ตอนที่ 5 แถลงข่าว

โรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ

ห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมหรูมีการจัดโต๊ะไว้ตรงกลาง และมีเก้าอี้สำหรับกองทัพนักข่าวที่มารอฟังการแถลงข่าวของซุปตาร์สาวชื่อดัง น้ำ ธารน้ำ นิรันนุกุล คูเวอร์ เนื่องจากเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวออกมาหนาหูว่าซุปตาร์สาวได้เลิกรากับแฟนหนุ่มพิธีกรชื่อดังจากต่างช่องที่คบกันมานานถึง 3 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็เป็นที่ฮือฮาและพูดถึงกันเป็นวงกว้าง และมีแฟนคลับสนับสนุนยินดีไปกับการเลิกราในครั้งนี้

“น้องน้ำ พร้อมหรือยังคะ” เจ๊เบล ผู้จัดการสาวประเภทสองที่ทำหน้าที่ดูแลซุปตาร์สาวมาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการแบบจริงจัง เจ๊เบลรับตำแหน่งนี้มาจากเจ๊บีมซึ่งเป็นอดีตผู้จัดการส่วนตัวของนิรา นิรันนุกุล คูเวอร์ มารดาแท้ๆ ของธารน้ำ และเจ๊เบลก็ยินดีไม่น้อยที่ได้มาดูแลแม่สาวน้อยฝาแฝดตาคมที่ตอนนั้นเธอเองในวัยเด็กก็เป็นแฟนคลับของเด็กน้อยอยู่เหมือนกัน ไม่คิดว่าโตขึ้นมาแล้วเธอจะได้เป็นคนที่ได้รับหน้าที่ดูแลซุปตาร์สาวคนสวยคนนี้ด้วยซ้ำ ทำให้เธอรักธารน้ำเหมือนน้องสาว และคอยคัดสรรงานดีๆ ให้กับซุปตาร์สาวตลอดมา

“พร้อมแล้วค่ะเจ๊เบล” เสียงหวานตอบพร้อมกับส่งยิ้มไปให้เพื่อบอกว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรแล้ว

ตอนแรกที่ผู้จัดการส่วนตัวสาวสองรู้เรื่องที่เธอจะแถลงข่าวเลิกรากับอดีตแฟนหนุ่ม เจ๊เบลดีใจแทบจะฉลองจนเธองง จนเจ๊เบลเฉลยว่าเจ๊เบลแอบเห็นแฟนของเธอกับเพื่อนสนิทของเธอไปทานข้าวด้วยกันบ่อยๆ แต่ที่ไม่ออกข่าวเพราะคนอื่นเขาคิดว่าเธอไปด้วย ก็เพื่อนสนิทสาวนั้นตัวติดธารน้ำแจ ทางนี้เป็นซุปตาร์ชื่อดัง ส่วนทางนั้นรับบทแค่เพื่อนนางเอก

นิรา แผ่นฟ้า และจันทิราเดินทางมาให้กำลังใจซุปตาร์สาวด้วย ยกเว้นก็แต่เดวิดเท่านั้นที่ติดงานจึงฝากความห่วงใยมาให้บุตรสาวแทน ธารน้ำฉีกยิ้มให้กับมารดาและน้องๆ ทันทีที่เห็นหน้าอยู่ที่มุมห้อง ตอนนี้ร่างระหงของซุปตาร์สาวได้เดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะแถลงข่าวตรงกลางห้องโถงเรียบร้อยแล้ว เสียงแฟลชและเสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ซุปตาร์สาวยกมือขึ้นไหว้บรรดานักข่าวและช่างภาพอย่างอ่อนน้อม ละเธอมักจะเป็นแบบนี้เสมอมาจนพี่ๆ นักข่าวเอ็นดูไม่ต่างจากสมัยของมารดาเลย

“สวัสดีค่ะพี่ๆ สื่อมวลชนทุกท่าน ที่ธารน้ำเชิญพี่ๆ ทุกคนมางานแถลงข่าววันนี้ก็เพื่อที่จะแจ้งให้พวกพี่ๆ ได้ทราบว่า ธารน้ำได้ลดความสัมพันธ์ระหว่างธารน้ำกับพี่ภูวิชลงเหลือเป็นเพียงสถานะพี่น้องกันเท่านั้นค่ะ”

“แล้วพี่ขอถามหน่อยได้ไหมคะว่าเพราะอะไร เพราะวงในเคยบอกว่าน้องสองคนกำลังจะหมั้นหมายกันในอีกไม่ช้านี้แล้ว” นักข่าวคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น

“อืม... อาจจะเป็นเพราะเรารักกันไม่มากพอมั้งคะ เอาเป็นว่าเรายังคงเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ความสัมพันธ์อาจจะเปลี่ยนไปแต่ความหวังดีที่มีให้ก็ยังคงเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะ” ซุปตาร์สาวเลือกที่จะไม่ให้ข่าวด้านลบระหว่างเพื่อนกับอดีตแฟนหนุ่ม ถึงเธอจะโกรธทั้งสองคนมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องทำลายเขาทั้งสองคน มารดาของเธอสอนเสมอว่าการให้โอกาสคนนั้นเป็นสิ่งที่ดี เธอจึงเลือกที่จะไม่ไปยุ่งกับเขาอีก ถ้าหากเขาไม่มายุ่งกับเธอก่อน

“แบบนี้ก็แปลว่ากลับมาโสดสนิทแล้วสินะครับ” นักข่าวเอ่ยถามขึ้นบ้าง

“ค่ะ ตอนนี้กลับมาโสดสนิทแล้วค่ะ” ธารน้ำตอบด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่มันไม่ได้ออกมาจากใจเธอเลยสักนิด ใบหน้าที่ยิ้มแย้มในเวลานี้ใครจะรู้ว่าเธอนั้นเจ็บปวดมากขนาดไหน ความผิดหวังและเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมานั้นยังมีอยู่เต็มอก หากแต่เลือกที่จะไม่พูดเพราะเธอไม่อยากที่จะทำลายใครเพื่อความสะใจของตนเอง

“แล้วจะเปิดใจให้หนุ่มๆ เข้ามาขายขนมจีบเลยไหมครับ” นักข่าวอีกคนเอ่ยถามขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

“อืม... ตอนนี้ยังดีกว่าค่ะ เพราะธารน้ำเพิ่งจะลดความสัมพันธ์กับพี่เขา ถ้ารีบเปิดตอนนี้มันก็เหมือนว่าธารน้ำอยากมีแฟนใหม่น่ะสิคะ” ซุปตาร์สาวเอ่ยติดตลกทั้งที่ในใจไม่ได้ตลกด้วยเลยสักนิด เธอจะยังกล้ามีความรักอีกไหมเธอก็ยังตอบไม่ได้ แล้วความบริสุทธิ์ที่สมควรจะเป็นของว่าที่สามีในอนาคตในวันแต่งงานนั่นอีก เธอไม่หลงเหลือความภูมิใจไว้ให้ผู้ชายคนไหนแล้ว

“แบบนี้เรียกว่าปิดประตูหัวใจแล้วใช่ไหมคะ” นักข่าวสาวเอ่ยถามบ้าง

“ค่ะ.. ต่อไปนี้ธารน้ำจะขอโฟกัสที่การทำงาน และก็ครอบครัวก็พอค่ะ ถ้าผู้จัดคนไหนหรือเจ้าของแบรนด์ท่านใดอยากจ้างหรือป้อนงานให้กับธารน้ำ ช่วงนี้จัดมากันได้เต็มที่เลยนะคะ ธารน้ำจะทำงานแบบว่าคนมองว่าบ้านยากจนเลยล่ะค่ะ” คำตอบของหญิงสาวในประโยคหลังทำเอาพี่ๆ นักข่าวในห้องแถลงข่าวต่างหัวเราะกันออกมาอย่างชอบใจ สวย น่ารัก จริงใจ ตลก ใจดี นี่คือสโลแกนของซุปตาร์สาวที่มีนามว่า ธารน้ำ นิรันนุกุล คูเวอร์

หลังจากการแถลงข่าวเสร็จ ธารน้ำก็กลับบ้านพร้อมกับครอบครัวที่มารอให้กำลังใจเธอทันที ภาพของมารดา น้องชายและน้องสาวที่โอบกอดเธอหลังจากงานแถลงข่าวจบนั้น ทำเอาพี่ๆ นักข่าวน้ำตาซึม เพราะครอบครัวของซุปตาร์สาวนั้น ทั้งรัก ห่วงใย และใส่ใจกันสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวตัวอย่างแห่งปีเลยก็ว่าได้

คลับแห่งหนึ่งแถวรัชดา

พิธีกรหนุ่มนั่งยกแก้วบรั่นดีสีเข้มขึ้นดื่มอย่างเครียดๆ เขาโดนสั่งห้ามไม่ให้เคลื่อนไหวอะไร ถ้าหากไม่อยากให้เรื่องชั่วๆ ที่กระทำไปถูกเปิดเผย มาตอนนี้เขาได้แต่นึกเสียดายและเสียใจอยู่ไม่น้อยที่ต้องมาเสียสถานะแฟนหนุ่มของซุปตาร์สาวชื่อดังที่มีหนุ่มๆ หลายคนหมายปอง รอเสียบอยู่เป็นแถว แต่ในเมื่อเขาพลาดแล้วเขาก็คงต้องยอมรับ เพราะความไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจแท้ๆ ทำให้เขาเผลอไผลไปมีอะไรกับเพื่อนสนิทของเธอ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยินยอมพร้อมใจและยินดีที่จะปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ หากวันนั้น ธารน้ำไม่มาเซอร์ไพร้ส์เขาที่คอนโด เรื่องราววันนี้ก็คงจะยังไม่เกิดขึ้น

“เสียดายหรือไงวะมึง ว่าแต่ทำไมมึงถึงเลิกกับน้องเขาได้วะ กูเห็นที่ผ่านมาก็รักกันดีออก” เสียงเข้มของเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัยดังอยู่ข้างๆ หู ขณะที่เขามองไปที่มือถือของตนที่ยังคงเปิดข่าวในยูทูปค้างอยู่ ซึ่งในข่าวนั้นเป็นการแถลงข่าวของซุปตาร์สาวชื่อดังของเมืองไทยที่เคยเป็นแฟนของเขาเอง

“เรื่องมันยาวว่ะ แต่ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว” เสียงเศร้าๆ ดังออกมาจากปากของพิธีกรหนุ่ม พิพัฒน์ตบไหล่หนาของเพื่อนเบาๆ เป็นการปลอบใจ เขารู้จักซุปตาร์สาวคนนี้ผ่านเพื่อนสนิทเหมือนกัน เธอสวย น่ารัก สดใส ใครๆ เห็นเธอก็ตกหลุมรักได้ไม่ยาก เขายังแอบคิดอยู่ว่าภูวิชนั้นเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดที่ได้ใจเธอไปครอง แต่พอมาวันนี้คนสองคนที่ดูรักกันดีกลับต้องมาเลิกรากันแบบสายฟ้าแลบ ทำเอาเขางงและสงสัยอยู่ไม่น้อย

“พอจะเล่าคร่าวๆ ให้กูหายข้องใจได้ป่าววะ แบบนี้กูได้นอนไม่หลับกันพอดี” พิพัฒน์เอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้

“กูไม่ดีเอง กูนอกใจเขา แล้วเขาเข้ามาเห็นภาพนั้นพอดี” คำตอบของเพื่อนสนิททำเอาพิพัฒน์อยากจะเขกกะโหลกเพื่อนแรงๆ มีคนดีๆ เพียบพร้อมไปทุกอย่างอยู่ข้างกายเสือกไม่รักษา การนอกใจเขารู้ดีว่ามันเป็นอะไรที่แย่แล้วสำหรับผู้หญิง แต่การนอกกายมันแย่ไปกว่านั้นหลายเท่า ถ้าเป็นเขา เขาไม่แถลงข่าวแบบโลกสวยเหมือนเธอแน่ เขาจะต้องทำลายผู้ชายแบบไอ้ภูวิชจนพินาศกันไปข้างหนึ่งอย่างแน่นอน ก็อย่างว่าแหละ ธารน้ำ เธอเป็นคนดีเกินกว่าที่จะทำเรื่องแย่ๆ แบบนั้น

“นี่มึงอย่าบอกนะ ว่าคนที่มึงแอบกินเป็นเพื่อนสนิทน้องเขาน่ะ” เพราะพิพัฒน์แอบมองนุชวีรามานานหลายปีเหมือนกัน แต่ดูดาราสาวนั้นสนอกสนใจในตัวเพื่อนสนิทของเขามากกว่าจนเขาแอบคิดอยู่ว่า นุชวีราคงจะแอบรักภูวิชมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว

“อืม.... น้ำมันใกล้ไฟน่ะมึง ครั้งแรกกูกับเขาต่างคนต่างเมา แล้วเราก็เผลอมีอะไรกัน” ภูวิชเล่าออกมาเท่าที่จะเล่าได้

“แล้วครั้งต่อๆ มาคือความเงี่ยนของมึงกับเขาว่างั้น” คำพูดของเพื่อนไม่ผิดเลยสักนิด เพราะการได้กันครั้งหนึ่งมันทำให้เขาอยากได้เธอไปเรื่อยๆ ซึ่งเธอเองก็ยินดี คนถูกถามพยักหน้าขึ้นลงเป็นการให้คำตอบ

“กูขอทีเถอะ ไอ้ชั่ว กูล่ะเสียดายเวลาของน้องน้ำจริงๆ แทนที่เธอจะได้ไปเจอคนดีๆ กับต้องมาเสียเวลาคบกับคนโลเลมักง่ายอย่างมึงไปถึงสามปี” พิพัฒน์อดที่จะด่าเพื่อนสนิทออกมาไม่ได้

“ก็นี่ไง กูถึงได้มานั่งเสียใจและรู้สึกผิดอยู่แบบนี้ หยุดบ่นกูสักทีเหอะ มึงมากินเหล้าเป็นเพื่อนกูหน่อยสิ” สิ้นคำของภูวิช พิพัฒน์ก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา ความต้องการมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ อย่างว่าน้ำมันใกล้ไฟยังไงก็ติด คืนนั้นพิพัฒน์เลยได้ดื่มกับภูวิชทั้งคืน