ตอนที่ 1 ขยะตัวเป็นๆ (2)
“นั่นสิ เราเป็นเพื่อนกันนะ แกล้งอะไรกัน เพเนียสเข้าใจผิดแล้ว” โรเดซานรีบเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่อ่อนหวาน หากแต่เล็บยาวๆนั้นกลับจิกลงในแขนเขาผ่านเนื้อผ้าเข้ามาจนเจ็บจนเขาต้องรีบสะบัดออกอย่างฉุนเฉียว ไหนจะก่อนหน้านี้ก็กำลังหัวเราะที่ได้แกล้งเขาอยู่เลย หญิงสาวคนสวยของห้องที่เป็นเผ่าบีสต์มีหูและหางเป็นจิ้งจอกแดง ช่างเหมาะกับเธอจริงๆ
“เหรอ พวกแกรู้อยู่แก่ใจ ไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เรื่องวะ”
“เฮ้ยๆ ใจเย็นน่า”
“กูไม่เย็น พวกมึงทำอะไรไว้ ถึงกูจะเอาคืนไม่ได้หมด แต่ก็ขอให้ชีวิตของพวกมึงพบแต่ความวิบัติ ไปอยู่ดาวไหนก็ขอให้ซากอุกกาบาตพุ่งชน ขอให้ขาดสารอาหารตาย หรือไม่ก็ขอให้ร่างกายผุผังไม่มีอวัยวะทดแทนได้อีกเลย” พอได้พูดแล้วเพเนียสก็ร่ายราวคำสาปแช่งออกมาอีกยาวเหยียด ให้สมกับที่เขาโดดกลั่นแกล้งมานาน ถึงแม้ว่าพวกนี้จะรวยกว่าที่จะตายเพราะขาดสารอาหารก็เถอะ
“มันจะมากไปแล้วนะ” คนไม่เคยได้ยินเขาพูดอะไรทำนองนี้มาก่อนทั้งตกใจ และอารมณ์ขึ้นกับคำแช่งของเพเนียสอยู่เหมือนกัน
“ฮ่าๆๆ แต่ก็สมกับมาจากดาวด้อยพัฒนาล่ะนะ ยังเชื่อเรื่องคำสาปแช่งอีกเหรอ” มีคนที่ตะคอกกลับเพราะตกใจกับคำที่เพเนียสว่าออกมา แต่ก็มีอีกหลายคนที่ขำๆจากคำด่าของเขาจนเย้ยเขาออกมาได้อีกความ แต่ถึงอย่างนั้นคนพวกนี้ก็คงเริ่มเดือดขึ้นมาแล้วเช่นกันนั่นแหละ
“ทำไม ไม่มากไปหรอก พวกขยะเช่นพวกแก ว่าฉันเป็นขยะดวงดาวไม่ใช่หรือ พวกแกที่ทำนิสัยแบบนี้มันก็ขยะสังคมเหมือนกันละวะ” เพเนียสด่าออกมาอย่างโกรธแค้น ในตอนนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดเขาก็ไม่สนแล้ว เพราะพอได้ว่าออกไปมันทำให้เขารู้สึกโล่งอกมากๆ เหมือนว่าก้อนอุกกาบาตเน่าๆที่กดทับเขาอยู่ได้สลายหายไปแล้ว เมื่อเลือดขึ้นหน้าแล้วก็ต้องเอาในมันสุดไปเลย
“น้อยยย แก!!”
“อย่าอยู่เลย”
“วันนี้สงสัยแกไม่อยากตายดีสินะ” เสียงของกลุ่มคนชายหญิงสิบกว่าคนเริ่มเก็บอาการไม่อยู่ปรี่เข้ามาทำร้ายเพเนียส ใช่อยู่ที่เขาก็ไม่ยอมเช่นเดียวกันและมีสวนกลับไปนับไม่ถ้วน แต่นั่นก็ไม่อาจสู้กับคนเป็นกลุ่มได้ เขาถูกเพื่อน(ชั่วๆ)ร่วมห้องเรียนรุมทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอม ทั้งปากแตก หน้าถูกตบ โหนกแก้มแตกช้ำ ขาถูกเตะ เนื้อตัวถูกหยิก และสุดท้ายก็หมดสติลงในที่สุด
“มันสลบไปแล้ว”
“แล้วจะตายหรือเปล่าเนี่ย”
“นั่นสิ แล้วจะเอาไงต่อดี” หลังจากที่หยุดมือหยุดเท้าลงแล้วพวกเขาก็หันไปมาถามกันอย่างร้อนรนว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี ไม่รู้คนบนพื้นจะตายไปแล้วหรือยัง
“ไม่ มันยังไม่ตาย” มอรูกัสที่รีบเอานิ้วไปอังจมูกเพเนียสแล้วจึงส่ายหน้าบอกให้เพื่อนๆได้รับรู้ ตอนแรกคิ้วเขาก็ขมวดเช่นกัน แต่ตอนนี้ก็ค่อยยังชั่วแล้ว ถ้าใครรู้เข้าว่าพวกเขาฆ่าคนตายในโรงเรียนไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่
“แล้ว แล้วจะเอาไงต่อดีล่ะ”
“เราต้องรีบทำอะไรสักอย่างแล้วนะ เดี๋ยวต้องมีคนมาเจอแน่” โดเรซานหันไปรอบๆพร้อมหูที่ตั้งตรงและเกรงแข็ง แล้วรีบบอกเชิงสั่งออกมาเสียงเข้มแต่ไม่ดังมากนักเพราะเกรงว่าคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องจะได้ยินเข้า
“ทิ้งไว้นี่เลยดีไหม”
“ไม่ได้ เอาแบบนี้แล้วกัน” เสียงมอรูกัสค้านก่อนจะเอ่ยแผนการคร่าวๆออกมา ส่วนเพื่อนคนอื่นก็ทำเพียงแต่พยักหน้ารับเข้าใจและพร้อมร่วมมือเท่านั้น
กลุ่มขแงมอรูกัสพากันรวมกลุ่มกันออกจากโรงเรียนโดย ตรงกลางกลุ่มมีเพเนียสที่ถูกชายสองคนพยุงกึ่งลากอยู่ เขาถูกพาขึ้นรถลอยฟ้าที่จอดรออยู่ทันที และรถก็ทะยานออกไปตามคำสั่งของมอรูกัสที่สั่งการไว้ไม่มีผิดเพี้ยน ในรถลอยฟ้ามีคนของหนึ่งในกลุ่มนักเรียนเป็นผู้ขับ เขาขับรถออกไปจนถึงท่าอากาศยานในเขตส่วนตัว รถแล่น(ในอากาศ)ไปจอดใกล้ยานขนส่งส่วนตัวลำหนึ่งก่อนที่เพเนียสจะถูกพาตัวขึ้นไป และยานส่วนตัวลำนั้นก็ออกตัวไปทันที โดยที่หลังจากนี้กลุ่มเพื่อนร่วมห้องของเพเนียสก็ไม่ต้องทำอะไรต่อแล้ว พวกเขาล้วนแยกย้ายกันไปสนุกกันต่อ โดยทิ้งเรื่องนี้ไว้ข้างหลังเหมือนว่าเป็นเพียงแค่ทิ้งผักเน่าๆลงขยะเท่านั้น
ห่างจากดาวกอซออกไปไกลสมควร ยานส่วนตัวก็มาชะลอและทิ้งเด็กหนุ่มไว้ที่ดาวผุๆ(??)ดวงหนึ่งที่มีชื่อว่าฟู้ดด้าแล้วหนีไป ดาวฟู้ดด้าเป็นดาวที่เคยถูกอุกกาบาตลูกใหญ่พุ่งชนเมื่อเกือบพันปีก่อน จนทำให้ดวงดาวถูกทำลายจนสิ้นผู้คนล้มตายหมดไร้คนอาศัยที่นี่ และตอนนี้ที่นี่ก็ไม่ต่างอะไรกับขยะ เพียงแต่ขยะมีขนาดใหญ่เท่าดาวดวงหนึ่งเท่านั้น และใช่เพเนียสที่ถูกเพื่อนร่วมชั้นชั่วทำร้ายจนสลบแล้วถูกนำมาทิ้งไว้ที่นี่นั้นเองที่ดาวฟู้ดด้าแห่งนี้
พวกมันกะจะให้เขาตายให้ได้เลยใช่ไหม ถึงได้มัดแขนมัดขาเขาไว้ด้วย ที่นี่ไม่มีอะไรเลย อาหาร น้ำ อากาศหายใจก็น้อยกว่าดาวดวงอื่น ไหนจะแรงโน้มถ่วงก็ต่ำจนทำให้เขาลอยสูงจากพื้นสามสี่เมตรอยู่แบบนี้ และที่หนักสุดคอนโทรลแบนด์ของเขาก็ถูกคนพวกนั้นเอาไปด้วย ซึ่งมันถูกพวกเขาทำลายทิ้งไปแล้ว จากการที่เขาเองขู่ไปว่าจะเอาเรื่องไปแจ้งความ แล้วแบบนี้เขาจะไปไหนได้ ที่นี่มีขยะตัวเป็นๆ อยู่ด้วย ใครก็ได้ช่วยเขาที