บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 งานเลี้ยง

งานเลี้ยงคืนนี้เป็นงานเลี้ยงที่คมธรรมตั้งใจจัดขึ้นเพื่อต้อนรับผู้จัดการคนใหม่ของฟาร์มกุลธีร์ด้วย ไม่ใช่แค่เลี้ยงฉลองการเกิดลูกควายตัวใหม่ของฟาร์ม แต่เป้าหมายหลักๆ คืออยากให้พ่อกับแม่ได้รู้จักกับมัลลิกาด้วย และตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอยากให้ท่านทั้งสองรู้จักหล่อน

คมธรรมช่วยคนงานเตรียมงานเลี้ยงที่ลานกว้างของฟาร์ม ที่มักจัดเป็นงานเลี้ยงประจำของฟาร์ม วันนี้คนงานทุกคนได้อภิสิทธิ์เลิกงานเร็วกว่าปกติ เพื่อจะได้ไปเตรียมตัวมางานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ แม้แต่สัตวแพทย์หนุ่มอย่างดิศรณ์เองก็ได้กลับบ้านพักเร็วกว่าปกติ ดิศรณ์เป็นลูกชายคนเดียวของท่านผู้ว่าของจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งท่านเพิ่งย้ายกลับมาอยู่ที่จังหวัดตัวเองเมื่อตอนเกษียณอายุเมื่อปีที่แล้ว จึงย้ายกลับมาอยู่กับลูกชายและภรรยา เมื่อพ่อย้ายกลับมา สัตวแพทย์หนุ่มก็ย้ายออกมาอยู่ที่บ้านพักของฟาร์มเพื่อความเป็นส่วนตัวตามแบบหนุ่มรักสงบ

งานเลี้ยงเย็นนี้เป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเฉพาะในฟาร์มมีแค่คนงานเท่านั้นที่มาร่วมงาน มีกับข้าวที่คมธรรมให้หมูและเข้มไปจัดการสั่งมาจากร้านอาหารในเมือง นานๆ ทีคนงานจะได้กินอาหารอร่อยๆ บ้าง และแน่นอนว่าที่นั่งทานก็เป็นปูเสื่อทานกับพื้นหญ้า โดยมีนักดนตรีเล่นเพลงให้ฟังไปด้วยขณะงานเลี้ยงกำลังดำเนิน และนักดนตรีที่ว่าก็คือคมธรรม ดิศรณ์ หมูและเข้มนั่นเอง ซึ่งคมธรรมนั้นร้องเพลง ดีดกีตาร์ ส่วนกลองคือดิศรณ์ หมูกับเข้มเต้นและร้องเพลงร่วมด้วยกับเจ้านายนั่นเอง

“เสร็จรึยังครับแม่ปลา พ่อคม” คมธรรมเคาะประตูห้องนอนของพ่อกับแม่ที่เปิดทิ้งไว้แล้วเดินเข้าไปหาท่านทั้งสอง

“จะรีบไปไหนลูก แค่งานเลี้ยงเกิดลูกควายตัวใหม่เอง”

“ไม่ใช่ครับ งานเลี้ยงต้อนรับผู้จัดการคนใหม่ของฟาร์มเราด้วย แม่ปลากับพ่อคมยังไม่เคยเจอเธอ ผมอยากให้เจอครับ”

“คนนี้พิเศษเหรอหอย” คมศรถามลูกชายอย่างจับพิรุธ และยิ่งลูกชายคนโตหลบตาก็ยิ่งน่าสงสัย

“ใช่ที่ไหนพ่อคม รีบๆ แต่งตัวนะครับ”

“พ่อกับแม่ว่าใช่นะหอย” คมศรเย้าหยอกลูกชายแล้วเดินไปหยิบหวีขึ้นมาหวีผมตัวเองจัดทรงให้เรียบร้อย

“ไม่ใช่สักหน่อย หอยไปก่อนนะครับ พอดีสั่งไอ้หมูและไอ้เข้มไปซื้อของให้ไม่รู้ได้มารึเปล่า” ว่าแล้วก็เดินจากไปทันที โดยไม่รอให้พ่อและแม่พูดโต้ตอบกลับแม้แต่คำเดียว

“คุณว่ายังไงปลา ลูกชายเราเหมือนจะตกหลุมรักว่าไหม”

“ฉันก็ว่างั้นแหละพี่คม ลูกหอยต้องมีอะไรแน่ ยิ่งหลังๆ มาเนี่ยนะคะดูแปลกๆ ไม่ได้ไปเที่ยวผับ กินเหล้า หรือนอนกับผู้หญิงมาสักพักแล้วนะคะ ตั้งแต่มีผู้จัดการคนใหม่มา” เท่าที่ถามจากหมูและเข้มคนสนิทของลูกชายมา ดิศรณ์อีกคนที่บอกมาแบบนี้เหมือนกัน

“เราจะได้เห็นวันนี้แหละปลาว่าลูกชายของเราไปตกหลุมรักเธอท่าไหนกันแน่ถึงได้เปลี่ยนไป และดูกระตือรือร้นทุกวันที่จะตื่นไปทำงาน แถมดูนะคุณ มันหัดอ่านภาษาอังกฤษด้วย ผมเห็นหอยอ่านสองสามครั้งแล้ว ทั้งๆ ที่ปกติเกลียดภาษาฝรั่งจะตาย”

“ที่สำคัญหนวดเคราก็ดูเข้าทรงสวยงามเข้ากับรูปหน้าหล่อๆ ด้วยนะพี่คม ลูกเราเคยสนใจหนวดเคราตัวเองที่ไหน แต่เดี๋ยวนี้นะพี่ เนี้ยบเลยแหละ และยิ่งเสื้อผ้านะพี่ก็ไม่ได้ใส่ตัวเก่าด้วยเปลี่ยนทุกวัน เหมือนคนมีความรัก”

“มีไม่มีเราได้รู้กันวันนี้แหละปลา ไปกันเถอะ เสร็จรึยัง เนี่ยก็จะทุ่มแล้วเดี๋ยวดึก”

“จ้ะพี่คม แล้วเนี่ยลูกหมีกับหนูมิณนี่จะมาไหมคะ”

“เห็นบอกว่าไม่ได้มานะวันนี้”

“อ้อ...งั้นไปกันเถอะ ถ้าลูกหมีมานะจะได้มาช่วยจับพิรุธพี่ชายช่วยเรา”

หึหึ

“แค่เราสองคนก็พอแล้วปลา” แล้วคมศรก็โอบประคองภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของตัวเองออกจากห้องลงบันไดไปอย่างระมัดระวัง

มัลลิกาลุกนั่งหลายรอบจนคนเป็นป้านั้นอดพูดให้ไม่ได้ ก็นางดูโทรทัศน์ไม่รู้เรื่องเลย เพราะหลานสาวเอาแต่ลุกแล้วนั่งลงที่เดิมพร้อมถอนหายใจแรง

“หนูเป็นอะไรลูก เอาแต่ถอนหายใจแรงและลุกนั่งแบบนี้ ป้าดูละครไม่รู้เรื่องแล้วลูก”

“เพื่อนขอโทษค่ะป้าชบา พอดีหนูมีเรื่องคิดนิดหน่อย”

“ป้าว่าไม่หน่อยแล้วมั้ง มีอะไรรึเปล่าลูก ตั้งแต่กลับมาจากทำงานแล้วป้าเห็นหน้าหนูดูกังวลและเครียดๆ”

“คือป้าชบาคะ ป้าว่าเพื่อนควรไปงานเลี้ยงต้อนรับเกิดลูกควายตัวใหม่ที่ฟาร์มไหมคะ”

“แล้วหนูคิดว่าไงล่ะลูก ส่วนป้าคิดว่าหนูควรไปนะ หนูเป็นถึงผู้จัดการฟาร์ม หนูยิ่งต้องไป”

เฮ้อ!

ถอนหายใจแล้วเบ้ปากเล็กน้อยก่อนจะพูด

“ก็หนูไม่อยากไปนี่คะ กลัวดึก อีกอย่างห่วงป้าชบาด้วยค่ะ”

“ไปเถอะลูก ป้าก็อยู่ของป้าคนเดียวมาตั้งนานแล้ว ไม่ต้องห่วงป้าหรอกนะ อีกอย่างถ้าดึกหนูก็ค้างที่นั่นเลย เพราะหนูเคยบอกป้าว่าที่ฟาร์มมีบ้านพักของผู้จัดการไม่ใช่เหรอลูก”

“คือ...”

“ไปเถอะลูก รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ ป้าอยู่ได้”

“แต่...”

“ไปเถอะลูก ไม่ต้องห่วงป้าหรอก”

“ค่ะ งั้นเพื่อนไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ”

“จ้ะ แต่งตัวสวยๆ เลยนะลูก”

“ทุกวันเพื่อนก็สวยอยู่แล้วป้าชบา”

มัลลิกาตอบก่อนจะลุกเดินไปห้องของตัวเองเพื่ออาบน้ำแต่งตัว ส่วนป้าชบาก็หันมาสนใจละครของตัวเองต่อด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก็ตั้งแต่มัลลิกาไปทำงานที่ฟาร์มกุลธีร์ก็มักกลับมาบ่นเรื่องเจ้านายให้ฟังเสมอว่าเจ้านายลามกบ้างล่ะ นิสัยไม่ดีบ้างล่ะ และหลายๆ คำด่าคำบ่นมากมายที่มีมาให้พูดถึงเจ้าของฟาร์มก็ไม่ซ้ำคำกันเลยในแต่ละวัน

“ได้มาไหมวะไอ้หมู ไอ้เข้ม” เมื่อมาถึงงานเลี้ยงที่ตอนนี้คนงานเริ่มทยอยมากันแล้ว หมูกับเข้มก็กลับมาจากในเมืองพอดี และในมือก็มีถุงมาด้วยแสดงว่าได้ของมาแน่นอน

“ได้มาลูกพี่ ว่าแต่มันคืออะไรลูกพี่” เข้มถาม

“เออน่า...อะไรก็ของกูแหละ พวกมึงไปดูกับข้าวสิว่าจะพอคนงานเราไหม”

“เรียบร้อยครับลูกพี่ ฉันกับไอ้หมูจัดการเรียบร้อยครับ”

“เออ...พวกมึงจะไปที่ไหนก็ไปเถอะ กูอยากอยู่คนเดียว”

“ครับผม” เป็นหมูพูดก่อนจะโอบกอดคอเพื่อนรักอย่างเข้มเดินไปทางสาวๆ คนงานในฟาร์มที่กำลังเดินเข้ามาในงานเลี้ยง เมื่อลูกน้องไปแล้ว คมธรรมก็เปิดถุงหยิบกล่องสีชมพูอ่อนขนาดเท่ากระดาษเอสี่ออกมาดู พอเปิดดูแล้วก็กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อทางร้านทำเสร็จทันตามที่ต้องการ มันคือผ้าผูกคอและสามารถผูกผมได้ และมุมผ้าก็มีชื่อของเขาปักอยู่ ส่วนลายผ้าเป็นลายดอกกล้วยไม้ที่เขาชอบ

“ของต้อนรับผู้จัดการคนใหม่ก็พร้อมแล้ว รอแต่เธอ โทรหาดีไหมนะ ไม่ดีกว่าเดี๋ยวเธอก็มาแหละ” พูดเองตอบเองแล้วเก็บของไว้ในถุงพลาสติกสีเทาเหมือนเดิม ก่อนจะเดินไปพูดคุยกับคนงานและไปถามแม่ครัวของฟาร์มว่าจัดที่สำหรับพ่อกับแม่ของเขาเสร็จรึยัง ถึงไม่ได้ทำอาหารแต่ก็ต้องมาคอยดูแลในงานเลี้ยงอยู่ดี

คมศรและปรียาวรรณมาถึงงาน คนงานทุกคนก็มาพร้อมแล้ว และกำลังนั่งทานข้าวกันที่เสื่อของตัวเอง เมื่อมองไปที่เสื่อที่เป็นที่ของตัวเองก็มีลูกชายกับเพื่อนสนิทนั่งรอท่าอยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองก็เดินยิ้มเข้าไปหา คมธรรมและดิศรณ์หล่อกันเลยทีเดียว แต่หล่อคนละแบบ ลูกชายของนางนั้นหล่อเข้มแบบชายไทย ยิ่งแต่งตัวด้วยเสื้อยีนส์กางเกงยีนส์แล้วยิ่งดูมีเสน่ห์ แถมติดกระดุมไม่หมดด้วยเปิดเผยหน้าอกให้เห็น สาวไหนเห็นเป็นต้องอยากรู้จักแน่นอน แต่ไม่รู้ว่ามีผลกับผู้จัดการคนใหม่ของฟาร์มรึเปล่า ด้านสัตวแพทย์หนุ่มหล่อตี๋นั้นก็แต่งตัวด้วยเสื้อยืดสีเทากับกางเกงลำลองขาสั้นเลยเข่ามาเล็กน้อย

“สวัสดีครับพ่อคม แม่ปลา” พอทั้งสองมาถึง ดิศรณ์ก็ลุกขึ้นแล้วยกมือไหว้ท่านทั้งสองและรอให้ทั้งสองนั่งลงก่อนตัวเองถึงนั่งลงตาม

“ไหว้พระเถอะหมอเปอร์” เป็นปรียาวรรณเองที่เอ่ย

“มาครบกันรึยังหอย” คมศรถามเมื่อเห็นว่าตั้งแต่เดินเข้ามายังไม่มีใครมีราศีของผู้จัดการฟาร์มจับเลย

“ยังครับพ่อคม เหลือผู้จัดการของฟาร์มยังไม่มาเลย” คมธรรมตอบเสียงกังวล เพราะไม่แน่ใจว่าหญิงสาวจะมารึเปล่า

“แล้วได้บอกเธอรึเปล่าว่าวันนี้เป็นงานเลี้ยงของเธอด้วย” คมศรถามลูกชาย

“ไม่ได้บอกครับ บอกแค่ว่าจะจัดงานให้ละมุดน่ะครับ”

“เฮ้อ! หอยลูก ทำไมไม่บอก ถ้าผู้จัดการฟาร์มไม่มาล่ะลูก”

“มาแล้วครับแม่ปลา พ่อคม” เป็นเสียงนุ่มของสัตวแพทย์หนุ่มเองที่เอ่ยขึ้นพร้อมบุ้ยปากไปทางผู้มาใหม่ที่กำลังเดินมาทางที่พวกตนนั่ง ยอมรับว่าเห็นไกลๆ นั้นจำแทบไม่ได้ มองยังไงก็ไม่เหมือนมัลลิกา ก็ตอนนี้เธอไม่ได้ใส่แว่น ไม่ได้แต่งตัวเชย แต่มาในชุดที่แปลกตาไปไม่เหมือนทุกวัน เธอมาในกางเกงยีนส์ขาเดฟ ส่วนเสื้อก็เป็นเสื้อเอวลอยเปิดไหล่ ใบหน้าที่จืดชืดนั้นแต่งแต้มเครื่องสำอางให้ดูสวยเผ็ด แถมปากเล็กนั้นก็ทาสีแดงไวน์ด้วย

“ของกู ไอ้หมอเปอร์ ห้ามมอง” คมธรรมเผลอหลุดปากพูดออกไป ทำให้พ่อกับแม่หันไปมองทันทีและกว่าจะรู้ตัวก็ปิดปากไม่ทันแล้ว

“ยังไงหอย” ปรียาวรรณถามลูกชาย

“อะไรครับแม่ปลา อย่าคิดนะมึงไอ้หมอ” ไม่วายหันมาขู่เพื่อนในท้ายประโยค

หึหึ

“กลัวจังไอ้หอย แต่ถ้าหากคุณเพื่อนมาชอบกูก็ไม่รู้นะไอ้หอย” ดิศรณ์เอ่ยพลางหยักยิ้มยียวนให้เพื่อนก่อนจะขยับที่นั่งให้ผู้มาใหม่ได้นั่งข้างๆ ตนเอง และแน่นอนว่าคมธรรมพูดอะไรไม่ได้ เมื่อมัลลิกาได้ย่อตัวลงข้างๆ เพื่อนรักแล้ว แต่ก่อนที่เธอจะนั่งลงก็ไม่ลืมยกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่นั่งบนเสื่อด้วยทั้งสองท่าน

“สวัสดีค่ะ”

“ไหว้พระเถอะลูก หนูคงเป็นผู้จัดการฟาร์มของฟาร์มเราใช่ไหมลูก” ปรียาวรรณเอ่ยยิ้มๆ แต่สายตานั้นมองสำรวจร่างเล็กข้างๆ สัตวแพทย์หนุ่มทุกตารางนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง การแต่งตัว และดวงตาอ่อนโยนแต่แฝงความเด็ดเดี่ยวนั้น นางชอบนักแล คนแบบนี้แหละจะได้ปราบคมธรรมได้

“หนูเป็นคนที่ไหนลูก และหนูชื่ออะไร” คมศรเอ่ยบ้าง เมื่อมองสายตาและอ่านความคิดของภรรยาออก

“หนูเป็นคนจังหวัดสุพรรณเนี่ยแหละค่ะ ชื่อมัลลิกาค่ะ แต่เรียกหนูว่าเพื่อนก็ได้ค่ะ เป็นหลานของป้าชบาที่ขายขนมที่ตลาดค่ะ และบ้าน...”

“อยู่ข้างๆ ไร่ แม่รู้จักจ้ะ เคยไปซื้อขนมกับป้าชบาบ่อยๆ ที่ตลาด” ปรียาวรรณชิงพูดขึ้นโดยที่มัลลิกายังพูดไม่ทันจบความ

“อ้อ...ค่ะ ขอบคุณที่อุดหนุนป้าชบานะคะ”

“ป้าชบาทำขนมอร่อย เรียกแม่ว่าแม่ปลาเหมือนพี่หอยก็ได้นะลูก และนี่สามีแม่ เรียกพ่อคมเหมือนพี่หอยก็ได้นะลูก” คนถูกใจว่าที่ลูกสะใภ้คนโตเอ่ย ส่วนมัลลิกาทำหน้าเลิ่กลั่ก จะให้เรียกได้ยังไง ท่านทั้งสองไม่ใช่พ่อแม่ของเธอ และอีกอย่างไม่เคยเรียกใครว่าพ่อแม่เลยสักครั้ง

“คะ...คือ...”

“อย่าขัดใจแม่ปลากับพ่อคมเลยน้องเพื่อน” คมธรรมพูดแทรกขึ้นเมื่อเห็นว่ามัลลิกามัวแต่อ้ำอึ้งไม่ยอมพูด

“ค่ะ มะ...แม่ปลา พะ...พ่อคม” รู้สึกขัดเขินเล็กน้อยและไม่ชินปากที่ต้องมาเรียกคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักว่าพ่อกับแม่

“น่ารักมากเลย ดีใจนะจ๊ะที่ได้รู้จักหนูเพื่อนและได้หนูมาเป็นลูกสาว” ปรียาวรรณเอ่ย

“ขอบคุณนะคะที่เอ็นดูหนู” เธอยกมือไหว้ท่านทั้งสองและรู้สึกอายเล็กน้อยที่วันนี้แต่งตัวมาไม่เหมาะสมเลยสักนิด เธอน่าจะใส่ชุดเรียบร้อยกว่านี้ ไม่น่าอยากแต่งตัวเปรี้ยวๆ เลย

“หิวรึยังลูก หมอเปอร์ไปตักอาหารมาให้หนูเพื่อนหน่อยสิ” คมศรเอ่ยขึ้นอย่างนึกแกล้งลูกชาย และต้องกลั้นขำเมื่อมองไปเห็นสายตาไม่พอใจของคมธรรมที่มองมาทางตนเอง

“ไปสิไอ้หมอเปอร์ ไปหาข้าวมาให้น้องเพื่อนกิน” คมธรรมสั่งเพื่อนพร้อมกับส่งสายตาดุไปให้ด้วย

“ครับคุณเจ้านาย ผมไปเอากับข้าวมาให้นะครับคุณเพื่อน อ้อ...ผมบอกรึยังครับว่าวันนี้คุณเพื่อนสวยมากเลยครับ” ก่อนจะไปไม่วายทิ้งระเบิดไว้ในวง

“หมอเปอร์ก็พูดไปค่ะ หรือว่าทุกวันเพื่อนไม่สวยคะ แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวเพื่อนไปด้วยดีกว่าค่ะ” ว่าแล้วเธอก็ลุกขึ้นโดยมีมือของสัตวแพทย์หนุ่มที่ลุกขึ้นก่อนยื่นมาให้จับลุกขึ้นยืน และการกระทำสุภาพบุรุษของดิศรณ์ก็ยิ่งไปกระตุกโทสะของคมธรรม

“ขอบคุณนะคะ หนูขอตัวนะคะแม่ปลา พ่อคม” รู้สึกเขินเล็กน้อย แต่เธอก็รู้สึกว่าทั้งสองท่านใจดี ก่อนจะเดินไปพร้อมกับสัตวแพทย์หนุ่ม ทิ้งให้คมธรรมนั่งกำถุงของขวัญต้อนรับที่ตนเตรียมไว้แน่นจนคนเป็นพ่อหัวเราะสมเพชและตลกลูกชายตัวเอง

หึหึ

“พ่อคมขำลูกเหรอครับ” ถามเมื่อได้ยินเสียงดังขึ้น

“เออสิวะ! ชอบหนูเพื่อนเหรอหอย”

“ไม่ใช่สักหน่อยพ่อคม แม่ปลาก็อย่ามองหอยแบบนั้นนะครับ หอยไม่ได้ชอบ หอยแค่...”

“แค่อะไรหอย” ปรียาวรรณถามขยี้

“ดีแล้วล่ะ ที่หอยไม่ชอบ เพราะหนูเพื่อนดูเหมาะกับหมอเปอร์ เพื่อนลูกมากกว่าลูกอีกนะ หนูเพื่อนสวยน่ารักและดูฉลาด ไม่มีทางมาเลือกลูกชายพ่อหรอก”

“พ่อ...”

“ก็ไหนว่าไม่ชอบไง จะสนใจทำไมถ้าพ่อกับแม่จะเชียร์หนูเพื่อนให้หมอเปอร์ และดูเหมือนว่าหนูเพื่อนจะชอบหมอเปอร์ด้วยนะ”

“ผมจะไปตักกับข้าว ผมหิว” แล้วก็ลุกตึงตังขึ้นเดินตามสองคนที่เดินไปก่อนทันที

คิกๆ

“พี่คมว่าลูกหมีจะได้พี่สะใภ้เร็วๆ นี้ไหมคะ”

“พี่ก็ว่าเร็วๆ นี้แหละปลา ว่าแต่เป็นยังไงบ้าง ถูกใจไหม”

“ถูกใจค่ะ ดูมั่นใจ เด็ดเดี่ยวดี”

“พี่ก็ชอบ”

“ขึ้นอยู่กับลูกหอยแล้วว่าจะฉลาดพอที่จะคว้าหัวใจหนูเพื่อนได้ไหม”

หึหึ

“มารอดูกันปลา”

ระหว่างนี้สองสามีภรรยาก็พูดถึงสามคนที่เดินไปตักอาหารพร้อมกับมองไปด้วย ยิ่งมองไปที่ตักอาหารเห็นลูกชายตัวเองพยายามเดินเบียดแทรกกลางระหว่างมัลลิกากับดิศรณ์ตลอดที่เดินตักอาหารก็ยิ่งอดขำไม่ได้ และคนงานทุกคนก็มองเหมือนกับพวกเขาเช่นกัน ส่วนคมศรก็ฉวยโอกาสเสียมารยาทไปเปิดถุงที่ลูกชายขนาบติดตัวไว้ตลอดตอนนั่งแล้วดูของข้างใน ก่อนจะเก็บไว้ที่เดิมเมื่อรู้ว่ามันเป็นอะไร และถ้าเดาไม่ผิดคงทำมาให้ผู้จัดการของฟาร์มแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel