บท
ตั้งค่า

คำตอบ

บทที่ 5 ยากจะปฏิเสธ

บรรยากาศรอบตัวเงียบสงัด สายลมเย็นพัดปลิวไปตามลมชวนให้ร่างกายผ่อนคลาย แต่กลับไม่ช่วยให้จิตใจและสถานการณ์ตรงหน้าดีขึ้น

‘เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่’ เรนิศตะลึงแทบจะหยุดลมหายใจ เมื่อได้เห็นว่าสามียืนอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“ว่าไงล่ะอักษะ คำตอบของนายคืออะไร” วรยศถามย้ำ

“ถ้านั่นคือความสุขของเรนิศ ผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธ ในเมื่อการอยู่ร่วมกันของพวกเราทำให้เธอทุกข์มากขนาดนั้น”

น้ำเสียงเคร่งขรึมถูกเปล่งออกมา สายตาเย็นชาจ้องมองเข้าไปในตาของภรรยา ใบหน้าคมสันไม่เปิดเผยความคิดด้านใน แม้ว่าภายนอกเขาจะดูเหมือนไม่รู้สึกอะไร ทว่าภายในใจกลับท่วมท้นไปด้วยความไม่พอใจอย่างถึงที่สุด

‘ทุกข์ทรมาน? เหตุผลบ้าบออะไรกัน อยู่กันมาตั้งนานเธอพึ่งจะมารู้สึกเนี่ยนะ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ฉันคงไม่กลายเป็นบ้าไปก่อนงั้นเหรอ’

ภายใต้ใบหน้าเย็นชา เขายังคงเอาแต่จ้องภรรยาไม่หยุด

“คุณลุงได้ยินชัดแล้วนะคะ หนูกับอักษะเห็นพ้องต้องกันแล้วว่าจะหย่า หวังว่าคุณลุงจะเคารพการตัดสินใจของพวกเรา” ขณะที่พูดเธอก็จ้องใบหน้าคมสันของเขาไปด้วยอย่างไม่เกรงกลัวเช่นเดียวกัน

“ถึงจะพูดแบบนั้น แต่เรื่องเอกสาร-”

“เรื่องนั้น-” เรนิศพูด

“คุณลุงไม่ต้องห่วงหรอกครับ เรนิศส่งเอกสารการหย่ามาให้ผมเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี ถึงขั้นที่จะไม่เอาสมบัติติดตัวไปด้วยซ้ำ”

“เรนิศ ทำไมหลานถึงทำแบบนี้!” วรยศหันกลับมาดุหลานสาว แม้จะรู้ดีว่าเธอไม่ได้ต้องการเงินของอักษะ แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการฟ้องร้องในภายหลังจึงไม่ควรตัดสินใจเรื่องนี้ตามลำพัง

หญิงสาวจ้องเขม็งไปที่สามีด้วยความไม่พอใจ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นประโยชน์กับเขาแท้ๆ แต่เขากลับเอาเรื่องนี้มาอ้าง

“คุณลุงไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะให้ทนายจัดการเรื่องนี้เอง ในส่วนที่สมควรเป็นของเธอก็จะเป็นของเธอ”

“ฉันไม่ได้ต้องการเงินของคุณ!” เรนิศรีบแย้ง

“เธอไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องนี้ตามลำพัง อะไรที่ผู้ใหญ่บอกก็ควรฟังบ้าง อย่าดื้อรั้นแบบนี้”

“ฉันไม่ได้ดื้อรั้น แต่ฉันไม่อยากยุ่งกับคุณต่างหาก ทำไมพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้!”

“พี่รู้ว่าตอนนี้เธอไม่พอใจ แต่อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ก็ควรสงบสติอารมณ์เอาไว้ เรื่องนี้พี่กับเธอค่อยคุยกันที่บ้านก็ได้”

“คุณนี่มัน-”

“เรนิศ หลานพอได้แล้ว ที่อักษะพูดว่าถูกต้องทุกอย่าง แล้วก็ควรเรียกเขาว่าพี่ด้วย ไม่ใช่คำว่าคุณแบบนั้น” วรยศกล่าวตักเตือนหลานสาว

เรนิศหัวเราะอย่างติดๆ ขัดๆ อย่างจนปัญญา ลืมไปแล้วว่าผู้ชายคนนี้ตีสองหน้าเก่งมากขนาดไหน!

ในอดีตหากอยู่ต่อหน้าคุณลุง เขามักจะแทนตัวเองว่าพี่เสมอ และเธอก็มักจะเรียกเขาว่าพี่ด้วยเช่นกัน แถมยังแทนตัวเองว่าเรนิศเสมอ เพื่อสื่อให้คนภายนอกได้เห็นถึงความสนิทสนมของพวกเขา ทั้งที่ความเป็นจริงคือคำลวงโลกชัดๆ!

“จะว่าไปช่วงนี้เธอไม่เรียกพี่ว่าพี่เลยด้วยซ้ำ ทำไมกันล่ะ”

น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ดังเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนอีกฝ่ายนั่งลงเก้าอี้ข้างเธอ เมื่อหันไปสบตาก็พบสายตาเจ้าเล่ห์ราวกับผู้ชนะของอักษะ

‘ก็เพราะฉันเกลียดคุณจนแทบจะทนมองหน้าไม่ไหวไงเล่า!’

แม้จะอยากพูดประโยคในหัวออกไปมากแค่ไหน แต่ทำได้เพียงปั้นหน้ายิ้มให้เขา “ก็เพราะว่าอีกหน่อยพวกเราก็คงไม่ได้เจอกันแล้ว เรนิศก็ควรจะเตรียมตัวเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ”

“ทำไมล่ะ เธอจะไปไหน จะไม่อยู่ที่นี่แล้วเหรอ” อักษะจี้ถามเอาคำตอบ

เนื่องจากทั้งสองคนอยู่ในสังคมเดียวกัน ถึงต่อให้จะไม่อยากเจอหน้าอีกฝ่ายมากแค่ไหน แต่อย่างไรก็คงไม่สามารถหลบเลี่ยงได้

“วันหนึ่งพวกเราคงต้องกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน ถ้าคนรักใหม่ของพี่อักษะได้ยินเข้า เธอคงจะไม่สบายใจแน่ เรนิศไม่อยากสร้างปัญหาภายหลัง” หญิงสาวกัดฟันพูด ทั้งที่ในความเป็นจริงหากรันดาจะทุกข์ใจกับคำเรียกนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องของเธออยู่แล้ว!

“ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ยังไม่คิดจะมีใหม่เร็วๆ นี้”

“แล้วเธอจะท้อง-” เรนิศรีบยกมือขึ้นมาปิดปากทันที

“เธอพูดอะไร?” อักษะเลิกคิ้วสูง ความสงสัยเพิ่มขึ้นทวีคูณ

“ฉะ ฉัน เรนิศหมายถึงเรื่องในอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่ไม่นอน พี่อักษะอย่าพึ่งมั่นใจไปเลยดีกว่าค่ะ บางทีพี่อาจจะมีลูกเร็วๆ นี้ก็ได้”

“กับใคร?”

เพียงสองคำสั้นๆ ทำเอาเธอถึงกับไปไม่เป็น ไม่สามารถตอบคำถามของอีกฝ่ายได้ ยิ่งเห็นเขาเลิกคิ้วสูง มองลงมาด้วยสายตากวนโอ๊ยแบบนั้นก็ยิ่งทำให้เธอหงุดหงิดเข้าไปอีก

‘ตอนนั้นฉันตาบอดแน่ๆ ทำไมไปหลงรักคนกวนประสาทแบบเขาได้!’

“เอาล่ะๆ ทั้งสองหยุดทะเลาะกันได้แล้ว” วรยศเอ่ยห้ามปราม หลังจากที่เงียบมานาน “ส่วนเรนิศ ถึงต่อให้ทั้งสองคนจะหย่ากันแล้ว แต่อย่างไรก็ควรเรียกอักษะว่าพี่ เข้าใจไหม”

“ค่ะ” เธอตอบรับอย่างไม่สบอารมณ์

วรยศเห็นหลานสาวทำหน้าตาบูดบึ้งไม่พอใจ ถึงเป็นพฤติกรรมที่ดูจะเอาแต่ใจไปเสียหน่อย แต่เขากลับรู้สึกชอบที่เธอเป็นแบบนี้ คนที่สามารถแสดงตัวตนของตัวเองออกมาได้โดยไม่ต้องหลบซ่อนเหมือนในอดีต

“ถ้าหากว่านั่นคือสิ่งที่หลานต้องการ ลุงก็จะเคารพความต้องการของทั้งสองคน”

“จริงเหรอคะ!” หญิงสาวเผยรอยยิ้มอีกครั้ง

“ครับ” อักษะพยักหน้าช้าๆ

“แต่ว่า-” พูดยังไม่ทันจบประโยค วรยศเกิดไออย่างหนักติดต่อกันหลายครั้ง

“คุณลุง!” เรนิศรีบพุ่งตัวเข้ามาหาคุณลุงทันที มือสั่นเทาพยุงร่างกายคนแก่ขึ้นมา ทิ้งความเห็นแก่ตัวไปจนหมด เหลือแค่เพียงความหวาดกลัวจะสูญเสียคนสำคัญไป “คุณลุงคะ ทำใจดีๆ ไว้นะคะ”

“เรนิศ ใจเย็นๆ” อักษะรีบห้ามห้ามปราม เมื่อเห็นอาการตื่นตกใจของภรรยา

“ก็คุณลุงป่วย จะให้ฉันใจเย็นได้อย่างไร!”

“เรนิศ พอแล้ว ลุงแค่ไอก็เท่านั้น” วรยศเอ่ยขึ้น เมื่อเริ่มหายใจกลับมาเป็นปกติ

“แต่ว่า-”

“ลุงไม่เป็นอะไร ทั้งสองคนไม่ต้องห่วง”

เขาส่งยิ้มให้หลานสาว เห็นดวงตากลมโตของเธอแดงก่ำก็อดเศร้าใจไม่ได้ ร่างกายของเขาในตอนนี้คงจะเหลือเวลาอีกไม่นาน คงไม่สามารถปกป้องเธอได้ตลอด เมื่อรู้ว่าเธอจะหย่ากับคนที่ไว้ใจได้อย่างอักษะ วรยศก็แอบเสียดายไม่น้อย

แถมบทสนทนาของทั้งสองคนเมื่อครู่ดูจะลื่นไหลกว่าเมื่อก่อนเสียด้วยซ้ำ

หากว่าพวกเขาได้มีโอกาสใช้เวลาร่วมกัน… จู่ๆ ชายแก่ก็คิดแผนสำคัญขึ้นมาได้ทันเวลา เขาแกล้งไอสองสามครั้งก่อนจะเอ่ย

“ลุงมีงานเลี้ยงสำคัญอยากจะให้ทั้งสองคนไปร่วมงาน คิดซะว่าเป็นการทำเพื่อคนแก่แบบลุงเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งสองคนช่วยไปงานนี้แทนลุงได้หรือเปล่า”

ชายหญิงมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย รู้ดีว่าเป้าหมายที่แท้จริงของอีกฝ่ายคืออะไรกันแน่ แต่กลับไม่สามารถเอ่ยคำปฏิเสธได้

“ครับ/ค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel