Ep 3 ไม่สบอารมณ์
เช้าวันถัดมา พรีรดาตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่เพื่อเตรียมตัวสำหรับวันแรกในการทำงานที่บริษัทในเครือที่เมืองวินเทอร์ทูร์ ที่ทำงานแหล่งพลังงานสะอาดมันก็ไม่ได้ไกลจากบ้านที่เธอพักอาศัยเท่าไหร่นัก ดังนั้นเธอจึงมีจักรยานคันจิ๋วที่รัศมีจัดเตรียมไว้ให้ เอาไว้ปั่นมาทำงาน
หลังจากการสนทนาเมื่อคืนกับรัศมี เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและการต้อนรับที่ดี ที่เธอมอบให้ ต่างจากอีกคน เพียงแค่คิดก็ทำเอาขนหัวลุกแล้ว แต่เพราะได้ผู้ใหญ่ใจดีอย่างรัศมีจึงทำให้เธอมีความมั่นใจมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น ความคิดของเธอก็ยังไม่วายวนเวียนไปถึงชายหนุ่มที่เธอเจอเมื่อวานอีกอยู่ดี
ผู้ชายร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาคมคาย กับบุคลิกที่เย็นชา และหยิ่งจนน่าหมั่นไส้ ซึ่งเขาก็ยังเป็นเจ้าของบ้านอีกคน ก็นั่นแหละ เธอคงจะหลีกเลี่ยงจากเขาไปไม่ได้
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย พรีรดาก็ได้รับการติดต่อจากพิม พี่เลี้ยงที่จะเป็นผู้พาเธอไปที่บริษัทในเช้านี้ พิมเป็นพนักงานในบริษัทที่มีประสบการณ์การทำงานมาแล้วหลายปี และเธอได้รับมอบหมายให้ดูแลพรีรดาในช่วงเวลาที่เธอฝึกงานอยู่ที่นี่
สำหรับวันแรกในการทำงานที่บริษัทในเครือที่เมืองวินเทอร์ทูร์นี้ เธอก็เริ่มได้ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของพลังงาน และกลไกลในการทำงานของระบบต่างๆ
คนตัวเล็กที่เอาแต่ใจจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า แต่แล้วไอเจ้าความคิดบ้าๆ มันก็ดันตีกลับเข้ามาในหัวของเธออีก
“คุณคนนั้นคือสามีของคุณรัศมีสินะ” พรีรดาคิดกับตัวเอง เธอไม่สามารถลบภาพที่เด็กรับใช้ในบ้านเรียกเขาว่า “คุณผู้ชาย” และเรียกคุณรัศมีว่า “คุณผู้หญิง” ออกจากหัวได้เลย การที่เขาเป็นคนที่เงียบขรึมและเย็นชา คงจะเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่อยู่ในสถานะเช่นนั้น นี่แกเป็นบ้าอะไรไปยัยพรีม บ้าเอ้ย ก่อนที่เจ้าหล่อนจะสะบัดหัวไปมาเพื่อไล่ความคิดบ้าๆ นั้นออก
แล้วความคิดนั้นก็ถูกตัดลง เมื่อพิม หรือพิมพร เลขาอีกคนของคนร่างสูงที่เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น
“สวัสดีจ้ะ พรีม พรีรดาใช่ไหมคะ?”
“ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ คุณพิมใช่ไหมคะ?”
“ใช่จ้ะ เราพิมนะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพรีม”
“เช่นกันนะคะคุณพิม”
“เดี๋ยวเราจะพาไปแนะนำให้รู้จักเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าแผนกนะจ๊ะ วันนี้เราจะเริ่มจากแผนกพลังงานลมก่อน” พิมพรอธิบายอย่างใจดี
เมื่อไปถึงยังอีกฝั่งสำนักงานของบริษัทในเครือ พวกเธอใช้เวลาในการเดินอยู่สักพัก เพราะบริษัทนี้ทั้งใหญ่ทั้งกว้างขวาง พรีรดาเองก็อดประหลาดใจกับความทันสมัยและความใหญ่โตโอ่อ่าของบริษัทนี้เสียไม่ได้
“ที่นี่คือแผนกพลังงานลมนะคะ พรีมจะได้ทำงานที่นี่เป็นหลัก วันนี้จะได้เจอเพื่อนร่วมงานหลายคน เดี๋ยวพิมจะแนะนำให้รู้จักค่ะ” พิมพรกล่าวและพาพรีรดาเข้าไปในโซนทำงาน
แต่ในขณะที่พรีรดากำลังแนะนำตัวเองกับเพื่อนร่วมงาน
เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังขึ้น ประตูห้องทำงานถูกเปิดออก และวินเซนต์ก็เดินเข้ามาพร้อมกับทีมงานของเขาพอดี ทุกคนในห้องหยุดกิจกรรมที่ทำอยู่และเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงกว่า 192 เป็นตาเดียวกัน
ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่พรีรดาทันที เขาดูไม่ประทับใจนักกับสิ่งที่เห็น และพรีรดาเองก็รู้สึกได้ถึงความไม่พอใจที่เขาส่งมา และดูออกว่าเขาไม่ชอบขี้หน้าเจ้าหล่อนสักเท่าไหร่ เพราะมันแฝงอยู่ในสายตาคู่นั้นอย่างชัดเจน
พิมพรรีบกล่าวแนะนำ “นี่คือคุณวินเซนต์ เจ้านายใหญ่ของบริษัทเรา คุณวินเซนต์คะ นี่คือคุณพรีรดา พัชรเมธ ทีมงานใหม่ที่ได้รับคัดเลือกจากโครงการค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น พรีรดาถึงกับอึ้งไปชั่วครู่
“วินเซนต์…เจ้านายเหรอ?” เธอคิดในใจด้วยความประหลาดใจและสับสน “อ๋อ สามีคุณรัศมีคือเจ้านายเรา ก็ไม่น่าแปลกอะไร แต่ที่น่าแปลกก็คือใบหน้าอันบูดบึ้งของเขา หน้าบูดอย่างกับยักษ์วัดแจ้ง! คงไม่พอใจที่ลูกน้องอย่างเธอไปตีตนเสมอคุณรัศมีเข้า”
วินเซนต์ไม่แสดงอาการอะไรใดๆ ต่อปฏิกิริยาของเธอ เขาพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อตอบรับการแนะนำตัว จากนั้นก็หันไปสนใจเรื่องงานของเขาโดยไม่ได้พูดอะไรกับพรีรดาแม้แต่น้อย ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่วินเซนต์เดินออกไปแล้ว พิมพรก็เข้ามาอธิบายเพิ่มเติมกับเธอ เพราะดูสีหน้าของพรีรดาตอนนี้สิ
“อย่าคิดมากนะพรีม คุณวินเซนต์ก็เป็นคนแบบนี้แหละ ตอนแรกๆ จะดูเข้าถึงยากสักหน่อย แต่ถ้าเขาเห็นว่าพรีมตั้งใจทำงานจริงๆ มีความมุ่งมั่นจริงๆ เขาจะเริ่มยอมรับและเปิดใจเองล่ะจ้ะ”
พรีรดาพยักหน้า แม้จะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก “ค่ะพี่พิม ขอบคุณนะคะ ฉันจะพยายามเต็มที่ค่ะ”
… ใครอยากให้เขาเปิดใจกันละย่ะ ชิ!…
ตลอดวันแรกของการทำงาน พรีรดาพยายามตั้งใจและจดจ่อกับงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ เธอตั้งใจฟังคำแนะนำจากพิมพรและเพื่อนร่วมงานที่ช่วยแนะนำขั้นตอนการทำงานให้เธอ แต่ความคิดของเธอก็ยังคงวนเวียนอยู่กับชายหนุ่มร่างสูงที่เธอเข้าใจว่าเป็นสามีของใครบางคนนั่น บอสใหญ่ของบริษัทที่ดูเย็นชาและไม่เป็นมิตรกับเธอเอาเสียเลย
หลังจากเสร็จงานในช่วงเช้า พิมได้พาพรีรดาไปที่โรงอาหารของบริษัทเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน แต่เมื่อพวกเธอเดินเข้ามาในโรงอาหาร ทุกคนต่างก็ซุบซิบกันเล็กน้อยเมื่อวินเซนต์เดินเข้ามา พรีรดาพยายามจะไม่สนใจ แต่ก็มองตามเขาไปด้วยความสงสัย
“วันนี้บอสของเราอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่” พิมพูดเบาๆ พลางมองวินเซนต์ที่กำลังนั่งอยู่มุมหนึ่งของโรงอาหาร
พรีรดาก้มหน้ามองอาหารของเธอ “แปลกจัง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ชอบเรามากเลย” เธอพึมพำกับตัวเอง
“ว่าแต่ พรีมคิดยังไงกับคุณวินเซนต์เหรอ?”
พิมพรถามด้วยความอยากรู้
“เอ่อ... ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ รู้แค่ว่าเขาดูเย็นชาและไม่ค่อยเปิดใจให้ใครเลย” พรีรดาตอบอย่างระมัดระวัง
“ใช่ค่ะ คุณวินเซนต์เป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกมา แต่ถ้าพรีมตั้งใจทำงานจริง ๆ ก็จะเห็นว่าภายในเขาเป็นคนที่อ่อนไหวและมีความเมตตา” พิมพรยิ้มให้กำลังใจ
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ พรีรดาเดินกลับไปที่แผนกเพื่อเริ่มงานช่วงบ่าย แต่เมื่อเธอเข้ามาในห้อง ก็พบว่าวินเซนต์กำลังยืนอยู่ตรงกลางห้องกับทีมงานของเขา ดวงตาคมของเขาจ้องมองดุมาที่เธอด้วยความไม่พอใจ เธอรู้สึกเหมือนถูกตำหนิแม้จะยังไม่ทราบสาเหตุ
“คุณพรีรดา คุณมาช้าไป”
วินเซนต์กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งและเย็นยะเยือก จนทำให้พนักงานคนอื่นๆ ต่างพากันเงียบกริบ
“ในการทำงานที่นี่ ผมคาดหวังให้ทุกคนจะมีวินัยและตรงต่อเวลา”
พรีรดาตกใจและรีบตอบกลับแทบจะทันที
“ขอโทษค่ะ ฉันจะระวังมากขึ้น”
“ดี อย่าให้มีครั้งต่อไป” เขากล่าวสั้นๆ ก่อนจะหันไปสนใจเอกสารตรงหน้า
พรีรดากัดริมฝีปากของตัวเองด้วยความรู้สึกอึดอัด แต่เธอก็พยายามบอกตัวเองว่าอย่าให้คำพูดของเขามาทำให้เธอหมดกำลังใจ ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะเหลือบไปมองนาฬิกา นี่เธอช้าไปแค่ 0.25 วินาทีเนี่ยนะ!! อยากจะบ้า..!
หลังจากการประชุมสิ้นสุดลง พรีรดาออกจากห้องและถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอรู้สึกว่าการทำงานที่นี่อาจจะยากกว่าที่คิด โดยเฉพาะกับการต้องเผชิญหน้ากับเจ้านายที่ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย ตอนเย็นเมื่อเธอกลับถึงบ้านวิลเดอร์แมน พรีรดาพบกับคุณรัศมีที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขก
“กลับมาแล้วหรอจ๊ะ หนูพรีม วันแรกเป็นยังไงบ้าง?”
รัศมีถามด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“ก็... สนุกดีค่ะ” พรีรดาตอบอย่างเกรงใจ “แต่บอส... อืม... ค่อนข้างเข้มงวดนิดหน่อยค่ะ”
รัศมีหัวเราะเบาๆ “คุณวินเซนต์น่ะเหรอ เขาเป็นแบบนี้แหละจ้ะ จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่อ่อนไหวมากกว่าที่เห็นมากนะเพียงแต่เขาไม่ค่อยแสดงมันออกมาเท่าไหร่”
พรีรดาพยักหน้าอย่างคนเข้าใจ ก็ภรรยาของเขาคงจะรู้จักสามีได้ดีอย่างว่านั่นแหละ
อีกด้านหนึ่ง วินเซนต์ที่พึ่งกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่าคุณรัศมีแม่ของเขากำลังนั่งอยู่กับพรีรดา คิ้วเข้มหนาขมวดเข้าหากันอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่
“นี่เธอกลับมาแล้วเหรอ?” เสียงพูดที่แข็งกระด้าง ทำให้พรีรดาสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่ฉวีจะเอ่ยขึ้นตัดบทเสียก่อน
“มาแล้วหรอที่รัก” ว่าพลางก็ทำท่ากางมือแล้วเดินเข้าไปสวมกอด ก่อนที่ฉวีจะหอมไอ้เจ้าลูกชายสักฟ้อดสองฟ้อด คนที่ก้มหน้างุดเลี่ยงที่จะไม่เห็นพฤติกรรมนั้นคงจะเป็นใครไปไม่ได้ ก่อนที่คนตัวสูงจะชำเลืองตามองท่าทางที่น่าหมั่นใส้นั้นของเจ้าหล่อน คิดอะไรของเธอ…!
“หนูพรีมพึ่งกลับมาจากที่ทำงานค่ะ” คุณรัศมีเอ่ยขึ้นตอบ
“อืม... หวังว่าเธอจะไม่สร้างปัญหาอะไรที่บริษัท” วินเซนต์พูดจบก็เดินขึ้นบันไดไป ทิ้งให้พรีรดายืนอึ้งและงงกับความเย็นชาของเขาอีกครั้ง
“คุณวินเซนต์นี่จริงๆ เลย” รัศมีพูดพร้อมกับหัวเราะลูกชายเบาๆ
“แล้ววันนี้จะลงมาทานข้าวด้วยกันไหมละคะที่รัก?”
“ไม่ล่ะครับ ผมไม่ชอบนั่งทานกับคนแปลกหน้า …”