ตอนที่ 3 คนเมา
ตอนที่ 3 คนเมา
ในคลับเฮาส์ชั้นดี ที่มีแต่คนมีฐานะระดับไฮโซและมีบัตรวีไอพีการ์ดเท่านั้นที่จะเข้ามาได้ โชคดีที่แอนนี่เพิ่งได้บัตรสมาชิกมาจากหนุ่มหล่อไฮโซเจ้าของโรงงานที่ตามจีบเธออยู่ให้มา ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้จริงจังด้วยแค่คบไปเล่นๆ
มารีอา ดึงกระโปรงรัดรูปสีดำให้ดึงลงมา เพราะรู้สึกว่ามันสั้นและรัดรูปจนเกินไป แถมเสื้อเกาะอกเอวลอย โชว์หน้าท้องแบนราบที่สวยงามของเธอ มันทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ เพราะไม่เคยแต่งตัวแบบเปิดเผยเนื้อตัวขนาดนี้มาก่อน
“แก ฉันว่ามันเย็นๆ ท้องอะ โล่งๆ ไงไม่รู้” มารีอาเอามือลูบท้องด้วยความเขินอาย จนแอนนี่ต้องส่ายหัวในความประหม่าของเพื่อน
“ยัยมาร์ หน้าท้องแก หุ่นแก เอวแก สะโพกแก นมแก บอกเลยโคตรเพอร์เฟค แกออกกำลังกายทุกวันหุ่นแกนี่แบบ โคตรดีมากเลยรู้ไหม แกจะอายอะไรห๊ะ มีของดีต้องอวดสิ” แอนนี่บ่น
“แหม แก ฉันออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพดี ไม่ได้ออกเพื่อจะเอาหุ่นมาโชว์ใครสักหน่อย” มารีอาทำหน้างอก่อนเถียงข้างๆ คูๆ
“หรือแกจะยอมแพ้ ที่อีตาอนิรุตคู่หมั้นแก ว่าแก ดูถูกแก ฮึว่าไง” แอนนี่กอดอกมองเพื่อนสาวที่ยังทำสีหน้าลังเล
“ก็ ก็ ก็ไม่ชอบที่ให้ใครดูถูก” มารีอายิ้มแห้ง
“งั้นวันนี้รับรองได้ จะไม่มีใครดูถูกแก เพราะว่าวันนี้แกสวย สวยมาก แกจำไว้ ว่าแกเป็นคนสวย เลิกมัดผมรวบต่ำปล่อยเป็นคุณป้า ปล่อยผมยาวสลวยของแก ดูสิทั้งเงาทั้งตรงยังกับคนไปแว็กซ์ผมเงามา แกสวยมากนะรู้ตัวไหม”
“อะ อือ”
“เพราะงั้นสูดลมหายใจลึก บริหารเสน่ห์กัน โอเค้”
“อะ อือ โอเค”
“ทำเสียงมั่นใจหน่อย คุณเพื่อน”
“โอ-เค” มารีอาเน้นคำช้าๆ ชัดๆ พลางสูดลมหายใจลึก เรียกความมั่นใจก่อนยืดอกเชิด
และแค่เพียงการย่างก้าวมาของสองสาวที่เข้ามาในผับ แอนนี่สาวเปรี้ยวสวยสดในชุดสีแดงเพลิง กับมารีอาที่ดูสวยเฉี่ยวมีเสน่ห์และน่าค้นหาในชุดดำ ก็เรียกสายตาจากหนุ่มๆ ภายในคลับเฮาส์ ที่มองสาวสวยทั้งสองคนด้วยสายตาหวานฉ่ำ
ซึ่งไม่ไกลจากตรงนั้น ตรงบาร์นั่ง ลี่คุนและวศิน ที่นัดกันมาเจอที่นี่ ก็อดไม่ได้ที่จะมองเธอทั้งสองด้วยความสนใจ
“เคน”
….
“ไอเคน”
….
“ไอ เคน!!!!” วศินตะโกนใส่ข้างหู จนลี่คุนตกใจ
“เฮ้ยย อะไร! เชี้ยไร กู ชื่อ คุน ไม่ใช่เคน มึงเรียกอะไรของมึง ดังชิบ” ลี่คุน หลุดจากภวังค์ ก่อนหันมามองหน้าเพื่อนไม่ชอบใจ พร้อมยกแก้วเหล้าเข้าปาก
“เออ กูบอกแล้วไงว่า กูจะเรียกมึงเคน ทำไมวะ เรียกแค่นี้ตกใจ มึงมองสองคนนั้นเหรอ เอ..ไม่สิ สายตามึงจ้องที่คนชุดดำนี่หว่า เออ เทสต์ดีนะมึง” วศินยกมือขึ้นตบบ่า เพราะเขาเองก็ชอบสาวเปรี้ยวในชุดแดงเช่นกัน
“ใครบอก กูชอบ” ลี่คุน หันกลับมาทำเมินไม่สนใจแม้จะแอบเหล่สายตามองสาวสวยชุดดำคนนั้นอยู่เป็นระยะ
“สนใจก็คือสนใจสิวะ อย่าเก๊ก มึงมองเค้าจนมึงไม่ได้ยินเสียงกูเรียกขนาดนี้” วศินยิ้มอย่างรู้ทัน
ลี่คุน ได้แต่ส่ายหัวยอมแพ้ ก่อนหันไปมองสองสาวนั้น เต็มๆ ตา ก่อนจะเพิ่งสังเกตชัดๆ ว่าสาวชุดแดงที่มาด้วยกับผู้หญิงชุดดำ คือพนักงานฝ่าย AE ของบริษัทเขา
“คนชุดแดง กูรู้จัก พนักงานบริษัทกู งั้นผ่าน กูไม่ชอบเป็นสมภารกินไก่วัด”
“เชี้ย พูดสำนวนไทยซะด้วย ไอลูกครึ่งจีน”
“เออน่า เรื่องของกู กูถือของกูแบบนี้ กูไม่จีบคนบริษัทเดียวกัน เสียการปกครอง”
“คนชุดแดง มึงไม่ผ่านอะดีแล้ว เพราะกูจอง แล้วคนชุดดำล่ะ เด็กบริษัทมึงด้วยเหรอ คนนี้ก็สวยดีนะ”
“ชุดดำ” ลี่คุนมองพิจารณาอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งก่อนส่ายหัว “ไม่วะ ไม่รู้จัก”
แต่จะว่าไป เขาก็ยอมรับเลยว่า ทันทีที่เขาเห็นเธอในแวบแรก ต้องยอมรับว่าเธอสวยมาก เธอสวยดูมีเสน่ห์น่าค้นหาไม่เหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไป ปกติเวลาเห็นผู้หญิงที่ชอบมาสถานที่แบบนี้ ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะทำตัวเป็นเหมือนแม่เสือสาวล่าเหยื่อ แต่เธอคนนี้ไม่เหมือนใครเธอดูราวกับเป็นพญาหงส์ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมาเที่ยวสถานที่ยามวิกาลที่แบบนี้ได้
เพราะได้แต่แอบมองอยู่ห่างๆ จึงช้ากว่าหนุ่มเพลย์บอยคนอื่นที่เข้ามาตีสนิทสองสาว ลี่คุนกับวศินได้แต่หันมามองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา
“ไม่ทันละ” วศินยักไหล่
“กูไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะจีบ กูไม่ยุ่งอยู่แล้ว ผู้หญิงชุดดำคนนั้น คงเป็นเพื่อนกับคนในบริษัทกู คนอื่นจะเอาไปพูดเสียๆ หายๆ ได้”
“แต่ถ้ามึงจีบติด มึงจะได้หาข้ออ้างกับน้องเหม่ยหลินไง ว่าแกมีแฟนแล้ว เธอจะได้เลิกมาตามตื้อมึงไง ไม่ดีเหรอ”
ลี่คุนได้แต่ยิ้มแทนคำตอบ แต่ก็หันไปลอบมองสาวสวยในชุดดำ ที่เมื่อครู่เธอยอมรับแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากชายหนุ่มแปลกหน้ามาดื่ม ดูท่าเธอจะไม่ระวังตัวเอาซะเลยที่ยอมดื่มแอลกอฮอล์แก้วนั้น
ไม่ช้า มารีอา ก็สำลัก เพราะเธอเองก็ไม่คุ้นเคยกับแอลกอฮอล์สักเท่าไหร่
ท่าทางที่ไม่ประสีประสาของมารีอา ทำให้ลี่คุน ไม่อาจละสายตาจากเธอไปได้เลย ก่อนหน้านี้ยังมองเธอเป็นเหมือนพญาหงส์ พอเธอดื่มเข้าไปเท่านั้นแหละ เธอกลับเหมือนลูกนกหงส์หยกตัวเล็กๆ แทน ลี่คุนแอบยิ้มมุมปากไม่รู้ตัว ไม่รู้ทำไมตั้งแต่เจอเธอก็ละสายตาจากเธอไม่ได้เลย
แต่ถึงกระนั้น มันก็แค่เป็นการประทับใจเล็กๆ เขาไม่ได้คิดจะไปจีบหรือทำความรู้จักเธอ อย่างที่บอกเขาเห็นว่าสาวชุดแดงเพื่อนของเธอที่มาด้วย เป็นพนักงานในบริษัทของเขา
กว่าลี่คุนจะละความสนใจจากสาวสวยในสเปคของเขา หันมาคุยเล่นเรื่องทั่วไปกับวศินต่อ ในครู่ใหญ่ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากชายหนุ่มอีกคนที่เข้ากระชากแขนเพื่อนของเธอ
“แอนนี่ ไอหนุ่มสองคนนี้เป็นใคร ทำไมคุณกับเพื่อนมาดื่มกับพวกมัน”
ที่แท้ชายหนุ่มที่ว่านี้ คือหนุ่มไฮโซเจ้าของโรงงานที่ตามจีบแอนนี่ และเขาเป็นคนให้การ์ดสมาชิกวีไอพีของคลับเฮ้าส์ที่นี่กับเธอ
“ใจเย็นสิคะ คุณเจมส์ แอนนี่ก็แค่พาเพื่อนมาเที่ยว แล้วคุณสองคนนี้ก็แค่ผ่านมาทักทายธรรมดา ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย” แอนนี่แก้ตัวพลางพยายามแกะมือของเจมส์ที่จับข้อมือเธอไว้แน่น
แต่ทว่าเจมส์กลับหันไปเอาเรื่องสองคนนั้นต่อ
“พวกมึงสองคนรู้ไหม ว่าแอนนี่เด็กใคร” เขาตวาด
“เฮ้ย มึงอย่ารุนแรงกับผู้หญิงสิวะ กูสองคนก็แค่ชวนคุยธรรมดา”
“ธรรมดาเหี้ยอะไร นี่มันมอมเหล้ากันชัดๆ” เจมส์หันไปมอง มารีอาที่นั่งมึน หน้าแดงก่ำอยู่ข้างๆ ก่อนที่เธอจะยกมือปิดปาก เพราะรู้สึกอยากอ้วก
“อุฟฟฟ”
ทุกคนหน้าเหวอ เพราะกลัวเธอจะอ้วกใส่พวกเขาสองหนุ่มนักล่าสาวราตรีรีบขอแยกตัวทันทีก่อนที่มารีอาจจะอ้วกใส่ และก่อนที่มีเรื่องกับแฟนของแอนนี่ แม้พวกเขาจะเป็นนักล่าสาวเก็บแต้มก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ประเภทแย่งพวกมีเจ้าของ เพราะไม่ชอบปัญหายุ่งยากแบบนี้
“ไหวไหมแก” แอนนี่รีบถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อกี้ก็ไม่ได้ห้ามเพื่อน เห็นมารีอาเครียดๆ กำลังคุยสนุกเลยอยากให้เพื่อนได้ปลดปล่อยและระบายความเครียดออกมา
“ไหวๆ อุฟฟ” มารีอาตอบ พลางยกมือขึ้นว่าไม่เป็นไร แม้จะกลั้นความรู้สึกอยากจะอ้วกไว้เต็มที่
เจมส์ เห็นว่าที่นี่เสียงค่อนข้างดัง เขาจึงคว้าแขวนแอนนี่ เพื่อออกไปเคลียร์ข้างนอกต่อ
“เดี๋ยวมานะ มาร์ แกห้ามไปไหนนะ รอฉันตรงนี้”
มารีอา พยักหน้าหงึกๆ แต่ยังคงยกมือปิดปากเอาไว้แน่น พอเพื่อนรักพ้นสายตาไม่ทันไร มารีอาก็มองหาห้องน้ำ ก่อนจะรีบลุกโซซัดโซเซ เพื่อจะไปอ้วกที่ห้องน้ำ
แปลกที่เธอไม่รู้สึกแค่อยากอ้วก แต่ยังรู้สึกมึนหัวและร้อนรุ่มแปลกๆ มารีอาเพิ่งรับรู้ว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเมาเป็นแบบนี้นี่เอง
~แค่อกหักไม่น่าประชดตัวเองแบบนี้เลย~
มารีได้แต่บ่นกับตัวเองว่าไม่ดื่ม แต่ถึงแม้เธอจะคิดได้ตอนนี้ก็ไม่ทันซะแล้ว เพราะเธอรู้สึกเมาจนมึนหัวไปหมด ก่อนหน้าที่สองหนุ่มแปลกหน้ามาที่โต๊ะ เธอเองอยากโชว์พาวว่าไม่ได้อ่อนหัด จึงซัดเหล้าไปซะเยอะ
มารีอาเดินเซไปมาเพื่อตรงไปห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งทางผ่านไปห้องน้ำจากโต๊ะเธอ ต้องเดินผ่านตรงที่ลี่คุน กับ วศิน นั่งอยู่
ด้วยสายตาที่จู่ๆ ก็พร่าเบลอ มารีอาจึงรู้ว่าคอนแทคเลนส์ที่เธอเพิ่งหัดสวมใส่ไม่ชินตาหลุดหายไปหนึ่งข้าง เธอรีบขยี้ตาทันที แต่ทว่าจากที่หล่นหายไปข้าง พอขยี้ตามั่วๆ ทั้งสองข้าง จนเดินเซไปชนกับเก้าอี้ของลี่คุนที่นั่งอยู่ คอนแทคเลนส์อีกข้างเธอก็หลุดออกไปพอดี
“ว้ายย” มารีอาร้องลั่น
“คะ คุณอย่าเพิ่งขยับนะ คอนแทคเลนส์ฉันหลุด” ในสายตาที่พร่าเบลอ แถมอยู่ในที่ไฟสลัว เธอแทบจะไม่รู้เลยว่า ชายหนุ่มที่เธอกำลังเอามือไปลูบคลำตามเสื้อผ้าเขาเพื่อหาคอนแทคเลนส์ คือท่านประธานลี่คุน เจ้าของบริษัทเธอ
ส่วนลี่คุนไม่ต้องพูดถึง เขาจำเธอไม่ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าเธอคือสาวฝ่ายบัญชีบริหารที่เพิ่งเจอเธอตอนหัวค่ำ
สองมือ มารีอา ยังคงควานหาคอนเทคแลนส์ ซึ่งความเป็นไปได้แทบจะเป็นศูนย์อยู่แล้ว ที่จะหาเจอในที่มืดแบบนี้
ลี่คุน ได้แต่มองหน้า วศิน ที่แอบหัวเราะเขาอยู่ห่างๆ ที่จู่ๆ ลี่คุน เหมือนโดนสาวรุกเข้ามาหาแบบนี้ จนเขาทำตัวไม่ถูก มารีอายังคงเอามือควานหาตามตัวลี่คุนไม่เลิก แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกเวียนหัวและอยากอาเจียนมากขึ้น
“อุฟฟฟ”
พรวดดดดดดด
“เชี้ยล่ะ” วศินอุทาน
เต็มๆ บนอกเสื้อเชิ้ตสีดำของลี่คุน ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบอ้วกของมารีอา พร้อมกับร่างของเธอที่ร่วงหลับไปนอนซบอยู่ตรงหว่างขาของเขา
“เฮ้ยยยยยย”
สองหนุ่มอุทานแทบพร้อมกัน
————————-