4. ติวเตอร์ส่วนตัว
“มาวันแรกก็เข้าหาผู้ชาย หน้าไม่อาย” เสียงคุ้นหูของคนที่เดินตามหลังเหมือนจะพูดแขวะฉันอย่างไรก็ไม่รู้ จะว่าพวกเธอคุยกันก็ไม่ใช่เพราะไม่มีเสียงใครตอบกลับ
ฉันจึงตัดสินใจเหลียวหลังไปมองแล้วก็พบว่าเป็นลูกพีช ลูกติดภรรยาใหม่ของพ่อนั่นเอง
แค่เห็นหน้าฉันก็ไม่อยากที่จะคุยด้วย อยากว่าอะไรก็ว่าไปเถอะขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืด ถอนหายใจแล้วเดินตามปกติ
“ยัยลูกพีชเน่านี่ก็ขยันหาเรื่องแกจริงๆ ให้ฉันสั่งสอนให้เอามั้ย” ณิชาที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับลูกพีชตั้งแต่เราเรียนมัธยมด้วยกันถึงกับบ่นออกมา
“ช่างเถอะแก อย่าไปสนใจเลย” อะไรที่เลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยง แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ได้คิดเช่นนั้น
“ก็แค่ลูกกำพร้าที่ไม่มีใครรักเลยต้องหนีออกจากบ้านมาอยู่คอนโด นี้กะจะหาผู้ชายรวยๆ ไว้เลี้ยงดูสินะ” ลูกพีชสบถคำดูถูกออกมาจนคนที่โดนต่อว่าถึงกับชักสีหน้าไม่พอใจ ฉันหมดความอดทนแล้วนะยัยลูกพีชเน่า
“มันจะมากเกินไปแล้วนะลูกพีช ฉันอุตส่าห์ย้ายออกมาเพื่อจะได้ไม่ต้องทะเลาะกับเธอ นี่ยังจะมาหาเรื่องอะไรกันอีก”
“อยากโดนฉันตบใช่มั้ยยัยพีช แกจะคอยหาเรื่องขนมอะไรนักหนา ยัยขี้อิจฉา” ณิชารีบต่อว่าไปทันทีอย่างเหลืออดพร้อมกับถลาตัวเข้าใส่
“แกก็เข้ามาสิอีณิชา” ไม่ว่าเปล่าลูกพีชเงื้อมือขึ้นทำท่าจะตบหน้าเพื่อนรักของฉัน
“หยุดนะลูกพีช เธออย่าทำอะไรเพื่อนฉันนะ” รีบคว้าที่ข้อมือของลูกพีชทันที แต่เธอสะบัดจนมือฉันหลุดและผลักจนฉันเซและเกือบล้มหัวคะมำ ดีที่ได้ใครคนหนึ่งมาประคองไว้ได้ทันเสียก่อน
“ฝากไว้ก่อนเถอะ คนอย่างเธอไม่มีค่าให้ฉันอิจฉาหรอก จำไว้” ลูกพีชว่าจบก็เดินออกไปทันทีทำเหมือนกับว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
“เป็นอะไรมั้ยครับ” เสียงทุ้มของคนที่เข้ามาช่วยเอ่ยถามขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันดันตัวออกจากอ้อมแขนและยืนตัวตรงก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียง “พี่ณัฐ”
“ครับ พี่เอง แล้วนี่มีเรื่องอะไรกัน”
“ก็ยัยลูกพีชน่ะสิคะ คอยหาเรื่องขนมตลอดเลย” ณิชาเป็นฝ่ายตอบพี่ชายของเธอด้วยสีหน้าบึ้งตึง เพราะเธอเองก็เห็นเหตุการณ์แบบนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่พ่อรับลูกพีชเข้ามาอยู่ในบ้านและย้ายมาเรียนที่เดียวกันกับฉัน
“ลูกพีช” พี่ณัฐเอ่ยย้ำชื่อของเธอ
“ค่ะพี่ณัฐ ลูกติดภรรยาใหม่ของพ่อขนมเองค่ะ เราไม่ค่อยถูกกัน แต่ขอบคุณพี่ณัฐมากเลยนะคะที่เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ไม่งั้นขนมคงล้มหัวทิ่มแน่เลย”
“แล้วนี่พวกเรากำลังจะไปเรียนกันใช่มั้ยครับ ปะ ไปด้วยกันเลย” หลังจากพี่ณัฐเอ่ยจบพวกเราก็เดินเข้าคณะไปพร้อมกัน
พี่ชายของณิชาก็เรียนคณะบริหารธุรกิจเหมือนกับพวกเรา ดีหน่อยที่ลูกพีชไม่ได้เรียนคณะเดียวกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่เว้นต้องทะเลาะกันในคาบเรียนด้วยแน่นอน
…...
@คอนโด
.
วันนี้ฉันกับณิชาเรามีเรียนกันทั้งวันเลย ส่วนมากอาจารย์ก็จะเน้นบรรยายให้เราจดบันทึกแล้วก็สั่งให้ทำงานส่ง
แต่วันนี้ต้องเรียนเกี่ยวกับตัวเลขนี่สิ มาวันแรกอาจารย์ก็สั่งงานหินเลยแล้วเป็นงานเดี่ยวเสียด้วยสิ แง~ จะทำยังไงดีฉันยิ่งไม่ชอบตัวเลขอยู่ด้วย ‘พี่อินแจ’ คนเดียวที่นึกขึ้นได้ตอนนี้ก็คือเขา ว่าแล้วก็หอบกระดาษปากกาและหนังสือออกจากห้องไป
“พี่อินแจคะ” ฉันยืนเรียกอยู่หน้าห้อง ไม่นานเขาก็เปิดประตูให้
“มีอะไร” สายตาเย็นชาของเขาจ้องมาทางฉันและเลื่อนลงมองหนังสือที่กอดเอาไว้ที่อก
“มีเรื่องอยากรบกวนหน่อยค่ะ ขนมขอเข้าไปในห้องได้มั้ยคะ” เอ่ยพร้อมกับเผยยิ้มกว้างบนใบหน้าสวยๆ ของฉัน
“เข้ามาสิ” เจ้าของห้องอนุญาตฉันก็รีบแทรกตัวเข้าไปในห้องทันที แล้วเขาก็ปิดประตูเดินตามเข้ามา
“มีเรื่องอะไรว่ามา” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเคร่งขึงทำให้ฉันเริ่มไม่กล้าที่จะเอ่ยปากขอ
ฮึบ! สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วลองพูดออกไป เผื่อเขาอาจจะใจดีก็ได้นะยัยขนม ฉันให้กำลังใจตัวเองพร้อมกับคลี่ยิ้มอ่อนให้เขา
“พี่สอนการบ้านขนมได้มั้ยคะ นะ นะ” ส่งสายตาอ้อนสุดๆ พร้อมกับกระตุกชายเสื้อของเขาเบาๆ
“ทำเองไม่ได้เหรอ” ตอบมาแบบนี้จะปฏิเสธฉันงั้นเหรอ ไม่ได้นะลองอ้อนอีกสักหน่อย
“อือ พี่อินแจ นะนะ สอนขนมหน่อย ขนมไม่ชอบตัวเลขอะ ฟังอาจารย์สอนก็ไม่เข้าใจ นะคะ สอนหน่อยนะ” ทำหน้าเศร้าเว้าวอนอีกครั้ง หวังว่าโอปป้าว่าที่แฟนของฉันจะไม่ใจร้ายเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำงานส่งอาจารย์ไม่ได้หรอกนะ
“เอามาดูก่อน” ทันใดที่เขาเอ่ยปากฉันก็รีบยื่นงานที่อาจารย์สั่งให้กับพี่อินแจดูทันที
ตอนนี้เรานั่งกันที่โซฟาทั้งคู่ เขาเปิดดูการบ้านที่อาจารย์สั่งมาได้ไม่นานก็รับปากว่าจะสอนฉันให้
“ไม่เห็นยากเลย โง่รึเปล่าเนี่ย” เขาพูดพลางหันมามองหน้าฉัน โดนหลอกด่าไปอีกยัยขนม แต่ไม่เป็นไรค่ะขนมยอมโดนว่า ถ้ามันทำให้พี่ยอมสอน
“ก็โง่จริงนั่นแหละค่ะ ไม่งั้นคงทำได้ไปแล้วไม่มาขอให้พี่ช่วยหรอก” ตอบแบบหน้าหงอยให้เขาสงสาร
“มา เดี๋ยวสอนให้” และแล้วก็รับปากสอนฉันจนได้ โอปป้าใจดีที่สุดเลย รับบทเป็นติวเตอร์สุดหล่อไปอีก
“พี่อินแจใจดีที่สุดเลยค่ะ” ตอบพร้อมกับส่งยิ้มตาหยี
ตอนนี้เราขยับลงมานั่งตรงพื้นที่มีพรมนุ่มนิ่มปูเอาไว้อยู่ตรงข้ามโซฟาเพื่อให้ฉันสะดวกในการเขียนมากขึ้น เพราะนั่งด้านบนแล้วต้องก้มจดบนโต๊ะกลางหน้าโซฟาแล้วมันไม่สะดวก
เราทั้งคู่นั่งตัวติดกันมาก บอกตามตรงเลยว่าแทบไม่มีสมาธิฟังที่พี่เขาสอนเลย ยิ่งมองใกล้ๆ ก็ยิ่งหล่อ ผิวหน้าเนียนละเอียดสุดๆ นี่ขนาดไม่ได้ทาแป้งทับเลยนะเนี่ย ยิ่งบางจังหวะที่เขาหันมาและเผลอสบตากัน ฉันนี่แทบลืมหายใจไปเลย ‘อร๊าย ว่าที่แฟนใครเนี่ยหล่อที่สุด’ แอบกรี๊ดในใจกลัวเขาได้ยิน
“เข้าใจที่สอนมั้ย”
“...”
“ขนม เข้าใจที่พี่สอนมั้ย”
“ขะ…คะ เออ สอนถึงตรงไหนแล้วนะคะ” ตื่นออกจากภวังค์เพราะสะดุ้งเสียงของพี่อินแจ มัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยคืนนี้จะเสร็จมั้ยเนี่ยงานของฉัน
“พี่สอนถึงตรงนี้ ก็ไม่มีสมาธิแบบนี้ไง ถึงได้เรียนไม่รู้เรื่อง” อือ เขาดุฉันด้วย แค่เผลอแป๊บเดียวเอง แต่เมื่อกี้เขาแทนตัวเองว่า ‘พี่’ อย่างนั้นเหรอ ดีใจอะ
“ขอโทษค่ะพี่อินแจ ขออีกรอบนะคะ” ส่งสายตาเว้าวอนไปอีกรอบ เขาก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรและเริ่มสอนใหม่ เอาจริงคราวนี้ฉันจะตั้งใจฟังละ กลัวเขาจะว่าให้อีก เดี๋ยวจะพลอยไม่อยากสอนไปด้วย
“ขอบคุณมากเลยนะคะพี่อินแจ ถ้าไม่ได้พี่ช่วยขนมคงทำไม่ได้แน่ ๆ เลย” ตอนนี้งานของฉันเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ไม่เป็นไร” เขาตอบกลับสั้นๆ
“ไม่แทนตัวเองว่าพี่แล้วเหรอคะ เมื่อกี้ขนมได้ยินพี่แทนตัวเองว่าพี่ น่ารักดีออก” โดนฉันหยอดไปอีกหนึ่งพร้อมกับยิ้มหวานๆ และกระพริบตาปริบๆ เพื่อรอดูปฏิกิริยา แต่เขาก็ไม่เผลอยิ้มให้ฉันเลย
“แล้วแต่อารมณ์” เสียงแข็งขึงตอบกลับมาตามสไตล์หนุ่มหล่อแสนเย็นชา
ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้วสิ พอเริ่มสอนเขาก็ดูเหมือนเป็นอีกคนที่พูดเยอะกว่าปกติ ดูเป็นกันเองกว่านี้นิดหน่อย ตอนนี้เริ่มเข้าสู่โหมดเย็นชาอีกละ ไม่ได้การละฉันจะต้องหาวิธีที่ต้องทำให้เขายอมเปิดใจพูดดีๆ กับฉันให้ได้
“ขนมขอไลน์พี่อินแจได้มั้ยคะ”