Ep 2 เผชิญหน้า
“คุณวินจะพักที่นี่ไหมครับ? ”
ดิเรกเอ่ยถามผู้เป็นนายเมื่อเห็นกระเป๋าใบไม่เล็กไม่ใหญ่ที่เขานำมาด้วย
“อืม.. เดี๋ยวช่วยเอาของของผมไปเก็บที่ห้องก็แล้วกัน”
เขาตอบอย่างคนไม่สบอารมณ์มากนัก เราะมีใครก็ไม่รู้น่ะสิ จู่ๆ ก็มาอยู่ที่บ้านด้วย
“ครับ” ดิเรกรับคำก่อนจะนำกระเป๋าไปเก็บ ร่างสูงกว่า 192 ยังเดินสำรวจรอบๆ บริเวณตัวบ้าน ก่อนจะหยิบเอกสารออกมาดู พรุ่งนี้เจ้าของเหมืองที่จะมาทำสัญญาเรื่องพลังงานทดแทนจะเข้ามาพบเขา และนี่ก็เป็นการเช็คความละเอียดอีกรอบ ก่อนที่มือใหญ่หนาจะค่อยๆ เก็บเอกสารนั้นใส่แฟ้มกลับเข้าที่เดิม
เขาเดินไปตามทางเดินในบริเวณลานกว้างของบ้าน ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่านอย่างแผ่วเบา เสียงกังหันลมที่หมุนอยู่เบื้องหลัง ร่างสูง 192 ยังคงเดินอย่างเงียบขรึมไปตามทางเดินไปรอบๆ สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่ทิวทัศน์ และความคิดของเขาก็ยังเกี่ยวพันกับงานที่รออยู่เบื้องหน้า
แต่แล้ว ขณะที่เขาหันไปยังอีกฝั่งหนึ่งของลานกว้าง ก็ต้องหยุดชะงักลง เมื่อเห็นร่างบางของใครบางคนที่เดินเข้ามาใกล้ สายตาคมมองจ้องดุแผ่รัศมีน่ากลัวไปยังร่างบางของใครบางคนที่เริ่มจะเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
พรีรดา หยุดยืนอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่สะท้อนบนใบหน้างดงามสวยสะอาดหมดจรดของเธอ จนดูราวกับว่าเธอกำลังส่องแสง ขณะที่ร่างบางกำลังชื่นชมทิวทัศน์รอบตัวโดยไม่ได้ทันสังเกตว่ามีใครอยู่ใกล้ๆ หรือมีสายตาคมดุกำลังจับจ้องมาที่เจ้าหล่อนอยู่ เมื่อเริ่มจะรู้สึกถึงสายตาของใครบางคนที่มองมาทางนี้ เจ้าหล่อนจึงค่อยๆ หันมองกลับไปอย่างช้าๆ
สายตาของทั้งคู่ต่างสบประสานกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ …
วินเซนต์ยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง ความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้นทันทีเมื่อมองเห็นใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้า ผิวขาวเนียนละเอียดของเธอ ดวงตาที่ดำขลับดูมีประกายเหมือนท้องฟ้ายามราตรี และริมฝีปากที่เรียวบางเป็นกระจับได้รูปของเธอนั่น ทำให้เขารู้สึกเหมือนเวลาหยุดลงชั่วขณะ
พรีรดาเองก็ไม่ต่างกัน สายตาของเธอจับจ้องมองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้า คนที่สูงตระหง่านเหมือนเทพบุตรจากวรรณคดี ใบหน้าของเขาหล่อเหลาคมเข้ม ดวงตาคมดุจเหยี่ยวที่มองมายังเธอ แต่แฝงไปด้วยความเย็นชา จะว่าแอบดุก็ยังได้ ลมหายใจของพรีรดาเหมือนจะหยุดไปชั่วครู่ ท่ามกลางความเงียบงัน ก่อนที่คิ้วน้อยๆ จะเลิกสูงขึ้นผูกโบว์อย่างอัตโนมัติ
ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากัน โดยไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปาก เขายืนมองพรีรดาด้วยสายตาที่เหมือนกำลังสำรวจเธออย่างละเอียด ดวงตาคมของเขาสื่อความรู้สึกที่ซ่อนเร้นและความสงสัย แต่ก็มีความทึ่งในความงามของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าอยู่ไม่น้อย แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่ชอบผู้หญิงสวยที่ไม่มีสมอง และอีกอย่างผู้หญิงสวยๆ เดี๋ยวนี้ก็หาง่ายซะยิ่งกว่าอะไร
ส่วนพรีรดาเอง เธอก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เธอไม่รู้จะพูดอะไรดี ทั้งยังรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดด้วยพลังบางอย่างที่ชายหนุ่มตรงหน้าส่งมา ราวกับว่าเธอกำลังทำอะไรผิด ก่อนที่ใบหน้างามจะคลี่ส่งยิ้มน้อยๆ ให้เขาก่อน แต่แล้ว…
เขาก็เป็นฝ่ายละสายตาและเบือนหน้าหนี ก่อนจะเดินหันหลังกลับไปอย่างเงียบๆ โดยไม่มีแม้แต่คำพูดอะไรใดๆ เอ่ยออกมาแม้แต่คำเดียว
เธอหันมองแผ่นหลังที่ค่อยๆ เดินห่างออกไป อย่างช้าๆ รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจที่ยังคงดังอยู่ในอก ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยมันเลยสักนิด
“ใครกัน? หยิ่งชะมัด ไอ้หล่อก็หล่ออยู่หรอก ชิ!!” เธอแอบบ่นเขาเบาๆ เพราะเจ้าหล่อนอุตส่าห์ยิ้มให้ แต่ดูท่าทางมั่นใจของเขาสิ มันน่าหมั่นใส้ชะมัด เจ้าพระคุ๊ณ ขออย่าให้เจออิตา
ขี้เก๊กนี้อีก…
“ฮัดเช้ย ..!”
ร่างสูง 192 ต้องจามฮัดเช้ยอย่างแรงเมื่อมีคนนินทาถึงเขา
“สงสัยจะแพ้ฝุ่นอีกตามเคย”
คนตัวสูงพึมพำกับตัวเองเบาๆ ในห้องทำงานเขาคิดว่าตัวเองอาจตากลมตากหมอกมากเกินไป และช่วงนี้เขาก็พักผ่อนน้อยด้วย
ในขณะที่วินเซนต์กำลังจดจ่อกับการอ่านเอกสาร ดิเรกก็เคาะประตูและเข้ามาถามอย่างสุภาพ
“คุณวินครับ คุณผู้หญิงให้ผมมาแจ้งว่าอาหารเย็นพร้อมแล้วครับ”
วินเซนต์พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันไปตอบ
“อืม.. เดี๋ยวไป”
ดิเรกมองร่างสูง 192 ด้วยสายตาแฝงความสงสัยเล็กน้อย
เพราะเขาไม่เคยเห็นเจ้านายของเขา
ดูเหมือนจะว้าวุ่นใจเช่นนี้มาก่อน คงเป็นเพราะมีคนมาใหม่ที่เข้ามาอยู่ในบ้าน ทำไมดิเรกจะไม่รู้จักนิสัยของผู้เป็นนายล่ะ รายนี้เขาชอบความวุ่นวายจากคนข้างนอกซะที่ไหน แต่ดิเรกก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
ห้องอาหารหรูใจกลางบรรยากาศที่ธรรมชาติล้อมรอบ
คนตัวสูงที่เดินสาวเท้าเข้าไปในบ้านถึงกับต้องหยุดฟังเสียงสนทนาบางอย่างที่มันดังมาจากด้านใน และก็เดาไม่ผิด เมื่อร่างสูงเดินเข้าไปในบริเวณห้องอาหาร เขาก็ต้องหยุดชะงักฟังบทสนทนาที่ดังขึ้น
“นี่หนูพรีมเรียนได้เกรดนิยมอันดับหนึ่งเลยหรอจ๊ะ มิน่าล่ะ ในใบสมัครคุณสมบัติแน่นเอี๊ยดเลย นี่แม่ยังแอบดูคะแนน toeic กับ toefl ถึงว่าคะแนนสูงลิ่วเลย”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณหญิง”
พรีรดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงถ่อมตน และยิ้มแห้งๆ
“บอกว่าให้เรียกแม่ ยังจะมาคุณหญิงอยู่อีก แล้วนี่ที่บ้าน
เรามีพี่น้องกี่คนกันล่ะจ๊ะ? ”
แต่แล้วเสียงนั้นก็ค่อยๆ จางหายออกไป ในเมื่อร่างสูงเดินไกลออกมาเรื่อยๆ เขาคงไม่คิดจะไปร่วมวงสนทนาเรื่องบ้าบออะไรพวกนั้นด้วยหรอกนะ อีกอย่างทำไมเขาจะดูไม่ออกล่ะว่ามารดาจะทำอะไร ก็กี่คนต่อกี่คนที่แม่ของเขาพยายามจัดแจงนักเรียนแลกเปลี่ยนพวกนั้นเพื่อที่จะให้มาเป็นคนของเขา
จะว่าไปนี่เราก็ปาไป 34 จะ 35 แล้ว ก็ไม่แปลกใจถ้ามารดาจะพยายามหาคู่ให้อยู่ตลอด
ในชีวิตของเขาผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาแทบจะนับคนเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่เขาเป็น introvert ตัวพ่อ หิวบ้างก็แค่ซื้อกิน แต่ส่วนมากเขามักทุ่มเทเวลาไปกับงานซะส่วนใหญ่ ด้วยความนิ่งเงียบ เฉยชากับผู้หญิง จนทำเอาแม่อย่างรัศมีถึงกับเครียดอยู่พักใหญ่ๆ เพราะนึกว่าลูกชายคนเดียวของหล่อนจะเป็นเกย์ไปซะแล้ว
“อืมนี่ เดี๋ยวให้คนเอาอาหารไปให้ผมที่สวนข้างบ้านก็แล้วกัน” เขาสั่งสาวใช้ที่อยู่แถวๆ นั้น
“และก็ไปบอกคุณหญิงด้วยว่า วันนี้ผมไม่ร่วมโต๊ะด้วย”
“ค่ะนาย”
หลังจากที่สาวใช้จัดเตรียมอาหารให้คนตัวสูงเรียบร้อย เธอก็เดินไปแจ้งยังนายหญิงของบ้าน ที่ตอนนี้คุยกันออกรสออกชาติกับนักเรียนที่มาใหม่
“คุณผู้หญิงคะ คุณผู้ชายให้มาแจ้งว่าวันนี้ขอไม่ร่วมโต๊ะนะคะ”
“อืม..”
รัศมีตอบพลางพยักหน้า ก่อนจะกวักมือให้สาวใช้ออกไป ทำไมเธอจะไม่รู้ล่ะว่าลูกชายคิดอะไร ก็คงกลัวเธอจับคู่ให้น่ะสิ
“งั้นเรามาทานกันเถอะจ้ะหนูพรีม แม่หิวจะแย่..”
พรีมรดาเอาแต่พยักหน้ารับคำสั่งอย่างว่าง่าย เธอกำลังประมวลสิ่งที่พึ่งได้ยิน “คุณผู้ชาย อย่างนั้นหรอ? ” มิน่าล่ะตอนที่เจอเขา เขาถึงไม่หันมายิ้มทักทาย คงจะกลัวคุณรัศมีเคือง แต่ก็ดีนะ เขาก็วางตัวได้ดี จะว่าไปคุณรัศมีก็ได้แฟนหล่อเหมือนกันนะเนี่ย ดูแล้วเธอน่าจะกินเด็ก แต่ก็อย่างว่าแหละนะ สมัยนี้แล้ว ใครเขามาใส่ใจเรื่องนี้กัน
ว่าแล้วก็ก้มหน้าก้มตาลงมือทานอาหารต่อ แต่ก็ยังอดแปลกใจตัวเองอยู่ไม่น้อย ที่จู่ๆ เธอก็รู้สึกขุ่นเคืองขึ้นมาซะงั้น …
“เป็นอะไรไปหรือจ๊ะ หนูพรีม? หน้ามุ่ยเชียว”
“ไม่มีอะไรค่ะ … ก่อนที่เธอจะหันมายิ้มให้รัศมี คือว่าพรุ่งนี้พรีมต้องได้เข้าสำนักงานเลยใช่ไหมคะ? ”
“อ้อ …. แม่เกือบลืมไปเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูพิมจะพาไปที่ออฟฟิศนะจ้ะ เธออายุน่าจะไม่ต่างจากหนูพรีมเท่าไหร่”
“อ๋อ… ค่ะคุณหญิง”
“เอ๋… ก็บอกแล้วไงว่าให้เรียกแม่!”
“เอ่อ … ค่ะคุณแม่”
เธอยิ้มให้รัศมีอย่างเกรงใจ อย่าบอกนะว่าเธอต้องได้เรียกคุณคนนั้นนั่นว่าคุณพ่อ บรื๋อ…. แค่คิดยังขนหัวลุก คนอะไร ขนาดยังไม่เคยได้คุย ยังเสียวสันหลังได้ถึงขนาดนี้ น่ากลัว
ชะมัด….