2 ขอโทษให้ดังเหมือนตอนด่า
“นี่ไอ้คุณลุงโรคจิต เลิกว่าก้นฉันแบนสักที แล้วก็คุณเจ้าของร้าน”
“ครับ”
“คุณสองคนรู้จักกัน” ดวงตาโตกลมดุถามต่อ
“ครับ”
“แล้วแบบนี้ ฉันจะจับไอ้ลุงนี่เข้าคุกได้ยังไง” เมธาวีถามอย่างหัวเสีย
“เราเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่ผมจะเป็นกลางหาความจริงมาให้คุณเอง”
“นั่นไงถ้าอย่างนั้นคุณก็เป็นพวกเดียวกันกับเขา แล้วจะให้ฉันเข้ามาในนี้กับพวกคุณทำไม....หรือว่า” คนตัวเล็กบอกพร้อมกับทำท่าทางกลัวๆ
“จะ...ใจเย็นๆ ก่อนครับ อย่าพึ่งคิดไปไกล ที่ผมพาเข้ามาในห้องนี้ก็เพื่อมาหาความจริง”
ก่อนที่หญิงสาวตรงหน้าจะคิดไปไกลธนนท์รีบอธิบาย สาวน้อยคนนี้ดูเหมือนจะไม่ไว้ใจพวกเขา ธนนท์จึงบอกอย่างใจเย็นก่อนชี้ไปที่จอทีวี ที่แสดงภาพกล้องวงจรปิด
“เรื่องเกิดนานหรือยังครับ ที่เพื่อนของผมไปจับก้นของคุณ” ธนนท์ถามพร้อมกับส่งสายตายียวนไปทางเพื่อน
“ไอ้นนท์!” กรวัฒน์ถลึงตามองอย่างไม่พอใจ
“เอ่ออออ กูแค่แซวเล่นน่า”
ธนนท์ลากเสียงยาวบอกเพื่อนที่ทำหน้าขรึมไม่สบอารมณ์อยู่ข้าง ๆ ก่อนหันไปถามหญิงสาวอีกครั้ง
“ประมาณกี่นาทีครับ ผมจะเปิดกล้องให้ดูว่าเพื่อนผมมันเป็นโรคจิตจริงๆ หรือเปล่า ถ้าเป็นจะได้พาไปรักษา” ถามแต่ก็ยังไม่วายแซะเพื่อน
“ประมาณ 15 นาทีค่ะ เมย์ต่อแถวซื้อน้ำอยู่คนที่สามจากหัวแถว”
เมธาวีบอกด้วยน้ำเสียงที่เย็นลง แถมแทนตัวเองว่าเมย์อย่างลืมตัว เมื่อเห็นเจ้าของร้านให้ความสนใจกับเหตุการณ์ที่เจอ จากนั้นทั้งสามจึงเริ่มไล่ดูกล้องวงจรปิดตามเวลาที่หญิงสาวบอก
สิ่งที่เห็นคือมีชายอีกคนเดินจากหัวแถวมาแทรกระหว่างเธอและเขา ใช้จังหวะที่ทั้งสองคนเอาแต่ก้มหน้าดูมือถือจับก้นของเมธาวี แล้วชายคนนั้นก็รีบเดินหายออกจากร้านไป จังหวะที่หันมาก็ไม่เจอคนร้ายแล้ว แต่เจอกรวัฒน์ที่ยืนก้มหน้ามองมือถือไม่รู้เรื่องอะไรเลยแทน เมธาวีหน้าแตกอย่างจังเมื่อหลักฐานชัดเจนขนาดนี้
“ยังไงครับ เห็นชัดแล้วหรือยังว่าผมไม่ได้ทำ” คนถูกกล่าวหา ต่อว่าหญิงสาวที่ได้แต่ยืนนิ่งก้มหน้างุดไม่พูดอะไร
“อ่าว นิ่ง นิ่ง อึ้งไปเลย เชื่อหรือยังว่าผมไม่ได้ทำ”
“.....”
จะให้พูดอะไรได้ในเมื่อเธอเป็นคนผิด แต่ดูสภาพเขาสิ โรคจิตเมื่อครู่ยังดูดีกว่าอีก เมธาวีคิดพร้อมกับก้มหน้างุด
“เงียบ....เงียบแบบนี้คืออะไร จะไม่ขอโทษกันหน่อยหรือไง ยัยเม่น”
“ไอ้กรเงียบไปเลยมึงอ่ะ ยังไงน้องเขาก็เป็นผู้เสียหาย ไม่แปลกที่น้องเขาจะเข้าใจมึงผิดหรอก สภาพมึงยังกับโจร”
“กวนตีนล่ะมึง พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงวะ”
“ก็หมายความอย่างที่พูดนั่นแหละ ดูสภาพมึงดิ ผมเผ้ารุงรัง หนวดเครายาวเฟื้อยเป็นกู กูก็เข้าใจผิด” เมธาวีพยักหน้าเห็นด้วยขณะที่ยังก้มหน้ามองพื้นอยู่
“ไอ้นนท์นี่กูถูกใส่ร้ายนะ ถือว่าเป็นผู้เสียหายเหมือนกันมึงเห็นผู้หญิงดีกว่าเพื่อนรึไง”
“ไอ้นนท์นี่กูถูกใส่ร้ายนะ ถือว่าเป็นผู้เสียหายเหมือนกันมึงเห็นผู้หญิงดีกว่าเพื่อนรึไง”
“เออ ๆ ช่างมันก่อน”
“ในฐานะที่ผมเป็นเจ้าของร้าน ผมต้องขอโทษคุณ…”
“เมย์ ค่ะ”
“ครับ ผมต้องขอโทษคุณเมย์ด้วยที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในร้านของผม จะให้ผมพาไปแจ้งความมั้ย”
“ไม่ต้องค่ะ ช่างมันเถอะเสียเวลาเปล่า ๆ ถือว่าทำบุญทำทานไป”
เมธาวีบอกอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะหันไปขอโทษชายอีกคนที่เธอต่อว่าเขาไว้มาก อย่างรู้สึกผิดทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ก็นะด้วยท่าทางที่น่าหมั่นไส้ของเขา ก็ทำให้เธอไม่ชอบขี้หน้าเขาอยู่ดี
“แล้วฉันก็ต้องขอโทษคุณด้วย ที่เข้าใจคุณผิด” กรวัฒน์กระตุกยิ้มอย่างพอใจ ยิ่งเห็นสีหน้าคนหน้าแตกเขายิ่งสะใจแต่มันยังไม่พอกับสิ่งที่เธอทำกับเขา
“ด่าผมต่อหน้าคนมากมายขนาดนั้น จะพูดแค่ขอโทษเบา ๆ แค่นี้เหรอง่ายไปหน่อยมั้ยคุณ”
“แล้วคุณต้องการอะไร”
“ขอโทษให้มันดัง ๆเหมือนตอนด่าผมหน่อย”
“ใครจะไปรู้ล่ะ ฉันหันมาก็เจอคุณยืนอยู่ตรงนั้น” ดวงตาโตกลมเหลือบมองหน้าเขาก่อนพูดต่อ “แล้วคุณก็เป็นแบบเนี้ย ใครเห็นใครก็ต้องคิดทั้งนั้นแหละ” พูดจบก็หลุบตาลงต่ำไม่กล้าสบตาเขา
“ผมเป็นแบบไหน” เสียงเข้มเค้นถาม
“ฉันพูดได้ใช่มั้ย”
“พูดมา”
“น่ากลัวเหมือนโรคจิต”
“นี่คุณว่าผมหน้าตาเหมือนโรคจิตอย่างนั้นหรือ” ดวงตาคมดุถลึงมองอย่างไม่พอใจ
“ก็ใช่น่ะสิ ที่บ้านคุณไม่มีกระจกให้ส่องบ้างรึไง อย่างน้อยเพื่อนคุณก็น่าจะเตือนหน่อย” เธอว่าจนเขาเริ่มควันออกหูเลยทีเดียว
“ยัยเม่นคุณนี่มัน... ไม่ดูตัวเองเลยนะ” กรวัฒน์ถึงกับเถียงไม่ออก
“ทำไม ฉันทำไม”
“พ่นขนไปทั่ว ทำผิดแล้วก็ไม่รู้จักสำนึก”
“เอาละๆ พอทั้งสองคนเลย ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกัน ก็ให้มันจบเท่านี้เถอะครับถือว่าผมขอ แกด้วยไอ้กรช่างมันเถอะเรื่องมันผ่านมาแล้ว ยังไงน้องเขาก็เป็นคนที่เสียหายมากที่สุด แล้วผมต้องขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับมันเป็นคนใจร้อน”
“ก็ได้ค่ะ เมย์เองก็ผิดถ้าไม่มีอะไรแล้วเมย์ขอตัวก่อนนะคะเมย์สายมากแล้ว”
“คุณเมย์จะไปไหนครับ ให้ผมไปส่งมั้ยแถวนี้เรียกรถยาก”
“ไม่ต้องค่ะ เมย์ไปเองได้”
“ถ้าอย่างนั้นรอสักครู่นะครับ” ว่าแล้วธนนท์ก็เดินหายไปชั่วครู่ ก่อนเดินกลับมาพร้อมน้ำแดงโซดามะนาวยื่นให้ หวังให้เธอสดชื่นและอารมณ์ดีขึ้นบ้าง
“เมย์ยังไม่ได้สั่ง”
“ถือเป็นคำขอโทษจากทางร้าน ที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ดื่มแล้วอารมณ์จะได้เย็นขึ้นด้วยครับ” เมื่อเห็นว่าเขาหวังดีเธอจึงรับน้ำใจครั้งนี้ไว้
“ขอบคุณมากนะคะ ถ้าอย่างนั้นเมย์ขอตัวก่อน” เธอรับน้ำแดงโซดาและเดินจากไป ปล่อยให้สองหนุ่มมองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง กรวัฒน์มองตามคนตัวเล็กจนเธอเดินพ้นประตูไป
“คุณเมย์เขาน่ารักดีนะ ดูซื่อ ๆ จะมีโอกาสได้เจออีกมั้ยนะ” ธนนท์มองตามอย่างคนเพ้อ
“น่ารักกับผีน่ะสิ ซื่อ ๆของมึงหมายถึงซื่อบื้อนะใช่ ทำตัวยังกับเม่น ปล่อยขนใส่คนอื่นไปทั่ว”
“ไอ้กรมึงนี่นะปากคอเราะรายจริง ๆ กับผู้หญิงและเด็กมึงก็ไม่เว้น”
“มึงดูผู้หญิงคนนั้น ไม่ถามกูสักคำ มาว่ากูเป็นตุเป็นตะ”
“มึงก็ไปตัดผมเผ้าให้มันดูเป็นผู้เป็นคนหน่อยสิวะ คนเขาจะได้ไม่เข้าใจผิดอีก”
“หน้ากูเหมือนโรคจิตเหรอว่าไอ้นนท์” ยอมรับเลยว่าคำพูดเธอทำเขาขาดความมั่นใจไปเลย
“ถ้ามองผ่านๆ ก็เหมือนนะ แต่ถ้าตั้งใจมองยิ่งเหมือนไปใหญ่” ธนนท์บอกยิ้มๆ
“นี่กวนตีนหรือพูดเรื่องจริง กูแยกไม่ออก”
“ทั้งกวนตีนและพูดเรื่องจริง”