บทที่ 9
หลังจากที่เขาพูดประโยคเรียกร้องความรับผิดชอบจากเธอออกไป ใบหน้าหวานซ่อนเปรี้ยวของวันวิวาห์ก็ซีดเป็นกระดาษอยู่เป็นนานสองนาน จนคนขี้แกล้งอดรนทนไม่ไหวเป็นฝ่ายหลุดหัวเราะออกมาก่อนเสียเอง
"ตกใจอะไรขนาดนั้นน่ะคุณ นี่ผมขอให้คุณรับผิดชอบผมดีๆ นะ ไม่ได้เอาปืนมาไล่ยิงคนเหมือนคนพวกนั้นสักหน่อย"
ริมฝีปากจิ้มลิ้มบิดเบ้ด้วยความหมั่นไส้ เพราะเธอเริ่มรู้สึกขึ้นมาแล้วว่าผู้ชายแปลกหน้าที่เธอพลาดมาขอความช่วยเหลือจากเขาคนนี้ ก็ไม่ได้อันตรายน้อยไปกว่าคนพวกนั้นเลย
"อะไรๆ ดูทำหน้าทำตาเข้า ผมไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะ มีแต่คุณนั่นแหละที่กระทำชำเราผม เสื้อคุณก็ถอดออกเอง จูบ..."
"หยุดพูดสักทีเถอะน่า" วันวิวาห์แหวใส่
"นี่คุณตะคอกผมหรอ"
"ใช่"
"ผมผิดหรอ" คนตัวโตที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับพระเอกซีรีส์ แต่สายตาเจ้าเล่ห์ร้ายกาจอย่างบอกใครแสร้งถามเสียงอ่อยเพื่อเรียกคะแนนสงสารเต็มขั้น
"นั่นมันก็..."
"ผมทำผิดอะไรล่ะ"
คำถามที่เขาจงใจเน้นย้ำและคาดคั้นเธออีกครั้ง ส่งผลให้ร่างบอบบางที่อยู่ห่างจากเขาไม่กี่เซนติเมตรหายใจติดขัดอย่างพยายามตั้งสติ เพราะถ้าหากเธอเพลี่ยงพล้ำพูดอะไรผิดหูขึ้นมาอีกละก็ มีหวังได้ถูกคนตรงหน้าพูดจาล้ำเลิกบุญคุณใส่อีกแน่ๆ
"คืออย่างนี้นะคุณ"
"อย่างไหนหรอ" ปลาวาฬลอยหน้าลอยตาถาม
"ฉันไม่ได้ตั้งใจ คุณก็เห็นว่าฉันพยายามทำตัวให้กลมกลืนกับคนอื่นๆ เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต แต่ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรคุณเลยนะ ไม่ได้มีเจตนาจะลวนลามอะไรคุณเลยด้วย เรื่องถอดนั่นมันก็แค่เพื่อความสมจริงเท่านั้นเอง" คนตัวเล็กที่ยังคงถูกวงแขนแกร่งโอบรวบเอวคอดเอาไว้อยู่พยายามอธิบายอย่างใจเย็น
"แล้ว? "
"แล้วคุณก็ไม่ได้บุบสลายตรงไหนสักหน่อย ยังอยู่ครบสามสิบสองเลยนี่"
คิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากัน เพื่อบอกให้เธอรู้ว่าเขารู้สึกไม่พอใจอย่างมากกับประโยคเมื่อสักครู่ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอย่างที่เธอว่าก็เถอะ
"เอ่อ... ส่วนเรื่องจูบ ฉันว่านี่ก็คงไม่ใช่จูบแรกของคุณหรอกมั้ง คนอย่างคุณดูน่าจะผ่านสนามมาเยอะแล้ว ไม่น่าจะมาถือสาอะไรกับเรื่องแบบนี้" วันวิวาห์บอกพลางยิ้มแหยะๆ ให้เขา ทว่าคำพูดเมื่อกี้มันดันเข้าทางคนเจ้าเล่ห์พอดีเลยเนี่ยสิ
"นี่คุณหาว่าผมสำส่อนหรอ"
"เฮ้ย! ฉันไม่ได้พูดนะ" ร่างบางปฏิเสธเป็นพัลวัน
"ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่เจตนาของคุณก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่เลย ทำไมครับ ถึงผมจะเคยมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว แต่ผมก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับคนแปลกหน้านะคุณ" ปลาวาฬรีบโกยเอาความเห็นใจเข้าตัวได้อย่างหน้าตาเฉย
เหอะ!
เขาน่ะหรือจะไม่เคยทำอะไรแบบนั้นกับคนแปลกหน้า อมพระมาพูดก็ไม่มีใครเชื่อหรอก แต่ตอนนี้ขอตีมึนไปก่อนก็แล้วกัน
ใบหน้าหวานซ่อนเปรี้ยวเหลอหลาไปชั่วขณะ ก่อนที่เอวเล็กจะถูกโอบรัดเอาไว้แน่นอย่างไม่ทันตั้งตัว
"น่ะ นี่คุณ! "
ดวงตาคมเป็นประกายวาววับ ขณะที่มุมปากของเขากดลึกลงอย่างพยายามเก็บซ่อนความคิดร้ายกาจของตัวเองเอาไว้สุดฤทธิ์ แต่ดูท่าว่าจะปิดไม่มิดสักเท่าไหร่
"แล้วไอ้การกระแทกปากกันเมื่อกี้ เหมือนอยากจะให้ปากแตกกันไปข้างนั่นน่ะ เขาไม่ได้เรียกว่าจูบหรอกนะ อันที่จริงมันควรจะเรียกว่าการทำร้ายร่างกายที่แสนโรแมนติกมากกว่า"
ดะ เดี๋ยวนี้
อะไรทำร้ายร่างกาย?
อะไรโรแมนติก?
เขาพูดเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย
"เอาแบบนี้ดีไหม เพื่อเป็นการไถ่โทษที่คุณทำร้ายร่างกายผม แล้วมอบประสบการณ์จูบที่แย่มากที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา ผมจะให้คุณชดเชยให้ผมใหม่ด้วย... 'จูบ' ที่ดีกว่าเดิม"
"ห๊ะ!? "
รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าคมสันของคนพูด ก่อนที่เขาจะเลื่อนริมฝีปากเข้ามาประกบลงบนกลีบปากเล็กอย่างรวดเร็ว โดยไม่ปล่อยให้คนตรงหน้าได้ต่อรองหรือปฏิเสธข้อเสนอนั้นได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
วันวิวาห์พยายามดิ้นรนขัดขืนสัมผัสหวานละมุนที่ร่างสูงมอบให้อย่างเอาเป็นตาย แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้กระทำรุนแรงอะไรกับเธอ แถมรสจูบนั่นมันยังให้ความรู้สึกหวานอมขมปร่าเพราะแอลกอฮอร์ที่เขาดื่มไปมากโขเมื่อตอนอยู่ที่ผับ
ทว่า... นี่มันไม่ใช่เรื่องเขาจะต้องมาสอนเธอสักหน่อย!
กำปั้นเล็กทุบตีเข้าใส่อกแกร่งอยู่หลายที แต่คนที่อยากสอน 'จูบ' ด้วยวิธีที่ถูกต้องให้เธอกลับไม่มีทีท่าว่าจะยอมผละออกไปโดยง่าย
และหลังจากที่ริมฝีปากของเขาผละถอยออกไปอย่างเชื่องช้า คนที่ถูกครอบครองกลีบปากเล็กอยู่เป็นนานสองนานก็รีบเอนตัวหลบไปทันควัน โดยที่เขายังไม่ทันได้ตั้งตัว
"ไอ้บ้า! "
คำพูดด่าทอดังขึ้น ขณะที่ใบหน้าสวยหวานแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอายกับการกระทำเมื่อสักครู่
"เสียงดัง เดี๋ยวพวกมันก็เดินกลับมาอีกหรอก"
"ไม่มีทาง"
คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างตั้งใจยียวนคู่สนทนาให้เกิดโทสะ แล้วถาม "ทำไมถึงมั่นใจนักล่ะ หืม? "
"ถอยออกไปห่างๆ ฉันเลย ไม่ต้องมาใกล้" วันวิวาห์แหวใส่เขาเสียงเขียว พร้อมทั้งยกมือขึ้นมาดันใบหน้าคมสันที่เขายื่นเข้ามาใกล้ให้ห่างออกไปจากเธอ
"ใจร้ายจัง ผมอุตส่าห์ช่วยสอน..."
"คนเห็นแก่ตัว คุณกำลังเอาเปรียบฉันนะ"
ริมฝีปากหนาโค้งลงอย่างรู้สึกขัดใจ นี่เขาอุตส่าห์คิดหาข้ออ้างเพื่อไม่ให้เธอจับไต๋ได้แล้วแท้ๆ ไหงแม่กระต่ายน้อยนุ่มนิ่มของเขาถึงได้รู้ทันกันได้ละนี่
"ชิ! ผมไม่อยากจะทะเลาะกับคุณแล้วนะ" ปลาวาฬแกล้งพูดขึ้นคล้ายกับว่าเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายมีโทสะ ไม่ใช่เธอ
"นี่..."
"แล้วยังเอายังไงต่อ จะนั่งจมอยู่นี่ หรือจะหนีไปที่อื่น"
วันวิวาห์อ้าปากค้าง เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอก็พึ่งเคยเจอคนที่พลิกลิ้นพูดให้ตัวเองจากผิดเป็นถูกได้รวดเร็วเท่าเขา
"ยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหม"
"ผมคิดค่ายืมนะ" คนเจ้าเล่ห์แกล้งบอก พร้อมทั้งมองเธอด้วยสายตาที่มีความนัยแฝงอย่างร้ายกาจ
"ถ้าอย่างนั้นฉันไปหายืมคนแถวนี้เอาก็ได้"
"นั่งลงเลย" ปลาวาฬออกคำสั่งเสียงเข้ม และเป็นฝ่ายหยิบมือถือของเขาออกมายัดใส่มือให้เธอด้วยตัวเอง
"จะคิดค่ายืมไหม"
"ไม่"
"ขอบคุณ"
วันวิวาห์กล่าวขอบคุณกระแทกเสียงใส่เขาอย่างประชดประชัน แล้วรีบกดเบอร์โทรศัพท์มือถือของใครบางคนที่เธอท่องจำได้ขึ้นใจทันที