ปิ๊งรักรุ่นพี่จอมซึน

83.0K · จบแล้ว
J.Jusmin
40
บท
16.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

จีบรุ่นพี่มันจะยากแค่ไหนกันเชียว อยากเมินก็เมินไปเถอะ เพราะฉันจะรุกจนกว่าจะได้เป็นแฟน เรื่องย่อ ขนม สาวโก๊ะที่ยังไม่เคยมีแฟน แอบปิ๊งรุ่นพี่จอมซึนที่อยู่ข้างห้อง แค่เห็นกันครั้งแรกก็แอบชอบและคอยตามจีบอยู่เรื่อยมา แต่พ่อคนซึนนี่ก็จีบยากจีบเย็น ขนมหาวิธีต่างๆ นาๆ มาใช้ก็ยังไม่รู้ตัวสักทีว่าโดนสาวจีบ แต่ใครจะคิดว่าวันหนึ่งเขาจะตกลงเป็นแฟนกับขนมแบบงงๆ งงที่ว่าคบกันปุ๊บก็อุ่นเตียงกันปั๊บ แต่เรื่องของพวกเขายังไม่จบอยู่แค่นี้ เพราะมีผู้หญิงอีกคนที่จะไม่ยินยอมให้พวกเขาคบกันได้ง่ายๆ ฝากนิยายแนวฟีลกู๊ด น่ารักๆ ของ เจ จัสมิน ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกท่านด้วยนะคะ

นิยายรักโรแมนติกฟินๆ18+นักศึกษานิยายรัก

1. พี่ชายข้างห้อง

@คอนโด

.

#KhanomTalk.

.

วันนี้ทั้งวันวิ่งวุ่นอยู่กับการขนของเข้ามาอยู่คอนโดใหม่ที่แม่ซื้อเอาไว้ให้เพื่อเป็นของขวัญวันเรียนจบ แต่ฉันคงต้องย้ายเข้ามาอยู่ก่อนเพราะถึงวัยที่ต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว และอีกหนึ่งเหตุผลก็คือทนอยู่ที่บ้านไม่ไหวเพราะลูกติดภรรยาใหม่ของพ่อ

มือสองข้างถือของพะรุงพะรังเข้ามาในลิฟต์ และยังมีกล่องเล็กอีกสองกล่องวางอยู่ที่พื้น ด้วยความสูงของฉันที่สูงเพียงแค่ 160 เซนติเมตรเท่านั้น แถมยังถือของอีกทำให้ไม่มีมือข้างไหนว่างที่จะกดลิฟต์ได้เลย

แต่แล้วก็มีชายหนุ่มใจดีคนหนึ่งที่สวมเสื้อสเวตเตอร์สีดำ กางเกงยีนสีซีดขาดหัวเข่านิดๆ แถมยังใส่หมวกแก๊ปอาดิดาสสีดำที่ถูกดึงลงมาจนแทบไม่เห็นดวงตา เดินตามหลังเข้ามาในลิฟต์แล้วก็กดปุ่มชั้นให้ เพราะฉันพยายามเอาข้อศอกกดปุ่มลงไปแล้วแต่มันก็ไม่โดนสักที

“ขอบคุณค่ะ”

ดวงตากลมโตดุจตุ๊กตาบาร์บี้ของฉันเมื่อช้อนสายตาขึ้นมองคนตัวสูงที่กดลิฟต์ให้ถึงกับตาโต โอ้แม่เจ้า ด้วยรูปร่างของคนตัวสูงที่มองจากสายตาดูแล้วเขาน่าจะสูงราว ๆ180 เซนติเมตรได้ ผิวพรรณขาวผ่องออร่ามาก จมูกก็โด่งเป็นสันเห็นแล้วอยากลองลูบดู โดยรวมแล้วคือหล่อมาก หล่อตะโกน พระเอกเกาหลีสุดๆ เห็นแล้วแอบเขินจนเกือบบิดตัว ‘โอปป้า’ เผลอแอบเรียกในใจ หวังว่าเขาคงจะพักอยู่ที่นี่นะ เราจะได้เจอหน้ากันบ่อยๆ

“...” เงียบ ไร้เสียงตอบกลับใดๆ

ได้แต่แอบมองเพราะไม่กล้าจ้องตรงๆ เขาดูเย็นชาและก็หยิ่งมาก ตั้งแต่เข้ามาในลิฟต์ยังไม่มองมาทางฉันเลย

ขนาดฉันเอ่ยขอบคุณก็แล้วเขาก็ยังไม่มองหน้าด้วยซ้ำ เฮ้อ โอปป้าไม่สนใจ แต่ไม่เป็นไรค่ะหล่อแบบนี้ยัยขนมให้อภัย โดนผู้ชายตกแล้วค่ะตอนนี้

ลิฟต์ก็ได้หยุดนิ่งเมื่อขึ้นมาถึงชั้น 20 จากทั้งหมด 35 ชั้น ผู้ชายที่ดูมีอายุมากกว่าฉันเพียงแค่ไม่กี่ปีก็ได้ก้าวขายาวๆ ออกไปทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ได้แต่มองตามแผ่นหลังของเขากระพริบตาปริบๆ

สองมือยังคงถือของเต็มไม้เต็มมือ แถมยังมีกล่องเล็กวางข้างล่างอีก ฉันจึงใช้เท้าค่อยๆ เขี่ยออกไปทีละนิด ทีละนิด เพื่อให้พ้นประตูลิฟต์ เป็นคนตัวเล็กก็เหนื่อยแบบเนี่ย แถมวันนี้ยังต้องขนของเข้ามาอยู่ที่คอนโดใหม่คนเดียวอีก เฮ้อ ชีวิต

“อยู่ห้องไหน” คนตัวสูงเอ่ยถามเสียงเรียบ พร้อมกับก้มลงยกกล่องที่วางตรงพื้นขึ้นมาทั้งสองกล่อง

ฉันรีบเงยหน้าขึ้นมองทันทีพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ หล่อแล้วยังมีน้ำใจ ไม่คิดว่าเขาจะหันหลังกลับมาแล้วยังช่วยถือของอีกด้วย

“ห้อง 2029 ค่ะ”

หลังจากที่รู้คำตอบเขาก็เดินนำหน้าไป “เห็นเย็นชาแบบนี้แต่ใจดีที่สุดเลย” เผลอชมขณะเดินตามหลัง ดีใจจังได้อยู่ชั้นเดียวกันด้วย อันนี้มโนเองนะว่าต้องใช่ ฉันแอบยิ้มแล้วรีบเดินตามไปจนมาถึงหน้าห้องของตัวเอง

“ย้ายมาอยู่ใหม่” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามด้วยใบหน้าเรียบเฉยหลังจากที่เขาวางกล่องลงที่พื้นเสร็จ แต่ฉันก็รู้สึกดีใจนิดๆ นะที่พี่เขาถามฉันกลับมาบ้างแล้ว

“ค่ะ พี่ก็พักอยู่ที่นี่เหรอคะ” ฉันรีบถามออกไป แต่สิ่งที่ได้รับคือใบหน้าเย็นชาที่เดินจากไปโดยไร้เสียงตอบกลับมา

ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรเขามากหรอกอาจจะเป็นคนมีบุคลิกแบบนี้อยู่แล้วก็ได้ ว่าแล้วก็หาคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าห้องไป เพราะวันนี้ยังมีของที่ต้องจัดอีกเยอะ

พ่อนะพ่อ ตั้งแต่แต่งงานใหม่ก็ไม่ค่อยมีเวลาให้เลย ทิ้งให้ฉันอยู่ที่บ้านกับยัยลูกพีชลูกติดภรรยาใหม่ที่เอาแต่หาเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน จะว่าแอบน้อยใจพ่อก็ได้นะแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรท่านหรอก

ตั้งแต่แม่ของฉันเสียไปเมื่อสองปีก่อน พ่อก็เอาแต่เศร้าไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานอยู่หลายเดือน จนทำให้บริษัทที่ร่วมกันสร้างกับแม่เกือบจะไปไม่รอด ดีที่ได้น้าโสเข้ามาช่วย

เธอทุ้มเงินหลายล้านเพื่อช่วยพยุงบริษัทให้กลับมาดีได้ดังเดิม พ่อจึงตอบแทนด้วยการแต่งงานและรับเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย

อีกไม่กี่วันฉันก็ต้องเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว จึงได้ขออนุญาตย้ายมาอยู่ที่คอนโดเพื่อที่จะได้มีสมาธิในการเรียน และไม่ต้องคอยทะเลาะกับยัยลูกพีชทุกวี่ทุกวัน

ต่อหน้าพ่อกับน้าโสเธอก็พูดคุยกับฉันดี แต่พอลับหลังก็หาว่าฉันกับพ่อติดหนี้บุญคุณแม่ของเธอ แค่คิดก็เสียอารมณ์ไปเก็บของต่อดีกว่า

ฟู่~ เหนื่อยชะมัด กว่าจะเก็บของเสร็จก็ปาไปเกือบสองทุ่ม ขณะที่ฉันกำลังจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูร้านอาหารที่อยู่แถวนี้เพราะท้องนั้นหิวเอามากๆ ก็ได้เห็นข้อความที่เพื่อนรักเพียงคนเดียวที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกัน ได้ส่งเข้ามาตั้งแต่ห้าโมงแต่ยังไม่ได้เปิดอ่าน

…..

-Chat-

Nicha: แกทำอะไรอยู่

Khanom: ฉันพึ่งจัดของเสร็จ เหนื่อยมากแล้วก็หิวด้วย

Nicha: ขอโทษนะแกที่วันนี้ฉันไม่ว่าง ไม่งั้นฉันจะไปช่วยแกแล้วเนี่ย

Khanom: ไม่เป็นไรแก ของไม่ได้มากมายอะไร

Nicha: นอนคนเดียวไม่กลัวผีเหรอ ให้ฉันไปนอนเป็นเพื่อนมั้ย เดี๋ยวฉันให้พี่ณัฐไปส่ง

Khanom: ฉันนอนได้ แกไม่ต้องห่วง

Nicha: (อ่านไม่ตอบ)

Khanom: วันนี้ฉันเจอเพื่อนบ้านด้วยนะ เป็นผู้ชาย หล่อ เกาหลีฝุดๆ แถมยังช่วยฉันถือของมาวางไว้หน้าห้องด้วย

Nicha: อร๊าย อิจฉาแกอะ ถ้าถึงขั้นแกเอ่ยปากชมขนาดนี้แสดงว่าหล่อเวอร์ อยากเห็นหน้าเลยอะ

Khanom: หล่อมากกกกก แต่เย็นชาอะ

Nicha: สมัยนี้เค้ากำลังฮิตผู้ชายเย็นชา

Khanom: ไม่คุยกับแกแล้ว ฉันขอไปหาอะไรกินก่อน หิว ง่วง เดี๋ยวจะอาบน้ำนอนละ

Nicha: โอเค ฉันไม่กวนแกละ บาย

Khanom: บาย

…..

มัวแต่พิมพ์คุยกับณิชาจนเวลาล่วงเลยเกือบสามทุ่มฉันเลยไม่ได้สั่งอะไรมากิน ดีที่ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากซูเปอร์มาร์เก็ตติดมาด้วยอย่างน้อยก็คลายความหิวไปได้หนึ่งมื้อ ‘เห็นฉันเป็นลูกคุณหนูแบบนี้ฉันก็กินง่ายอยู่ง่ายนะคะ’

หลังจากที่ท้องอิ่มและอาบน้ำเสร็จแล้วฉันเลยเลือกที่จะออกไปรับลมชมบรรยากาศกลางคืนของที่อยู่ใหม่ที่นอกระเบียง

คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงและมีดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้าเลย ‘อากาศดีจัง’ หลับตาพริ้มพร้อมกับกางสองแขนพาดราวระเบียงสูดกลิ่นสดชื่นเข้าปอด

พอลืมตาขึ้นเหลียวไปทางซ้ายกลับพบพี่ชายเย็นชาคนนั้นกำลังยกโทรศัพท์ออกจากหูคล้ายกำลังวางสาย “พี่อยู่ห้องข้างๆ นี้เองเหรอคะ” ฉันถามออกไปพร้อมกับคลี่ยิ้มหวาน

“...” เงียบ ไร้เสียงตอบกลับแล้วเดินหนีเข้าห้อง

อ๊าก อ๊าก~ เสียงอีกาลอยขึ้นมาทันทีเลยจ้า

ฉันถึงกับทำหน้าไม่ถูก นี่เขากล้าเมินฉันเหรอ คนอะไรคุยด้วยก็ไม่ตอบแถมยังเดินหนีฉันอีก ชิ แลบลิ้นทำหน้าล้อเลียนก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไปนอน อยากจะรู้นักว่าจะเย็นชาแบบนี้ไปได้ตลอดเลยรึเปล่า