CHAPTER 1
“พี่อนุญาตให้ผมเล่นซีรีส์เรื่องนั้นเหรอครับ” จินถามเสียงดังลั่นรถระหว่างทางที่มีนตราขับรถไปส่งเขาที่คอนโด มีนตราเป็นทั้งผู้จัดการส่วนตัวและผู้มีพระคุณ เธอเป็นคนชักชวนจินเข้าวงการ ทั้งยังดูแลเขาอย่างดีมาตลอด
“จินอยากเล่นไม่ใช่เหรอ” ตาชั้นเดียวภายใต้กรอบแว่นสี่เหลี่ยมหันมามองเขาขณะรถติดไฟแดง
“พี่บอกว่ากลัวคนจะจำผมในภาพลักษณ์นั้น”
มีนตราถอนหายใจอย่างคนที่ปลงได้ ก่อนจะพูดกับเขา
“ความจริงพี่รู้ว่าจินเป็นคนเก่ง เชื่อว่าจะทำได้ดีไม่ว่าบทไหน จบเรื่องนี้ไปก็ค่อยหาบทพระเอกดุ ๆ เถื่อน ๆ เล่นเดี๋ยวคนก็จะลืมภาพลักษณ์เดิมไปได้เอง” คนพูดหันกลับไปมองถนนเมื่อไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว พร้อมกับพารถขับเคลื่อนออกไป
จินไม่ใช่นักแสดงที่มีดีเพียงหน้าตา แต่เขาเป็นคนหนึ่งที่มุ่งมั่นทุ่มเทเรียนรู้
“ถ้าจินอยากเล่นก็ลองดูสักครั้งเถอะ พี่เชื่อว่าจินจะทำมันออกมาได้ดี” ตอนที่จินเห็นบทนั้นเธอเห็นแววตาที่เคยว่างเปล่าของเขาเปล่งประกาย
“ขอบคุณครับพี่มีน ขอบคุณมากเลย”
จินขอบคุณเธอเสียงลั่น ศีรษะทุยที่ปกคลุมด้วยผมสีเงินเอนมาซบแขนคนขับรถอยู่ ซึ่งท่าทางแบบนี้มีแต่คนที่สนิทกันจริง ๆ เท่านั้นถึงจะได้เห็น
“หยุดเลยเดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ”
มีนตราเตือนหนุ่มที่กลายร่างเป็นแมวน้อยขี้อ้อน คนที่กล้าทำเสียงแข็งใส่ผู้อำนวยการช่อง เมื่อถูกเขาอ้อนแบบนี้กลับเสียงอ่อนลง จนต้องแอบหันไปยิ้มกับกระจกฝั่งคนขับ ได้เห็นอาการดีใจของเขามีนตราก็รู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิดแล้ว
จินไม่ใช่นักแสดงคนแรกที่มีนตราเป็นผู้จัดการให้ แต่เธอเอ็นดูหนุ่มคนนี้มากกว่าคนอื่น เพราะทัศนคติและความคิดของเขา บางคนเข้ามาในวงการนี้เพื่อหวังเงิน บางคนเข้ามาเพื่อหวังชื่อเสียงหน้าตา แต่สำหรับจิน เขาเป็นคนที่มีความเคารพต่ออาชีพของตัวเอง มีความรับผิดชอบและพัฒนาฝีมือตัวเองอยู่เสมอ จนถึงจุดหนึ่งที่เขาเริ่มอิ่มตัว ผู้จัดการส่วนตัวอย่างเธอก็มองออกว่าดวงตาที่เคยเปล่งประกายของเขาอยู่เสมอเริ่มหายไป ในเมื่อบทบาทที่ท้าทายทำให้ไฟในตัวเขาลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง เธอจะเอาความกังวลของตัวเองมาตัดโอกาสสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงานอีกก้าวหนึ่งของเขาลงได้ยังไง
วันคัดเลือกนักแสดง
เมื่อถูกวางตัวให้เล่นบทนำในซีรีส์เรื่องนี้แล้ว ก็เหลือเพียงหาพระเอกของเรื่อง จินได้พักเพียงหนึ่งสัปดาห์ก็ต้องเข้ามาที่บริษัทอีกครั้งเพื่อมาร่วมคัดเลือกคนที่จะมาเล่นเป็นพระเอกคู่กับเขา
เนื่องจากเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ของช่อง อีกทั้งจินก็เป็นพระเอกที่กำลังกระแสดีมากในขณะนี้ นางเอกที่เล่นละครคู่กับเขาล้วนได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงหลังจากละครเรื่องนั้นออกอากาศ จินจึงเป็นพระเอกที่นางเอกสาวอยากเล่นละครด้วยมากที่สุดคนหนึ่ง การคัดเลือกตัวนักแสดงครั้งนี้จึงมีแฟนคลับมาให้กำลังใจเขามากมาย และมีการถ่ายทอดสดระหว่างการทำการคัดเลือกให้เห็นผ่านมอนิเตอร์ที่อยู่หน้าห้อง
ถึงแม้ครั้งนี้บทบาทจะต่างออกไป แต่ก็มีนักแสดงชายทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่สมัครเข้ามาเพื่อให้ได้รับการคัดเลือก ให้ได้เล่นบทนำคู่กับนักแสดงดาวรุ่งของช่องจำนวนไม่น้อยเลย
บางคนเป็นดาราหนุ่มที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว บางคนก็เล่นละครมาหลายเรื่องแล้วยังไม่ดังเสียที จินจำหน้าและชื่อของทุกคนได้เป็นอย่างดีในฐานะเพื่อนร่วมค่าย ไม่เว้นแม้แต่คนที่สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนสีซีดที่มองมาที่เขาเขม็ง คนนี้เขาก็จำได้ แต่ไม่ใช่ความทรงจำที่ดีเลย เพราะผู้ชายคนนี้คือชายหนุ่มที่ไปยืนสูบบุหรี่และถูกเขาดึงคอเสื้อสั่งสอนที่สวนข้างบริษัทเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั่นเอง
“แทน มีคุณ”
ตอนที่ถูกเรียกชื่อแล้วเขาก้าวออกมาจินจึงรู้ว่าหมอนี่ชื่อมีคุณ อายุยี่สิบห้าปี ซึ่งก็นับว่าชื่อสมตัวเลยทีเดียว จมูกโด่ง ตาคม ผิวเข้ม หน้าไทย ชื่อก็ไทย
ริมฝีปากหยักของแทนเม้มเข้าหากันอย่างประหม่าเมื่อจินเดินเข้าใกล้ บทที่พวกเขาจะเล่นกันเป็นส่วนหนึ่งของบทในซีรีส์เรื่องนี้
“นายคงนึกรังเกียจฉัน" เสียงนุ่มของจินดังขึ้น ดึงสติของแทนกลับมาอยู่กับเหตุการณ์ตรงหน้า
เมื่อเริ่มเข้าสู่บท ท่าทางของจินก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน ดวงตากลมของเจ้าตัวมีแววเว้าวอนดูลึกล้ำและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน ท่าทางแบบนี้ไม่เหมือนคนที่ตรงเข้ามากระชากคอเสื้อเขาเมื่อสัปดาห์ก่อนเลยสักนิด
ใบหน้าขาวเคลื่อนเข้าใกล้ ใกล้จนลมหายใจปะทะกับต้นคอสีแทนของอีกฝ่าย
“พูดสิ” เสียงนุ่มของจินเอ่ยเตือนเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน นั่นแหละแทนจึงได้สติ ใบหน้าคมเข้มหันขวับตามทิศทางของเสียงทันที ทำให้จมูกโด่งถูกแก้มนุ่มของจินอย่างไม่ตั้งใจ
“กรี๊ด”
ไม่มีเสียงต่อว่าจากเจ้าของแก้ม แต่กลับเป็นเสียงกรี๊ดกร๊าดของผู้ชมที่นั่งดูการคัดเลือกนักแสดงอยู่ด้านนอกที่ดังขึ้น รวมถึงกลุ่มแฟนคลับของจินด้วย
แม้จะไม่ได้โวยวาย แต่ต้องยอมรับว่าจินเองก็ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน เพราะนี่มันอยู่นอกบท ขณะที่เขากำลังจะผละออกกลับเสียหลักจนเกือบเซล้ม โชคดีที่แทนคว้าตัวจินไว้ได้ทัน แต่เจ้าตัวดันเผลอออกแรงดึงมากเกินไป จนคนที่จะล้มเซมาหาตัวเขา ตอนนี้ในสายตาของคนภายนอกจึงเหมือนจินถูกเขากอดไว้ทั้งตัว
“กรี๊ด”
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นอีกครั้ง แทนไม่รู้ว่าสาว ๆ กลุ่มนั้นกรีดร้องเพราะพอใจกับการแสดงของเขา หรือร้องเพราะไม่พอใจที่เขาไปกอดจิน ซึ่งถือเป็นสมบัติของพวกเธอเหล่านั้นกันแน่
“คัท!”
หลังจากนั้นการคัดตัวนักแสดงก็จบลงโดยที่เขายังไม่ได้พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ