่หอยคนนี้ถนัดนักล่ะเรื่องใช้กำลัง”

“ดะ...ได้ ฉันจะเรียกก็ได้ พี่หอย พอใจรึยัง”

“หวานหน่อยสิ คนสวยของพี่”

“พี่หอยปล่อยมือเพื่อนเถอะนะจ๊ะ”

“น่ารักซะไม่มี” พูดแล้วก็ดึงรั้งร่างเล็กเข้ามาหาตัวเองจนปะทะกับแผงอกแน่นของตัวเอง ก่อนจะฉวยโอกาสก้มลงหอมแก้มนวลแล้วผลักเธอออกห่างแล้วรีบเดินหนีอย่างไว

“ถือว่าพี่หอมแก้มขอโทษน้องเพื่อนแล้วกันนะจ๊ะ” เดินเร็วไปไกลแล้วแต่ยังส่งเสียงตะโกนพูดมาให้เธอได้ยินและเจ็บใจเล่น มือเล็กยกขึ้นเช็ดถูแก้มนวลตัวเองแรงๆ ด้วยความโกรธ

“อดทนไว้เพื่อน อดทนไว้ งานที่นี่เงินเดือนเยอะและใกล้บ้าน อดทนไว้ แต่แกมีสิทธิ์อะไรมาหอมแก้มฉัน ไอ้บ้ากาม!” ท้ายประโยคหล่อนตะโกนด่าเขาไปและยิ่งโกรธยิ่งแค้นเมื่อเขาหัวเราะตอบกลับมา ทำไมต้องมาเจอเจ้านายแบบนี้ด้วย แต่จะเป็นแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่โดนเอาเปรียบ ครั้งหน้าอย่าหวังเลยว่าคนหื่นกามจะได้เข้าใกล้และแตะต้องเธอได้อีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel