ตอนที่6 เสียงกรี๊ดของสาวๆชนะทุกอย่าง เอาแชมป์ไปเลยเพื่อน
“อะ เอาล่ะ มาฟอร์มทีมก่อน” พี่ทรายที่ไปคุยกับทีมตรงข้ามกลับมาก็เริ่มล้อมวงทีมตัวเองต่อทันที
“ทีมนั้นมีไอ้หนเป็นForwardพี่ว่าให้คนอื่นไปงัดกับมันยากไม่อยากเสี่ยงฉะนั้นทีมเราพี่จะลงForward” ผมพยักหน้าเห็นด้วย ดูจากขนาดตัวพี่ไปงัดกันเองเถอะ
“ส่วนGuardดูจากรอบที่แล้วตอนเล่นด้วยกันไอ้เด็กนี่ไม่เลวเลย ให้เดวาเป็นแล้วกัน” พี่ทรายตบบ่าบอกเสร็จแล้วยังมีการมากอดคอแล้วลูบหัวตูอีก
ผมไม่ชอบโดนเล่นหัวครับเพ่
ผมเลยดึงแขนพี่แกออกแล้วหลบไปอีกทางแทน
“แล้วน้องที่เหลือใครเล่นตำแหน่งไหนเป็นมั่ง” พี่ทรายไม่ได้ใส่ใจจะตามมากอดคอผมต่อแต่หันไปปรึกษาตำแหน่งกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นแทน
“ผมเคยเป็นShootingมาก่อน” เพื่อนใหม่ยังคงความกระตือรือร้นอยู่และให้ความร่วมมือดี แต่อีกคนนี่สิ….
“ผมตำแหน่งไหนก็ได้” เอาแน่เอานอนกับมันไม่ได้เลย
พี่ทรายเงียบไปสักพักก่อนจะเข้าสู่โหมดจ้องตากันทำความรู้จักกัน
ผมที่ดูไม่มีส่วนร่วมก็หลบไปตบลูกวอร์มก่อน
“เอาละหัลตำแหน่งPointหวังว่าตำแหน่งนี้จะทำให้เกมเราพลิกได้ทั้งกระดานนะ” พี่ทรายหันไปตบบ่าหัลอีกทีแล้วกวักมือเรียกคนในทีมไปสุ่มหัวกัน
ผมไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมถึงให้ตำแหน่งที่สำคัญแบบนั้นกับหัล (พึ่งรู้เมื่อกี้เองว่าชื่อนี้) ไปได้ แต่ผมก็ไม่อยากจะค้านเพราะ ณ ตอนนี้ ตำแหน่งหน้าที่ของทุกคนสำคัญหมด
“เดวาหน้าที่ของเธอคือกันริวอย่าให้มันหลุดไปได้ แล้วหาจังหวะส่งลูกให้เขม ส่วนเขมทำจังหวะชู๊ตพยายามอย่าพลาด คงไม่ต้องพูดมากกับตำแหน่งเก่าที่เคยเล่นนะ” เขมพยักหน้ารับรู้และดูจริงจังมากขึ้นเล็กน้อย แต่เล็กน้อยเท่านั้นละนะ….
“แล้วหัลเคยเล่นตำแหน่งนี้ไหม”
“ผมเคยเล่นมาหมด” หัลพูดอย่างไม่ใส่ใจสักเท่าไหร่ ดูถ้าจะอยากให้รีบเริ่มรีบจบเหมือนเป้าหมายคืนกลับบ้าน
“งั้นก็แปลว่ารู้พอสมควร คอยแย่งบอลส่งลูกให้เขมหาจังหวะชู๊ต 3 แต้มให้ได้”
“รู้แล้ว แค่นี้ใช่ไหม” หัลพูดเสร็จก็เดินไปวางกระเป๋าไว้ขอบสนามแล้วถอดเสื้อ….
กรรมสายตาตูจะเสียไหมเนี่ย
ผมเลยเหล่สายตาเนียนหลบไปอีกทางแทน
กรี๊ด!!!
‘หัลถอดเสื้อด้วยว่ะแก เป็นบุญกูที่ได้มาดูเขาเล่นกัน'
‘แกฉันจะเป็นลม’
'โอ้ยหัวใจฉันจะวายตายแล้วแก'
เสียงกรี๊ดแปดหลอดของสาวๆ ยังคงดังระงมกับเสียงแทรกฟังไม่ได้ซับของพวกเธอ
ได้ยินแล้วผมรู้สึกปวดหัวขึ้นมากะทันหัน
ต้องเอามือมานวดขมับอย่างหงุดหงิด
มีแต่คนกรี๊ดพวกมัน ผมละอดอิจฉาไม่ได้เลย
แล้วหัลก็เดินกลับเข้ามาสนามพร้อมเสื้อกีฬาตัวใหม่
ผมก็ร้องอ่อในใจ แม่งห้องน้ำก็มีไม่เสื-กเปลี่ยน
ปี๊ด!
เสียงนกหวีดดังขึ้นอันเป็นสัญญาณที่พี่ทรายเป่าให้สำหรับเริ่มการแข่งขัน
ฝั่งโน้นได้ส่งบอลก่อนโดยมีนินเป็นตัวส่งบอล ตามด้วยริวที่รับลูกอย่างสวยงาม ผมที่ได้หน้าที่เป็นการประกบริวก็วิ่งไปกันการส่งลูกทันที
ริวที่เห็นที่ไม่ดีเลยส่งลูกให้เหมย์ต่อแต่ริวประมาทผมเกินไป ในขณะที่บาสหลุดจากมือริวได้ผมก็ตวัดมือไปตบบาสเล็กน้อยแล้วเปลี่ยนทิศทางการส่งบาส ทำให้ลูกกลิ้งไปทางเขมทันที
เขมที่ตั้งรับอยู่แล้วรับลูกแล้วเลี้ยงลูกอย่างรวดเร็วแล้วกระโดดชู๊ตลูกลงห่วงอย่างสวยงาม
“2 แต้ม!” แต้มแรกของสนามเกิดขึ้นเร็วอย่างที่ทุกคนไม่ทันตั้งตัว
“เฮ้!!” เสียงเชียร์ดังตามมาอีกทำให้ผมเริ่มตื่นเต้นเหมือนกลับเข้าสู่สนามจริงๆ ขึ้นมา
แต่นี้เกมมันพึ่งจะเริ่ม ในเวลาที่ยังไม่หมด ห้ามประมาทเด็ดขาดเชียว
เมื่อลูกตกถึงพื้นพี่หนที่ไม่รู้มาจากไหนรับลูกแล้วเลี้ยงลูกต่อทันที
ผมที่มีหน้าที่กันริวอยู่ก็ทำได้เพียงหันไปดูสถานการณ์ก่อนจะหันไปสบตากับเพื่อนร่วมชะตา ที่ว่านายคงจะต้องติดแหง็กไปกับผมอีกสักพักอะนะ
พี่ทรายวิ่งมาปาดด้านหน้าก่อนที่พี่หนจะถึงครึ่งสนาม ทำให้พี่หนต้องหยุดวิ่งแล้วเลี้ยงบาสหลบมือก่อนจะส่งบาสลอดใต้หว่างขาให้นินไปอย่างดูมีชั้นเชิง
โห ตอนเล่นคู่ไม่เห็นพี่แกจะลีลาเยอะขนาดนี้ กะจะเอาแชมป์เลยปะเนี่ย
นินที่รออยู่ใต้แป้นบาสรับลูกได้ก็ชู๊ตลงห่วงทันที
“2 แต้ม!” รุ่นพี่ปี 4 เพื่อนพวกพี่ๆ รับหน้าที่เป็นคนนับแต้มเอง ตะโกนให้คะแนน
เสียงเชียร์ยังคงดังไม่ขาดสาย หันไปอีกที อัฒจันทร์รอบข้างคนนั่งกันเกือบเต็มแล้ว
ผมต้องยอมรับความฮอตของพวกเขาใช่ไหม….
“2 แต้ม!” ยังไม่ทันที่ผมจะหันไปดูสนาม นินก็ทำแต้มได้ติดกันอีก
ทำให้ผมขมวดคิ้วอย่างขัดใจ
“อย่าสนใจอย่างอื่น” คนที่ติดแหง็กอยู่กับผมพูดขึ้นหลังจากที่เงียบกันมานาน
ผมได้แต่ส่งสายตาสงสัยไปให้
“สนใจแค่ฉัน” เขาว่าจบก็วิ่งหลบผมอย่างรวดเร็วแล้วกระโดดรับลูกที่พี่หนส่งมาแล้วซู๊ตลงห่วงในระยะครึ่งสนาม
ผมที่วิ่งตามได้แต่หอบหายใจแล้วกุมท้อง เมื่อรู้ว่าลูกนั้นมันลงจริงๆ ลูกสามแต้มที่ซู๊ตแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เป็นลูกที่เหวี่ยงให้มันกระแทกแป้นก่อนจะเด้งกลับลงห่วงอย่างปาฏิหาริย์
เหมือนคำนวณอย่างละเอียดแล้วว่าไม่พลาดแน่
แต่แม่งเจ็บใจ เพราะผมเองที่ไม่มีสมาธิ เนื่องจากเมื่อกี้ทุกคนหันไปสนใจที่พี่หนกับบาสที่กลางสนาม เลยไม่มีใครมาสนใจริวที่อยู่ถัดไปเพราะเห็นผมประกบอยู่
“3 แต้ม”
กรี๊ด!!
“เฮ้!!!!” เสียงเชียร์ดังกว่าทุกที ทำให้รู้ว่าคนมาดูบาสเขาคงรอคอยลูกสวยๆ ของไอ้หน้าหล่ออยู่ไม่น้อย
ผมหอบสักพักก่อนจะวิ่งเหยาะๆ ไปหาพี่ทราย
“พี่! ลูกเมื่อกี้ผมขอโทษ”
แต่ด้วยเสียงรอบข้างมันดังผมเลยต้องตะโกนแทน
“ไม่เป็นไรไอ้น้อง เอาใหม่ๆ” พี่ทรายตบบ่าก่อนจะกระซิบที่ข้างหูผมเบาๆ
“กันไอ้ริวไว้ให้ดี ชวนมันคุยอย่าให้มันหลุดมาได้อีก”
ผมได้แต่พยักหน้ารับหน้าที่ แต่ครั้งนี้ในแววตาพี่ทรายดูมั่นใจอย่างบอกไม่ถูก
ผมเลิกสนใจอย่างอื่นแล้ววิ่งไปตำแหน่งตัวเองทันที
“ไง” เขาบอกให้ชวนนายคุยว่ะ แต่หน้าตานายดูไม่อยากคุยด้วยเลย
ผมควรเอาไงต่อดีฟะ
“ไง” แต่ริวกลับตอบผมกลับมาพร้อมกับยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกลับไปทำหน้านิ่งต่อ
อะไร แค่รอยยิ้มก็หวงหรอวะ
ผมเลิกสนใจนิสัยเสียๆ ของคนตรงหน้าแล้วเข้าแผนใหม่ทันที
“ไม่คิดว่านายจะเล่น”
ผมเหลือบมองเห็นลูกบาสในมือนินก่อนจะโดนหัลที่วิ่งมาฉกไปต่อหน้าต่อตา แต่ลูกบาสอยู่ในมือหัลเพียงไม่กี่วินาที หัลก็โดดดังค์ลูกบาสระยะหลังเส้น
ซวบ!
ผมที่หันไปเห็นพอดีถึงกับนิ่ง ทั้งสนามนิ่งไม่มีเสียงกรี๊ดเล็ดลอด
“สมกับเป็นหัล” ผมหันไปมองคนตรงหน้าอย่างฉงน ริวพูดถึงหัลและผมหันไปมองคนที่ซู๊ดลูกไกลได้อย่างกับมือโปร
“ไอ้หัลมันเคยเป็นนักกีฬาทีมชาติ” ริวเปรยขึ้นเมื่อเห็นสายตาสงสัยของผม
ผมหันไปมองหัลอีกทีอย่างตกใจ ก่อนจะย้อนกลับไปนึกถึงคำพูดที่หัลเคยพูดไว้
'เล่นได้ทุกตำแหน่ง'
นี่คือผมชนะแล้วปะแบบนี้….