บท
ตั้งค่า

ตอน 3

ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นเธอกลัวเขาลืมชื่อยาวๆ ของเธอต่างหาก เขาต้องจดจำเธอให้ได้จนขึ้นและไม่อยากจะก้าวออกจากบ้านที่พักร่วมกัน เพราะตอนนี้เขาและเธอก้าวเดินมาตามทางปูด้วยหินกาบ บรรยากาศแวดล้อมด้วยต้นลีลาวดี ทั้งดอกสีขาวอมเหลือง และสีชมพู ตลอดทางเดินไม่ไกลจากส่วนติดต่อสอบถามเท่าไรนัก

“แล้วให้ผมเรียกแบบง่ายๆ ได้ไหม” เขาพูดพร้อมรอยยิ้ม

“คุณอยากเรียกฉันแบบไหน แบบที่คุณจำง่าย เรียกง่ายเราจะได้สนิทกันเร็วๆ ไง” เธอเผลอเปิดเผยสิ่งที่แอบคิดไว้ในใจ แต่พอสติที่เหลือจากอาการกำลังหลงใหลในรูปกลับมา แม้จะกลับมาก็แค่ลางเลือน สุภัสสรจึงชะงักปากแดงๆ จากการแต่งแต้มด้วยลิปสติกยี่ห้อดีของตัวเองอย่างหุบสนิท

“สนิทกันเร็วๆ” ชายหนุ่มฝรั่งตัวสูงใหญ่ถามด้วยความไม่เข้าใจ แต่เขาชอบผู้หญิงคนนี้เข้าให้แล้ว เพราะเธอสวย แถมยังมีน้ำใจให้คนต่างชาติอย่างเขาได้เข้าพักอาศัยด้วย น้ำใจประเสริฐมากๆ

ยิ่งอยู่ใกล้สุภัสสรก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความสูงและหนา ตามแบบหนุ่มฝรั่งชาติยุโรปเต็มคนที่ยืนอยู่ข้างๆ

“อ้อ...ฉันหมายถึงเราจะได้รู้จักกันไว้แบบนี้ไง”

“คุณงดงามนวลผ่องเหมือนพระจันทร์ ใจดีเหมือนนางฟ้า ผมเรียกที่รักพอจะได้ไหม” ว่าแต่ที่รักเกี่ยวอะไรกับพระจันทร์ หรือนางฟ้า คนฟังงง แต่คนพูดไม่งง เขาประสงค์แบบนั้น ชื่อนี้เหมาะกับเธอที่สุดแล้วในเวลานี้ จะมีคนแปลกหน้าที่ไหนมีจิตอาสาช่วยโดยเฉพาะให้พักอาศัยร่วมห้องด้วยแบบนี้ ถ้าเธอไม่ใช่นางฟ้าจะเป็นอะไรได้เล่า เขาลอบคิดด้วยความบริสุทธิ์ใจแฝงความรู้สึกในใจลึกๆ

“ทะ...ที่รัก” คนฟังที่ค่อนข้างหน้าฝืดนิดๆ ยังรู้สึกอายกับคำเรียกที่เขาเรียกเธอทว่าช่างเป็นชื่อฟังแล้วจั๊กจี้หัวใจ คันเนื้อคันตัวชะมัด ราวกับกำลังโดนเขาใช้ลิ้นลามเลียตามร่างกาย ยังไงยังงั้น ‘สุขจริงแท้’ หญิงสาวลอบคิดอย่างสนุกสนานไว้ในใจ “ฮาๆๆ ตามใจคุณสิคะ” ส่งเสียงหัวเราะกลบเกลื่อนความคิดด้านหื่นที่ซ่อนอยู่ภายในใจ

“นี่บ้านพักที่คุณจองไว้เหรอ” เขาเอ่ยถามเมื่อก้าวมายืนอยู่หน้าบ้าน โดยมีเด็กยกกระเป๋ายืนรอหญิงสาวลูกค้าคนสวยอยู่ก่อนแล้ว

“คิดว่าใช่” แล้วเธอก็มองเด็กยกกระเป๋าผิวคล้ำ ที่ยืนรออยู่พร้อมยื่นกุญแจบ้านมาให้เธอด้วยท่าทีสุภาพ ในแบบพนักงานการให้บริการ เธอรับมาแล้วยื่นธนบัตรใบสีแดงให้เด็กยกกระเป๋าผิวคล้ำหนึ่งใบ “ขอบใจนะ” คำขอบใจจากปากเธอคือให้รีบไป อย่าอยู่เป็นก้างนานกว่านี้ประเดี๋ยวแม่จะไล่ตรงๆ

หญิงสาวก้าวผ่านประตูเข้าไปเพื่อชมบรรยากาศบ้านพัก เดินเลยกระเป๋าข้าวของล้ำค่าของตัวเอง ผ่านไปยังห้องนอน ที่เห็นแล้วว่าบ้านหลังกะทัดรัดสีส้มสดหลังนี้มีห้องเดียว มือบางบิดลูกบิด เพื่อชมว่าห้องนอนจะน่ารักเหมือนตัวบ้านหรือเปล่า

“ห้องนอนมีสองเตียง” แหมเสียดาย น่าจะมีเตียงเดียวจะได้ชวนเขานอนบนเตียงเดียวกัน แต่ไม่เป็นไรสองเตียงก็อยู่ในห้องเดียวกัน บรรเจิดมากๆ “อดัมสนใจเข้ามาดูห้องไหมคะ” เธอเชิญชวนด้วยความเป็นธรรมชาติ สีหน้าไม่แสดงความหื่นส่อพิรุธใดๆ ออกมา แต่ขอบอกเธอได้เก็บความต้องการไว้มากจนจะล้นอก อยากฟัดผู้ชายคนนี้เดี๋ยวนี้เลยจริงๆ

เขาเดินไปหยุดอยู่ด้านหลังร่างบอบบาง แม้ดูบอบบางหากช่างสมส่วนลงตัว ดวงหน้าสวย ลำคอระหง หน้าอก...เอ่อ...หน้าอกจัดว่าใหญ่โตใช้ได้ทีเดียว หน้าท้องแบนราบอยู่ภายใต้เดรสยาวลายดอกสีฟ้าสายเดี่ยวผ้าพลิ้วเบาสบาย เขามองไม่เห็นเรียวขาที่ถูกซ่อนไว้ภายในกระโปรงเดรสยาวคลุมเรียวขานั้นเลย ถ้าได้เห็นคงจะบอกได้ว่าเธอจะสมบูรณ์ครบถ้วนสักเพียงไร ที่แน่ๆ เขายืนอยู่ด้านหลังเธอ เห็นชัดตาว่าก้นหญิงสาวงอนงาม จนน่าลูบไล้หรือฟาดฝ่ามือลงเวลาที่เธอไร้ซึ่งสิ่งปกปิด

“สนใจห้องพักกว่าสนใจฉันดีไหมอดัม” ใช่ว่าจะไม่ปลื้มที่เขาจ้องมองมายังเธอแบบนั้น เท่ากับว่าเขากำลังคิดอย่างที่เธอคิด ฉะนั้นนับว่าใจตรงกันอย่างชัดเจน คนหื่นที่อยากจับฝรั่งหล่อฟาดแอบคิดเข้าข้างตัวเอง

“อ๋อ...ขอโทษ อืม...ห้องสวยมาก มีสองเตียง คุณจะอนุญาตให้ผมนอนในห้องนี้ แบ่งเตียงกับคุณได้อย่างนั้นหรือที่รัก” โอ้ว...เธอช่างเป็นนางฟ้าตัวจริง ให้พักบ้านหลังเดียวกัน หนำซ้ำยังห้องเดียวกัน แบบนี้ก็...หวานสิ อดัมลอบคิดด้วยความเริงใจ

“ถ้าคุณไว้ใจได้ ฉันหมายถึงแค่นอนในห้อง คงไม่เลวร้ายอะไร” แต่ที่แน่ๆ สุภัสสรไม่...ไว้...ใจ...ตัวเองเลยแม้แต่เสี้ยววินาที เพราะเขาน่ากินขนาดนี้

ชายหนุ่มวางเป้ใบใหญ่สำหรับเดินทาง ไว้หน้าประตูแล้วถลันเดินเข้าไปในห้อง สำรวจบางส่วนที่มีอยู่ในห้องคร่าวๆ เขาสนใจแค่ที่ซุกหัวนอน เพราะตอนนี้ไม่มีปัญญาออกไปหาห้องพักเลยจริงๆ ด้วยตั้งแต่ลงเครื่องก็เดินทางตระเวนหาห้องพักตั้งแต่เช้า ทุกที่คำตอบเดียวกัน เต็ม และถูกจองไว้หมดแล้ว ผิดที่เขาเองไม่ศึกษาข้อมูลก่อนการเดินทางให้ดี พอมีโอกาสนานๆ ได้เที่ยวจึงหอบทุกอย่างที่จำเป็นลงเป้ แล้วซื้อตั๋วเครื่องบินมุ่งมายังประเทศไทย แล้วต่อเครื่องมาลงยังภูเก็ตในทันที ไม่คิดเลยว่าจะตรงกับเทศกาลสำคัญของคนจีนพอดี

“ขอบคุณนะที่รัก” เขายิ้มแล้วกล่าวขอบคุณในความมีน้ำใจกับเพื่อนร่วมโลก นักท่องเที่ยวผู้หาที่อยู่ไม่ได้ในค่ำคืนนี้ จากนั้นร่างสูงใหญ่หอมยั่วยวนจึงเดินกลับไปยังเป้ที่วางอยู่หน้าห้อง แล้วลากมันมาวางไว้ปลายเตียง ถือโอกาสกระโดดขึ้นเตียง นอนกางแขนกางขาท่ามกลางสายตาหญิงสาว โดยไม่ได้คิดอะไร ก็เขาเหนื่อยมากๆ ในวันนี้ จึงอยากขอเอนหลังหรือนอนพักเอาแรง ส่วนท้องก็ค่อยออกไปหาอะไรกินหลังจากตื่นก็แล้วกัน

ร่างบอบบางขยับไปยืนปลายเท้าชายหนุ่ม มองคนที่นอนกางแขนขายาวๆ อยู่บนเตียง เพิ่งพิศมองดวงหน้าคมสันหล่อบาดตับ บาดใจดวงตามากเสน่ห์หลับพริ้ม สุภัสสรจ้องมองชายหนุ่มนานเกินไป จนคนถูกมองเปิดเปลือกตาที่หลับลงไปแล้ว ลืมตาขึ้นประหนึ่งเหมือนว่ามีใครสักคนยืนจ้องมอง ภาพเบื้องหน้าถูกต้องตามที่เขาคิดไว้

“ผมแย่งที่นอนคุณหรือเปล่าที่รัก” เขาลืมตาขึ้นมา หญิงสาวที่ยืนอยู่ปลายเตียงจ้องมาที่เขา จึงอดถามไม่ได้ ถ้าเธอชอบเตียงนี้ เขาจะไปนอนอีกเตียงย่อมได้ สำหรับเขาเป็นคนง่ายๆ ไม่เรื่องมาก สำหรับผู้หญิงคนนี้เท่าที่ดูภายนอกสวยสะดุดตา ทว่าภายนอกน่าจะเรื่องมากไม่น้อย ด้วยดูจากจำนวนกระเป๋าที่ขนมาราวกับจะมาอาศัยอยู่ที่ยาวนาน หรือมาทำงานถาวรเลยประมาณนั้น

“อ้อ...ไม่ไม่ ฉันเอ่อ...แค่อยากมาดูว่าคุณต้องการอะไรเพิ่มไหม ฉันในฐานะเจ้าบ้าน จะได้บริการไง” ครั้นวินาทีที่เห็นเขาขยับและดีดเปลือกตาขึ้นมอง สุภัสสรจึงรีบปัดสายตามองไปทางอื่น เกรงเขาจะจับได้เรื่องการแอบมอง ด้วยความคิดไม่ซื่อ เพราะแค่อยากชวนเขามาอยู่ร่วมบ้านก็นับว่าไม่ซื่ออย่างที่สุดแล้ว

“ผมเพลียมากที่รัก เอาเป็นว่าผมจะขอพักสักนิดก็แล้วกัน” เขาเอ่ยขอด้วยรอยยิ้มทว่ารอยยิ้มเขาเริ่มไม่หวาน คงเพราะจากการเพลีย แล้วอยากหลับมากๆ นั่นเอง

“ถ้าคุณจะนอน ฉันว่าคุณควรถอดรองเท้าก่อนนะคะ คนไทยเขาถือ นอนทั้งรองเท้าแบบนั้นสกปรกค่ะ” เธอรู้อยู่ว่าฝรั่งไม่ถือเรื่องย่ำรองเท้าเข้าบ้าน ขึ้นที่นอน แต่เธอคนไทยและยังเคร่งเรื่องเหล่านี้ แม้ความหล่อ ความดูดีสุดยอดของเขาจะดีดความเนี้ยบไปจากนิสัยในตัวเธออยู่มากให้ออกไปพ้นระเบียบประจำที่เธอมักปฏิบัติก็ตาม หากว่าเธอยังคงไม่ลืมระเบียบของตัวเองอยู่ดี

“ได้สิ ผมเข้าใจ” เขารีบดึงรองเท้าผ้าใบออกจากเท้า

“ถุงเท้าด้วยนะ” เธอชี้ไปยังถุงเท้าสีขาวของเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel