บทที่ 9 ฝึกหัด
“ไม่ต้องพูดหรอก ฉันรู้ว่าต้องยอมแพ้ยัยเพื่อนเจ้าปัญหาเนี่ย แกหยุดร้องได้แล้วดา ถ้าอยากให้ฉันเป็นเจ้าร้านแทนแก”
เขาหันหน้าหนีน้ำตาอาบแก้มของเพื่อนจึงไม่เห็นรอยยิ้มของเพื่อนเจ้าเล่ห์ที่หันมายักคิ้วกับเบญจวรรณและธิติ หล่อนยกมือป้ายน้ำตาแล้วยิ้มรื่น
“แกรับปากแล้วนะว่าจะเป็นเจ้าของร้านแทนฉัน ถ้ารับปากก็รีบ ๆ เซ็นแล้วมาจัดดอกไม้ช่อแรกตรงนี้ อีกสองชั่วโมงลูกค้าจะมารับ”
“อะไรวะ ทำตอนนี้เลยเหรอ ฉันต้องไปพบลูกค้าฉันนะโว้ย”
“จัดดอกไม้แป๊บเดียวเอง แต่ก่อนจะเรียนกับครูคนสวยแกต้องเซ็นชื่อเป็นเจ้าของร้านให้เรียบร้อยเสียก่อนนะ”
“แกขายเท่าไหร่” เขามองหน้าเพื่อนสาว ไม่ยอมลงชื่อในใบสัญญา
“ไม่แพงหรอกน่ะ เอาเงินเข้าบัญชีให้ฉันทุกเดือนไม่ต้องรีบร้อนจ่าย ฉันให้สิทธิ์แกเต็มที่ เซ็นเลยเพื่อน”
เมื่อถูกบังคับทางอ้อม ภากรจำใจเซ็นรับร้านดอกไม้ของเพื่อนรักไว้เป็นของตัวเองอย่างไม่เต็มใจ
“ขอบใจมากเพื่อน ขอบใจจริง ๆ ต่อไปนี้แกจะเปลี่ยนชื่อร้านเป็นอะไรก็ตามใจแก ฉันเปลี่ยนให้มั้ย” ภูสุดายิ้มร่า ปิดแฟ้มเอกสารแล้วยกมาวางบนตัก
“ไม่ต้องเพราะฉันไม่คิดจะทำธุรกิจนี้ แกอยากซื้อคืนก็มาซื้อได้เลย ชื่อร้านก็ให้เป็นชื่อแกยังงี้แหละ ลูกค้าเขาจำได้แล้วจะเปลี่ยนทำไม”
“ฉันก็ว่างั้นแหละ ภูสุดา ชื่ออะไรจะเพราะขนาดนี้ใช่มั้ยเพื่อน”
“เออ เพราะยัยภูสุดานี่แหละที่ทำให้ฉันต้องมาเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ที่ฉันไม่เคยวางแผนไว้ในชีวิตฉันแม้แต่แวบเดียว”
“ไม่ต้องวางแผนแต่ได้มาแบบฟลุ้ค ๆไม่ดีเหรอวะ”
“ไม่โว้ย ไม่ชอบด้วย” เขาหน้างอใส่เพื่อนสาว
“ไม่ชอบแกก็ต้องทำ มาเรียนได้แล้วลูกศิษย์สุดหล่อ เบญเอาออร์เดอร์มาดูซิ ใครสั่งบ้าง เอาที่จะมารับก่อนนะ”
เบญจวรรณเดินไปที่เคาท์เตอร์หยิบสมุดสีเขียวเดินกลับมาที่เก้าอี้รับแขก ธิติยกถังใส่ดอกไม้สดมาวางใกล้มือภูสุดา
ภากรเรียนรู้วิธีการจัดดอกไม้คร่าว ๆ จากเพื่อนรัก งานนี้ถึงเขาจะไม่ชอบแต่ก็ต้องทำตามคำสั่งเพื่อนสาว หล่อนชี้ให้หยิบกระดาษ โบว์มาวางเตรียมไว้ ดอกกุหลาบสีแดงดอกโต เขามองเพื่อนสอนที่ละขั้นตอน ไม่นานช่อดอกไม้สดสวยงามพร้อมส่งลูกค้าก็วางอยู่ตรงหน้า เขาถอนใจเฮือกแล้วพูดลอย ๆ
“สวยเหมือนกันนี่หว่า”
“เพิ่งรู้รึไงเพื่อน แกมัวแต่ทำงาน ตากับสมองเห็นแต่แบบบ้าน แบบบริษัท แบบคอนโดฯ ไม่รู้จักคิดถึงดอกไม้สวย ๆ ผู้หญิงเซ็กซี่บ้างถึงได้ขึ้นคานอยู่ยังงี้ไง” ภูสุดาว่าให้เพื่อนหนุ่มแล้วเบ้ปากเยาะหยันตรง ๆ
“ไอ้บ้า ฉันยังไม่ขึ้นคานโว้ยแค่ยังไม่เจอคนถูกใจแค่นั้นเอง”
“แสดงว่าคนที่เพิ่งหนีแกไปแต่งงานเนี่ย ไม่ใช่งั้นสิ”
“ก็..ไม่รู้สิ แค่ยังไม่อยากแต่งแต่เธออยากแต่งก็เลยต่างคนต่างไป”
ชายหนุ่มหันหน้าหนีช่อดอกกุหลาบ ความรักความหวานในหัวใจของเขามันหายไปไหนเขาก็ตอบตัวเองไม่ได้ เขารู้เพียงว่ายังไม่พบคนถูกใจจริง ๆ เท่านั้น ไม่เหมือนภูสุดาที่ไม่คบคนชาติเดียวกันแต่สนใจฝรั่ง หล่อนตัดสินใจแต่งงานกับอัลเบิร์ตแค่รู้จักเพียงปีเดียวเท่านั้น
“ตอนนี้แกเจอคนที่ใช่รึยัง” ภูสุดาถามตรง ๆ และจ้องหน้าเพื่อนอย่างรอคำตอบ
“ยัง คงยังไม่เกิดมั้ง”
“ไอ้บ้า ถ้ายังไม่เกิดตอนนี้กว่าจะโตเป็นสาวแกมิใช้ไม้เท้าช่วยเดินเหรอวะ”
“บ้า ฉันยังไม่แก่ขนาดนั้นโว้ย ไปละ”
“รีบไปแล้วก็รีบมาที่นี่ ฉันจะทำกับข้าวเลี้ยงแก พรุ่งนี้ฉันต้องเดินทางแล้ว ไม่มีเวลาอธิบายงานในร้านมากนัก ถ้ามีปัญหาโทร.ถามฉันได้ทุกเวลา”
“เออ ฉันถามทุกวันแน่”
เขายิ้มแกน ๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ประตู ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปเพียงแค่เสียงโทรศัพท์ดัง มันไม่น่าเชื่อสักนิดแต่เขาก็ต้องเชื่อเพราะร้านดอกไม้แสนสวยรอเขาเข้ามาทำหน้าที่จัดดอกไม้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
สิ่งเหลือเชื่อเกิดขึ้นกับภากรอีกครั้งเมื่อลูกค้าที่เขามาพบชอบแบบบ้านทรงไทยที่เขานำมาให้ดู แบบบ้านที่เขาไม่ได้ใช้สมองคิดแต่มีบางสิ่งบางอย่างต้องการให้เรือนไทยเป็นรูปธรรมในเร็ววันนี้