4 โลกกลม
“ผู้หญิง/ผู้ชาย คนนี้เป็นใครครับ/คะ” เมื่อมาถึงและนั่งลงที่โซฟาห้องรับแขกเรียบร้อย สองหนุ่มสาวเอ่ยถามขึ้นพร้อมกันด้วยความสงสัย
“ตายจริงป้าลืมแนะนำเลย นี่พี่กรลูกชายของป้าเองจ้ะ”
“ลูกชาย” เมธาวีอุทานเสียงดัง
“ใช่จ้ะรู้จักกันไว้มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาพี่เขาได้ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ส่วนนี่หนูเมย์ลูกสาวเพื่อนรักของแม่ หนูเมย์จะมาอยู่ที่บ้านเราช่วงนี้ทำความรู้จักกันไว้สิลูก”
ใบหน้าคมกริบจ้องมองคนตัวเล็กรอจังหวะให้เธอหันมองเขาถึงส่งรอยยิ้มร้ายส่งให้เธออย่างตั้งใจ เมธาวีส่งรอยยิ้มแหยกลับ
โชคดีของเธอที่โทรศัพท์ของเขาดังจนต้องขอตัวออกไปคุยด้านนอก เธอใช้โอกาสนี้ถามคุณหญิงแก้วฤดีเสียเลย
“คุณป้าคะ คุณกรณ์เขาแค่มาเยี่ยมคุณป้าเฉยๆใช่มั้ยคะ”
“ตากร ก็พักที่นี่เหมือนกันจ้ะ หนูเมย์มีอะไรหรือเปล่าลูก”
-ตาย ฉันทำอะไรลงไปฉันต้องตายแน่ ๆ -เมธาวีคิด
“เมย์เกรงใจคุณป้าจังค่ะ ถ้าอย่างนั้นเมย์ออกไปเช่าห้องอยู่ข้างนอกน่าจะดีกว่าค่ะ”
“เกรงใจอะไรกันหนูจะออกไปลำบากทำไมลูก ป้าให้คนเตรียมห้องให้หนูแล้ว อยู่ที่นี่ให้สบายใจไม่ต้องคิดมาก”
“นั่นสิครับ อยู่ด้วยกันที่นี่แหละบ้านหลังใหญ่โต มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้” กรวัฒน์ที่ยืนฟังอยู่พูดแทรก
“เอ้า! กรมัวยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น เดี๋ยวช่วยน้องขนของขึ้นข้างบนด้วย ห้องติดกับห้องนอนของเรานั่นแหละ แม่ให้คนไปทำความสะอาดให้แล้ว”
คุณหญิงบอกแกรมออกคำสั่งก่อนหันไปคุยกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ทำเขาอดหมั่นไส้ไม่ได้ มารดาของเขาไปสนิทสนมกับเด็กคนนี้ตั้งแต่ตอนไหนทำไมเขาถึงไม่รู้
“เอาของขึ้นไปเก็บอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่นก่อน แล้วค่อยลงมาคุยกันต่อนะลูก”
“ค่ะคุณป้า”
“กรช่วยน้องยกของด้วยสิลูก” เมื่อเห็นบุตรชายเดินตัวเปล่าคุณหญิงแก้วฤดีก็รีบท้วงทันที
“ครับบบ” เขารับคำอย่างไม่เต็มใจนัก
“นี่ห้องของคุณ”
“ขอบคุณค่ะ”
เมธาวีพยายามใจดีสู้เสือเอาไว้ ยังไงเธอก็ต้องอยู่ที่นี่ไปก่อนการไม่สร้างศัตรูน่าจะดีที่สุด แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว เธอยื่นมือไปรับกระเป๋าจากเขาแต่เขากับไม่ยอมปล่อย จนเธอต้องออกแรงดึงจนหลุดจากมือเขา ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องแล้วปิดประตูทันที
'ซวยแล้วมั้ยยัยเมย์เอ๊ย มีเรื่องกับลูกชายเจ้าของบ้าน แล้วทีนี้จะอยู่ยังไง'
เธอบ่นให้กับตัวเองก่อนจะเดินไปสำรวจด้านใน เพื่อจะจัดการเก็บข้าวของเข้าที่ แต่หญิงสาวรู้สึกแปลกๆ เธอเดินไปที่ห้องเสื้อผ้าเปิดตู้ดูก็พบเสื้อผ้าผู้ชายอยู่เต็มตู้ เมื่อคิดได้จึงรีบเดินถอยออกมา แต่ไม่ทันเสียแล้วเจ้าของห้องตัวจริงยืนกอดอกอยู่หน้าประตูแล้ว
“ไอ้ลุงโรคจิตนายจะทำอะไร”
“ผมบอกคุณแล้วใช่มั้ยว่าถ้าเรียกผมแบบนั้นอีก คุณโดนดีแน่” ไม่พูดเปล่าขายาว ๆ ก้าวตรงไปหาหญิงสาวทันที
“ถ้าคุณทำอะไรฉัน ฉันจะร้องเรียกคุณป้า”
“ก็เอาสิ ร้องตอนนี้เลยก็ได้นะ คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณมาอ่อยผมถึงในห้องนอนของผม”
“คุณนี่มัน ไอ้ทุเรศ ไอ้..”
ฟอด
ร่างสูงโน้มลงมาหอมแก้มเธอเป็นการลงโทษ จนหญิงสาวต้องยกมือขึ้นมาปิด กรวัฒน์คลี่ยิ้มอย่างพอใจ
“อี๋ ไอ้โรคจิตหนวดคุณมันน่าขยะแขยง ถอยออกไปเลยนะไม่งั้นฉันจะเรียกคุณป้า...”
ฟอด
เขาก้มลงหอมแก้มอีกข้างของเธอ หลังมือเรียวยกขึ้นมาปิดแก้มข้างที่เขาเพิ่งหอมไปเมื่อสักครู่ไว้ เมธาวีถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจความร้อนวิ่งพล่านไปทั่วใบหน้าสวย แต่กับทำให้เขาพอใจ สายตากรุ้มกริ่มจ้องมองเธอนิ่ง ๆ
“เรียกสิ เรียกเลย ร้องให้ดัง ๆนะ เพราะห้องนี้เก็บเสียง”
“ไอ้..” ก่อนที่เธอจะพูดเขาก็เอ่ยเตือนเสียก่อน
“ถ้าด่าอีก ทีนี้จะเป็นปากนุ่ม ๆของคุณแล้วนะ” จบคำเขาเมธาวีรีบยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดปากของตัวเองไว้
“ครั้งหน้าถ้าคุณด่าผม ให้ได้ยินอีกรู้ใช่มั้ยว่าจะเจอกับอะไร” เมื่อเธอไม่ตอบเขาก็ขู่ซ้ำ
“เงียบแบบนี้แสดงว่ายังไม่รู้ งั้นเดี๋ยวผมทำให้ดูก่อน”
สิ้นคำเขาก็ใช้สองมือจับข้อมือเธอทั้งสองข้างไว้ พร้อมกระตุกร่างบางเข้ามาหา ทำเอาหญิงสาวตกใจรู้สึกกลัวว่าเขาจะทำอย่างที่พูด
“ระ..รู้ ..รู้แล้วจะไม่ทำอีกแล้ว” เธอบอกเสียงเบาตอนนี้รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกว่าทุกอย่างเกิดขึ้นไว ทุกอย่างเหนือการคาดหมายของเธอ
“ดี แค่นี้เราก็จะอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุขแล้ว”
“อืม รู้แล้วถอยออกไปได้หรือยัง”
เขาไม่ตอบแต่กลับก้มหน้าลงไปหาเธอ ให้หนวดของเขาสัมผัสกับใบหน้าของเธออย่างตั้งใจ เมธาวีหลับตาปี๋ขนลุกกับสัมผัสของเขา -นี่มันโรคจิตชัด ๆ-เธอคิด จากนั้นมือหนาเลื่อนไปจับกระเป๋าของเธอรากออกมา
“เดินตามมา”
เขาออกคำสั่งเพราะเสียงเข้ม ตอนแรกกะจะแกล้งขู่ให้เธอกลัวเท่านั้น แต่พอได้สัมผัสโดนแก้มนุ่มๆ บวกกับกลิ่นหอมอ่อนๆจากกายสาวของเธอแล้วทำให้เขาอยากสัมผัสมันอีกครั้ง
หากเขาไม่พาเธอออกไปตอนนี้ มีหวังได้พาเธอเตลิดขึ้นเตียงแทนเป็นแน่ เมธาวีเองก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำกับเธอเช่นนี้ ทั้งที่มารดาของเขาก็อยู่ในบ้านด้วย เธอเดินตามเขาไปอย่างว่าง่ายจนมาถึงหน้าห้อง
“พักผ่อนให้สบาย ถึงเวลาทานมื้อเที่ยงผมจะให้คนมาตาม”
เขาบอกขณะรากเลื่อนกระเป๋าพร้อมกับโน้มตัวลงใกล้เธอมือเรียวรีบยกขึ้นมาดันไหล่เขากันไม่ให้เขาเข้ามาใกล้อีก
“ฉันรู้แล้ว ขอร้องเถอะอย่าเอาหนวดนั่นมาโดนตัวฉันอีกมันน่าขยะแขยง”
สิ้นคำเธอก็วิ่งเข้าห้องล็อกกลอนอย่างดีใบหน้าเห่อแดงร้อนผ่าว เกิดมายี่สิบกว่าปีไม่เคยถูกใครทำแบบนี้มาก่อนเลย
'ยัยเม่นน้อยนึกว่าจะแน่ ' เขาอุทานกับตัวเองก่อนยกยิ้มที่มุมปาก มือหนายกขึ้นลูบหนวดเคราของตัวเองราวกับสงสัย