ตอน 6
“ผมคิดว่าอยู่ได้” เพราะมีแม่สาวคนนั้นเป็นแรงจูงใจ อย่างอื่นไม่มีจริงๆ ห้องนี้กว้างราวๆ50 ตารางเมตรเล็กว่าห้องน้ำในห้องนอนเขาซะอีก เฟอร์นิเจอร์เก่าผุยังไม่พัง แม้ผ่านการทำความสะอาดมาก่อนที่เขาจะมา ก็ไม่โสภาลูกตาอยู่ดี
“ต้องการอะไรเพิ่มเติมแจ้งเลยนะคะ” ผู้ดูแลกล่าว
“ขอผ้าปูที่นอนหมอนชุดใหม่ คิดตังค์มาขอบคุณมาก” ธงไทกล่าวรวบรัดแล้วปัดมือไล่ผู้ดูแลโดยไม่ลืมกล่าวขอบคุณตามมารยาท สายตามองออกไปนอกระเบียง วิวห้องเขาสวยมากแม้บรรยากาศไม่ดี ขณะคนขับรถเดินตามผู้ดูแลออกไปพร้อมกันอย่างเงียบเชียบ ปล่อยให้ธงไทได้ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ไม่เพื่อความคุ้นเคย
ธงไทส่งตัวเองไปยืนตรงประตูหลังห้องซึ่งมีมุ้งลวดไว้กันยุง สภาพโล่งไม่มีอะไรสักอย่าง ต่างจากห้องด้านโน้น จัดตกแต่งราวกับสวนย่อมลอยฟ้าไม่ปาน มองร่างเล็กน่ารักที่กำลังยกฝักบัวสีชมพูจรดรดน้ำต้นไม้ด้วยสีหน้าแววตาชื่นบานท่ามกลางแวดล้อเหล่าบรรดาต้นไม้ในกระถางที่เขาไม่รู้จักว่ามันคือต้นอะไร ในมุมมองไกลขนาดนี้คอนโดหลังนี้เป็นรูปตัวยู ระเบียงหลังห้องจึงมองเห็นกันได้ นับได้ว่าวิวห้องธงไทจัดได้ดีที่สุดในการดึงดูดใจเขาให้อาศัยอยู่ที่นี่ ชายหนุ่มยืนกอดอกใบหน้าระบายยิ้ม ดวงตาระรื่นชื่นชมไปกับภาพสาวสวยกับต้นไม้ในกระถางนานาพันธ์
ชายหนุ่มกวาดสายตาไปยังระเบียงห้องอื่น ก็ไม่มีมีต้นไม่ดาดดาเหมือนอย่างห้องน้องคนสวยคนนั้น เธอคงชื่นชมต้นไม้ เมื่อหวนนึกถึงสวนที่บ้านส่วนใหญ่ก็มีแต่ไม้ยืนต้น ขาดไม้ดอกไว้ประดับแล้วยิ่งในบ้านยังมีแต่ดอกไม้พลาสติกสีสด ที่มารดาสรรหามาประดับแจกัน ส่วนเขาไม่เคยสนใจของพรรค์นั้นแม้ในตอนนี้ต้นไม้ยังสามารถดึงความสนใจไปจากเขา เท่าคนรดน้ำต้นไม้ตรงระเบียงตรงกันนั้นได้เลย ไม่ต้องไปแสวงด้วยซ้ำว่าคนสวยผู้เป็นแรงบันดาลใจพักห้องไหน เธออยู่ตรงหน้าเขา
หลังจากเครื่องนอนถูกจัดการเป็นที่เรียบร้อย รวมทั้งจ่ายเงินค่าอุปกรณ์ที่ผู้ดูแลหามาให้ ชายหนุ่มทิ้งกายลงนั่งตรงปลายเตียงหยิบซองเอกสารที่ลุงสันติบอกว่าบิดาฝากมาให้เขา คลี่ดูสิ่งของด้านในแล้วธงไทได้พบว่าเอกสารเหล่านั้นคือรายชื่อบริษัทต่างๆ เขาเห็นกระดาษแผ่นเล็กเขียนด้วยลายมือหวัดขึ้นมาอ่าน
“เวลาไม่เคยคอยท่า” ประโยคสั้นๆแค่นั้นทำให้เขารู้ว่าบิดาต้องการเร่งให้เขาหางานทำ งานเบ้คนอื่นอย่างที่ท่านว่า
แม้ค้านทุกสิ่งอยู่ในใจหากว่าความทระนงในความต้องการเอาชนะ รวมทั้งเป็นการพิสูจน์ตัวเองกับบุพารีก็แหวกว่ายตีแผ่เข้ามาในสมอง ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยคิดเรื่องนี้แต่อย่างใด แต่เมื่อรู้ตัวว่าอาจต้องเสียมรดกให้กับพี่สาวทั้งสอง ในอนาคตต่อไปมรดกมหาศาลเหล่านั้นอาจมีอันถูกโยกย้ายเข้ากระเป๋าสามีของพี่ไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง เขาก็งกใช่ย่อยดังนั้นยอมไม่ได้เด็ดขาดที่จะปล่อยให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น
ดังนั้นงานของธงไทจึงเริ่มต้นขึ้น โดยการอ่านรายละเอียดในเอกสาร ตำแหน่งการรับสมัครงานในบริษัทต่างๆที่บิดาตั้งใจยัดเยียดมาให้ ท่านคงรู้จักใครสักคนในบริษัทแห่งนี้แต่ไม่บอกเขา เพื่อให้เขาค้นหาความจริงเอาเอง ร่วมชั่วโมงที่ธงไทนั่งพิมพ์จดหมายสมัครงาน พิมพ์ประวัติต่อ จัดเอกสารในการสมัครงานอยู่ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เขาไม่ลืมพกมาด้วย จากนั้นส่งเอกสารสมัครงานเหล่านั้นผ่านอีเมล ร่วมห้าสถานประกอบการณ์ จากนั้นจึงทิ้งตัวลงเอนกายบนเตียง
และตอนนี้เขาก็พบว่าท้องกำลังร้องประท้วงหาของกิน เชื่อเถอะเขาจะอยู่สถานที่โกโรโกโสแห่งนี้อีกไม่นาน ความคิดล่องลอยพลางเพินออกไปยังประตูหลังมองไปยังระเบียงห้องตรงข้าม ฟากโน้นปิดประตูปิดม่านไปเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวคงเป็นสาวจำพวกเด็กอนามัย พระอาทิตย์ตกรีบปิดไฟนอน มือใหญ่ยกข้อมือขึ้นดูเวลาแค่สองทุ่มเวลาช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าในความรู้สึก
ร่างสูงดีดตัวลุกจากที่นอนเดินออกจากห้องพาตัวเองไปหาของกินใส่ท้องที่กำลังร้องประท้วงเพราะความหิว โดยไม่ต้องการโดยสารลิฟต์ตัวที่ใกล้ที่สุด ทว่าหมายใจไปขึ้นอีกตัวที่อยู่ใกล้ห้องสาวระเบียงตรงข้าม เผื่อโชคดีได้เจอกับเธอ เขาวาดหวัง นิ้วแกร่งกดลิฟต์ขณะสายตายังคงกวาดมองรอบกาย หัวใจวาดหวังร่างกายจึงหยุดรอประวิงเวลา ทว่าความหวังก็ไม่บรรเจิดเมื่อรอบกายยังมีตนเท่านั้นที่ออกมาเดินท่อมๆ ในเวลาแค่สองทุ่ม บางทีผู้พักอาศัยคนอื่นอาจจะยังไม่กลับมาก็ได้ที่นี่เงียบสงบผิดวิสัยคอนโด ขณะธงไทย้อนภาพนึกถึงเพื่อนหลายคนหากแต่ไม่กล้าไปเจอใครเหล่านั้น ประเด็นเดียวในใจคือค่อนข้างอายที่ต้องบอกใครว่าตนโดนไล่ออกจากบ้าน บทเพื่อพิสูจน์ของบิดาตนยังมองไม่เห็นประโยชน์ บิดาช่างโหดร้ายเหลือเกิน เอาน่าเขาเองก็หยิ่งในศักดิ์ศรีพอไม่เป็นไรยังพอมีค่าหลายชิ้นผันเป็นเงินได้ในเวลาที่ต้องติดแหงกเป็นนักกีฬาเตะฝุ่นอยู่ที่นี่
ธงไทเคยเชื่อว่าตนเป็นโรคจิตอย่างหนึ่ง โดยมีจิตพิสมัยอยู่ในกลุ่มคนหมู่มาก ชอบแสงสี ชอบเสียงเพลงจังหวะเร้า ชอบให้มีคนเดินขวักไขว่รอบกายผ่านสายตา ฉะนั้นชีวิตเท่าที่ผ่านมาจึงชอบเที่ยวกลางคืนชอบคลับบาร์กลายเป็นความเคยชิน หากแต่ยังมีมุมหนึ่งที่เข้าข้างตัวเองตนยังไม่เป็นโรคจิต ขนาดต้องหอบตัวเองไปนอนคุยกับจิตแพทย์ เพื่อรักษาอาการขี้เหงาแต่อย่างใด
ขณะประตูลิฟต์จวนปิดสนิททันใดนั้นเสียงหวานน่ารักเสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมด้วยประตูลิฟต์เปิดอ้าโดยการกดปุ่มจากด้านนอก โดยเจ้าของเสียงหวานนั้น ทันทีที่ได้เห็นใบหน้าน่ารักในระยะกระชั้นชิดห่างเพียงศอกเดียว ธงไทถึงกับกดอาการดีใจไม่มิดคลี่ยิ้มบางมุมปาก ขณะเดียวกันสายตาสิสนิมลอบสำรวจร่างบางในชุดกางเกงขาสั้นพอดีตัว เผยขาเรียวเนียนผ่องไร้เซลลูไรต์
“รอด้วยค่ะไปด้วยคน” เสียงหวานจับใจตะโกนรั้งลิฟต์ที่เพิ่งปิดประตู ทั้งที่ลิฟต์มีสองตัวทางเดียวกันไปด้วยกันช่วยประหยัดพลังงาน ถึงแม้หน้าตาผู้ชายคนนั้นไม่น่าไว้ใจพอกับความหล่อที่ไม่น่าเข้าใกล้สักเท่าไหร่ ใจบางหวิวกะทันหันอย่างที่ไม่เคยหวิวกับใครมาก่อน แม้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่ทำงานแวะเวียนมาส่งขนมจีบเช้าถึงเย็นถึง ยังไม่รู้สึกหวิวประหลาดอย่างกับเจอหน้าผู้ชายตัวสูงหน้ากระเดียดไปทางตี๋ผสมลูกครึ่งยุโรปรวมกับแบบนี้ได้เลย หญิงสาวเผลอยกฝ่ามือทาบอกตนเองลูบเบาราวกับสั่งให้ใจตนเองสงบกับความหล่อทะลุลิฟต์ตอนนี้ให้จงหนัก ผู้ชายหล่อมักไว้ใจไม่ได้
ผู้หญิงคนนี้สูงราว ๆ 165 เซนติเมตรจัดอยู่ในมาตรฐานสาวไทย ทว่าถ้าเทียบกับธงไทเธอกลายเป็นสาวตัวเล็กในบัดดล สายตาซุกซนแถมซอกซอนไล่ลงไปตามสะโพกงอนงามรับกับเอวคอดเท่ามดตะนอย รูปร่างผู้หญิงคนนี้จัดได้ว่าสมส่วนดีสุดยอด เพียงแค่กางเกงขาสั้นเสื้อยืดสบายๆกลับสร้างเสน่ห์ในตัวเธอจนเปล่งปลั่งแพรวพราว รวมความเป็นเธอแล้วรูปร่างบอบบางสัดส่วนไม่ธรรมดาแม้จะตัวบางอย่างอื่นไม่บาง ความเย้ายวนที่มองผ่านๆ จังหวะแทรกกายเข้ามาในลิฟต์ไม่ต่ำกว่าไซต์ 34 หรืออาจอึ๋มกว่านั้นคาดจากสายตาซอกซอนแล้ว ขึ้นชื่อว่าผู้ชายจะมองอะไรมากนอกจากหน้า นม ก้น องค์ประกอบหลักๆ หน้านั้นเขารู้ว่าเธอดึงความสนใจไปจากเขาตั้งแต่นาทีแรกที่เห็นเธอเดินแทรกประตูทางเข้าคอนโดหลายชั่วโมงที่ผ่านมานั่นแล้ว
สายตาก่อกวนยังคงสแกนร่างกายหญิงสาวจากทางด้านหลังไปจนถึงเส้นผมดกดำเงาวับราวเส้นไหมบนศีรษะไม่ปาน ดูแล้วเพลินตาเพลินใจ ภาวนาอยากให้คอนโดนี้มีสักสักหนึ่งร้อยชั้น ธงไทจะได้อยู่กับแม่สาวผิวขาวอมชมพู ที่เขาพยายามค้นหาคำนิยามเพื่อเหมาะที่สุดสำหรับเธอ บอกตรงๆ ถ้าในหัวสมองเขาไม่คิดมากเกินไปแม่ขาวอมชมพูนี้เหมาะที่สุดในการโยนขึ้นเตียงมากถึงมากที่สุด งูบนหัวเขากำลังทำงานจนเวียนหัวไปหมด
เสียงลิฟต์ดังปิ้งปลุกสติเตลิดของคนคิดลามกเกือบกระเด็นกระดอน ร่างบางก้าวออกไปก่อน ขณะหัวใจแกร่งเต้นโครมครามอย่างที่ไม่เคยเต้นดังอย่างนี้มานานแล้วเขาก้าวตามเธอไปติดๆ ไม่อยากแยกจากหากเป็นเงาได้ก็อยากเป็นเงา ทำไงได้เขาอยากรู้จักเธอซะแล้ว
“หนูผักบุ้งจะไปไหนครับ” ยามรักษาการหากดูจากรอยประสบการณ์รวมไปถึงสังขาร สมควรปลดระวางตัวเองได้แล้ว เอ่ยทักสาวสวยของธงไท เอ่อ...สาวสวยของธงไทคิดได้นะ