บทที่ 2-2
“แล้วนี่หนูจะทำยังไงต่อล่ะแต้ว คิดออกหรือยังลูก”
“ยังคิดไม่ออกเลยค่ะน้าแอ๋ว ตอนนี้หัวตื้อไปหมดแล้ว แต้วเบื่อไปหมดเลย เหมือนคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต เค้าว่ายี่สิบห้านี่จะดวงตกสุดๆ ก็ดวงตกจริงๆ ด้วยนะคะน้าแอ๋ว”
“อย่าไปโทษดวงเลยน่ะลูก อืม...”
อโนชานิ่งไปเล็กน้อย อย่างจะพยายามหาทางช่วยหลานสาว ว่าจะมีทางไหนที่พอจะช่วยจันทร์กระจ่างได้บ้าง ทั้งเรื่องงาน และเรื่องที่พัก ดูท่าทางหลานสาวของเธอจะกลัดกลุ้มจนไม่อยากจะทำอะไรสักเท่าไหร่แล้วตอนนี้ ดูจากท่าทางนอนแผ่ เอามือก่ายหน้าผากขนาดนี้ คงจะเครียดหนักหนาเอาการมากจริงๆ เป็นใครก็คงจะสติแตก เจอเรื่องร้ายซ้ำๆ กันเข้าขนาดนี้
“จะช่วยหนูยังไงดีน้า น่าสงสารจริงๆ เลยหลานน้า”
“หนูก็สงสารตัวเองเหมือนกันล่ะคะน้าแอ๋ว เฮ้อ...ขอหนีตามน้าแอ๋วไปเที่ยวไคยาด้วยได้ไหมคะ ประชดตัวเอง ใช้เงินให้หมดเสียเลย เหอๆๆ”
“เออ! จริงสิ”
หนนี้ผู้เป็นน้าถึงกับปรบมือเข้าหากัน เหมือนกับนึกอะไรขึ้นมาได้ อโนชายิ้มออกมาได้เลยทันที ก่อนจะลุกขึ้นดึงแขนหลานสาวที่กำลังนอนทอดอาลัยอยู่ให้ลุกขึ้นนั่ง พลางจับบ่ามนของจันทร์กระจ่างแล้วมองหน้าหวานๆ ของหลานรัก ที่มองตอบผู้เป็นน้าอย่างสงสัยเล็กน้อย ว่าทำไมจู่ๆ อโนชาถึงได้มีท่าทีเปลี่ยนเป็นดีใจขึ้นมาได้
“หนูอยากไปไคยาจริงๆ หรือเปล่าน่ะแต้ว”
“อืม...ก็ได้นะคะน้าแอ๋ว ที่นั่นน่าเที่ยวมาก มีทั้งทะเล ทั้งทะเลทราย ไหนจะมีเมืองเก่าที่เพิ่งจะถูกค้นพบอีก ดูสวยมากๆ เลยล่ะค่ะ แต่เสียอย่างเดียว ค่าครองชีพแพงมาก แหะๆ เงินอันน้อยนิดของแต้ว คงจะอยู่ได้แค่ครึ่งวันล่ะมั้งคะน้าแอ๋ว”
“แหม...ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกจ้ะ ไคยาไม่ได้ค่าครองชีพสูงถึงขนาดนั้นหรอก เพียงแค่ว่าตอนนี้เศรษฐกิจกำลังพัฒนามาก พวกค่าจ้างแรงงาน เลยเพิ่มขึ้น อะไรๆ ก็เลยแพงขึ้นอีกนิดหน่อยเท่านั้นเอง ไคยาเป็นสวรรค์อีกแห่งของนักท่องเที่ยว คนชอบเที่ยวต้องฝันอยากจะไปที่นี่สักครั้ง หนูอยากไปจริงๆ หรือเปล่า?”
น้าสาวถามซ้ำอีกรอบ จันทร์กระจ่างหัวเราะ แล้วย่นจมูก ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ไปสิคะ น้าแอ๋วมีทริปไปฟรีหรือเปล่าละคะ ยอมหน้าด้านขอเลยนะคะนี่ อิอิ เผื่อแต้วจะไปเจอกับผู้ชายหน้าคม มาดแมน แบบหนุ่มตะวันออกกลาง เผื่อจะปิ๊งๆ กับหนุ่มเจ้าของบ่อน้ำมันกระเป๋าหนักที่ยังโสดสักคน แต้วจะตะครุบหมับเลยล่ะค่ะน้าแอ๋ว เบื่อความจน สติแตกแล้วล่ะค่ะตอนนี้”
“ไม่ต้องถึงแบบนั้นหรอกลูก ไม่ต้องถึงขนาดไปตะครุบใครหรอกหลานน้า”
ฟังคำพูดของหลานสาวแล้ว อโนชาก็หัวเราะร่วนอย่างชอบใจ จันทร์กระจ่างอมยิ้ม เธอก็พูดเล่นไปอย่างนั้นเองนั่นแหละ แฟนเธอก็ยังไม่เคยมี อ้อ...มีก็แต่ปั๊ปปี้เลิฟตอนเรียนมัธยมปลาย แล้วก็ร้างราจากการมีแฟนไปนานโข เพราะมัวแต่ทำงาน และยุ่งวุ่นวายเรื่องที่บิดาป่วยหนัก ใครจะไปมีอารมณ์สนใจผู้ชาย ในเมื่อปัญหามากมายก่ายกองสุมอยู่บนบ่า
“แต้วล้อเล่นน่ะค่ะ ให้เป็นเรื่องจริงก็ไม่ไหว แต้วไม่ชอบผู้ชายนับถือศาสนาอิสลาม มีเมียได้ตั้งสี่คนแหนะน้าแอ๋ว ไม่ไหวนา...ยังไงก็ไม่มีทาง แต้วชอบคนรักเดียวใจเดียว นี่สังคมเอื้อให้มีเมียเยอะ ประเพณีความเชื่อเอื้อให้มีเมียแยะ แบบไม่ผิด แต้วก็ยิ่งไม่เอา!”
“หึๆ ถ้าไปเจอหนุ่มๆ คมๆ หล่อลากแถวโน้นจริงๆ อย่างเปลี่ยนใจก็แล้วกันนะจ๊ะ แล้วเดี๋ยวนี้สมัยนี้ อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปแล้วนะแต้ว ถึงศาสนาจะให้มีภรรยาได้สี่คน แต่บางคนก็รักที่จะมีภรรยาแค่คนเดียว ส่วนใหญ่ของผู้ชายชาวไคยา มีภรรยาแค่คนเดียวจ้ะหลานรัก”
“น้าแอ๋วพูดเหมือนกับว่า แต้วจะได้ไปเห็นหนุ่มๆ ไคยาอย่างนั้นแหละค่ะ เอ...นี่น้าแอ๋วเกิดจะใจดี พาแต้วไปเที่ยวจริงๆ เหรอคะนี่”
“น้าไม่ได้แค่จะพาเที่ยว แต่น้าจะหางานให้กับแต้ว พร้อมกับที่พัก ให้ที่ไคยาเลยล่ะจ้ะหลานรัก ว่ายังไงล่ะ อยากไปที่โน่นไหม ไปอยู่ด้วยกันกับน้า เดี๋ยวน้าจะคุยกับผู้จัดการดู ว่าจะเอาหลานสาวไปทำงานที่โน่นด้วยได้ไหม เงินทองน้าพอมีนะแต้ว แล้วแต้วก็เป็นครอบครัวของน้าคนเดียวที่เหลืออยู่ เราไปอยู่ด้วยกันสองคนน้าหลานก็ได้นะลูก ถ้าหนูไม่มีทางไปแล้วจริงๆ หนูจะว่ายังไงจ๊ะ จะยอมไปอยู่กับน้าคนนี้หรือเปล่า?”
“น้าแอ๋วพูดจริงๆ เหรอคะ”
จันทร์กระจ่างถึงกับน้ำตาคลออย่างตื้นตันใจ เธอเหมือนคนที่กำลังจมน้ำ และอโนชาก็เปรียบเสมือนคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพอดี
“จริงที่สุดเลยล่ะ แต่ไปต่างบ้านต่างเมืองแบบนั้น อย่างอแงคิดถึงเมืองไทยบ่อยนะ ค่าตั๋วเครื่องบินแพงเอาการอยู่ น้าคงจะพาเรากลับมาบ่อยๆ ไม่ได้”
“โธ่! แต้วไม่เหลือใครที่นี่แล้วเหมือนกันค่ะน้าแอ๋ว คงไม่อยากกลับมาบ่อยๆ หรอกค่ะ แต้วดีใจจริงๆ ที่น้าแอ๋วชวนแต้วไปอยู่ด้วย”
“เราเหลือกันแค่นี้แล้วนะลูก”
อโนชาว่ายิ้มๆ ก่อนจะอ้าแขนออก เมื่อหลานสาวโผเข้าหา สองอาหลานกอดกันแน่น จันทร์กระจ่างถึงกับน้ำตาไหลพรากๆ ด้วยความตื้นตัน ส่วนอโนชาเองก็น้ำตาซึม ในที่สุดเธอก็จะไม่เหงาแล้วสินะ เมื่อจะมีคนไปอยู่เป็นเพื่อนที่ไคยา นั่นก็คือหลานสาวสุดที่รักของเธอน่ะเอง
คงจะต้องขอร้อง ผู้จัดการที่ทำงานของเธอที่ไคยา บริษัทสัมปทานน้ำมัน อับดุล อัลซี อัสลาน ว่าจะช่วยเหลือเธอได้ไหม หวังว่าคำขอครั้งแรกของเธอ ทางฝ่ายนั้นจะเห็นใจนะ เพราะเธอทำงานที่บริษัทนี้มาเกือบห้าปีแล้ว คงจะพอใช้ผลงานและความสนิทสนม เป็นสะพานช่วยหลานสาวคนเดียวได้บ้าง
แม้จะไม่ชอบระบบใต้โต๊ะมาก่อน แต่หนนี้จะเป็นหนแรกล่ะ ที่อโนชาจะขอยอมทำอะไรแบบนี้ ด้วยการใช้กลเม็ดเล็กๆ น้อยๆ นี้เพื่อให้หลานสาวได้ไปอยู่กับเธอที่ไคยา เมืองแห่งไข่มุกทะเลทราย