บท
ตั้งค่า

ตอน 2

“อ้าวเกี่ยวอะไรกับบ้านเราล่ะพี่ทุ่ง” แสร้งถามไปอย่างนั้นไม่ว่าเธอจะหนีมาอยู่ไกลแล้ว หากแต่แก้วตาก็ยังคิดว่าเธอกับไอดินมีความสัมพันธ์กันอยู่ร่ำไป

“ยัยแก้วก็กล่าวหาไอ้ดินไปมั่วกับบุ้งน่ะสิ ปากน่าตบนักเด็กเวร ดีนะยัยกุ้งไม่ตบปากเจ่อไล่ตะเพิดไป”

“ยัยเด็กเวรจริงๆด้วย” ผักบุ้งว่า

“ก็บอกแล้วไงยัยแก้วตายังเด็ก ไม่พร้อมเป็นแม่คนและไม่พร้อมเป็นเมียใคร เพราะความสนุกแท้ๆปัญหาเลยยาว”

“ช่างเถอะพี่ทุ่ง บุ้งไม่อยากยุ่งเกี่ยวตัดให้ขาดอย่าได้ข้องเกี่ยวกันอีกเลย คนไม่ซื่อก็สมควรรับกรรมที่ตัวเองก่อ” ณ ตอนนี้ผักไร้เยื่อใยต่อไอดิน จิตใจดีขึ้นตามลำดับปีกว่าแล้วที่รู้เรื่องเลวร้ายต่อหัวใจ รักกันแค่ไหนแต่เมื่อเขาไม่ซื่อกับความรักที่เธอมีให้ความหมางเมินก็เข้ามาแทนที่ได้ เวลาของความเจ็บปวดได้ผ่านพ้นไปแล้ว ต่อไปนี้คือเวลาของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดด้านการงานและอนาคตเท่านั้น

“ตัดใจได้จริงๆนะ” ลูกทุ่งหยั่งเชิงน้องสาว เขารักน้องสาวมากไม่อย่างนั้นไม่ปล่อยให้มาอยู่แบบนี้แน่ ทั้งที่พี่น้องทั้งสามไม่เคยห่างกันนานขนาดนี้

“ทำใจได้นานแล้ว ไม่มีอะไรแล้วค่ะรับรอง” รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ไม่มีอะไรในกอไผ่หรือในใจทั้งนั้น สังคมเมืองหลวง ที่กำลังก้าวสู่ถนนอาเชียน วุ่นวายแข่งขันสูงจนผักบุ้งที่ไม่เคยมุ่งมั่นเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองวุ่นวายนี้ยังกลืนไปกับสังคมต่างคนต่างอยู่ สังคมที่มีเวลามากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงเช่นกรุงเทพฯ

“ดีแล้วล่ะ เมื่อวันก่อนเจ้าดินก็มาขอเบอร์โทรบุ้ง แถมยังถามถึงที่อยู่เลยโดนยัยกุ้งไล่ตะเพิด” อีหรอบนี้ลูกทุ่งเชื่อว่าตัวเองคิดถูกตั้งแต่ตอนแรกที่ส่งเสียงสนับสนุนให้ผักบุ้งย้ายตัวเองมาอยู่ห่างปัญหามือที่สามของครอบครัวไอดิน

“อย่าให้เชียวนะพี่ทุ่ง” ผักบุ้งกำชับเรื่องใหญ่แน่ถ้าไอดินได้ที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ของเธอไป

“พี่ไม่ให้มันหรอกเรื่องอะไรจะให้” ไม่ถีบออกจากบ้านก็ดีถมไป บังอาจทำให้น้องสุดที่สุดเสียใจ แถมไม่ไกลจากปลายจมูก แต่จะว่าผู้ชายฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ในเมื่อเด็กมันยั่วซะขนาดนั้น ไม่สนผู้ชายเป็นแฟนใครแต่จะเอา รีบหาทางอ่อยเหยื่อลากเข้าถ้ำไปกินจนได้

“ดีๆ อย่าเผลอเชียว” ผักบุ้งพาตัวเองมายืนรับลมตรงระเบียง มองแสงไฟจากยานยนต์แทนแสงหิ่งห้อยยามค่ำคืน ช่างต่างจากบรรยากาศที่บ้านของเธอลับลับ หญิงสาวแหงนมองบนฟ้าไม่เคยมีสักคืนได้มีโอกาสเห็นแสงดวงดาวระยิบอวดความเรืองรองของมันเช่นค่ำคืนที่อยู่บ้านราชบุรี

“ไว้ใจเถอะ” พี่ชายไม่เคยขายน้อง คนอย่างไอดินเลวทราม ไม่สมควรได้คนดีๆ อย่างน้องสาวสุดที่รักของเขา ไม่ว่ากรณีใดๆ

“ขอบคุณค่ะพี่ชาย ฝากความคิดถึงถึงพ่อกับแม่และพี่กุ้งด้วยนะคะ” มือบางลูบหน้าท้องแบนราบยิ้มกับโทรศัพท์อย่างร่าเริง แหม...พี่ชายรู้ใจจริงๆ “เย็นนี้จะกินน้ำพริกผักให้พุงกางเลยค่ะ” น้ำเสียงหญิงสาวเริงร่าเมื่อนึกถึงน้ำพริกที่พี่ชายส่งมาให้ตั้งสามกระปุก

คืนนี้ท้องฟ้ายังคงไร้ดาว จากแสงนีออนขันแข่งแรงกว่าแสงของดวงดาวบนท้องฟ้ายามที่ถูกทาบทาด้วยสีดำทะมึน แสงไฟตามอาคารบ้านเรือนยังสว่างจ้ากว่าแสงดาวแสงเดือน รวมไปถึงสภาพควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ลอยคลุ้งปิดบังท้องฟ้า ต่างไปจากท้องฟ้าต่างจังหวัด ฉะนั้นผักบุ้งที่อยู่บนชั้นเจ็ดของอาคารคอนโดระดับกลางจึงไม่หวังจะได้เห็นแสงดาวงดงามอย่างบ้านเกิดของเธอ

หญิงสาววางสายจากพี่ชายเพราะคิดถึงข้าวสวยร้อนๆ ที่หุงไว้ในหม้อหุงข้าวใบย่อม เพียงพอรับประทานคนเดียวกับน้ำพริกนรกกุ้งของโปรด ผักสดพร้อมเด็ดจากกระถางตรงระเบียงอร่อยที่สุดในชีวิต ผักบุ้งไม่ยอมซื้อข้าวก้อนตามร้านขายข้าวที่คนเมืองนิยมซื้อกัน โดยเธอเห็นว่าไม่นุ่มลิ้นอย่างข้าวที่หุงสุกใหม่ควันกรุ่นส่งกลิ่นหอม ข้าวที่บ้านเธอหุงขึ้นหม้อ ทั้งหอมเรียกน้ำลายมากกว่าข้าวในถุงพลาสติกไร้ซึ่งไอความร้อนแบบนั้น

ผักบุ้งอยู่กินแบบเด็กอนามัยจัด ทำกับข้าวกินเองหุงข้าวเอง กินนอนเป็นเวลาไม่เที่ยวกลางคืน เพื่อนๆที่ทำงานโดยเฉพาะกุลสตรี เพื่อนสนิทของเธอมักกล่าวหาว่าเธอคงมีเงินเก็บหลายล้าน นั่นไม่ใช่เลยเธอสูญเงินไปกับเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของแต่งตัวด้วยชอบแต่งตัวชอบเครื่องประดับสวยงาม เงินเดือนที่ได้มาส่วนใหญ่หายไปกับของพวกนี้เกินครึ่งเงินเดือน แต่ดีหน่อยฉลาดพอทำบัญชีครัวเรือนเหลือเงินเก็บ

ณ คฤหาสน์งดงามของตระกูล เขมพิมุข

ประมุขของบ้านอย่างธนดล เขมพิมุขเรียกสมาชิกในบ้านเพื่อร่วมประชุมในช่วงเวลาที่สมาชิกในครอบครัวครบองค์ประชุมเช่นนี้ ทั้งบุตรสาวคนโตธยานี บุตรสาวคนรองธุวพร ได้แวะมาเยี่ยมเยือนหลังตากออกเรือนไปกับสามีเมื่อสองปีกก่อน ยิ่งไปกว่านั้นบุตรชายคนเล็กเพิ่งเดินทางกลับจากไปเรียนต่อปริญญาตรีและต่อโทยาวรวดเดียวยังประเทศอังกฤษได้กลับมาแล้วไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง ธงไท เขมพิมุข ความหวังของคนทั้งบ้านกว่าเจ้าตัวดีจะเรียนจบก็เลือดตาแทบกระเด็น เพราะมัวแต่ไปเริงร่าท้าแหม่มไม่สนใจการเรียนเท่าการเที่ยวเตร่

จนผู้เป็นบิดาต้องวางมาตรการหากเรียนไม่จบภายในปีนี้ จะยกมรดกทุกอย่างให้กับพี่ๆ เท่านั้นล่ะขี้คร้านธงไท รีบกลับมาตั้งใจเรียนจบรับปริญญาที่ไม่ได้ติดโผเกียรตินิยมอันดับใดๆ เลยนอกจากปริญญาที่เกือบตกขอบ หากไม่ได้เงินพ่อแม่ช่วยพยุงคงจบได้ยาก ความจริงธงไทนั้นมีหน้าตาหล่อเหลาผิวขาวแบบหนุ่มจีน ตัวสูงแบบหนุ่มฝรั่ง หน้าคมดั้งโด่งแหวกชาติพันธ์ตระกูล หัวดีมากๆ ทว่ามัวหลงระเริงชีวิตนอกบ้านที่ไม่มีหูมีตาบิดามารดาคอยสอดส่อง จึงทำให้เหลิงกับโลกีย์จนเกือบทำให้เรียนปริญญาโทไม่จบ

“ป๊า...เรียกพวกเรามาทำไมกันครับ” ธงไทเกาศีรษะยุ่งเหยิงของตัวเองแกรกๆ เดินตามพี่สาวทั้งสองมายังห้องโถงของบ้านหลังจากได้ยินเสียงเคาะประตูห้องนอนดังโครมครามจากพี่สาวคนโตร่างเล็กกว่าช้างน้ำนิดเดียว ยังไม่ทันได้อาบน้ำธงไทก็ต้องตามพี่สาวทั้งสองลงมาประชุมเฉพาะกิจ ห้องโถงโอ่อ่าที่จัดตกแต่งในแบบชาวจีนผสานรสนิยมแบบยุโรปของมารดา ความต่างช่างเข้ากันอย่างลงตัวชวนขนลุกพิลึก

“นี่ลื้อยังไม่อาบน้ำอีกหรืออาไท” บิดามองบุตรชายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้วก็เอ่ยถามเสียงขุ่น

“ขอผมพักผ่อนได้มั้ยป๊า กลับมายังไม่ถึงวันเลยผมยังปรับตัวไม่ได้เลย”

“ปรับตัวไม่ได้หรือลื้อขี้เกียจกันแน่ กว่าจะเรียนจบก็เล่นผลาญเงินในคลังเกือบเกลี้ยงนี่ยังไม่คิดจะลุกขึ้นไปช่วยทำการทำงาน ลื้อนี่มันลูกยอดแย่จริงๆ”

“เอาน่าอาเฮียลื้อก็อย่าไปบังคับกะเกณฑ์อะไรลูกมาก พออาไทอีพักจนพอใจแล้วอีก็ไปทำงานเองนั่นแหละ อีหายไปตั้งหกเจ็ดปี อาเจ้ ๆ ของอีก็ทำกันได้” กิ่งกมลให้ท้ายบุตรชายสุดสวาท

“อากิ่งลื้อก็เข้าข้างอาไทวันยันค่ำ” สามีต่อว่าแต่ไม่จริงจังนัก ทำไงได้ธงไทคือความหวังของคนทั้งบ้าน มีลูกสองคนก็เป็นผู้หญิง แต่จะว่ามีลูกผู้หญิงเหมือนมีส้วมไม่ได้ ทั้งธยานี (อาเหมย) และธุวพร (อาหลิว) ก็ทำหน้าที่บริหารงานในบริษัท เขมพิมุขเคมี ได้ดีมาตลอดจนผู้ชายอกสามศอกยังต้องแพ้

ธยานียังโสดสนิทอายุปาเข้าไปสามสิบแปดด้วยรูปร่างอวบอิ่มระยะสุดท้าย จึงไม่มีผู้ชายตาถึงที่ไหนกล้าดึงหล่อนลงจากคาน ดังนั้นธยานีจึงเกาะคานเหนียวแน่น นี่กะว่าเลยปีนี้ยังไม่มีผู้ชายใจกล้าหน้าด้านคนไหนมาอันเชิญลงจากคานทองฝังเพชร ธนดลคงต้องติดป้ายประกาศรับสมัครลูกเขยเป็นการด่วน จัดของสมนาคุณเต็มคันรถก็ว่ากันไป

ส่วนธุวพร (อาหลิว) บุตรสาวคนที่รองอาหมวยรอง แต่งงานกับทายาทบริษัทผลิตซีอิ้ว ตราเด็กน้อยในพานทองซึ่งเป็นบริษัทผลิตซีอิ้วอันดับหนึ่งของประเทศ ที่ลูกชายตาถึงยอมมาขอธุรพรไปเป็นลูกสะใภ้แต่งเข้าสกุลไปอย่างใหญ่โต สมฐานะ เพราะธุวพรต่างจากพี่สาวคนโตลิบลับรักสวยรักงาม รักษาทรวดทรงองเอว จนเป็นที่หมายตาของบรรดาทายาทนักธุรกิจตระกูลดัง มีเพียงเกรียงไกร มหาวุฒิดำรงค์ หรืออาเปาที่สามารถสอยธุวพรไปเป็นผลสำเร็จ เมื่อสองปีก่อน ที่ธุวพรอายุ 32 มองเห็นคานอยู่รำไร ตอนนี้แต่งงานได้สองปียังไม่มีทายาทไว้สืบสกุลสักที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel