บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 แม่ทองสุข

“เฮ้ย!”

ภากรสะดุ้งสุดตัวลุกพรวดขึ้นนั่ง หัวใจเต้นรัวเร็ว เกิดอะไรขึ้น ใครทุบประตูกระจกมันถึงได้ดังสนั่นอย่างนี้ เขาเปิดไฟหัวเตียงสะบัดผ้าห่มออกจากตัวลุกจากเตียงเดินตรงไปที่ประตูแหวกผ้าม่านสีเทาฟ้าออก กระจกยังอยู่เช่นเดิม ไม่มีอะไรแตกหักเสียหายแล้วเมื่อครู่...

“กูฝันอีกเหรอวะเนี่ย อะไรมันจะฝันต่อเนื่องยังงี้วะ”

เขาเดินกลับมาที่เตียงนอน หยิบนาฬิกาข้อมือที่ถอดวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมาดู

“ตี่สี่ครึ่ง ไม่ต้องนอนแล้ว ขืนนอนก็ไม่หลับ เดี๋ยวตัวกินรีเข้ามาถึงเตียงละก็ยุ่งเลยกู”

แม้จะพูดติดตลกกับตัวเองแต่อดคิดไม่ได้ว่ากินรีตัวนั้นตามเขามาทำไมและเขาฝันเห็นเรื่องโหดร้ายอย่างนั้นได้อย่างไร

“ก็แค่ฝันคิดมากทำไมวะเรา ไปหากาแฟกินดีกว่า” เขาเดินไปที่ประตูห้องนอนเปิดออกแล้วก้าวออกไป

บ้าน 2 ชั้นบนเนื้อที่ 100 ตารางวาไม่มากและไม่น้อยจนเกินไปสำหรับหนุ่มโสดไร้หญิงสาวเข้ามาเป็นแม่บ้านและเอาใจทุกเช้าเย็น บ้านโปร่งมองสบายตาและอยู่สบายใจเป็นฝีมือการออกแบบของสถาปนิกหนุ่มที่มีความคิดแปลกแยกไปจากเพื่อนรุ่นเดียวกัน เมื่อสถาปนิกจะปลูกบ้านเองต้องเป็นไปตามความพอใจของเจ้าของ บ้านเดี่ยวของภากรจึงออกมาในแบบสบายๆ คลายร้อนและร่มรื่นด้วยไม้ประดับเกือบทั่วทั้งบ้าน

ห้องนั่งเล่น ห้องรับแขกใช้กระจกเป็นผนังบานใหญ่สูงจรดเพดาน ด้านนอกประดับไม้โชว์ใบ ภายในห้องมีกระถางต้นไม้จัดตามมุมเพิ่มความน่านั่งมากขึ้น ม่านมู่รี่สีครีมจะใช้ก็ต่อเมื่อแสงด้านนอกสาดเข้ามามากเกินความต้องการเท่านั้น

นายภากร ภคทวีพงศ์ ไม่ใช่ไม่หล่อ ไม่ใช่ไม่มีเสน่ห์แต่ทำไมจึงไม่มีคนรักสักที เขาจีบมาหลายราย คบกันแค่ปีเดียวหญิงสาวเหล่านั้นก็โบกมือลาเพราะอะไรน่ะหรือไม่ใช่เหตุผลง่ายๆ ว่าเราไปด้วยกันไม่ได้แต่เพราะอะไรภูสุดาเพื่อนรักเพื่อนสนิทของเขาให้คำตอบได้ดีทีเดียว

“ทำไมฝันเห็นกินรี จะเกิดอะไรขึ้นกับเรารึเปล่าวะ”

กาแฟหอมกรุ่นในแก้วเซรามิกสีขาวโชยกลิ่นเชิญชวนให้ดื่มแต่ภากรกลับถือแก้วไว้ในมือเฉยๆ ตามองตรงไปข้างหน้าเหม่อลอย สมองคิดถึงแต่กินรีที่บินเข้าชนประตูกระจกแต่ครู่เดียวเขาก็ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม

“คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็แค่ความฝัน ทำงานดีกว่า”

ชายหนุ่มถือแก้วกาแฟเดินออกจากห้องครัวเลี้ยวขวา ห้องทำงานอยู่ถัดจากมุมนั่งเล่นซึ่งส่วนมากเป็นที่นอนเล่นเสียมากกว่า ห้องทำงานของสถาปนิกไม่ได้เรียบร้อยสะอาดเอี่ยมสักนิด นอกจากโต๊ะจะรกมากแล้ว ที่พื้นยังเกลื่อนไปด้วยกระดาษที่ถูกขยำเป็นก้อนบ้างไม่เป็นก้อนบ้าง ภากรมีความสุขกับห้องทำงานรกๆ ของเขาที่คิดจะหยิบจับอะไรก็เจอมากกว่าห้องที่สะอาดสะอ้านแต่ค้นหาเครื่องไม้เครื่องมือทำงานแทบไม่เจอ

เขาเปิดประตูห้องทำงานแต่เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้จึงเดินกลับออกไปครู่เดียวก็เดินกลับเข้ามา

“ป้าสุขนะป้าสุข ต้องให้ปลุกด้วย ยังงี้ต้องหักเงินเดือนซะให้เข็ด”

“หักเงินเดือนอะไรคะคุณกรขา ใครใช้ให้คุณกรตื่นตี่สี่ครึ่งล่ะคะ ป้าตื่นของป้าตีห้าทุกวันนะคะ แล้วนี่เป็นอะไร ไม่สบายรึเปล่าคะป้าจะเอายามาให้”

ป้าสุขหรือทองสุข แม่บ้านปากจัดจ้านของหลานชายที่ตอนนี้เป็นทั้งเจ้านายเต็มตัวเพราะทองสุขขอเข้ามาเป็นคนรับใช้รับเงินเดือนจากหลานเดือนละหมื่น ป้าสุขทำงานทุกอย่างในบ้านและพ่วงประจวบสามีสุดที่รักมาอยู่ด้วย ลุงจวบทำหน้าที่คนสวนและเป็นผู้ช่วยป้าสุขทุกเรื่องที่ป้าออกปากสั่งราวกับเป็นเจ้านายเสียเอง

ภากรมักพูดยั่วเย้ากับป้าสุขรวมไปถึงลุงจวบเกือบทุกวัน บ้านหลังน้อยของเขาจึงมีแต่เสียงหัวเราะ มีบางวันเท่านั้นที่ภากรทำงานจนไม่พูดคุยกับป้าและลุงซึ่งสองสามีภรรยาก็เข้าใจดีไม่รบกวนหลานชายนอกจากทำอาหารไปให้ทานถึงโต๊ะทำงาน

อรไทกับวิทูรไม่ห่วงลูกชายคนเดียวเพราะทองสุขอาสาตามมาดูแลให้ถึงกรุงเทพฯ ภากรไม่ยอมช่วยพ่อกับแม่ดูแลไร่สตอเบอรี่และสวนผลไม้กว่า 2 ร้อยไร่ที่เชียงใหม่ เขาเป็นคนเชียงใหม่ตั้งแต่เกิดแต่เมื่อเรียนจบก็อยากทำงานให้ตรงกับที่เรียนมา สถาปนิกรูปหล่อ ผิวค่อนข้างขวา คิ้วเข้ม ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากบางหยักได้รูป คางมีรอยยักเล็กน้อย ป้าสุขเคยพูดกับภากรแบบทีเล่นทีจริงว่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel