บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ปรากฏตัว

“หน้าตาก็ดี แต่ทำไมถึงหาแฟนไม่ได้ สงสัยผู้หญิงไม่กล้าเสี่ยงกับปากแก”

“โอ้โหป้า จี๊ดที่หัวใจเลยนะเนี่ย ว่าหลานชายสุดหล่อยังงี้ได้ยังไงครับ ผมพูดออกจะเพราะ”

ภากรแก้ตัวทั้งที่รู้ตัวว่าพูดจากับผู้หญิงที่เคยจีบและตามจีบเขาไม่ดีหลายคำทำให้พวกหล่อนต้องยกมือบ๊ายบายไปทีละคน สุดท้ายเขาก็ไม่มีสาวคนไหนเดินควงแต่ก็น่าแปลกที่เขาไม่รู้สึกเหงาสักนิดกลับรู้สึกสบายใจเป็นที่สุด

“นี่ ๆ จะเข้าห้องคนอื่นเขาทำไมไม่เคาะประตูก่อน ชักเอาใหญ่แล้วนะเดี๋ยวนี้น่ะ”

ภากรหันมาจ้องหน้าป้าและแม่บ้านในคนเดียวกันพร้อมกับทำหน้าดุเสียงเข้มใส่ทองสุขแต่สาวใหญ่ไม่สนใจเดินเข้ามายืนหน้าโต๊ะทำงานหลานชาย

“ทำไมจะต้องเคาะที่แกยังไม่เกรงใจป้า เคาะประตูยังกับจะพังบ้านงั้นแหละ แล้วนี่ไม่สบายรึเปล่า ทำไมตื่นแต่ดึก”

“ไม่เป็นอะไรหรอกครับแค่ฝันประหลาดๆ แค่นั้นเอง” เขาพูดเหมือนเล่น ๆ แต่ทองสุขสนใจจริง ๆ

“ฝันประหลาด ฝันยังไง ไหนเล่าให้ป้าฟังซิ”

“ยังไม่เล่าจนกว่าจะได้กินโจ๊กใส่ไข่ ใส่ขิงสดร้อนๆ ตามด้วยกาแฟอีกหนึ่งแก้ว”

“ได้ค่ะแต่ว่าต้องเล่าความฝันให้ป้าฟัง ถ้าหากกันละก็ ป้าจะไม่ให้กินโจ๊กถึงทำเสร็จแล้วก็ไม่ให้กิน” ทองสุขเดินส่ายสะโพกอวบไปที่ประตู

“มีข้อแม้กับหลานเนี่ยบาปนะครับคุณป้า” ชายหนุ่มทำเสียงล้อเลียนตามไปแต่ทองสุขไม่หันกลับมามองยังคงเดินเชิดหน้าหยิ่งออกไปเงียบ ๆ

ภากรหัวเราะกับกริยาของป้าแล้วลงมือทำงานที่ออกแบบค้างไว้ เดือนนี้มีงานออกแบบบ้าน 2 หลัง หนึ่งหลังเป็นบ้านในยุคสมัยปัจจุบันเน้นหรูเป็นสำคัญแต่อีกหลังเป็นบ้านทรงไทยที่ไม่ใช่บ้านไทยโบราณ ลูกค้าต้องการเป็นทรงไทยร่วมสมัยซึ่งเขาใช้เวลาคิดทั้งวันได้เพียงครึ่งหลังเท่านั้นจึงต้องหยุดพัก

วันนี้เขาตั้งใจจะทำให้เสร็จแต่จะไปถึงแค่ไหนนั้นอยู่ที่สมองจะสั่งการได้เร็วหรือไม่ เขาหยิบดินสอแล้วลากเส้นลงบนแผ่นกระดาษครู่หนึ่งจึงหันมามองจอคอมพิวเตอร์ เขาใช้ความทันสมัยจากคอมพิวเตอร์คู่กับการออกแบบด้วยมือสร้างงานชิ้นใหม่ อีกครู่จึงหันกลับมาที่แผ่นกระดาษ จรดปลายดินสอลงไปทันใดนั้นมือที่กำลังลากเส้นก็ตวัดไปมาอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ย! อะไรวะ”

ชายหนุ่มตกใจกับมือตัวเอง เขารีบยกมือขึ้นแต่คุณพระช่วยทำไมมันหนักราวกับก้อนหินสัก 100 กิโลกรัม ไม่มีการขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียวและยิ่งไปกว่านั้นแรงกดบนแผ่นกระดาษหนักขึ้นทุกขณะ เส้นแต่ละเส้นชัดเจน เกิดอะไรขึ้น

“เฮ้ย! เฮ้ย! หยุดสิโว้ย หยุด...หยุด”

ภากรลุกพรวดกระชากมือเต็มแรงแต่มือยังคงตวัดปลายดินสอบนแผ่นกระดาษอย่างเมามัน เขากลั้นใจแล้วออกแรงกระชากอีกครั้งและมันก็ดึงขึ้นอย่างง่ายดาย แรงกระชากทำให้มือหวืดไปกระแทกกับจอคอมพิวเตอร์

ฉับพลันนั้นเสียงร้องแหลมลึกก็ดังออกมาจากหน้าจอสี่เหลี่ยม ชายหนุ่มหันขวับจ้องไปที่จอคอมฯ แล้วเขาก็ต้องช็อกกับภาพที่เห็น

ตัวกินรีปรากฏอยู่ในจอคอมพิวเตอร์ ปากขยับขึ้นลงแขนสองข้างชี้มาที่โต๊ะทำงานของภากร เสียงแหลมกรีดร้องออกมาจากปากบาง ใบหน้าไม่ยิ้มแต่ไม่แสดงความโกรธแค้นแต่อย่างใด

หินทรายที่บัดนี้เป็นตัวกินรีมีชีวิตอยู่ในจอคอมพิวเตอร์ของภากร ชายหนุ่มตะลึงกับสิ่งที่เห็น เขาตาฝาดหรือว่าถูกผีหลอกกันแน่

ภากรรวบรวมสติสัมปชัญญะที่แตกกระเจิงเมื่อครู่กลับมาโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นเขาต้องสติแตกเป็นบ้าอย่างแน่นอน เขาหลับตาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วลืมตาขึ้นมองจอคอมฯ อีกครั้ง ปรากฏว่าหน้าจอว่างเปล่าไม่มีสัตว์ในเทพนิยายสิงสถิตอยู่ในนั้น

“มันเกิดอะไรขึ้นกับกูวะเนี่ย”

เขาพูดออกมาดัง ๆ พอดีประตูห้องเปิดออก ทองสุขยกถาดใส่ชามโจ๊กเข้ามาครู่เดียวประจวบยกถาดอีกใบใส่ขวดน้ำเย็นกับแก้วเปล่าและแก้วกาแฟตามมา

“โจ๊กร้อน ๆ มาแล้วจ้าคุณผู้ชาย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel