บทย่อ
ใครเลยจะรู้ว่าโชคชะตาจะเล่นตลกถึงเพียงนี้ ผู้ชายที่ ‘ เกือบ ’ จะเสียสาวให้ในคืนนั้น กลับมีฐานะเป็น ‘ น้องชาย ’ ต่างสายเลือดในวันนี้ จะทำอย่างไร เมื่อความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตที่อยากจะกลบฝัง กลับมาวนเวียนอยู่รอบกาย มันคงจะง่าย หากเขาไม่โหยใคร่ในตัวเธอจนแทบคลั่ง ยิ่งห้ามยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งผลักไสยิ่งรุกเร้า ที่ร้ายที่สุด คือความจริงที่ว่า... ทุกอณูเนื้อสาวยังเต้นเร่า และต้องการเขาไม่ต่างกัน EX : “ ผมสัญญาจะเป็นเด็กดี แต่มีข้อแม้เพียงอย่างเดียว อย่างเดียวเท่านั้น ” กระโปรงสอบสีแดงอันเป็นยูนิฟอร์มบริษัทถูกถลกถึงต้นขาอวบอย่างไม่ทันตั้งตัว ลิวาดาพยายามหนีบขาไว้แต่เมื่อท่อนขากำยำกดแทรกเข้ามาตรงกลางระหว่างขา เธอก็ต้องยอมจำนน เขาทั้งตัวใหญ่และแข็งแรงกว่ามากนัก มือใหญ่สอดเข้าใต้ชายกระโปรงแล้วตะปบหมับบนกลีบพูอวบอูม ขยำมันแรง ๆ อย่างมันเขี้ยวก่อนสอดซุกเข้าสู่กางเกงชั้นใน นิ้วหนึ่งกรีดลงบนติ่งเนื้อฉ่ำกลางกลีบพูแล้วพลิ้ววนรูดขึ้นลงย้ำ ๆ ความสยิวซ่านเล่นงานเธอจนใบหน้าแดงก่ำด้วยโลหิตฉีดพล่านอย่างบ้าคลั่ง “ นี่ อย่ามาทำบ้า ๆ ที่นี่นะ ข้อแม้บ้าอะไรของนายอีก ” เธอพยายามควบคุมน้ำเสียงให้นิ่งเข้าไว้ ไม่สั่นไหวไปกับนิ้วร้ายกาจที่กำลังกระตุ้นเร้าอย่างเร่าร้อน “ ข้อแม้ที่ว่าก็คือห้ามหนีหน้าผม และเวลาผมหิว หลิวก็ต้องให้ผมกิน ” “ พูดบ้า ๆ ที่นี่มันที่ทำงาน เกิดใครมาเห็นเข้าจะทำยังไง ” “ ผมสัญญาจะไม่ให้ใครเห็น จะแอบกินอย่างเงียบ ๆ หลิวนั่นแหละอย่าเผลอครางเสียงดังก็แล้วกัน ” “ นายมันบ้าไปแล้วแดน ฉันมีคนรักอยู่แล้ว ไม่มีทางจะพลาดพลั้งทำอะไรบ้า ๆ แบบนั้นอีก ระหว่างเรามันเป็นอุบัติเหตุ นายได้ยินไหม ” “ ตอนนั้นอาจไม่ได้ตั้งใจ แต่นับจากเวลานี้ไปมันจะเป็นความยินยอมพร้อมใจอันดีของสองเรา ” “ นายมันบ้า บ้า ! ” “ ใช่ ผมมันบ้า อยากรู้ไหมว่าผมบ้าได้แค่ไหน ” ว่าพลางจ้องลึกเข้ามาในดวงตาเธอดวงประกายตาฉ่ำพราวเปลวไฟแห่งความกระหายใคร่เต้นระริกอยู่ภายในนั้นชัดเจน ไม่ต้องสาธยายอะไรออกมา ลิวาดาก็รู้ว่าเขาทำอะไรบ้า ๆ ได้ทุกอย่าง ณ เวลานี้ “ ฉันขอร้องให้นายปล่อยฉัน ” เธอวอนขอเสียงสั่น “ หลิวต้องการผม อย่าหลอกตัวเอง ” “ ไม่ ฉันไม่ต้องการนาย ” “ ปากไม่ตรงกับตรงนี้ที่โคตรจะแฉะเลย ตรงนี้ ” เขาเน้นย้ำคำว่า ‘ ตรงนี้ ’ ด้วยการสอดสองนิ้วเข้าสู่ รูน้อยฉ่ำแฉะก่อนกระดิกนิ้วเคล้าคลึงกล้ามเนื้อลับที่รัดรึงนิ้วเขาอย่างบ้าคลั่ง ความตึงแน่นเสียวเสียดเล่นงานหญิงสาวจน หูอื้อตาลาย เธอกัดริมฝีปากเอาไว้แน่นด้วยกลัวหลุดเสียงครวญคร่ำ
เด็กดีงั้นเหรอ !?
รถเก๋งญี่ปุ่นสีขาวคันเล็กเปิดไฟเลี้ยวแล้วหมุนพวงมาลัยหักเข้าจอดเทียบที่หน้าบ้านหลังสุดท้ายในซอยของโครงการบ้านจัดสรรชื่อดังแห่งหนึ่งแถบชานเมือง
ประตูรถฝั่งคนขับถูกเปิดออก ร่างเล็กบอบบางผิวขาวจัดอย่างคนมีสายเลือดแผ่นดินใหญ่จากฝั่งพ่อ สวมเชิ้ตขาวทับด้วยสูทสีแดง กระโปรงสอบแค่เข่าสีเดียวกับสูทซึ่งเป็นเครื่องแบบของบริษัท ใบหน้าสวย นัยน์ตาคมหวานจากทางฝั่งแม่ที่มีเชื้อสายมอญ หากบัดนี้ดวงตานั้นฉายชัดถึงความหงุดหงิดตึงเครียด คิ้วได้รูปขมวดมุ่น เธอยืนกอดอกจ้องมองผ่านประตูรั้วเข้าไปในบ้านด้วยความหงุดหงิดเต็มทน
ลิวาดา หรือหลิว คือชื่อของเธอ
ปีนี้เธออายุย่างยี่สิบหก พ่อของเธอเสียชีวิตไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว หลังจากนั้นเมื่อต้นปีแม่ก็แต่งงานใหม่กับชาวต่างชาติวัยเกษียณคนหนึ่งที่ชื่อลุงเท็ด เขาเคยแต่งงานกับสาวไทยและเลิกรากันไปหลายปี มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนอายุน้อยกว่าเธอหกปีที่ชื่อ แดเนียล
ลุงเท็ดจัดได้ว่าเป็นชาวต่างชาติที่พอมีพอกินค่อนไปทางร่ำรวย เขาซื้อบ้านหลังใหญ่ในโครงการมีชื่อเสียงแล้วพาแม่กับเธอเข้ามาอยู่ด้วย และให้แม่ของเธอลาออกจากงานพนักงานบัญชีของบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อมาดูแลเขาพร้อมให้เงินเดือนใช้ซึ่งมากกว่าเงินเดือนเดิมของแม่ถึงสามเท่า หลิวเองยินดีที่แม่จะมีใครสักคนเข้ามาในชีวิตและคอยดูแล และลุงเท็ดก็ดีกับท่านเหลือเกิน เรื่องเหมือนจะจบอย่างมีความสุขเช่นในนิยาย แต่กลับมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นจนกระทั่งเธอไม่สามารถอยู่ร่วมชายคาเป็นครอบครัวที่นี่ได้ตามที่แม่ต้องการ
ทั้งหมดทั้งมวลมีสาเหตุมาจากไอ้เด็กลูกครึ่งตัวเท่าควายคนนั้น คนที่มีฐานะเป็นน้องชายต่างสายเลือดของเธอ
แดเนียล หรือนายแดนตัวแสบนั่น
“ หลิว เข้าไปดูบ้านให้แม่หน่อยนะลูก ไปนอนวีคละครั้งก็ยังดี เข้าไปสักวันศุกร์ ค้างสักคืน เสาร์เย็น ๆ ค่อยกลับ แม่กับลุงเท็ดต้องบินไปบ้านลุงที่ต่างประเทศเพื่อจัดการเอกสารภาษีบางอย่างและถือโอกาสไปเยี่ยมญาติด้วยสักสองเดือน แดเนียลอยู่บ้านคนเดียว ”
นั่นคือคำวอนขอแกมบังคับของผู้เป็นแม่ที่โทรหาเธอ ทั้งที่บ้านหลังเบ้อเริ่มนี้ตั้งอยู่ในโครงการอันมีชื่อ บริการจากส่วนกลางนั้นมีทั้งกล้องวงจรปิด ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกวัน ทว่าสิ่งเหล่านั้นอาจไม่สามารถป้องกันเรื่องวุ่นวายจากคนที่อยู่ในบ้านได้
แดเนียลอยู่บ้านคนเดียว นั่นมันคือเหตุผลวายป่วงที่เธอต้องมาที่แห่งนี้ทั้งที่ไม่อยากเหยียบย่างมาอีกแม้สักครั้ง
“ เด็กนั่นมันจะเผาบ้านหรือไงล่ะแม่ ถึงต้องให้หลิวไปดูด้วย ” นั่นคือสิ่งที่เธอถามประชดประชัน และคำตอบที่แม่ให้กลับมาคือ
“ ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรถึงขั้นนั้น แดนอาจจะมีเกเรเสเพลบ้างตามประสา มีจัดปาร์ตี้บ้างอะไรบ้าง แม่แค่กลัวว่าจะเละเทะเกินเลยไปสักหน่อย เอาน่า ก็แค่ไปดูน้องบ้างจะเป็นไรไป ไหน ๆ ก็เป็นพี่เป็นน้องกันแล้ว ”
ใครอยากจะเป็นพี่เป็นน้องกับนายนั่นกันล่ะ !
เธอแย้งอยู่ในใจ
“ แดนน่ะเป็นเด็กดีนะหลิว แม่ไม่เข้าใจว่าทำไมหลิวต้องมองน้องในแง่ร้ายขนาดนั้น อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยทำอะไรให้ลุงเท็ดกับแม่เดือดร้อน ”
เด็กดีงั้นเหรอ !?
แต่จะโทษแม่ก็ไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้เจออย่างที่เธอเจอกับแดเนียลนี่นา เด็กนั่นมันร้ายเกินอายุ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าหวานก็ร้อนวูบ สลัดศีรษะตัวเองแรง ๆ เพื่อหวังขับไล่ความรู้สึกบ้า ๆ นั้นให้หลุดหายจากความทรงจำเสียที
ความรู้สึกที่น้องชายต่างสายเลือดคนนั้นตราตรึงไว้บนร่างกายของเธอในคืนนั้น !
“ หลิว ฟังแม่อยู่หรือเปล่า ทำไมเงียบ ” ปลายสายส่งเสียงเรียกเมื่อไม่มีการตอบรับจากลูกสาว เธอรีบดึงตัวเองให้พ้นจากภวังค์ทันที
“ อยู่จ้ะแม่ อยู่ โอเค เดี๋ยวหลิวเข้าไปดูให้ แม่ไม่ต้องห่วงนะ เดินทางปลอดภัยเที่ยวให้สนุก ฝากบอกลุงเท็ดด้วย ”
“ ขอบใจมากนะลูก ”