บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 มีงานเข้า

ที่ห้องประชุม บริษัท AAA

“เป็นงัยณัฎฐ์ เห็นว่าเดือนนี้ ทีมนายทำท๊อปฟอร์มปิดยอดขายสูงสุดอีกแล้ว”

บารมีทักทายพร้อมมองณัฏฐ์ด้วยความชื่นชม ถ้าพูดกันตรงตรงเขาเองก็ได้ทีมของณัฏฐ์นี่แหละที่พอเป็นหน้าเป็นตาให้ได้ ยอดขายได้ตามเป้า ปัญหาในงานก็ไม่ค่อยมี เพราะณัฏฐ์สามารถดูแลและจัดการได้เป็นอย่างดี

“โชคเข้าข้างครับพี่ ผมทำบุญมาเยอะ เนี่ยต้องไปแก้บนหลายวัดเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

ผมตอบติดตลกไปแบบนั้น แล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี พลางนึกในใจว่า ก็เกือบจะทำท๊อปฟอร์มไม่ได้แล้วเหมือนกัน นี่ดีนะที่ผมยังพอมีเสน่ห์ดึงดูดคุณปุ๊กได้อยู่บ้าง

“แล้วลูกค้าทีมนายแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง นายต้องออกแรงเยอะมั้ย”

“เต็งหนึ่ง กับ อดิเทพสองคนนี้เขาดูแลยอดขายกับลูกค้าเขาได้ค่อนข้างดีเลยครับ มีแต่จุ๊บแจงที่น้องยังใหม่ ยังต้องประคับประคองอยู่บ้าง แต่น้องเขาก็มีความพยายาม ตั้งใจทำงานและทุ่มเทสูงมากครับ”

“แสดงว่าสองหนุ่มของนายนี่ ช่วยผ่อนแรงนายได้เยอะเลยสินะ”

บารมีกล่าว พร้อมเอามือจับที่ปลายคางพยักหน้าเบาเบา เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง

ผมเห็นอาการแบบนี้ของพี่บอมบ์แล้ว ทำไมผมถึงรู้สึกเสียวสันหลัง เย็นวาบขึ้นมาทันที

“เอ่อ... พี่บอมบ์กำลังจะบอกอะไรผมหรือเปล่าครับ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า.. อะไรกัน คุณเซลส์มือทองหัวหน้าทีมใหญ่ของบริษัท มีอะไรที่ทำให้คุณต้องกลัวด้วยหรือครับ”

บารมีหัวเราะร่วน

“ดูสายตาพี่ตอนนี้ ผมว่า มันต้องมีเรื่องแน่แน่เลย”

ผมพูดเบาเบา พร้อมมองหน้าพี่บอมบ์สังเกตอาการต่อ

“โอเค .. เข้าเรื่องเลยละกัน นายจำเซลส์ทีม B ที่ชื่อ “ธนพัฒน์” ได้มั้ย”

“อ๋อ.. จำได้ครับ คนนี้เขาดูแลงานโปรเจคของโรงงาน ขายเก่ง ยอดขายสูงปรี๊ด เป็นลูกรักของท่านประธานเลย”

ผมตอบอย่างนั้นไปตามความรู้สึก

“แล้วนายอยากเป็นลูกรักของท่านประธานบ้างมั้ยล่ะ”

“ห๊ะ.. อะไรนะครับ”

ได้ฟังประโยคนี้จากปากพี่บอมบ์ผมถึงกับเหวอ ตาโต อ้าปากค้าง

“ตกใจอะไร.. ก็แค่งานขาย เป็นงานที่นายถนัดอยู่แล้ว สบายสบาย ตกลงตามนี้นะ”

“เดี๋ยวก่อนครับพี่บอมบ์ ผมงงไปหมดแล้ว ทำไมพี่เอางานคุณธนพัฒน์มาให้ผมละครับ แล้วคุณธนพัฒน์เขาจะไปดูส่วนไหนล่ะครับ”

ผมเองก็งง เลยต้องถามหาความจริงกับพี่บอมบ์อีกครั้ง

“เอาเป็นว่า สั้นสั้นนะ คุณธนพัฒน์ เขาลาออกแบบกระทันหัน คาดว่าอาจจะถูกซื้อตัวไปบริษัทคู่แข่ง ไม่มีคนดูแลต่อ แล้วตอนนี้ทางโรงงานกำลังมีโปรเจคใหม่ ซึ่งพลาดไม่ได้ เลยอยากให้นายไปช่วยดูแลต่อ”

“พี่บอมบ์ครับ แต่ผมกังวลว่า ผมจะทำไม่ได้ ผมไม่มีความรู้ด้านวิศวกรรมเลย แล้วผมจะไปขายงานโปรเจคได้อย่างไรครับ”

ผมตอบไปด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล ก็แน่สิ ผมจบสายบริหารการจัดการมา ความรู้เชิงวิศวะเป็นศูนย์ หรือจะเรียกว่าติดลบก็ได้นะครับ แล้วผมก็คงแก่เกินกว่าจะไปเรียนรู้เรื่องยากๆ หนักสมองแบบนั้นได้อีกแล้ว

เฮ้อ..... มันคือเสียงถอนหายใจของผมเอง

“นายคิดว่านายต้องการอะไรมาช่วยซับพอร์ตบ้าง ที่จะทำให้นายทำงานนี้ได้”

“หาสมองกลมาใส่ในหัวผมเลยละกัน อยากได้อะไรก็กดปุ่มเอา ให้มันตอบแทนผมไป”

ผมตอบแบบกวนกวนหัวหน้าไปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่

“ตกลงนายได้สิทธิ์นั้น”

บารมียิ้มที่มุมปาก แล้วมองไปที่ลูกน้องหนุ่มไฟแรง ที่ตอนนี้ดูจะเสียอาการอย่างแรง

“พี่บอมบ์...... พี่เล่นตลกอะไรกับผมเนี่ย ผมเครียดอยู่นะครับ”

ผมบ่นเสียงดังใส่ พร้อมทำหน้างอ นี่ผมกำลังเครียดอยู่นะ แต่หัวหน้าผมนี่สิ ทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยหรือไร มาทำตลกกับผมอยู่ได้ จะเอาสมองกลที่ไหนมาให้ผมกดปุ่มเล่า ฮึ

“ใจเย็น ใจเย็น ไอ้น้องรัก พี่ไม่เคยเห็นเราอารมณ์เสียขนาดนี้มานานแล้วนะ ฮ่าฮ่าฮ่า”

ยังยัง ยังไม่หยุดยียวนป่วนประสาทผมอีก หัวหน้านะ หัวหน้า

“พี่คุยกับทางโรงงานมาแล้ว และเขาก็เตรียมสมองกลไว้ให้นายแล้วด้วย นายไม่ต้องกังวล ทุกครั้งที่นายไปขายงาน ไปหาลูกค้าทางโรงงานจะมีวิศวกรประกบไปกับนายด้วย 1 คน”

“.....”

“นายมีหน้าที่สร้างความสัมพันธ์ กับ ขาย สำหรับเรื่องทางด้านเทคนิคข้อมูลเชิงวิศวกรรมต่างๆ โรงงานจะเป็นคนตอบเอง แบบนี้รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง”

พี่บอมบ์อธิบายเสียยืดยาว แล้วยิ้มกว้างๆ ให้ผม

“ทำหน้าที่ของนายให้ดีที่สุด เท่านั้นพอ โรงงานเขาเข้าใจในจุดนี้ดี แล้วนายก็ไม่ต้องเอาตัวเองไปเทียบกับใคร ที่สำคัญพี่จะบอกว่า ค่าขนมงานโปรเจคอ่ะ มากกว่างานที่นายถืออยู่หลายเท่าตัวเลยนะ”

พี่บอมบ์ยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ พอพี่บอมบ์จับจุดผมถูก เอาเรื่องค่าขนมมาหลอกล่อผม ทำให้ผมมีแรงฮึดขึ้นเยอะ ความจริงผมก็ไม่ใช่คนขี้งกหรอกนะ แต่ผมเป็นคนรักใน “เงิน” มากมาก ฮ่าฮ่าฮ่า

“แล้วผมต้องเริ่มงานเมื่อไหร่ครับ”

“เร็วที่สุดเท่าที่นายทำได้ สำหรับเรื่องค่าเดินทางที่เพิ่มขึ้นพี่คุยกับทางการเงินไว้ให้แล้ว นายจะได้ค่าบัตรฟลีทการ์ด เพิ่มขึ้น .. อ้อ แต่งานเดิมก็ยังอยู่ในความรับผิดชอบของนายอยู่นะ อันนี้คืองานที่เพิ่ม ไม่ใช่งานทดแทน เข้าใจนะครับ”

(ฟลีทการ์ด คือ บัตรเติมน้ำมัน)

ดูหัวหน้าผมสิ จะเคี่ยวไปไหนกัน

“งานเพิ่ม ความรับผิดชอบเพิ่ม เงินต้องเพิ่มด้วยนะครับ”

ผมยังคงคอนเซ็ปที่ชัดเจน ซึ่งผมก็มั่นใจว่าพี่บอมบ์ต้องดูแลเรื่องเหล่านี้ให้ผมอยู่แล้ว นี่แหละผมถึงยอมพี่บอมบ์ เพราะพี่บอมบ์เคยพูดไว้เสมอว่า

“เรามาทำงาน ไม่ได้มาทำการกุศล งานเพิ่ม เงินก็ต้องเพิ่ม”

“งั้นผมขอระยะทำใจ 2 วันนะครับ จะเข้าไปโรงงานวันพฤหัส เริ่มต้นงานใหม่ด้วยวันครูน่าจะดี ขอมูเป็นขวัญและกำลังใจหน่อยละกันครับ”

แล้วตอนนี้ ผมต้องทำอะไรก่อนเนี่ย อย่างแรกเลยผมต้องปรับตารางวางแผนการใช้ชีวิตของผมใหม่ก่อน ผมต้องเริ่มต้นหาข้อมูลของโรงงานมากขึ้น มันน่าหัวเราะนะ ผมเองก็ทำงานที่นี่มา 5-6 ปี แต่ผมไม่เคยสนใจสินค้างานโปรเจคต่างๆ ของโรงงานเลย เพราะผมก็ไม่เคยคิดว่า ผมจะต้องไปยุ่งเกี่ยวกับงานที่โรงงาน

เฮ้อ.. หมดกัน ชีวิตหนุ่มอ๊อฟฟิตที่ใช้ชีวิตท่ามกลางแสงสีเสียงในเมืองผม นี่ผมต้องปรับโหมดไปเป็นคนชานเมืองแล้วจริงๆ หรือนี่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel