บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 นางคือปีศาจ!!

จวนแม่ทัพเฉิน / เมืองหลวง

“เพี๊ยะ!!”

“ฮูหยินพอเถอะเจ้าค่ะคุณชาย…กลัวแล้วเจ้าค่ะ ได้โปรดสั่งให้หยุดโบยเถิดเจ้าค่ะ”

“แม่นมถง ข้ามิได้สั่งโบยเพราะจะให้เขากลัวแต่ข้าอยากให้เขาจดจำว่าไม่ควรทิ้งน้องให้ยืนตากฝนอยู่ข้างนอกนั่น!!”

เสียงไม้โบยยังดังอยู่อีกสามครั้งจนจบ “เฉินจวินเซียว” ในอายุสิบสองปีหันมามองใบหน้าของมารดาที่ยืนกอดเด็กน้อยในวัยเจ็ดปีเต็มในอ้อมกอด นางร้องไห้และขอร้องมารดาของเขาให้ปล่อยเขาไปแต่มารดาของเขาที่โกรธเพราะเด็กน้อยผู้นั้นเปียกฝนไปทั้งตัว

“ท่านป้าเจ้าคะ อย่าตีคุณชายอีกเลย”

“เด็กน้อยเจ้ารีบเข้าไปข้างในให้อาหลันอาบน้ำให้ ทำร่างกายให้อบอุ่นเร็วเข้า”

“เจียงลี่หลิน” ในวัยเพียงเจ็ดขวบหันมามองผู้เป็นพี่ชายซึ่งทั้งสองมิได้มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือด สายตาที่เขามองนางตอนนี้ยิ่งทวีความเกลียดชังขึ้นมากกว่าเดิม

เขาไม่เคยเห็นว่านางเป็นน้องสาวและไม่เคยพูดจากับนางดี ๆ สักครั้งนับตั้งแต่นางก้าวเข้ามาในจวนสกุลเฉินแห่งนี้

หกเดือนก่อน

“หมายความว่าอย่างไร…. ท่านจะบอกว่าท่านอาจารย์ของข้า…ท่านลุงของข้าตายอยู่ที่เมืองฉางงั้นหรือ แล้วท่านพ่อข้าล่ะท่านแม่ขอรับลูกอยากจะไปหาท่านพ่อกับท่านลุง”

“เซียวเอ๋อร์อย่าทำความวุ่นวาย ท่านพ่อของเจ้ากำลังจะพาท่านลุงกลับมา เจ้าอย่าได้….ฮึก!!”

สกุลเฉินสูญเสียครั้งใหญ่เมื่อแม่ทัพใหญ่ “เฉินฮ่าว” ที่นำทัพไปปราบข้าศึกแคว้นเว่ยที่เมืองฉางเพื่อช่วยท่านหมอเทวดาและครอบครัว “สกุลเจียง” ของเขาที่ถูกฆ่าล้างตระกูลเนื่องจากข้าศึกต้องการแผ่อำนาจและชิงตำรับยาสกุลเจียงไปรักษากองทัพที่ติดโรคระบาด

เมื่อทราบข่าว เฉินฮ่าวพร้อมกับกองทัพสกุลเฉินจึงเดินทางไปช่วยครอบครัวท่านหมอเทวดานามว่า “เจียงอวี่ซิน” แต่เมื่อไปถึงกลับถูกล้อมและลอบโจมตีจนเกือบเอากองทัพไปทิ้ง

โชคดีที่ “เฉินลู่” น้องชายซึ่งเป็นรองแม่ทัพยกทัพไปช่วยเอาไว้ได้ทันแต่ทว่า…กลับสูญเสียแม่ทัพใหญ่ไปอย่างไม่มีวันกลับ

“ยังมีคนรอด สกุลเจียงคนสุดท้าย…. ฝากนางด้วย”

“พี่ใหญ่!!”

นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของแม่ทัพใหญ่ที่กล่าวเอาไว้ก่อนสิ้นลม เฉินลู่หันมามองหน้าเด็กน้อยที่ตัวสั่นไปทั้งตัวและร้องไห้พร้อมกับถือผ้าเปื้อนเลือดในมือ นางคงช่วยแม่ทัพเอาไว้อย่างเต็มที่ของเด็กน้อยในวัยนี้แล้ว

“ข้าพยายามห้ามเลือดเอาไว้ และ และ…. ให้ท่านลุงดื่มยา แต่ว่า แต่…”

รองแม่ทัพเฉินดึงเด็กน้อยเข้ามากอดพร้อมกับปลอบเอาไว้ว่านั่นไม่ใช่ความผิดของนาง แม้ว่าจะมีนางอยู่หรือไม่ก็มิอาจช่วยชีวิตแม่ทัพใหญ่เฉินฮ่าวได้ บุตรีคนเดียวที่เหลืออยู่ของสกุลเจียงพร้อมกับตำราแพทย์เดินได้เดินทางมากับ “เฉินลู่”หลังจบศึกเมืองฉางที่แคว้นฉินปราบศัตรูได้ในที่สุด

“ข้าเกลียดนาง!! นางทำให้ท่านลุงต้องตาย เหตุใดต้องให้นางอยู่ที่นี่!!”

“เซียวเอ๋อร์ต่อไปนางจะเป็นน้องสาวของเจ้า รักกันเอาไว้”

“ไม่!! ข้าไม่มีทางมีน้องสาว นางคือปีศาจ!!”

“เซียวเอ๋อร์!! เจ้าหยุดนะ แม่นมถงรีบพาลี่หลินเข้าไปข้างในก่อนพานางไปอาบน้ำแต่งตัวให้สะอาด นางคงตกใจแย่แล้วรีบไปเถอะ”

สายตาของเด็กน้อยวัยหกขวบกว่าในวันนั้นมองเด็กชายที่อายุมากกว่านางด้วยความกลัวสุดชีวิต นางไม่รู้ว่าตัวเองทำสิ่งใดผิดจึงทำให้พี่ชายต่างวัยผู้นี้เกลียดนางได้ถึงเพียงนี้

“ข้าทำสิ่งใดผิดหรือเจ้าคะ ข้าก็แค่ช่วยท่านลุงผู้นั้นไม่ได้แต่ข้าก็พยายามแล้ว แต่ว่า….”

“คุณหนูเจ้าคะ อย่าได้คิดมากไปเลยเจ้าค่ะ คุณชายเพียงแค่….”

แม่นมถงพยายามหาคำพูดปลอบใจเด็กน้อยแต่ก็กลืนทุกคำลงไป สภาพนางที่เห็น “เจียงลี่หลิน” ในตอนนี้ ทั้งหวาดกลัวทั้งระแวงและน่าสงสารคนทั้งตระกูลตายหมด ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงคืนเดียวยังติดตาราวกับฝันร้าย

“อย่าคิดอะไรมากเลยนะเจ้าคะ ตอนนี้ท่านต้องเข้มแข็งและรักษาตัวให้แข็งแรงเพื่อที่จะ…มีชีวิตอยู่ต่อไป”

“แต่ข้าอยากไปอยู่กับท่านพ่อท่านแม่ ที่นี่ไม่ใช่บ้านข้าไม่มีใครรักข้า พี่ชายคนนั้นก็ยัง…ไล่ข้าไปอีกข้าไม่อยากอยู่ที่นี่”

“โธ่…คุณหนู”

แม่นมถงอดที่จะเสียน้ำตาให้กับเด็กน้อยไม่ได้ จำได้ว่านางและฮูหยินต้องผลัดกันพานางไปนอนด้วยเพราะว่า “เจียงลี่หลิน” มักจะฝันร้ายและสะดุ้งตื่นขึ้นมาทุกคืนและเป็นเช่นนี้อยู่ราว ๆ สามเดือนกว่าอาการจะดีขึ้น

“พิษที่ท่านลุงโดนจากข้าศึกคือ “พิษเฉวียนอี้” เจ้าค่ะ ใช้ยาที่ข้าผสมอยู่ทาที่แผลและกินยาขวดนี้เป็นเวลาสามวันท่านลุงก็จะดีขึ้น”

“หลินเอ๋อร์ลุงขอบใจเจ้ามากนะ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะสืบทอดวิชาแพทย์ของท่านหมอเจียงมาได้เกือบหมด เอ่อ….”

เฉินฮูหยินรีบตีแขนของสามีทันทีบัดนี้สามีนางได้เลื่อนยศเป็นแม่ทัพเฉินแทนตำแหน่งที่ว่างลงหลังจากพี่ชายของเขาสิ้นชีพไป เด็กน้อยแม้หน้าตาจะสลดลงแต่ก็ยังมีรอยยิ้มมากกว่าเดิม

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านป้า ข้าไม่เป็นอะไรแล้วจริง ๆ”

“หลินเอ๋อร์เด็กดี ท่านพ่อท่านแม่เจ้าต้องภูมิใจในตัวเจ้า อย่าคิดว่าป้าเป็นคนอื่น เจ้าจะเรียกป้าว่าท่านแม่ก็ได้นะ”

“ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะท่านป้า ข้าไม่อยาก…สูญเสียใครไปอีกแล้ว”

แม้จะยังเด็กแต่ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่นั้นเป็นแผลในใจของลี่หลินที่มิอาจหาย นางอยู่ที่จวนสกุลเฉินมาได้เกือบสองเดือนแล้วและมักจะเห็น “เฉินจวินเซียว” ฝึกดาบอยู่ที่จวนบ่อย ๆ นางพยายามทำดีกับเขาทุกวิถีทาง

“ท่านพี่เจ้าคะ ท่านป้าให้ข้ายกขนมมาให้…”

“เพล้ง!!”

มือของเด็กชายที่สูงวัยกว่าปัดไปโดนเพราะไม่ทันเห็นนางที่เดินมาด้านหลัง เมื่อเขาเห็นว่าเป็นนางก็หงุดหงิดขึ้นมาในทันที

“ซุ่มซ่ามจริง!! เจ้ามาทำอะไรที่นี่ เกะกะสายตาจริง ๆ จางเต๋อ จางอี้ ไปฝึกที่อื่นเถอะ”

""ขอรับ""

เด็กน้อยถูกทิ้งไว้ที่ลานฝึกอาวุธพร้อมกับจานที่แตกและขนมที่ปั้นเองกับมือบนพื้น นางค่อย ๆ หยิบมันใส่จานและพึ่งสังเกตเห็นว่าที่ฝ่ามือน้อย ๆ นั้นถูกจานบาดเข้า

“ตายจริงคุณหนูเหตุใดจึงได้เป็นเช่นนี้ มาเจ้าค่ะแม่นมจะใส่ยาให้นะเจ้าคะ”

“แม่นมเหตุใดท่านพี่ถึงได้เกลียดข้าเจ้าคะ ท่านพี่โกรธที่ข้าทำท่านลุงของเขาตายหรือเจ้าคะ”

“คุณหนู ท่านพี่มิได้เกลียดท่านเจ้าค่ะ เด็กผู้ชายไม่ชอบเล่นกับเด็กผู้หญิงอยู่แล้วท่านอย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ”

“แต่เขาไม่เคยพูดกับข้าดี ๆ สักครั้งเลย เวลาที่พบกันเมื่อใดเขาก็เรียกข้าว่า…ยัยตัวยุ่ง”

“โถคุณหนูเจ้าคะ นั่นเป็นคำเรียกที่พี่ชายเรียกน้องสาวอยู่แล้วนะเจ้าคะ”

“งั้นหรือเจ้าคะแม่นม”

“ใช่แล้ว ๆ ท่านอย่าได้เคืองท่านพี่ไปเลยนะเจ้าคะ”

ลี่หลินไม่กล้าบอกผู้อื่น ว่าลับหลังเวลาไม่มีผู้รู้เห็น จวินเซียวมิได้เรียกขานนางว่า “ยัยตัวยุ่ง” อย่างที่นางบอกผู้อื่น แต่เขาเรียกนางว่า “ปีศาจน้อย” ด้วยสายตาเกลียดชังอย่างลึกสุดหัวใจ

แม้นางจะเริ่มชินกับสายตาและคำพูดร้ายกาจนี้แล้วแต่ในหัวใจของเด็กน้อยก็เพียงแค่อยากมีเพื่อนเล่นในวัยใกล้เคียงกันเท่านั้น แต่ความปรารถนานี้ของนางไม่เคยได้รับจากบุตรชายแม่ทัพใหญ่เลยสักครั้ง และนับวันความเกลียดนี้ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

“มาทำอะไรที่นี่ยัยปีศาจน้อย”

เขาถามนางเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยเดินมาตัวคนเดียวที่ลานฝึกด้านหลังจวนซึ่งเป็นสนามขี่ม้าในจวนสกุลเฉิน

“ท่านป้าให้ข้ามาตามท่านพี่ไปกินข้าวเจ้าค่ะ”

“ใครเป็นพี่เจ้า!! ข้าไม่มีน้องสาวอย่าได้เรียกขานข้าเช่นนั้นอีกเป็นอันขาด!!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel