บทที่ 2 เรื่องบังเอิญ
บทที่ 2 เรื่องบังเอิญ
เดคยิ้มขบขันตามผู้เป็นนายเมื่อได้ฟังสิ่งที่เขาเอ่ยบอก และหันไปมองหญิงสาวที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเห็นใจและหุบยิ้มทันที เขาเหลือบตามองรอยยิ้มเยือกเย็นบนใบหน้าคมคายผู้เป็นนายเพียงนิด
“น่าขำจริงไหมนายว่า หึหึ..” วิลเลียมเอ่ยถามความคิดเห็นจากลูกน้อง ก่อนจะยกมือขึ้นมาเกลี่ยริมฝีปากตัวเองแล้วเท้าคางมองมุกดาที่กำลังร้องไห้อย่างหนักหน่วงโดยเป็นที่สนใจของผู้โดยสารบนเครื่องด้วย ‘ผู้หญิงคนนี้ทำให้ฉันทึ่งมากเลย เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สวยคนหนึ่ง แต่เธอมีจิตใจที่น่ายกย่อง ทั้งที่ถูกทิ้งมาแท้ๆ แต่เธอก็ไม่ได้โวยวายหรือเสียสติพาลคนอื่น ทำเพียงร้องไห้กับตัวเองด้วยความเสียใจเท่านั้น’
วิลเลียมมองหญิงสาวด้วยสายตาที่แปลกไป เธอทำให้เขาละสายตาไปจากใบหน้าที่เปียกปอนด้วยน้ำตาไม่ได้เลย..
หลายวันต่อมา
“นายครับ เราจะทำแบบนี้จริงเหรอครับ ลูกน้องคนอื่นอาจจะไม่ให้ความเคารพเราเท่าที่ควร” เดคเอ่ยถามด้วยความกังวลใจเมื่อผู้เป็นนายคิดอะไรพิเรนทร์ๆ ว่าจะปลอมตัวเป็นพนักงานบรรจุใหม่ในบริษัทตัวเองเพื่อทำการทดสอบการคอรัปชั่นในบริษัท และเขาก็ต้องเป็นเด็กฝึกงานใหม่เนี่ยสิ “นายครับ ผมว่านายคิดดูอีกทีนะครับ ถ้านายใหญ่จับได้มันไม่โอเคแน่นอนครับ” เดคพยายามพูดโน้มน้าวให้เจ้านายคิดใหม่ แต่เมื่อเห็นสายตามุ่งมั่นนั้นเขาก็ต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ไป
“เอาน่า แค่คิดมันก็สนุกแล้ว ฉันว่ามันต้องสนุกแน่นอน” วิลเลียมแสยะยิ้มมุมปากอย่างยากที่จะคาดเดาอะไร ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาจัดแจงเน็กไทให้เดค “ไปทำงานกันเถอะ เด็กใหม่ เออ แล้วห้ามแสดงตัวตนให้ใครรู้นะว่าเราเป็นใคร”
“ครับนาย” แม้ปากจะตอบครับแต่สีหน้าเดคนั้นเหมือนมีคนเอาปืนมาจ่อที่คอเลย เขาจำใจเดินตามผู้เป็นนายมาขึ้นรถแล้วขับไปยังบริษัทใหม่ เมื่อมาถึงเขาและเจ้านายก็เดินตรงไปหาหัวหน้าฝ่ายบุคคลเพื่อรายงานตัวเข้าทำงาน
“นายทำไมหน้าคุ้นๆ นะ เราเคยเห็นกันที่ไหนไหม” หัวหน้าฝ่ายบุคคลหน้าโหดเอ่ยถามวิลเลียมกับเดค พวกเขาทั้งสองหันมองหน้ากันเงียบๆ
“ไม่เคยครับหัวหน้า ผมไม่คุ้นหน้าหัวหน้าเลยครับ ตอนนี้ก็ถึงเวลาเข้างานแล้วผมว่าผมต้องไปทำงานแล้ว จริงไหมครับคุณบรรจง” วิลเลียมหันมาเอ่ยเรียกเดคทั้งที่เขาไม่ได้ชื่อนี้ ทำเอาเดคต้องไหลตามน้ำไปก่อน
“อืมๆ งั้นผมจะให้คนพาคุณไปทำงานแล้วกันนะ ที่ทำงานประจำพวกคุณอยู่ที่ชั้นยี่สิบสามและยี่สิบสี่ ห้ามมาสาย ห้ามขาดงานโดยไม่แจ้งลาล่วงหน้า อย่างน้อยสองวันทำการ และห้ามมีความรักกับคนในบริษัทไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ช่าง ถ้าเราจับได้คุณจะถูกไล่ออกทันที”
‘ว้าว นี่บริษัทเรามีกฎแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย’
วิลเลียมคิดในใจก่อนที่จะหันหน้าไปเอ่ยตอบ
“ครับ ขอบคุณมากครับ ผมกับคุณบรรจงจะไม่ทำให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแน่นนอน” ว่าจบก็มีพนักงานสาวมาพาวิลเลียมกับเดคขึ้นไปชั้นที่ยี่สิบสาม ที่ทำงานเขา แต่ในตอนที่ประตูลิฟต์กำลังจะปิด จู่ๆ ก็มีพนักงานคนหนึ่งวิ่งมาเอาเท้ากันประตูไว้จนปลายรองเท้าส้นสูงกระแทกหน้าแข้งวิลเลียมอย่างจัง ชายหนุ่มกลั้นเสียงร้องไว้แล้วหันมองญิงสาวเจ้าของการกระทำนั้นหมายจะว่าให้แต่ต้องชะงักกับใบหน้าที่คุ้นเคย “นะ..นี่ยัยป้าแว่นหนานิ!” วิลเลียมปิดปากทันทีเมื่อเผลอพูดอะไรออกไป
“อะไรคะ เป็นอะไรรึเปล่า” มุกดาหันมาเอ่ยถามวิลเลียมด้วยน้ำเสียงปกติ เธอสะดุดตากับการแต่งตัวของสองหนุ่ม ก็พอรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นเด็กใหม่ที่มาทำงานกันวันนี้ และเธอจำเขาไม่ได้แต่ในตอนนั้นวิลเลียมก็เห็นผ้าเช็ดหน้าตัวเองอยู่ในกระเป๋าเธอด้วย ‘เหอะยัยป้านี่ถือวิสาสะเอาผ้าเช็ดหน้าเรามาใช้เลยเหรอ’
“เปล่าครับป้า..”
“ใครเป็นป้าคุณไม่ทราบ ไม่มีมารยาทเลยนะคะ” มุกดาขมวดคิ้วว่าให้เด็กหนุ่มด้วยความไม่พอใจแล้วหันมาขยับแว่นตาเล็กน้อย เธอมองเงาตัวเองผ่านผนังลิฟต์แล้วถอนหายใจเบาๆ มันก็จริงอย่างที่เขาเรียกสินะ คนในออฟฟิศต่างเรียกเธอว่าป้ามุกดากันทั้งนั้น และเธอก็อาวุโสสุดในที่ทำงานด้วย ปีนี้ก็ปาไปสามสิบสามปีแล้ว ยังมาถูกแฟนนอกใจอีก เฮ้อ~
เมื่อลิฟต์เปิดออกเธอกับวิลเลียมก็ก้าวออกมาพร้อมกัน สิ่งที่ทำให้วิลเลียมอึ้งไปกว่าการเจอเธอที่นี่คือทำงานอยู่ในออฟฟิศเดียวกับเขา มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ ก่อนที่แฟ้มเอกสารจะกระแทกเข้ามาที่หน้าอกเขา
“คุณวิลเลียมช่วยทำงานก่อนนะครับ วันนี้ทำงานวันแรกไม่มองสาวนะครับ” เดคกระตุกยิ้มมุมปากให้เจ้านายแล้วเดินออกไปก่อน
“เหอะ!” วิลเลียมแค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน “ได้ทีเอาใหญ่เลยนะไอ้คุณบรรจง” ว่าจบเขาก็เอาเอกสารไปให้หัวหน้าเซ็น เมื่อเสร็จก็เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานตนเอง “อะไรกันวะเนี่ย โลกมันกลมหรืออะไรวะ ต้องมาเจอกันถึงสี่ครั้งแล้วยังต้องมานั่งใกล้กันอีก มัน..สุดจะบรรยายจริงๆ” วิลเลียมเลื่อนเก้าอี้มานั่งแล้วชะเง้อมองมุกดาที่นั่งทำงานอยู่ข้างๆ
“มะ..มองอะไรคะ”
“อ๋อ..เปล่าครับพี่ สวัสดีครับ ผมวิลเลียมนะครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับพี่..?”
“ฉันชื่อมุกดาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักน้องวิลเลียม”
“เรียกผม วิล เฉยๆ ก็ได้ครับ” วิลเลียมยื่นมือไปจับมือเรียวแต่เธอกลับมองเฉยๆ แล้วหันมาทำงานต่อ วิลเลียมชักมือกลับมาอย่างเก้กัง ‘ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดไว้นี่หว่า..แปลกคนจริงๆ หรือว่าเราไม่หล่อในสายตาป้าเขาวะ’ วิลเลียมเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวอีกคนที่เพิ่งเดินเข้ามา เธอยิ้มให้เขาตั้งแต่ยังเดินมาไม่ถึง มาเฟียหนุ่มพยักหน้าทักทายแล้วเหลือบตามองมุกดาเพียงนิด
“พ่อหนุ่มจ๊ะ มาทำงานวันแรกเหรอ”
“อ๋อ..ครับพี่ ผมฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
“งื้อ..น้องทำไมน่ารักแบบนี้เนี่ย จริงไหมป้ามุก”
“…” มุกดาเลื่อนแว่นตาหนาเตอะลงเล็กน้อยแล้วหันมองวิลเลียม ชายหนุ่มอายุน้อยกว่ายื่นหน้ามายิ้มใกล้ๆ “ก็ไม่ได้หล่อมาก” คำตอบที่มุกดาเอ่ยออกมาทำเอาวิลเลียมไม่รู้จะหัวเราะหรือทำหน้ายังไงต่อดี เขาจึงฉีกยิ้มทะเล้นให้เธอแทน
“ป้าอะตาไม่ถึง อย่าไปถือสาป้าแกเลยนะน้อง..?”
“วิลครับ วิลเลียมครับพี่”
“พี่ชื่อพี่พลอยนะคะน้องวิล มาค่ะเดี๋ยวพี่จะสอนงานเอง” วิลเลียมถูกพลอยดึงตัวมาช่วยงานและสอนงานเขาด้วย มุกดามองตามแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร เขายังเด็กเกินไป”