บท
ตั้งค่า

Ep 4 แม่ไม่ใช่ภรรยา

พรีรดารู้สึกได้ถึงความไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจนจากวินเซนต์ในทุกๆ ครั้งที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากัน ไม่ว่าจะเป็นที่บริษัทหรือที่บ้านวิลเดอร์แมนก็ตาม เขามักจะดูเหมือนว่ารำคาญเธออย่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พรีรดารู้สึกกลัวหรือท้อใจแต่อย่างใด อันที่จริง มันทำให้เธอรู้สึกท้าทายมากขึ้น เธออยากจะพิสูจน์ว่าเธอเอง ก็มีความรู้ความสามารถและสมควรได้รับการยอมรับจากเขาเช่นกัน

วันต่อมา พรีรดามาถึงที่ทำงานแต่เช้าตรู่อย่างเช่นเคย

เธอเริ่มคุ้นชินกับงานมากขึ้น และพยายามทำทุกอย่างให้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม วินเซนต์ยังคงมองเธอด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความรำคาญและยังคงไม่ไว้วางใจ

ในขณะที่ร่างบางของเธอกำลังจัดเอกสารเพื่อเตรียมงานในการจัดประชุมช่วงบ่าย วินเซนต์ก็เดินเข้ามาโดยไม่เคาะประตู ทุกคนในห้องต่างหยุดสิ่งที่กำลังทำแล้วหันไปสนใจเขา รวมถึงพรีรดาเองด้วย

“คุณพรีรดา คุณทำงานนี้มาแล้วกี่วัน?” วินเซนต์ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“เอ่อ... 3 วันแล้วค่ะ” พรีรดาตอบด้วยความสุภาพ แม้จะรู้สึกเกร็งกับสายตาที่จ้องมองมาของเขา

“แล้วทำไมคุณยังจัดการเอกสารพวกนี้ได้ไม่เรียบร้อยอีก?” เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความไม่พอใจ “ผมต้องการคนที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่คนที่มาสร้างปัญหาและล่าช้า”

พรีรดากัดริมฝีปากแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ของ

ตัวเองและไม่ให้คำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกแย่ “ขอโทษค่ะ ฉันจะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ”

วินเซนต์ถอนหายใจเบาๆ “ก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น” จากนั้นเขาก็เดินออกไปโดยไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ทิ้งให้พรีรดารู้สึกสับสนและอึดอัดกับคำตำหนิของเขา

เพื่อนร่วมงานที่อยู่ในห้องต่างเข้ามาให้กำลังใจ “อย่าคิดมากนะพรีม คุณวินเซนต์เป็นคนเข้มงวดแบบนี้แหละ” หนึ่งในเพื่อนร่วมงานปลอบใจเธอ

“ใช่ เราเองก็เคยโดนบอสตำหนิแบบนี้เหมือนกันตอนเข้ามาใหม่ๆ” อีกคนเสริมด้วยรอยยิ้ม “ถ้าตั้งใจทำงานไปเรื่อยๆ เขาก็จะเห็นเองว่าเราเก่งแค่ไหน”

พรีรดายิ้มบางๆ ให้เพื่อนร่วมงานและพยักหน้าขอบคุณ เธอตัดสินใจว่าจะไม่ยอมแพ้ต่อความกดดันนี้ เธอจะพิสูจน์ตัวเองให้วินเซนต์เห็นว่าเธอเป็นคนที่มีคุณค่าและสามารถทำงานได้ดีเช่นกัน

เมื่อกลับถึงบ้านในช่วงเย็น พรีรดาเห็นวินเซนต์กำลังยืน

อยู่ในสวนข้างบ้าน พวกเขาสบตากันอีกครั้งอย่างไม่ได้นัดหมาย คราวนี้สายตาของเขาไม่ได้ดูเย็นชาเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่มันแฝงไปด้วยความสับสนบางอย่างที่เธอไม่สามารถเข้าใจได้

“ทำไมยังไม่ไปพัก?”

เขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“ฉันเพิ่งกลับมาจากที่ทำงานค่ะ…คุณผู้ชาย” พรีรดาตอบเขากลับด้วยความสุภาพ

“อย่าเรียกฉันว่าคุณผู้ชาย!” เขาแทบจะตอบกลับในทันที น้ำเสียงแฝงไปด้วยความรำคาญ “และหยุดทำตัวเหมือนว่าฉันเป็นสามีของแม่ฉันได้แล้ว”

พรีรดาถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ “คุณหมายความว่าไงคะ? คุณเป็นสามีของคุณรัศมีไม่ใช่หรอคะ?”

วินเซนต์หลุดหัวเราะออกมาเป็นครั้งแรกที่เธอเคยเห็น “สามี? คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ รัศมีคือแม่ของผม ไม่ใช่ภรรยา”

“อะ … อ้าว ..อะไรนะคะ!?”

พรีรดารู้สึกอับอายจนแทบจะมุดดินหนี เธอไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันก็เป็นภาพที่น่ารักกับคนตรงหน้าอยู่ไม่น้อย “ฉัน...ฉันเข้าใจผิดเหรอคะ?” ก็ยังเห็นคุณรัศมีเรียกเขาว่าที่รักอยู่เลยนี่นา…

“ใช่ คุณเข้าใจผิดไปหมด” วินเซนต์ตอบพลางยิ้มเยาะ “ผมไม่แปลกใจหรอกว่าคุณจะคิดยังไง แต่คราวหน้าช่วยตรวจสอบข้อมูลให้มันดีก่อนที่จะสรุปอะไรนะครับ” เขากล่าวจบก็เดินกลับเข้าบ้านไป ทิ้งให้พรีรดายืนอึ้งกับเสียงหัวใจเต้นระรัวด้วยความขวยเขิน

เธอรู้สึกเหมือนว่าโดนเขาตำหนิอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอกลับหัวเราะกับตัวเองเบาๆ “ไม่น่าเลยพรีม! อายจนจะมุดดินหนีอยู่แล้ว!”

แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นรอยยิ้มของเขาเช่นกัน… เวลายิ้มแล้วเขาช่างดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก และอีกใจทำไมเธอต้องรู้สึกดีใจด้วยนะ ที่ได้รู้ว่าเขาไม่ใช่สามีของคุณรัศมี และเขารู้ได้ยังไงว่าเธอคิดแบบไหน นี่จะอ่านใจคนเก่งเกินไปแล้วนะ ..

และนี่คือจุดเริ่มต้นของการทำความเข้าใจตัวตนที่แท้จริง

ของเขาเสียใหม่ ชายหนุ่มที่ไม่ได้เย็นชาอย่างที่เธอคิด แต่กลับเป็นคนที่มีความซับซ้อนมากกว่าที่เธอเคยคาดคิด

หลังจากเหตุการณ์นี้ พรีรดารู้สึกว่ามุมมองของเธอต่อวินเซนต์เริ่มเปลี่ยนไป แม้ว่าเขาจะยังดูเย็นชาและดูมีท่าทีรำคาญเธอ แต่ความจริงที่ว่าเขาไม่ใช่สามีของคุณรัศมีทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะอายทุกครั้งเมื่อนึกถึงการเข้าใจผิดในครั้งนั้น

เช้าวันต่อมา พรีรดาเดินทางไปทำงานเช่นเคย เธอตัดสินใจว่าจะไม่ปล่อยให้ความอึดอัดกับวินเซนต์มารบกวนใจในการทำงานอีกต่อไป และจะพิสูจน์ตัวเองว่าเธอมีความสามารถและทำงานได้ดีไม่แพ้ใคร

วันนี้พรีรดาได้รับมอบหมายให้ทำงานร่วมกับทีมของวินเซนต์โดยตรงในการวางแผนโครงการพลังงานลมใหม่ ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสสำคัญที่จะแสดงให้เขาเห็นถึงความสามารถของเธอเอง พรีรดาตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดและเตรียมเสนอแนวคิดของเธออย่างรอบคอบ

เมื่อถึงเวลานำเสนอในห้องประชุม พรีรดากล่าวถึง

แนวคิดของเธอด้วยความมั่นใจ วินเซนต์นั่งฟังอยู่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เขาไม่แสดงออกถึงความประทับใจใด ๆ และบางครั้งยังขมวดคิ้วเหมือนกำลังคิดว่าแนวคิดของเธอมันไร้สาระ แต่พรีรดาไม่ได้ให้ความสนใจ เธอรู้ว่าเธอได้ทำดีที่สุดแล้ว

หลังจากที่เธอพูดจบ วินเซนต์ก็เอนหลังพิงเก้าอี้แล้วพูดขึ้นว่า “ความคิดของคุณ…ก็ไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด แต่ผมอยากให้คุณกลับไปแก้ไขตรงส่วนนี้” เขาชี้ไปที่เอกสารบางจุด “ตัวเลขพวกนี้ยังมีข้อผิดพลาดอยู่ ถ้าจะนำเสนอโครงการใหญ่แบบนี้ คุณต้องละเอียดกว่านี้”

แม้จะเป็นคำติเตียน แต่พรีรดากลับรู้สึกโล่งใจ เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธแนวคิดของเธอทั้งหมด “ค่ะ ฉันจะปรับปรุงตามที่คุณบอก” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

หลังจากการประชุมสิ้นสุดลง พิมเข้ามาหาพรีรดาด้วยรอยยิ้ม “ดีมากเลยพรีม วันนี้เธอนำเสนอได้ดีจริงๆ คุณวินเซนต์ก็ดูจะยอมรับความคิดของเธอบ้างแล้วนะ”

“ไม่รู้หรอกค่ะ แต่ฉันจะพยายามต่อไป” พรีรดาตอบพร้อมกับรอยยิ้ม แม้จะรู้สึกเหนื่อย แต่เธอก็รู้สึกภูมิใจในตัวเอง

ที่สามารถเผชิญหน้ากับวินเซนต์ได้อย่างมั่นใจ

ในช่วงเย็นวันนั้น ขณะที่พรีรดากำลังจะกลับบ้าน เธอพบว่าวินเซนต์ยืนอยู่ตรงทางออกของอาคารสำนักงาน เขาหันมามองเธอด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

“งานวันนี้ของคุณ… ไม่แย่” เขากล่าวเสียงเบา พรีรดาประหลาดใจกับคำพูดที่เหมือนจะเป็นคำชมจากเขา แต่ก็ไม่ทันได้ตอบอะไร วินเซนต์ก็เดินจากไปเสียก่อน

“ไม่แย่เหรอ?” พรีรดาพึมพำกับตัวเองแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย ถึงแม้คำพูดนั้นจะไม่ได้ดูใจดีนัก แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าเขาเริ่มเห็นเธอในแง่บวกบ้างแล้ว

ขณะที่เธอกลับมาถึงบ้านวิลเดอร์แมนในคืนนั้น คุณรัศมีก็ต้อนรับเธอด้วยรอยยิ้มเช่นเคย “กลับมาแล้วหรือจ๊ะ หนูพรีม วันนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ?”

“ก็ดีค่ะคุณรัศมี วันนี้พรีมได้ทำงานกับคุณวินเซนต์โดยตรงเลยค่ะ” พรีรดาเล่าให้เธอฟัง

รัศมีหัวเราะเบาๆ “เขายังดุหนูอยู่ไหม?”

“ค่ะ... ยังดุค่ะ” พรีรดาตอบพร้อมกับยิ้ม “แต่เขาเริ่มยอมรับผลงานของหนูบ้างแล้วค่ะ”

“ดีแล้วล่ะจ้ะ อย่าเพิ่งท้อใจนะ หนูพรีม บางทีเขาอาจจะดูเหมือนคนเย็นชา แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่มีหัวใจที่อบอุ่น เพียงแค่เขาไม่รู้วิธีแสดงออกเท่านั้นเอง”

พรีรดาพยักหน้า แม้ว่าจะยังไม่แน่ใจนัก แต่คำพูดของคุณรัศมีก็ทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นเป็นอย่างมาก

“ขอบคุณค่ะ คุณรัศมี”

“ฉันบอกให้เรียกแม่ แต่หนูพรีมก็ไม่เคยจะเชื่อฟัง”

รัศมีนึกย้อนกลับไปในช่วงที่ผ่านมา ที่เธอพยายามยัดเยียดใครต่อใครให้ไอ้เจ้าลูกชายของหล่อน แต่ดูเหมือนว่าคนพวกนั้นจะใจร้อนและพยายามเข้าหาเขาจนเกินไป

ซึ่งมันต่างจากคนล่าสุดที่เธอพยายามจะยัดเยียดนี่ เธอดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้ปรุงแต่ง และดูจะกลัวเจ้าลูกชายของหล่อนมากซะกว่าจะรู้สึกพิศวาสเสียด้วยซ้ำไป

แต่ถึงยังไง เธอกลับรู้สึกชอบเจ้าหนูพรีมนี่อย่างบอกไม่ถูก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel