ตอนที่5 ยืดเส้นยืดสาย แล้วเราค่อยมาตีกันในวันที่ผมหุ่นเท่าพวกนาย
หลังจากผมพยายามปลอบจีนที่ร้องไห้ไม่หยุดได้ผมก็ย้ายที่สถิตจากโรงอาหารมาโรงยิมกีฬามหาลัยแทน
พอกินข้าวเสร็จอาการอยากย่อยด้วยการออกกำลังกายมันก็กำเริบ
ผมจัดการโยนกระเป๋าสะพายไว้ข้างจีนเป็นการฝากไว้ก่อนแล้ววิ่งเหยาะๆ ไปขอคนอื่นในสนามเล่นด้วย
ตามจริงผมไม่ใช่นักกีฬาหรอกแต่ชอบเล่น ยิ่งตอนว่างไม่เข้าไปชกมวยแก้เซ็งกีฬาอีกอย่างของผมก็คือบาสนี่แหละ
เพราะมันทำให้ส่วนสูงผมมันข่มคนอื่นได้
เออ ผมยอมรับว่าส่วนสูงกับการใช้ชีวิตแบบฉบับผู้ชายมันสัมพันธ์กัน เพราะในกลุ่มวิศวะชายอกสามศอกหกคนนั้น มีแต่พวกเปรตที่ไม่ได้ใช้คำด่า มันสูงทั้งนั้นแหละ ถ้าผมเตี้ยนี่ดิแปลก ผมคงดูอ่อนมาก ต่อให้หล่อแต่มึงเตี้ยก็หลบไป คนสูงๆ เขาจะเดิน
ในตอนนี้ผมจึงเริ่มที่รองเชิงส่วนสูงก่อนค่อยไปค่ายมวยสักที่เพื่อฝึก
ในสนามตอนแรกมีรุ่นพี่อยู่สามคน คือพี่ปี 4 สูงลิบ ชื่อทรายกับหน ส่วนอีกคนปี 2 ชื่อเหมย์
ไปๆ มาๆ พวกพี่ๆ เลยแบ่งทีมคนละสอง ผมอยู่กับพี่หน ส่วนเหมย์อยู่กับพี่ทราย
การแข่งขันเล็กๆ น้อยๆ จึงเกิดขึ้นหลังจากพี่ๆ ให้ผมไปวอร์มก่อนครึ่งชั่วโมง
ร่างกายผมที่ได้ยืดหยุ่นก่อนแล้วเลยไม่มีปัญหาเท่าไหร่ ฟอร์มการเล่นกับฝีมือของผมเมื่อรวมทีมกันแล้วเราทั้งสองฝ่ายก็ยื้อยุดกันสักพัก ก่อนจะแต้มนำด้วยลูกชู๊ตสามแต้มของผม
ในตอนแรกจากไม่ค่อยมีคนผ่านไปผ่านมาแถวโรงยิม แต่ตอนนี้ผมพักเบรกหันไปดื่มน้ำคนไม่รู้มาจากไหนมากมายราวสี่สิบคนเห็นจะได้
ผมกำลังกวาดสายตาประมวลผลอยู่ถึงที่มาที่ไปของคนมากมายก็ไปสะดุดกับหน้านิ่งๆ ที่มองผมอยู่ก่อนแล้ว
ทำเอาผมไปไม่เป็นเลย เขาที่ดูเหมือนจะไม่ชอบผม ทำไมกลับมาเสนอหน้าอยู่บนอัฒจันทร์ของโรงยิมพละได้
แต่แล้วไงเขาจะไม่ชอบผมก็แล้วแต่ ถ้ามันไม่ได้หาเรื่องผมก่อนผมก็ไม่อยากมีเรื่องกับมันหรอกนะ ทั้งยังอยู่ในร่างเดวาอีก จะไปหาเรื่องใครให้เขาแตกตื่นกันอีก
คิดแบบนั้น ทิฐิที่เคยมีก็โยนทิ้งไปกองอยู่กับพื้นสนามบาส ก่อนที่เท้าผมจะเดินไปหาร่างของคนที่นั่งบนอัฒจันทร์
ผมเดินไปหยุดที่ด้านหน้าของริวแล้วมองกลับ อีกคนก็เพียงเลิกคิ้วสงสัย
“ขอโทษเรื่องเมื่อเช้าด้วยนะ เราไม่คิดว่าจะทำให้นายตกเก้าอี้จริงๆ”
อีกคนดูตกใจกับการกระทำของผมไม่น้อย เขามองผมและยังคงนิ่ง แต่ปฏิกิริยาบนใบหน้าของเขาที่นิ่งค้างไม่ขยับเลยนั้น เหมือนเดวาจะไม่เคยทำอะไรแบบนั้นมาก่อน
“มึง ไอ้ริวตอบเขาไปดิ” เมื่อเพื่อนเห็นริวไม่ยอมตอบปล่อยให้ผมยืนค้างไว้นานสองนานเลยเป็นเพื่อนที่สะกิดบอกแทน
“อะ อืม ไม่เป็นไร ช่างเถอะ” อีกคนกะพริบตาเล็กน้อยก่อนจะก้มหลบสายตาผมแล้วเอามือลูบหน้าแทน
งั้นคงหมดเวรหมดกรรมกันแล้วนะ เรื่องขอโทษที่ควรทำก็ทำไปแล้ว ที่เหลือจะเป็นยังไงก็ช่างแม่ง
ผมตกลงกับตัวเองสักพักแล้ววิ่งกลับเข้าสนามต่อเมื่อพี่ทรายโบกมือเรียก
พี่แกยกน้ำมาดื่มอีกรอบแล้ววางผ้าเตรียมลงสนามต่อเช่นกัน
“ตั้งแต่เล่นบาสมานานนอกจากตอนวันกีฬามหาลัยก็วันนี้แหละที่คนมาดูเยอะขนาดนี้” พี่ทรายพูดพลางส่ายหัวมึนๆ เหมือนยังไม่อยากเชื่อสายตา
“เออ กูก็ยังไม่อยากจะเชื่อ ไปเชิญไอ้พวกเด็กที่เกาะสนามมาจัดทีมให้ครบๆ เลยดีไหมจะได้ไม่ต้องแข่งกันเล่นๆ ดูท่าสาวๆ มาดูไอ้นั่นมากกว่าพวกเราเสียอีก”
พี่หนเหลือบไปมองทางริวกับผองเพื่อนที่นั่งกันเป็นกลุ่มอยู่มุมอัฒจันทร์
ผมเลยทำหน้าแหยแล้วส่ายหัวตอบความคิดพี่หนไปที
“ริวไม่เล่นหรอกพี่ เชื่อเถอะ” มันไม่ชอบตูจะมาเล่นบาสทำไม
“เอ้าถ้ามันไม่เล่นแล้วมันจะมาทำไม หน้าตาก็ดูน่าจะเล่นเป็น” หน้าตามันบอกว่าเล่นเป็นได้ด้วยรึ
ผมส่ายหัวรัวๆ เป็นการค้าน แต่พี่ๆ ดูจะไม่สนใจเท่าไหร่ พี่หนเดินเข้าไปคุยก่อน ผมเลยหันมาหาตัวช่วยจากพี่ทรายแทน
“พี่ มันไม่อยากเล่นหรอกเชื่อเถอะ” ผมส่งสายตาอ้อนวอนไปให้หวังว่าพี่แกจะเปลี่ยนใจ นี่ตูส่งสายตาน่าสงสารมากนะเฟ้ย มึงต้องฟังตู
“เอาหน่า ถ้าเล่นเขาก็ตอบตกลงเอง ถ้าไม่ก็แค่เล่นกันเหมือนเดิม”
พี่ทรายพูดแค่นั้นไม่พอเอามือมายีผมตูเล่นอีก ผมเลยได้แต่ถอนใจเหนื่อยๆ แล้วหันไปมองทางอัฒจันทร์ที่เห็นหลังไวไวของพี่หนกับริวที่โดนบังไปมิดแล้ว
อ้าวแล้วมือน่ะมือ ผมมัวแต่กังวลเรื่องไปบังคับให้ไอ้คนไม่ชอบขี้หน้ามาร่วมชะตากรรมด้วยเลยลืมเลยว่ามือพี่ทรายยังคงวางแหมะบนหัวผมอยู่
ผมเลยย่อตัวแล้วหลบจากมือของพี่แกเนียนๆ
แล้วผมก็ยืนมองการเจรจากันอยู่สักพักของพี่หนจนผมเลิกจะสนใจหันไปหาจีนแทน
เธอโบกมือให้กำลังใจผมเล็กน้อย
กรี๊ด!!!
ก่อนที่ฮอลจะดังระเบิดเพราะเสียงกรี๊ดอย่างที่ผมไม่ทันตั้งตัว
ผมเลยหันไปหาแหล่งที่มา เป็นกลุ่มริวที่เดินลงมาจากอัฒจันทร์กับผองเพื่อนอีกสามคน คนขวาผมเคยเจอแล้วเมื่อเช้าคนที่ชวนผมขึ้นห้องเรียน ส่วนคนซ้ายก็เจอแล้วตอนช่วยดึงริวตอนล้ม แต่คนหลังเดินไม่สนโลกคนนั้นผมไม่เคยเห็นเลยแหะ
“มันยอมมาว่ะ” เหมย์ที่เดินกลับมาจากห้องน้ำหันมาเอามือตบบ่าผมตุบๆ ผมเลยไหวไหล่หลบเนียนๆ ไม่รู้ล้างมือยัง กลิ่นตุๆ
“แล้วจะแบ่งทีมยังไง” ครั้งนี้พี่ทรายเดินไปหาพี่หนแล้วเริ่มเจรจากับกลุ่มของริวเล็กน้อย
“เดวสู้เขานะเพื่อน” จีนตะโกนแล้วยกกำปั้นเป็นท่าไฟท์ติ้งให้ผม
ทำให้ผมหันไปยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนจะชูไฟท์ติ้งให้เธอกลับ
เอาวะ เปิดสนามแรกก็ได้ลองกับพวกเปรตเลย ผมที่ตัวเล็กคงต้องอาศัยความได้เปรียบทางสรีระด้านนี้เอา
“เอาละๆ ได้ครบทีมแล้ว”
พี่หนหันมาปรบมือเรียกทุกคนมารวมกันก่อนจะแจกแจงทีม
“พี่ เหมย์ นิน แล้วก็ริวอยู่ทีม1 ส่วนไอ้ทราย เดวา หัล กับเขมอยู่ทีม2 เราจะเล่นกันเรื่อยๆ กติกาตามพื้นฐาน ส่วนเกณฑ์ชนะอยู่ที่ทีมไหนทำแต้มได้สูงสุด” เอางั้นเลยหรอพี่…. คนที่แข็งแกร่งที่สุดจะยืนอยู่ได้จนจบเกมสินะ
แบบนี้เกมมันก็ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้ไอ้เชนทร์ชนะดิ
ตั้งมาแบบนี้เมิงไปเล่นกันแค่นั้นเถอะ เหอะ
“ตกลงตามนั้นนะ” พี่หนพูดย้ำอีกที แล้วพวกที่เหลือก็พยักหน้าเห็นด้วยเนืองๆ
เหมือนพวกเมิงถูกบังคับให้มาเล่น ไม่อยากเล่นก็กลับไปดิ ชิ่วๆ
ผมยังคงรักษาภาพลักษณ์ด้วยการหันไปวอร์มร่างกายไม่ได้เอ่ยปากไล่ใครออกแต่อย่างใด
เอาวะ เรื่องแข่งขันมันเป็นเรื่องของลูกผู้ชาย กระทืบได้แต่ศักดิ์ศรีนะหยามกันไม่ได้
ผมเลยหันไปดูเพื่อนร่วมทีมคนใหม่อีกสองคนแทน
“นาย” ผมเรียกนายสูงๆ ที่เดินตามหลังริวอยู่ก่อนหน้านี้ ก่อนที่เจ้าตัวจะขมวดคิ้วแล้วหันมาหาผม
ใจเย็นพ่อหนุ่ม ผมไม่ได้มาหาเรื่องนะ
“อะไร” น้ำเสียงห้วนๆ มันชวนให้นึกถึงเพื่อนบางคนในกลุ่มเดิมขึ้นมา ไอ้นิสัยไม่มีมารยาทเป็นธรรมชาติเนี่ย ไอ้หารแม่งมึงต้องมาดูแฝดมึง
“แค่จะถามว่าเล่นตำแหน่งไหนเป็นมั่งจะได้แบ่งหน้าที่กันถูก”
“ตำแหน่งไหนก็ได้ เล่นได้หมด”
เคครับ เคเลย เคเลยไอ้สั- ห่าเอ้ยถ้าตูไม่ได้อยู่ในร่างเดวาที่สังขารไม่พร้อมสำหรับไปต่อยตีกับใคร ไอ้คนตรงหน้าคงได้ร่วงตั้งแต่ทำน้ำเสียงกวนทีนผมแล้วล่ะ
เห็นแก่สภาพไม่อำนวยนะไอ้หนุ่ม จะให้โอกาสนายจนถึงวันที่พี่มีซิกแพคแล้วกัน
“อาหะ แล้วนาย” ผมหันไปชี้ไอ้เพื่อนใหม่หาแนวร่วมที่เป็นมิตร ซึ่งผมก็ยังคงลังเลว่าสองคนนี้ชื่อไหนกันแน่ระหว่าง หัลกับเขม
“เราถนัดตำแหน่งShooting Guard นายว่าอย่างเราพอได้ปะ” ผมขมวดคิ้วไปที ตกลงนายเล่นเป็นปะเนี่ยเพื่อน
__________________________
เกร็ดความรู้
Guard เป็นตำแหน่งที่มีความเร็ว ความคล่องแคล่ว และยังมีความสามารถในการทำแต้มจากบริเวณเส้น 3 แต้มได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ที่จะเลือกเล่นตำแหน่ง Guard ควรให้ความสนใจในทางด้านRunning
Shooting Guard ตำแหน่งนี้เรียกได้ว่าเป็นเอสของทีมเป็นตำแหน่งที่มีความสามารถรอบด้าน เมื่อเลเวลอัพค่าความสามารถในการทำแต้มระยะกลางจะเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัว Shooting Guard (SG) ไม่ได้จำกัดการเล่นแค่ภายนอกเส้น 3 แต้ม ถ้ามีโอกาสก็ทะลวงเข้าไปทำแต้มภายในได้ด้วยโดยสามารถชู้ตได้ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหน
Point Guard จะมีความสามารถในการส่งบอลที่แม่นยำ อีกทั้งการควบคุมเกม ถือว่าเป็นตำแหน่งที่เล่นยากที่สุดในบรรดาตำแหน่งทั้งหมด ตำแหน่ง Point Guard จะแตกต่างออกไปจาก Guard ตรงที่จะไม่อยู่แต่บริเวณภายนอกเท่านั้นแต่จะเคลื่อนที่ไปทั่วสนาม เพื่อที่จะหลอกล่อคู่ต่อสู้และสร้างโอกาสให้กับทีมได้อยู่เสมอ รวมไปถึงการทำแต้มด้วยตัวเอง ทั้ง 2 แต้ม และ 3 แต้ม
Forward ตำแหน่งผู้เล่นสารพัดประโยชน์ ด้วยค่าเริ่มต้นที่ดูแล้วไม่ได้เก่งไปด้านใดด้านหนึ่งมากนัก แต่ก็สมดุลทั้งรุกและรับ ทำให้ Forward ทำได้ทุกอย่างไม่ว่าจะชู้ต 2 แต้ม, 3 แต้ม, การครองบอล, การส่งบอล, Rebound หรือจะเรียกได้ว่าเล่นได้ทุกรูปแบบ