บทที่ 2
กานต์กลับมาถึงห้องพักในคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาราวตีหนึ่ง เป็นคอนโดห้องใหม่ที่เขาเพิ่งจะซื้อและย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่กี่ปีนี้เอง จากแต่เดิมเขาอยู่กลางใจเมืองย่านธุรกิจ แต่ระยะหลังมากลับรู้สึกว่าบริเวณโดยรอบดูจะวุ่นวายเกินไป พี่สายหมอก เพื่อนร่วมวงเรย์ของเขาเคยพูดว่า
"มึงแก่แล้วก็งี้แหละ แสวงหาความสงบ"
ยามนั้นเขาก็ได้แต่ฟังและขำไปกับคำพูดนี้ หากก็แอบเห็นด้วยว่าเขาอาจจะกำลังแสวงหาความสงบจริงๆ ...หรือบางทีเขาอาจจะต้องการเพียงแค่เปิดหน้าต่างออกมายืนริมระเบียงแล้วทอดมองพื้นน้ำกระเพื่อมไหวยามต้องกระแสลมอย่างเงียบสงบก็เป็นได้ แม้ในความเป็นจริงก็เห็นจะไม่ได้สงบเงียบปานนั้นก็ตาม เพราะท้ายที่สุดแล้ว วิวจากห้องพักริมน้ำก็มักจะเห็นเรือโดยสารข้ามฟาก เรือขนส่งสินค้า หรือแม้แต่เรือสำราญล่องแม่น้ำ ไกลออกไปจะเห็นสะพานพระรามแปด ฝั่งตรงข้ามเป็นวัดวาอาราม หากเป็นเวลากลางคืนจะเปิดไฟเรืองรอง เป็นทัศยภาพที่งดงามสมกับราคาห้องสูงลิ่ว
กานต์อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าพอให้รู้สึกสบายตัวแล้วกระโดดขึ้นเตียงนอนหลังใหญ่ คว้าโทรศัพท์มือถือมาเปิดแอปพลิเคชันไลน์ กดเข้าไปกลุ่ม 'เทพบุตรทั้ง 7' แล้วส่งข้อความแสดงความยินดีกับจีนและคีตา
กานต์ไม่ได้ไล่อ่านข้อความทั้งหมดที่สิริรวมแล้วก็สองหมื่นสามพันกว่าข้อความ และเกือบพันข้อความเป็นสติกเกอร์และอิโมติคอนแสดงความรู้สึกจากพี่สายหมอก และข้อความที่เห็นแล้วก็ทำให้กานต์หัวเราะออกมา
สายหมอก: ไอ้คีไอ้จีน พวกมึงแซงหน้ากูไปได้ยังไง กูบ่ยอม กูบ่ยอม
ตามด้วย GIF กาสะลองยืนกรี๊ด
สายหมอก: @อัยย์ มึงจะเอาไง
อ้อ...นี่ก็เป็นอีกคู่ที่พบรักกันในรายการแข่งขัน แถมยังได้เดบิวต์ด้วยกัน
อัยย์: ไหนคราวก่อนมึงบอกให้สองคนนั้นแซงหน้าไปก่อนไง มึงไม่พร้อมแต่ง
สายหมอก: มึงก็ขยันเอาความจริงมาพูด
เหม: @สายหมอก ประวัติการแชตยังมีนะ เลื่อนดูได้
อะตอม: @สายหมอก กูยืนข้างอัยย์
สายหมอก: พวกพี่แม่งแกล้งน้องงงงงงง @จีน @คีตา พวกมึงปกป้องกูเลย
และสารพันปัญหาความชุลมุนมากมายที่กานต์ตามเก็บอ่านไม่หมด สุดท้ายก็พิมพ์ไปแค่ 'ยินดีด้วยนะ'
คำสั้นๆ ...แต่สำหรับกานต์แล้ว มันได้รวบรวมความรู้สึกทั้งหมดของเขาไว้แล้ว...ยินดีด้วยนะ ที่แปลว่า ยินดีกับเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น ยินดีกับความสุข ยินดีกับความรักอันสวยงาม
ยินดีด้วยนะ...จีน
กานต์มองดูรูปการขอแต่งงานระหว่างคีตากับจีน พินิจมองดวงหน้าจิ้มลิ้มละมุนละไมของจีน แววตาประกายวาว รอยยิ้มเจิดจ้า ที่ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็มีแค่คำว่าความสุขฉายชัด เขามองรอยยิ้มนั้นราวกับจะสลักลึกไว้ในหัวใจ พร้อมกับอาการเจ็บแปลบเสียดแทงขอบๆ ใจว่า...รอยยิ้มนี้ ไม่มีวันเป็นของเขา
ข้อความหนึ่งแจ้งเตือนขึ้นมา ดึงความสนใจของกานต์ให้ต้องกดเข้าไปอ่าน
มันเป็นข้อความที่ส่งมาจากนายไทม์
ไทม์: ก่อนนอน ถ้าไม่กินขนมปังที่ผมซื้อให้ ก็ดื่มนมอุ่นๆ สักแก้วนะพี่กานต์ เดี๋ยวโรคกระเพาะกำเริบขึ้นมาจะยุ่ง
บางที...กานต์ก็ไม่รู้ว่าคุณสุจิราคัดคนมาดี หรือพี่จี๊ดแกฝึกมาดีกันแน่ ไอ้เด็กนี่ถึงได้ขยันจ้ำจี้จ้ำไชเขาเรื่องอาหารการกินเหลือเกิน พร้อมกับปิดท้ายว่า
ไทม์: พรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าเจอกันที่ออฟฟิศนะครับ พี่มีแคสต์หนังตอนเก้าโมง แล้วบ่ายสามมีอีเว้นท์ที่ห้างฯ
กานต์: เออ รู้แล้ว!
ไทม์: ( (สติกเกอร์ยิ้มแผล่) ) ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีครับพี่กานต์
กานต์เผลอหัวเราะหึๆ อยู่ในลำคอ ไม่รู้ว่าเอ็นดูเจ้าเด็กนี่หรือเอือมระอามันกันแน่ ทว่าสุดท้ายเขาที่ตั้งใจจะเข้านอนทันที กลับลุกจากห้องไปอุ่นนมจืดแล้วดื่มจนหมดแก้ว ก่อนจะกลับมาล้มตัวนอนบนเตียงจนถึงเช้า