บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

จบงานวันนี้ในเวลาประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง แต่กานต์ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะหลุดพ้นออกมาจากห้างฯ ได้ เพราะมีแฟนคลับคอยยืนดักส่งเขาอยู่ทุกจุด ขนาดที่ว่า รปภ. ของห้างฯ ต้องเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังป้องกันหากเกิดเหตุฉุกเฉินที่คาดไม่ถึง แต่กานต์ก็ยังคงรักษาน้ำใจแฟนคลับอยู่เสมอ เขามักจะหยุดเดินเป็นระยะเพื่อรับจดหมายจากแฟนคลับ ให้แฟนคลับที่มารอได้ถ่ายรูป และโต้ตอบสนทนากันเล็กน้อย

"เดี๋ยวเรากลับออฟฟิศกันเลยนะครับ" ไทม์กล่าวขณะเปิดประตูรถตู้เพื่อให้กานต์ขึ้นไปนั่ง ก่อนที่ตัวเองจะตามขึ้นไปนั่งอีกเบาะหนึ่งข้างๆ กัน "เมื่อครู่พี่ทรายส่งข้อความมาหาบอกว่า ถ้าพี่ถึงออฟฟิศแล้วให้ไปพบด้วย"

"ได้...เย็นนี้ฉันไม่มีงานแล้วใช่มั้ย"

"ไม่มีแล้วครับ..." ไทมน์นิ่งไปนิด นัยน์ตาสีอ่อนเพ่งมองดวงหน้าหล่อคมของกานต์เขม่งก่อนจะเอ่ย "เอ่อ พี่กานต์ อยู่นิ่งๆ แป้บ"

กำลังจะเอ่ยปากถามว่ามีอะไร หากก็เป็นอันต้องนิ่งค้างเมื่อจู่ๆ คนที่ตัวโตกว่าเขาเล็กน้อยยื่นหน้ามาใกล้ ในมือถือกระดาษทิชชู่แผ่นบางอยู่หนึ่งแผ่น

"ทำอะไร" ในระยะที่ใกล้จนผิดปกติ กานต์เผลอผงะถอยไปเล็กน้อย คิวเข้มขมวดมุ่นกับนัยน์ตาจ้าแสงปรากฏริ้วของความตื่นตระหนกเล็กน้อย

"ขนตาพี่ติดอยู่ตรงหัวตา...ผมจะเอาออกให้" เจ้าไทม์บอกทำท่าจะยื่นมือที่ถือกระดาษทิชชู่เข้าไปใกล้อีกนิด แต่กานต์ก็แย่งเอากระดาษทิชชู่มาถือไว้เสียก่อน ปฏิเสธคิ้วขมวด

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง เกิดรถเบรกขึ้นมานายพลาด ทิ่มตาฉันพอดี"

"โธ่...คุณกานต์ นั่งรถที่ลุงขับมาเป็นปี ยังไม่เชื่อฝีมือลุงอีกหรือครับ" ลุงสิงห์ที่ได้ยินกานต์พูดอย่างนั้นก็อดเย้าขึ้นมาเสียมิได้ จนซุป'ตาร์หนุ่มต้องรีบแก้

"ไม่ใช่อย่างนั้นครับลุง ผมเชื่อฝีมือลุง แต่ไม่ค่อยเชื่อใจหมอนี่เท่าไหร่"

"อ้าว...ผมดูแลพี่ไม่ดีหรือ" คนอายุน้อยกว่าหน้าง้ำแล้วยอมพาตัวเองออกห่าง เอนหลังพิงเบาะที่นั่งพลางแสร้งถอนหายใจหนักๆ อย่างจงใจให้รู้ว่า 'งอนแล้วนะ'

ทว่า ไทม์ก็งอนได้ไม่นาน เพราะทันที่ที่ได้ยินเสียงสั่งว่า

"ขอกระจกหน่อย"

พ่อเจ้าประคุณก็กุลีกุจอเปิดกระเป๋าโดราเอมอนหากระจกให้คนพี่ทันที

เซอร์คอน เอนเทอร์เทนเมนต์ คือบริษัทอุตสาหกรรมบันเทิงขนาดกลาง มีลักษณะเป็นโฮมออฟฟิศ ในพื้นที่ขนาดหนึ่งไร่ใจกลางย่านเศรษฐกิจ เซอร์คอนเป็นบริษัทผลิตศิลปินตามสายงานต่างๆ ในวงการบันเทิง ซึ่งมีทั้งสายการแสดงและสายงานเพลง ทว่า เด็กฝึกส่วนใหญ่ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัท ก็จะได้รับการฝึกฝนทั้งร้องทั้งแสดงควบคู่กันไปอยู่แล้ว

กานต์อยู่ที่นี่มาถ้านับรวมๆ ก็เกินสิบปีเห็นจะได้ อยู่ตั้งแต่ เซอร์คอนยังเป็นบริษัทเล็กๆ มีเด็กฝึกเพียงสิบกว่าคน บริษัทก็ไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางอะไรมากมาย ที่เห็นมีเนื้อที่เพิ่มขึ้นกว่าหนึ่งไร่ก็เพราะคุณสุจิราอยากจะขยายพื้นที่สร้างเป็นที่พักสำหรับเด็กฝึกที่ไม่สะดวกเดินทางไปกลับระหว่างบริษัทกับบ้าน บวกกับสร้างสวนหย่อมเล็กๆ ไว้ให้พนักงานได้พักผ่อนหย่อนใจ ขนาดกานต์ยังเคยแซวท่านผู้บริหารเลยว่า

"รุ่นผมไม่เห็นมีหอพักสวยๆ แบบนี้บ้างเลย"

"รุ่นพวกเรามันรุ่นบุกเบิกนี่หว่า...เอาน่าคิดซะว่าปูรากฐานความสบายให้รุ่นน้อง" เพราะในความเป็นจริง สุจิราต้องยอมรับว่า คนที่มีส่วนสำคัญกับการเติบโตของบริษัทอย่างมากก็คือกานต์

จากเด็กหนุ่มที่แบกเป้โหนรถเมล์มาที่บริษัทเพื่อมาขอสมัครเป็นเด็กฝึกในวันที่บริษัทก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากนัก แม้จะมีเด็กฝึกทำงานในวงการบันเทิงอยู่บ้างหากก็ไม่ได้เด่นดังอะไรมากมาย

ที่จริงกานต์เป็นเด็กหน้าตาหล่อ เสียงพูดและเสียงร้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีแววตาที่มุ่งมั่นจนแอบคิดว่าทำไมถึงได้เลือกมาสมัครที่นี่ บริษัทเล็กๆ ที่ไม่ได้มีทรัพยากรเพียบพร้อมเหมือนบริษัทดังๆ

"ก็เพราะเป็นบริษัทเล็กๆ ไงครับผมถึงมา อย่างน้อยๆ ผมเชื่อว่าพวกพี่จะดูแลผมได้ดีกว่าบริษัทใหญ่ๆ ที่มีแต่คนดังๆ ให้คอยเอาอกเอาใจ อีกอย่างนะครับ...ที่นี่ใกล้โรงเรียนผมด้วย สะดวกต่อการเดินทางมาก"

กานต์คิดทุกอย่างมาดีแล้ว ถึงได้มาที่เซอร์คอน...บริษัทเล็กๆ ที่บอกว่ามีทรัพยากรจำกัด แต่กลับพยายามสรรหาสิ่งที่กานต์ต้องการมาให้ไม่เคยพร่อง ครั้นเมื่อวันเวลาของกานต์มาถึง กานต์จึงเลือกที่จะยังอยู่กับเซอร์คอน ทั้งที่มีหลายบริษัทยักษ์ใหญ่มาทาบทามให้ร่วมสังกัด หรือแม้แต่รับงานเองก็ยังได้

"อ้าว...กานต์ มาแล้วหรือ นั่งก่อนสิ" คุณสุจิรา ผู้บริหารของเซอร์คอนเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มเมื่อกานต์เปิดประตูห้องทำงานเดินเข้ามาหลังจากเคาะประตูและได้รับอนุญาต

สุจิราเป็นหญิงสาวที่อายุราวสี่สิบสอง เจ้าหล่อนมีบุคลิกที่ค่อนข้างเปรี้ยวจี๊ด ที่ไม่ได้หมายถึงแต่งตัววับๆ แวมๆ แต่ชอบใส่เสื้อผ้าสีสันฉูดฉาด ริมฝีปากก็ต้องสีสดๆ ผมซอยสั้นที่ส่งให้เจ้าตัวดูน่าเข็ดฟันหนักเข้าไปอีก แต่กระนั้น สุจิราก็เป็นผู้บริหารที่เก่งเอาเรื่องเลยทีเดียว คิดดูเถอะ...ลงทุนเปิดบริษัทนี้ตั้งแต่อายุสามสิบนิดๆ จนมันเติบโตมาจนทุกวันนี้

"เจ้าไทม์บอกว่าพี่มีเรื่องจะคุยกับผม"

"พอดีเมื่อเช้ามีประชุมทีมบริหาร ทุกคนลงความเห็นว่า จะจัดคอนเสิร์ตให้นาย" นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับการจัดคอนเสิร์ตของกานต์ ฉะนั้น เมื่อคุณสุจิราแจ้งมา ชายหนุ่มจึงไม่ได้มีความตื่นเต้นอะไร มากนัก จนกระทั่ง "แต่ครั้งนี้จะจัดเป็นเอเชียทัวร์"

"เอเชียร์ทัวร์" คราวนี้แหละที่ความตื่นเต้นฉายชัดทั้วดวงหน้าและแววตา

ไม่ใช่ไม่เคยทำงานต่างประเทศ ตั้งแต่วงเรย์หมดสัญญา กานต์ก็บินไปทำงานต่างประเทศเป็นว่าเล่น มีงานเพลงบ้าง งานแสดงบ้าง เดินแบบบ้าง แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะได้จัดคอนเสิร์ตของตัวเองในประเทศนั้นๆ ถ้าที่ไทยน่ะเคยมีคอนเสิร์ตเดี่ยวอยู่บ้าง

"อืม...แพลนไว้น่าจะต้นปีหน้า เดี๋ยวแพลนงานออกมาแล้วจะเรียกประชุมอีกที ไม่รู้ยัยจี๊ดจะหายทันคอนเสิร์ตมั้ย...ไปเล่นคอนต่างประเทศ ให้คนอื่นไปก็ไม่ค่อยไว้ใจ"

"ถ้าแพลนเป็นต้นปีหน้า ผมว่าน่าจะได้อยู่ครับ มีนายไทม์ช่วยอีกแรงน่าจะไม่มีปัญหา"

"เออจริงสิ...นายไทม์ทำงานโอเคมั้ย"

เจอคำถามนี้ แววตาสีเมล็ดอัลมอนด์ก็จ้าแสงขึ้นเล็กน้อย กระตุกยิ้มนิดๆ ที่มุมปากก่อนจะตอบกลับผู้เป็นเจ้านายด้วยน้ำเสียงเรียบที่ฟังดูดีๆ ก็แฝงความหมั่นไส้อยู่หน่อยๆ ว่า

"ดีครับ...ดูแลทุกคนอย่างทั่วถึงเลยล่ะ"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel