4 ลูกชาย อบต. จอมตื๊อ
อย่างว่าคนที่กำลังตกอยู่ในห้วงของความรัก อะไร ๆ ก็ดูดีไปหมด โอ๊ตได้แต่หวังว่าจะได้รับสิ่งดี ๆ ตอบแทนกลับคืนมาบ้าง ไม่มากก็น้อย
กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่โชยออกจากเรือนร่างขณะต้องลม สอดแทรกเข้าไปในปลายจมูกของบรรดาสาวชาวบ้านที่โอ๊ตขี่รถผ่าน ทุกคนต่างเคลิบเคลิ้ม มองตามด้วยสายตาเพ้อฝัน
“นั่นพี่โอ๊ตนี่ นังมืด”
“ใช่ คิดว่าพระเอกหนังเกาหลีที่ไหน จี๊ดเลยว่ะ”
“โอ หอมจังเลย หล่อมาก แต่งตัวยังกับหนุ่มเกาหลี ช่างโรแมนติกเหลือเกิน เทพบุตรในฝันของฉัน”
“นี่นังอ๋อย น้อย ๆ หน่อย พี่โอ๊ตคงไปหาสาว ๆ เขาไม่เคยมองแกหรอก”
“เอ็งก็เหมือนกันแหละนังมืด พี่โอ๊ตเคยชายตามองแกมั้ย แค่เห็นเอ็งมาไกล ๆ คิดว่าตอไม้ถูกเผา สำหรับฉันไม่หวังอะไรหรอก ได้สูดกลิ่นหอม ๆ จากตัวพี่โอ๊ตก็พอใจแล้ว”
“ฉันก็เหมือนกัน ถ้าได้แตะปลายขากางเกง คงนอนหลับทั้งคืน”
สองสาวชาวไร่ผู้มีใจรักต่อโอ๊ตต่างพึงพอใจในตัวชายหนุ่ม กล้าที่จะพูดออกมา อย่างไร้ยางอาย เพราะรู้ว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะเคียงข้างแต่มีสิทธิ์ในความคิด ทุกครั้งที่มีโอกาสสองสาวมักจะเสนอหน้ามาหา เพียงแค่ได้เห็น พูดคุยหรือช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ความเหลื่อมล้ำทางรูปร่างหน้าตาและฐานะ สอนให้เธอทั้งสองเจียมตัว ไม่กล้าเผยความจริงว่ารักเขา
อาหารแสนอร่อยผ่านพ้นไปแล้ว กำนันอำนวยออกไปดูคนงานในไร่ บัวบานมีธุระด่วนไปช่วยงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่บอกแก่ณอรว่าเย็น ๆ จะกลับ ให้เธอนอนพักผ่อนตามสบาย หญิงสาวไม่รอช้าที่จะทิ้งตัวลงไปเกลือกกลิ้งอยู่บนที่นอนนุ่มหนา
ผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตา กลิ่นหอมจากน้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อดังยังคงกรุ่นตลอดเวลา บ่งบอกถึงความสะอาดที่ได้รับ หญิงสาวมีความสุขไม่น้อย ดวงตาคู่งามกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง ทุกอย่างยังคงอยู่ในสภาพเดิม ๆ
“มีความสุขจังที่ได้กลับบ้าน สวรรค์บนดิน แต่เราก็ยังมีความฝันที่จะสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ที่เชิงเขาเอาไว้เป็นที่พักผ่อนแบบว่าส่วนตั๊ว ส่วนตัว เอ ถ้าไม่ได้งานล่ะ เราจะทำอะไร เป็นชาวไร่หรือเลี้ยงวัวนม”
หญิงสาวกำลังคิดว่าถ้าหากไม่ได้งานตามที่หวังจะทำอะไรต่อไป เจ็บแปลบ ๆ ไม่น้อยที่จะต้องละทิ้งวิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาเพื่อมาประกอบอาชีพเจริญรอยตามบิดา ซึ้งรู้ว่าไม่ถนัด หากว่าทำไร่จริง ๆ ก็คงจะต้องใช้เงินซื้อเพียงอย่างเดียว
เสียงแตรรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้น แรก ๆ ณอรไม่ใส่ใจแต่อย่างใด คิดว่าชาวบ้านละแวกนี้ขับรถสวนกันแล้วทักทายตามประสาคนรู้จักหรือไม่ก็กดแตรไล่สัตว์ที่เดินตัดถนน
เสียงแตรรถยังคงดังอยู่เช่นเดิม ณอรลุกพรวดจากที่นอนโดยเร็ว ผมยุ่งเป็นกระเซิง มองออกจากหน้าต่าง อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครที่กล้ามารบกวนเวลาพักผ่อนอันแสนสุข
“มีคนมาหาพ่อหรือเปล่า หรือว่าพวกรถซิ่งกวนเมือง คงไม่หรอกต่างจังหวัดแบบนั้น มีแต่คนทำมาหากิน นั่นมันใคร ใส่สูทสีขาวยืนเก๊กหล่อพิงมอเตอร์ไซค์ โอ มีกุหลาบช่อใหญ่หอบมาด้วย คุ้น ๆ หน้าเหมือนกันนะ”
หลังจากพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วนแล้ว รู้ว่าผู้ชายที่ยืนโพสท่าหอบดอกกุหลาบสีแดงเต็มอ้อมแขนนั้นคือโอ๊ต ลูกชาย อบต. สินนั่นเอง
“โธ่ นึกว่าใคร โอ๊ตนี่เอง จมูกไวจริง พอรู้ว่าเรามาก็รีบแจ้นเชียว เอาไงดีว้า น่าเบื่อที่สุด”
ณอรไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เพราะโอ๊ตเห็นเธอเต็ม ๆ อีกทั้งส่งเสียงทักทายด้วยความดีใจและยิ้มกว้าง หญิงสาวถึงกับถอนใจเฮือกใหญ่ หากว่าปล่อยให้โอ๊ตอยู่ตรงนั้น ชาวบ้านผ่านไปผ่านมาเห็นเข้าจะพากันนินทา ช้าไม่ได้แล้วคงต้องดึงเขามาในบ้าน แต่คุยกันในที่โล่ง ป้องกันข้อครหาว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี พ่อแม่ไม่อยู่แต่นัดผู้ชายมาหา
“สวัสดีครับณอร ดีใจจังที่กลับบ้าน โอ๊ตรู้ข่าวก็มาหาเลยนะ กลัวว่าจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์”
“ขอบใจมากนะ พอดีเราเรียนจบ ว่าง ๆ ไม่รู้จะไปไหน กลับบ้านดีกว่า เชิญ ๆ เข้ามานั่งก่อนสิ”
“ครับ ณอร โอ๊ตจะบอกอะไรให้ในตำบลนี้ใคร ๆ ก็รู้จักว่าเป็นลูกชาย อบต.”
ชายหนุ่มเน้นคำว่า อบต. ชัดถ้อยชัดคำ แล้วเชิดหน้าขึ้นด้วยความภูมิใจในตำแหน่งหน้าที่ของบิดา เรื่องนี้หญิงสาวเข้าใจเป็นอย่างดี ไม่ว่าอะไรแต่ก็อดขำไม่ได้ พยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้ ไม่แสดงออกมาให้รับรู้