ตอนที่7 คนหนุ่มนี้มันไฟแรงกันจัง ยกโพเดียมทุ่มเลยจะได้จบ
และตั้งแต่หัลได้จับลูกทีมตรงข้ามก็ไม่มีโอกาสได้แตะลูกอีกเลย
“3 แต้ม!” ลูกสามแต้มของหันยังคงดังติดกันเรื่อยๆ
เบาๆ หน่อยเพื่อน นายเล่นโหดเหมือนโกรธใครมา
ในสนามตอนนี้พี่หนถูกพี่ทรายกันไว้และติดแหง็กอยู่แบบนั้น ส่วนเหมย์ก็ติดอยู่กับเขม
และผมที่พยายามกันริวสุดกำลังไม่ให้ไปไหน
ในสนามจึงเหลือเพียงนินกับหัล ให้ทั้งสองปะพะชะกันตามสภาพ แต่ต้องขอบอกว่าการงัดกันของนินกับหัลดูเหมือนนินที่วิ่งตามลูกหัลไม่ทันและเสียแต้มครั้งแล้วครั้งเล่า
ผมว่าที่จริงแล้วทีมตรงข้ามวางตำแหน่งผิดแต่แรก ถ้าเอาShootingมาวัดกับPointเห็นได้ชัดว่าจากการวางแผน กลหลอกล่อนินไม่ทันหัลอย่างเห็นได้ชัด เหมือนหมาหยอกไก่ที่ดูแล้วเกิดสงสารนินขึ้นมา
“บอกแล้วไง” ผมหันขวับทันที ไอ้คนที่ผมต้องงัดมันมากเล่ห์ผมที่เผลอไปสนใจกลางสนามต้องรีบหันอย่างไวด้วยความระแวงว่าจะมาไม้ไหนอีก
“ว่าอย่าสนใจคนอื่น” อีกคนขมวดคิ้วอย่างขัดใจแล้ววิ่งหลบไปด้านขวา ผมที่ตั้งรับมาหลายรอบกับกลหลอกล่อเลยวิ่งเฉียดไปใกล้แล้วกางแขนกันไม่ให้ไป แต่อีกคนดันอ่านแผ่นออกตั้งแต่แรก ก้มหลบแขนผมแล้วไถลตัวไปกับพื้นก่อนจะวิ่งไปแย่งบาสกับมือหัลแล้วโดดชู๊ตลูกสามแต้มกลางสนามทันที
แต่ละคนเล่นเหมือนไม่มีอารมณ์จะเล่น เฮ้อ
ผมส่งสายตาเป็นคำถามไปให้พี่ทราย พี่แกก็หันไปมองนินแล้วขยับปากประมาณ
‘เปลี่ยนแผนบี’
ครับพี่ครับ ผมต้องทำตามสินะตอนนี้
ผมหันไปกันนินแทนหลังจากเห็นเจ้าตัวกำลังกระโจนเข้าไปร่วมวงบาสของไอ้หนุ่มอารมณ์ร้อนสองคน
ไอ้คนแรกพอเข้าใจว่าอยากรีบกลับบ้าน
แต่ไอ้คนสองนี้อยู่ดีๆ ก็ติดโรคจากเพื่อนไปด้วย หันมาผลัดกันโยนลงห่วง ผลัดกันทำแต้ม
“3 แต้ม”
“2 แต้ม”
“2 แต้ม”
“3 แต้ม”
เอาที่สบายใจ จะตีกันก็ตีกันไป พวกตูเป็นตัวประกอบอยู่แล้วนิ
ผมสบถในใจแล้วหันมากันนินต่อในขณะสายตาก็ลอบมองสนามไปด้วย
นินไม่ได้กันยากเหมือนไอ้มากเล่ห์ริว เขาไม่ได้พยายามจะหนีตลอดเวลาและดูสถานการณ์แทน เหมือนรู้ว่าบนสนามหัลได้คู่ที่สมน้ำสมเนื้อพอที่อาจจะพลิกมาชนะ
แล้วผู้ชมก็ไม่มีใครค้านที่ว่าตอนนี้พวกมันดูเหมือนจะเล่นกันสองคนมากกว่า สาวๆ ยังคงกรี๊ดสนั่นจนฮอลแทบระเบิด คนที่ไม่รู้ไหลมาจากไหนกันล้นอัฒจันทร์ไปแล้วครับพี่น้อง
“3 แต้ม”
ผมหันไปมองตารางคะแนนที่มันเริ่มตีเสมอขึ้นมาเรื่อยๆ
จาก 25 : 68
เป็น 34 : 72
56 : 75
69 : 78
76 : 80
81 : 93
ผมมองการเล่นบาสบนสนามที่ดุเดือดอย่างเบื่อหน่าย ไฟที่มันมีตอนแรกมอดดับไปแล้ว
ท้องฟ้ารอบข้างเป็นสีดำบ่งบอกถึงเวลาที่ล่วงเลยมานานขนาดไหน
แต่ไอ้วัยรุ่นไฟแรงสองคนบนสนามมันยังคงตีกันไม่จบไม่สิ้น ผลัดกันทำแต้มไม่มีใครยอมใคร
ผมถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีกก็ค้านจะยืนขาแข็งต่อหันไปสะกิดนินที่ยืนเบื่อข้างๆ
“นั่งเถอะ เชื่อเรา” นินหันมามองอย่างไม่เข้าใจแล้วนั่งลงตามผมไปด้วย
ผมแอบขยับไปขอบสนามอย่างแนบเนียนแล้วรอดูผลทำตัวเป็นผู้ชมที่ดี
ผมมองไปกลางสนามยังคงเห็นหัลเลี้ยงลูกชู๊ตใต้แป้นบาส แต่เมื่อลูกจะถึงห่วงริวก็กระโดดตบลูกหลบแล้วเลี้ยงลูกซู๊ตสามแต้มต่อทันที
“3 แต้ม”
กรรมการประกาศต่อทันทีเมื่อลูกลงห่วง
94 : 93
ตีเสมอขึ้นมาได้อย่างใจหาย
ผมหันสังเกตดูทั้งคู่ และคนสภาพเหงื่อท่วมตัวดูท่าเล่นกันอีกไม่นาน ไม่ยอมพักคงได้มีใครโดนส่งโรงพยาบาลแน่
หัลที่เห็นว่าเริ่มโดนนำก็วิ่งเข้าสนามมาแย่งบาสต่อ แต่ด้วยอาการที่หักโหมเกินไปทำให้ขาสะดุดกับริวแล้วล้มกันไปทั้งคู่
“ฟาล์ว!” กรรมการประกาศขึ้น ผมอดที่จะลุกขึ้นไปสนใจไม่ได้
“ไม่ต้อง” ริวตะโกนสวนกลับมาไม่ให้ใครเข้าไปช่วยพยุง
ทั้งสองยังคงนอนนิ่งอยู่บนลานบาสเหมือนคุยอะไรกันสักอย่างก่อนที่หัลจะลุกก่อนแล้วเดินมาหยิบกระเป๋า
ก่อนไปเจ้าตัวหันมามองผมเล็กน้อยกันจะเดินหนีออกไปจากโรงยิม
ง่ายๆ งี้เลย จะอินดี้กันไปไหนวะพวก
“ทีม 1 ชนะ” แล้วกรรมการก็ประกาศผล
กรี๊ด!!!
สาวๆ ส่งเสียงเชียร์กันยกใหญ่ตามมาด้วยป้ายที่ไม่รู้พวกเธอไปเอามาจากไหน
แฟนคลับพวกนี้จะเยอะอะไรขนาดนั้นวะ
หลังจากประกาศผลสาวๆ ทั้งอัฒจันทร์ก็ลงมารุมไอ้หนุ่มดาวเด่นของสนาม ก่อนที่บรรดาเพื่อนๆ ของเขาจะพยายามกันออกไปเพราะดูจากอาการ ริวก็ท่าจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ท่าทางเหมือนพร้อมจะสลบได้ทุกเมื่อ
ผมที่ไม่มีส่วนแล้วก็รีบสลายตัวหลบบรรดาคนมากมายมาบนอัฒจันทร์หากระเป๋าเตรียมกลับบ้าน
“หู้ย!! ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!! ~” จีนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วลุกขึ้นมาทำท่าดีอกดีใจ
ผมไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าอะไรคือยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
“คืออะไร” ผมถามพอเป็นพิธีแสดงให้เห็นว่าผมสนใจในสิ่งที่เธอพูดอยู่
แล้วเดินนำหาทางกลับที่จอดรถเพราะผมก็อยากจะรีบไปอาบน้ำนอนแล้ว
“ก็ได้ทั้งใกล้ชิดกับริวแล้วแถมยังได้เห็นริวเล่นบาสด้วยไง โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ๋อยบ่อย~”
อาหะ ผมจะติดลิขสิทธิ์ไหมเนี่ย อยู่ดีๆ จีนก็ร้องเพลงดูอารมณ์ดีมากมาย เหมือนผมจะบอกไปแล้วนะ
“เราบอกว่าเลิกชอบแล้ว อย่าให้เราบอกซ้ำเป็นรอบที่สาม” น้ำเสียงผมจริงจังอย่างไม่รู้ตัว ตอบกลับเธอไปทันที
“อุ้ย ไม่ ไม่พูดแล้วจร้าาา โอ๋อย่าโกรธเรานะ โอ๋ๆ”
โตแล้วไหมล่ะ จะมาโอ๋เหมือนเด็กทำไม ผมเอามือปัดมือจีนที่พยายามลูบหัวผมเหมือนปลอบใจเด็ก
ซึ่งผมไม่ชอบ จริงๆ ไม่ชอบให้ใครมาเล่นหัวหมดนั่นแหละ
“กลับบ้านยังไง ให้เราไปส่งไหม” ผมเปลี่ยนเรื่องก่อนที่ผมจะเผลออารมณ์เสียขึ้นมาจริงๆ
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวพี่ชายเราจะมารับ”
ผมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“แล้วรับที่ไหน ให้เราไปนั่งรอเป็นเพื่อนไหม”
จีนหันมองผมอย่างงงๆ
“ปกติไม่เห็นจะสนใจ ไม่ต้องๆ ฉันโตแล้วแกจะกลับก็กลับไปเถอะ” จีนดันหลังผมไปทางที่จอดรถก่อนจะตามมาพร้อมกับมานั่งข้างเบาะ
ไหนว่าไม่ให้ไปส่งไงแม่คุณ
“ติดไปลงที่ป้ายไง ขับไปเถอะยะ”
ผมพยักหน้ารับแล้วขับรถความเร็วปานกลางออกมหาลัยประตูหน้าพร้อมกับขับช้าลงก่อนจะจอดที่ป้ายรถเมล์หน้ามหาลัย
“ขับรถดีๆ ละ อย่าไปเฉี่ยวกับใครเข้า” จีนโบกมือลาก่อนจะปิดประตูลงแล้วไปนั่งรอ
ผมเห็นแบบนั้นก็เปิดประตูรถออกไปมองอย่างไม่สบายใจนัก
“ไม่ให้ไปส่งจริงหรอ” จีนหันมามองผมอีกเหมือนเห็นผี เธอดูตกใจปนแปลกใจไม่น้อย
“แกไปส่งพี่ชายฉันก็โกรธนะสิ ถึงจะเป็นเพื่อนพี่ฉันก็ไม่เว้นนะเว้ย”
จีนโบกมือไล่ผมอีกรอบ ผมเลยยอมถอยแล้วขับรถออกไปสู่เส้นทางหอเพื่อรีบหาที่ซุกหัวนอน