บทที่ 1 แฝดสาม
บทที่ 1 แฝดสาม
หลายชั่วโมงต่อมา
วิลเลียมทนนั่งชั้นประหยัดเพราะอยากลองว่ามันเป็นยังไง แต่ก็มีส่วนดีอยู่บ้างเพราะแอร์สาวคนนั้นที่ทำให้เขาลืมความเบื่อหน่ายไปได้ ไม่นานเธอก็นำอาหารมาเสิร์ฟ แต่ในถาดอาหารของวิลเลียมมีกระดาษโน้ตหนึ่งใบอยู่ใต้จานสเต๊กโดยมีข้อความสั้นๆ ว่า
'ฉันทำให้คุณพอใจไหมคะ..แต่ถ้าไม่พอใจฉันขอแก้ตัวใหม่..xxx'
รอยยิ้มเยือกเย็นปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมคายและเก็บโน้ตแผ่นนั้นไว้
"สเต๊ก..ดูน่ากินจังเลยนะ" มาเฟียหนุ่มเงยหน้าขึ้นบอกกับแอร์สาว ตอนนี้ยังไม่รู้จักชื่อแต่อีกไม่กี่ชั่วโมงเขาได้รู้แน่นอน เพราะคงมีเรื่องต้องนอน! คุยกันอีกยาว เมื่อเธอเดินผ่านไปแล้วชายหนุ่มจึงหั่นสเต๊กในจานชิ้นพอดีคำเข้าปากแต่สายตากลับเหลือบไปเห็นมนุษย์ป้าคนนั้นกำลังนอนหลับอยู่ พอเห็นแว่นหนาเตอะที่เธอสวมใส่วิลเลียมก็ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด
หลายชั่วโมงต่อมา
เสียงสัญญาณเตือนรัดเข็มขัดดังขึ้นเมื่อกัปตันกำลังนำเครื่องลงจอดที่สนามบินปลายทาง ผู้โดยสารที่กำลังหลับใหลต่างคนต่างตื่นมาตรวจสอบสัมภาระตนเอง วิลเลียมก็เช่นกัน
"หาว…" เสียงหาวของคนข้างๆ ดังขึ้นจนเขาต้องหันมอง มาเฟียหนุ่มยกมือขึ้นมาป้องใบหน้าตนเองไว้แล้วกลอกตาไปมาอย่างเอือมระอา
"ทำไมกูต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะเนี่ย" เสียงพึมพำผู้เป็นนายทำเดคหน้าเสีย เขาไม่น่าตามใจวิลเลียมเลย ขืนนายใหญ่รู้เรื่องมีหวังถูกทำโทษแน่ๆ ที่พาลูกเขามาลำบากแบบนี้
เมื่อเครื่องบินจอดสนิทแอร์โฮสเตสาวก็เดินนวยนาดมาปลดเข็มขัดให้เขาเป็นคนแรก
"หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะคะ" หญิงสาวขยิบตาให้เล็กน้อยแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น แต่กลับมีสายตาของคนคนหนึ่งจ้องมาที่เขา วิลเลียมเหลือบตามองเพียงนิดแล้วเลิกสนใจ
ครืด~
ปึก!
"อ๊ะ! โอ๊ะ..ขะ..ขอโทษค่ะคุณ"
กระเป๋าสัมภาระใบเล็กฟาดลงกับหางคิ้ววิลเลียมจนมันเกิดรอยแดงเป็นทางยาว เขากัดฟันแน่นชักสีหน้าดุดันใส่เธอ
"ระวังหน่อยสิคุณ เกิดผมคอหักตายจะทำยังไงฮะ!"
"ขะ..ขอโทษนะคะ ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด มันเป็นอุบัติเหตุ"
"อุบัติเหตุเกิดขึ้นเพราะอะไร? เพราะคุณไม่ใส่ใจไงไม่คำนึงถึงความปลอดภัย" หญิงสาวก้มหน้ารับผิดแล้วรีบยกมือไหว้ขอโทษเขาอีกครั้ง วิลเลียมชักสีหน้าใส่อีกครั้งแล้วก้าวเดินออกมาอย่างหงุดหงิด เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาปิดรอยแดงนั้นไว้
หลายนาทีต่อมา
ร่างหนาเดินออกมาจากสนามบินเมื่อมาถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้ว เขาคงไม่โชคร้ายเจอมนุษย์ป้าคนนั้นตอนกลับอีกหรอก(มั้ง)
"ผมโทรหาคุณโซเฟียเรียบร้อยแล้วครับนาย" เดคเอ่ยบอกผู้เป็นนายตอนที่ก้าวเข้ามานั่งในรถแล้ว มาเฟียหนุ่มพยักหน้าให้พร้อมกับปลดกระดุมเสื้อสูตออก
"เฮ้อ! ทำไมมันเกิดเรื่องซวยตั้งแต่ยังไม่เจอลูกค้าวะ" น้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเบื่อหน่ายดังขึ้นจากเบาะที่นั่งด้านหลัง เดคที่รับหน้าที่เป็นพลขับเงยหน้าขึ้นมองกระจกเพียงนิด "เหี้ยจริงๆ แก่แล้วยังซุ่มซ่ามอีก เกิดหน้ากูเสียโฉมมาจะทำไง แม่ง! พูดมาแล้วโมโหว่ะ" วิลเลียมกำหมัดแน่นเมื่อภาพแว่นตาหนาเตอะของผู้หญิงคนนั้นลอยเข้ามาในหัว
"นายดื่มหน่อยไหมครับ"
"ก็ดีเหมือนกัน พอถึงบ้านโซเฟียกูจะออกไปข้างนอกทันที"
"ให้ลูกน้องเราติดตามไหมครับนาย"
"ไม่ต้อง กูอยากหาอะไรแก้เครียดหน่อย"
"ได้ครับ" เมื่อได้ฟังแบบนั้นเดคจึงไม่เซ้าซี้มาก เมื่อมาถึงบ้านโซเฟียหญิงสาวลูกพี่ลูกน้องก็เดินออกมาต้อนรับน้องชายด้วยรอยยิ้ม แต่ทว่าใบหน้าเข้มขรึมที่วิลเลียมระบายออกมาทางสีหน้าก็พอทำให้เธอเดาออกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก่อนหน้านี้
"แล้ววิลจะกลับมากินข้าวกับพี่ไหม"
"ไม่ครับ กินก่อนได้เลยไม่ต้องรอ" ชายหนุ่มเปิดประตูรถยนต์คันที่เดคเพิ่งขับพาเขามาจากสนามบินก่อนที่จะขับออกไปหาอะไรดื่มไม่ไกลจากที่พักมากนัก
รถลีมูซีนติดฟิล์มดำเคลื่อนตัวมาจอดที่ลานจอดรถข้างร้านเหล้า บรรยากาศโดยรอบแสงตะวันเริ่มจางหายแล้ว วิลเลียมยืนพิงรถและหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบอย่างใจเย็น
"เฮ้อ~" ควันบุหรี่สีขาวพวยพุ่งออกมาจากริมฝีปากหยักได้รูปลอยคละคลุ้งในอากาศ สายตาคมกริบจ้องมองผู้คนที่กำลังเดินเข้าไปในร้านเหล้าแห่งนี้ด้วยความว่างเปล่า ทุกอย่างเริ่มต้นจากการเดินทางและก็จบลงด้วยการเดินทางเหมือนเดิม เขาใช้ชีวิตแบบนี้มาครึ่งค่อนทางและกำลังเบื่อหน่ายกับมัน
เมื่อสูบบุหรี่หมดเขาก็เดินเอาก้นบุหรี่ที่ยังไม่ดับทิ้งลงในถังใส่ทรายสำหรับดับบุหรี่แล้วเข้ามาในร้าน ภายในตกแต่งด้วยขวดเหล้ามากมายออกแนวคลาสสิก ลูกค้าที่มาก็อายุราวๆ สี่สิบต้นๆ คงมีแต่เขาที่อายุน้อยสุดในร้าน วิลเลียมนั่งอยู่หน้าบาร์และสั่งเหล้าไปแก้วหนึ่ง
เสียงเพลงคลาสสิกดังเข้ามาในโสตประสาทช่วยคลายเครียดได้ดีเลยทีเดียว
กริ๊ง!
น้ำแข็งก้อนกลมๆ กระทบกับแก้วเหล้าก่อนที่วิลเลียมจะยกขึ้นมาเขย่าเบาๆ แล้วกระดกดื่มจนหมดแก้ว น้ำสีอำพันถูกกลืนลงคอไปในทันที สัมผัสร้อนผ่าวทำให้เขาหลุดเสียงครางเบาๆ
"มุก..พี่ขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิดนะ ถูกใจพี่มากเลย" เสียงนุ่มนวลเอ่ยบอกกับหญิงสาวเจ้าของใบหน้าเกลี้ยงเกลา มือหนายื่นไปจับมือเรียวเล็กไว้แน่น
"มุกรักพี่พอร์ชค่ะ" มุกดายิ้มหวานให้ชายคนรัก วันนี้วันเกิดของพอร์ชเธอเลยพาเขามานั่งดื่มร้านเหล้าที่ชอบมา และเธอมีความสุขมากๆ ที่เห็นคนรักชอบของขวัญวันเกิดที่ซื้อให้
"เดี๋ยวพี่กลับมานะ พี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน"
"ค่ะ" มุกดายิ้มให้แล้วมองตามหลังคนรักด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มหวานละมุน แต่ในตอนนั้นโทรศัพท์มือถือเขาก็มีคนโทรเข้า มุกดาหันมองอย่างลังเลแล้วถือโทรศัพท์เครื่องนั้นเดินตามชายหนุ่มไป
"ให้เวลาพี่หน่อยสิ พี่กำลังจะบอกเลิกมุกแล้ว ช่วยใจเย็นๆ ได้ไหม"
(ไม่ได้หรอกค่ะ ยังไงพี่พอร์ชก็ต้องเลิกกับยัยป้านั่นวันนี้ ไม่งั้นส้มจะเลิกกับพี่แทน)
"โอเคส้ม พี่จะเลิกกับมุกวันนี้เลย โอเคไหมครับ"
(ส้มจะรอดูนะคะ แล้วก็รีบกลับด้วย) เสียงชายหนุ่มคุยโทรศัพท์กับคนปลายสายดังเข้ามาในหูวิลเลียมที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างห้องน้ำ เขาเหลือบตามองเพียงนิดแต่สิ่งที่เห็นต่อจากนี้ก็ทำเอาเขาสำลักควันบุหรี่จนหน้าแดง
"ยัยป้าแว่นหนานิ อ่า! อะไรวะเนี่ย..เจออีกแล้ว หรือจะเป็นแฝด คงจะเป็นแฝด.." วิลเลียมดับบุหรี่ที่ยังสูบไม่หมดหมายจะเดินกลับไปที่บาร์ แต่จู่ๆ มนุษย์ป้าแว่นหนาก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เขาเห็นเธอถือโทรศัพท์ในมือแน่นทั้งที่ยังมีสายเรียกเข้า แต่กับอีกคนกำลังคุยโทรศัพท์หน้าเครียด
วิลเลียมพยักหน้าพอจะรู้อะไรบ้างแล้ว เขาตัดสินใจยืนพิงผนังและกอดอกมองอย่างยิ้มๆ "นี่ป้ามีแฟนแล้วเหรอ..แฟนหล่อนะเนี่ย แต่น่าเสียดาย แฟนจะบอกเลิกซะแล้ว" วิลเลียมยืนดูสองหนุ่มสาวต่อไปจนกระทั่งเธอวิ่งกลับไปนั่งที่เดิมเขาจึงค่อยเดินกลับไปที่บาร์ แล้วหมุนเก้าอี้กลับไปมอง
"พี่พอร์ชไปนานจังเลยค่ะ มุกดื่มไปนิดหน่อยแล้ว" มุกดาตีสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรขณะที่พอร์ชทำหน้าเครียดแล้วนั่งลง
"มุก พี่..พี่มีเรื่องจะบอก"
"คะ?"
"พี่ว่าเราเลิกกันเถอะ พี่กับมุกเราสองคนคงไปกันไม่ได้แล้ว พี่ขอโทษนะ"
"ค่ะ.." มุกดายิ้มให้ชายหนุ่มด้วยความเสียใจ เธอกำแก้วเหล้าในมือแน่นก่อนจะสาดใส่หน้าพอร์ช "กล้ามากนะที่หักหลังมุก มุกได้ยินที่พี่พูดกับคนในสายหมดแล้ว!"
"มุก..พี่ขอโทษ.."
"มุกไม่ต้องการคำขอโทษจากพี่ เฮงซวย!" มุกดาแย่งกล่องของขวัญในมือพอร์ชคืนมาแล้วเอาน้ำเปล่าสาดใส่หน้าเขาอีกครั้ง พอร์ชทนสายตาของผู้คนไม่ไหวรีบเดินออกไปทันที เหลือเพียงมุกดาที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ "ขอเหล้าหนึ่งขวดค่ะ" เธอหันตัวมาสั่งเหล้าแล้วนั่งดื่มคนเดียวจนดึก โดยที่วิลเลียมจ้องมองการกระทำเธอตลอดเวลา
สามวันต่อมา
วิลเลียมกับเดคนั่งลงเบาะที่นั่งตนเองบนเครื่องบินโดยสารขากลับ แต่สิ่งที่ทำให้วิลเลียมต้องชะงักคือตอนนี้ป้าแว่นนั่งอยู่เบาะตรงหน้าเขาและกำลังร้องไห้อย่างหนักจนเป็นที่สนใจของผู้โดยสารคนอื่นๆ ด้วย
"เฮ้อ~ ทำไมต้องมาเจออีกวะ หรือจะเป็นแฝดสาม ถ้าเจออีกก็คงเป็นแฝดสี่สินะ" มาเฟียหนุ่มพึมพำกับลูกน้องอย่างเบื่อหน่าย เขามีน้ำใจเอาผ้าเช็ดหน้ายื่นให้เธอผ่านช่องระหว่างเบาะที่นั่ง มุกดาหันมองแล้วพยักหน้าน้อยๆ เป็นการขอบคุณ ไม่นานเสียงสะอื้นสลับกับเสียงสูดน้ำมูกก็ดังขึ้น
"สงสัยญาติเสียนะครับนาย" เดคเอ่ยขึ้นและคำพูดของเขาก็ทำให้วิลเลียมหลุดขำออกมา
"เปล่า..แฟนทิ้ง"
"ครับ..?"
"หึหึ.." มาเฟียหนุ่มหัวเราะขบขันราวกับมันเป็นเรื่องตลกมาก เดคได้แต่นั่งเงียบด้วยความมึนงง