ตอนที่ 2 ดาวฟู้ดด้า (2)
“ครับ” ซึลยอนตอบแต่ก็รีบเข้าไปดูใกล้ๆทันที เพราะดูจากรูปการแล้วไม่น่าจะเป็นบุคคลอันตรายแต่อย่างใด และเขากลัวว่าถ้าช้าอาจจะช่วยชีวิตคนๆนั้นไม่ทันเอา
วึดดดด
เสียงเครื่องยนต์ของสกู๊ตเตอร์ที่ไม่ดังมากนักขับลอยเข้ามาจนห่างจากตัวของเพเนียสไม่มากเท่าไหร่แล้ว ก่อนที่เขาจะส่งเสียงเรียกออกมา
“คุณครับคุณ คุณ ได้ยินผมไหม” ซึลยอลส่งเสียงดังมาเข้าหูของเพเนียส ก่อนที่เพเนียสจะค่อยเอี่ยวตัวหมุนไปยังทางที่มีเสียงคนเรียกให้เขามีความหวัง
“คะ ครับ ผมได้ยิน ช่วยผมด้วย” เพเนียสเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเบา สั่นพร่าและแหบแห้ง เขารู้สึกตื้นตันและมีความหวังเข้ามาในจิตใจอีกครั้ง เนื้อตัวเขาที่กำลังอ่อนล้าเลือดสูดฉีดช้าลงเริ่มกลับมาเต้นเร็วอีกครั้งเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตอีกคนที่อยู่ไม่ห่างกันนี้
“ได้ ผมจะเข้าไปช่วยเดี๋ยวนี้” ซึลยอนว่าก่อนจะรีบขับสกู๊ตเตอร์เข้าไปจนถึงตัวของเพเนียสทันที และดึงตัวของเพเนียสให้ลงไปนั่งพักบนพื้นเสียก่อนโดยมีเขาที่สวมรองเท้าเพิ่มแรงโน้มถ่วงพาลงไป และก็รีบแก้เชือกที่มัดข้อมือและข้อเท้าให้ทันที ซึ่งในใจซึงยอลได้แต่คิดว่าใครกันช่างโหดร้ายกับแค่เด็กได้
“ขอบ ขอบคุณมากครับ” เพเนียสเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนแรง และเสียงที่ขาดห้วงแหบพร่าเพราะขาดน้ำมานานหลายชั่วโมง
“ไม่ต้องรีบขอบคุณหรอก นี่กินอาหารเสียก่อนนายคงหิวแย่” ซึลยอนว่าขึ้นก่อนจะรีบเอาถุงอาหารสังเคราะห์แบบเหลวออกมาจากกระเป๋าสะพาย เขาฉีกถุงบรรจุอาหารสังเคราะห์เหลวก่อนจะยื่นให้อีกคนอย่างใจดี
“ขอบคุณครับ” ถึงอีกคนจะว่าอย่างนั้น แต่เขาก็เอ่ยคำขอบคุณก่อนจะรับเอาถุงอาหารเหลวมาดูดกินช้าๆและพอมีแรงก็ดูดกินเร็วขึ้นจนมันหมดในเวลาไม่นาน พอๆกับที่เพื่อนร่วมทีมอีกสองคนของซึลยอนอย่างเซนและโอเว่นมาถึงพอดี
“ซึลยอน เป็นยังไงบ้าง” หัวหน้าเซนที่มาถึงรีบสอบถามทันทีเมื่อเห็นว่าลูกน้องได้เข้าช่วยเหลือคนแล้ว
“ดูเหมือนจะอ่อนแรงมากครับ และมีร่องรอยเหมือนถูกทำร้ายมาด้วย” ซึลยอนตอบไปตามที่เห็น ร่องรอยบนหน้าและร่างกายทำให้เขาคิดไปแบบนั้น
“อึก พะ พวกคุณมาช่วยผมหรือครับ” เพเนียสยังคงถามออกไปและรอคำตอบอย่างมีความหวัง คนตรงหน้าก็ดูเป็นคนดีไม่น้อย
“จริงๆพวกเรามาสำรวจดาวดวงนี้น่ะ แต่จะปล่อยนายทิ้งไว้ก็ใช่ที่ สรุปก็มาช่วยนายกลับไปนั่นแหละ” คนเป็นหัวหน้าทีมอย่างเซนเป็นคนตอบ
“ครับ ขอบคุณพวกคุณมากๆ” ไม่มีคำไหนที่เขานึกออกแล้วในตอนนี้ ด้วยคำว่าขอบคุณเท่านั้นที่ออกมาจากใจเขาตอนนี้เท่านั้น จนน้ำตากำลังจะไหลออกมาเพราะความตื้นตันใจ เขาไม่ได้เสียน้ำตาเพราะถูกทำร้ายเลยสักหยด แต่มันกลับพรั่งพรูออกมาเพราะเจอคนใจดีกลุ่มนี้ต่างหาก
“เลิกขอบคุณก่อนเถอะน้องชาย แล้วก็เช็ดน้ำตาก่อน เราพาเขากลับยานก่อนดีไหมครับหัวหน้า” โอเว่นว่าขึ้น พร้อมส่งทิชชู่ให้เขาเช็ดหน้าเช็ดตา
“กลับเลยก็ได้ อย่างไงวันนี้ก็สำรวจเท่านี้ก่อนก็แล้วกัน” คนเป็นหัวหน้าพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนทั้งสามจะพาคนอีกหนึ่งที่บาดเจ็บและพึ่งเจอกลับยานทันที
-ที่เทียนอี้บ่นว่าทำไมต้องมาทำภารกิจที่ดาวระดับนี้ด้วย เพราะส่วนใหญ่พวกเขารับภารกิจสำรวจดาวระดับ U เป็นหลัก ซึ่งดาวฟู้ดด้าอยู่ระดับ F เขาอาจรู้สึกว่าไม่สมกับความสามารถของพวกเขา เพราะแน่นอนอยู่แล้วการสำรวจดาวระดับยูที่ยังไม่มีคนอาศัยต้องเป็นอะไรที่ต้องได้ประโยชน์มากกว่าอยู่แล้ว อย่างเช่นว่า เจอแหล่งทรัพยากร หรือเจอดาวใหม่ที่สามารถอยู่อาศัยได้ ซึ่งพวกเขาจะได้รับส่วนแบ่งหรือรายได้จากการให้ข้อมูลที่มากกว่า
-เมื่อเกือบพันปีก่อน มีอุกาบาตรขนาดใหญ่หลายลูกที่พุ่งชนเข้ากับดาวเคราะห์หลายดวงของเซเรนิออส ทำให้ดาวเหล่านั้นที่มีผู้คนอาศัยอยู่ล้วนเสียหายอย่างหนักจนไม่หลงเหลือผู้คนรอดเลย ซึ่งทำให้ประชากรลดลงไปเป็นจำนวนมาก และหนึ่งในดาวที่เจอเหตุร้ายในตอนนั้นคือดาวฟู้ดด้า ที่เป็นดาวที่เก่งกาจและมีชื่อเสียงในเรื่องอาหาร พวกเขาหวงแหนสูตรอาหารอย่างมาก ทำให้ไม่เคยเผยแพร่ให้ใคร เช่นเดียวกับรักดาวเกิดที่ถ้าคนจากดาวอื่นอยากกินอาหารก็ต้องเดินทางมาที่ดาวเท่านั้นทำให้ดาวฟู้ดด้าเจริญเป็นอย่างมาก จะมีก็แค่คนส่วนน้อยที่ออกไปอาศัย(หรือแต่งงานกับคนดาวอื่น)อยู่ดาวดวงอื่นแล้วนำพาความรู้เรื่องอาหารไปด้วยเท่านั้นจึงทำให้สูตรอาหารหลงเหลือมาถึงปัจจุบันบ้าง