บทที่ 5
ปลาวาฬเดินออกมานั่งรออยู่บนราวเหล็กหน้ารถมอเตอร์ไซค์ของตน ขณะที่มือหนาก็พิมพ์ตอบข้อความถามไถ่ถึงความเป็นไปของเขาที่ถูกส่งมาโดยพี่ชายคนรองของบ้าน ซึ่งตอนนี้น่าจะกำลังด่าสาดเสียเทเสียถึงเขาอยู่หลายประโยคด้วยความขบขัน
"ได้แล้วครับพี่"
คนตัวโตกว่าคู่สนทนาละสายตาไปจากหน้าจอมือถือ แล้วหันไปพยักหน้าให้คนมาใหม่ ก่อนจะยื่นมือออกไปรับของที่เขาซื้อมาด้วยมูลค่าที่น่าจะแพงกว่าราคาจริงของมัน
แต่ก็ช่างเถอะ!
ชายหนุ่มรับชาน้ำผึ้งมะนาวอุ่นๆ มาดื่มลงไปรวดเดียวหมด ก่อนจะฉีกซองผ้าเย็นออกมาเช็ดหน้าเช็ดตาเขาเพื่อเรียกความสดชื่นของตัวเองกลับคืนมา
ให้ตาย การที่จะทำให้ร่างกายสดชื่นแจ่มใสราวกับว่าภายในมีปริมาณแอลกอฮอล์เหลืออยู่เพียงหยิบมือ มันง่ายยิ่งกว่าการตัดใครบางคนออกไปจากความคิดภายในหัวของเขาเสียอีก
"ต้องการอะไรเพิ่มเติมไหมครับ"
ปลาวาฬสั่นศีรษะให้คนถามแทนคำตอบ
"ถ้าอย่างนั้นผมกลับเข้าไปข้างในก่อนนะครับ"
"อืม"
หลังจากที่คล้อยหลังเด็กหนุ่มไปแล้ว คนตัวโตก็พิมพ์ข้อความพูดคุยกับพี่ชายของเขาต่ออีกสองสามประโยคและเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋า ก่อนจะนำเสื้อแจ็คเก็ตหนังสือดำขลับขึ้นมาสวมอย่างเตรียมพร้อม
กึก กึก กึก
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทืบกับพื้นปูนดังมาจากทางด้านหลัง แต่นั่นก็ยังไม่ได้ดึงดูดความสนใจของเขามากพอ มือหนาจึงยื่นออกไปหยิบหมวกกันน็อคมาสวม โดยไม่คิดจะหันไปให้ความสนใจกับที่มาของเสียงนั่น
กึก กึก กึก
เสียงฝีเท้าเร่งรีบเหมือนกำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่างดังเข้ามา ขณะที่ปลาวาฬกำลังก้าวขึ้นไปคร่อมบนรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของเขา
"เดี๋ยวค่ะ"
เสียงหวานใสปนหอบเอ่ยเรียกเขาอย่างร้อนรน แถมยังยื่นมือเรียวเล็กออกมารั้งแขนคนที่ทำท่าว่าจะขับมอเตอร์ไซค์ออกไปให้หันมามองอีกด้วย
คิ้วหนาขมวดมุ่นภายใต้หมวกกันน็อกด้วยความงุนงง ขณะที่ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้าหวานที่ติดตรึงอยู่ในห้วงความรู้สึกของเขาไม่รู้ลืมด้วยความแปลก
"นี่กูเมาจริงๆ หรอวะเนี่ย"
ชายหนุ่มพึมพำอยู่ภายใต้หมวกกันน็อก หากแต่ร่างบางกลับกระโดดขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของเขา โดยไม่ได้เอ่ยขออนุญาตเลยแม้แต่คำเดียว
"คุณ..."
"ฉันขอติดรถไปด้วยได้ไหมคะ"
"ห๊า!? "
"ช่วยขับออกไปที่เถอะค่ะ กำลังมีคนตามฉันมา"
ใบหน้าหล่อเหลาภายใต้หมวกกันน็อกสีดำขลับทั้งใบเต็มไปด้วยความงุนงงอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเขาลองหันไปมองยังทิศทางที่เธอพึ่งจากมา ก็พบว่ามีชายฉกรรจ์ชุดดำประมาณสองสามคนกำลังวิ่งออกมาเหมือนกำลังตามหาใครสักคนจากประตูทางหลังร้าน
"เร็วเข้า พาฉันหนีก่อน"
"หนี? " ปลาวาฬทวนคำ
"เร็วสิคุณ ฉันต้องหนี เดี๋ยวนี้"
วันวิวาห์เร่งซ้ำด้วยท่าทางร้อนรนคล้ายคนสติแตก ก่อนจะซุกซบใบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้าเพื่อใช้ร่างกายสูงใหญ่ของเขากำบังกายจากศัตรู
คนถูกขอให้ช่วยพาหนีอย่างกะทันหันหน้าเหลอไปวูบหนึ่ง ก่อนจะรีบสตาร์ทรถและขับออกไปจากบริเวณนั้นทันที
ปลาวาฬรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่อยู่ใกล้กับบริเวณบ่าทางด้านซ้ายของตน ซึ่งแน่นอนว่านั่นเกิดจากการซุกซบใบหน้าลงบนร่างกายของเขาจากคนที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง
ความรู้สึกอุ่นวาบอย่างประหลาดก่อตัวขึ้นมากลางอกอย่างห้ามไม่อยู่ ทว่าในขณะที่เขากำลังรู้สึกดีกับสัมผัสของคนตัวเล็กนั้น เสียงบีบแตรไล่จากรถยนต์ราคาแพงหูฉีกก็ดังขัดห้วงเวลาแห่งความสุขเสียก่อน
"ช่วยขับเร็วกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ"
เสียงเร่งดังขึ้นจากคนที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง ขณะที่มือเล็กเลื่อนเข้ามากอดเอวหนาของคนตรงหน้าเอาไว้แน่น โดยที่เขาไม่ต้องสั่ง
"ช่วยพาฉันหนีจากเขาก่อนได้ไหมคะ ฉันขอร้อง"
คำขอของหญิงสาวส่งผลต่อคนฟังอย่างจัง เพราะทันทีที่เธอเอ่ยขึ้นมาเช่นนั้น คนที่เคยขับมอเตอร์ไซค์ตะลอนทัวร์มาทั่วประเทศก็รีบบิดแฮนด์เร่งความเร็วอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด
ลมแรงที่ปะทะเข้ามาไม่ขาดช่วงส่งผลให้คนที่ไม่ได้ใส่หมวกกันน็อกซุกซบใบหน้ากระจ่างใสเข้ากับแผ่นหลังกว้าง และเผลอขยับกอดคนตรงหน้ามากยิ่งขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ปรี๊นน~ ปรี๊นน~
เสียงบีบแตรไล่หลังยังคงดังตามมาติดๆ อย่างไม่ลดละ ทำเอาคนที่คิดว่าพาเธอหนีออกมาไกลแล้วอดสงสัยไม่ได้ว่าคนตัวเล็กที่กำลังซบใบหน้าอยู่กับแผ่นหลังของเขา ไปมีเรื่องกับคนอันตรายประเภทนี้ได้ยังไงกัน
"พอถึงแยกหน้านั่น ช่วยเลี้ยวไปทางขวาทีนะคะ"
วันวิวาห์ที่ชำนาญพื้นที่มากกว่าบอกทางหนีทีไล่ให้เขา ก่อนจะหันไปมองทางคนที่ไล่ตามมาด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม
ชายหนุ่มตัดสินใจเลี้ยวมอเตอร์ไซค์ไปทางขวาตามที่คนข้างหลังบอกอย่างว่าง่าย ก่อนจะเลือกเส้นทางคดเคี้ยวโดยที่คนซ้อนไม่ต้องบอก เนื่องจากเส้นทางนี้ทำให้มอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดเล็กกว่ามากสามารถเคลื่อนผ่านไปได้อย่างคล่องแคล่ว
ผิดกับรถยนต์คันใหญ่ที่แทบจะขับเข้ามาภายในซอยที่ทั้งรกทั้งแคบนี่ไม่ได้ด้วยซ้ำ
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ทำเอาปลาวาฬเป็นกังวลกลัวว่าคนที่ได้รับบาดเจ็บจะเป็นหญิงสาวที่กำลังซบใบหน้าเข้ากับแผ่นหลังของเขาอยู่ ทว่า...
"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ช่วยอย่าหยุดรถได้ไหมคะ"
วันวิวาห์บอกคนขับเสียงสั่น เพราะต่อให้เธอเคยมีประสบการณ์เฉียดตายเช่นนี้มาหลายต่อหลายครั้ง แต่ใครกันล่ะ จะอยากเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่
บรื้นนน~
บิ๊กไบค์คันใหญ่เร่งความเร็วเพิ่มขึ้น เพื่อขับให้พ้นจากการไล่ล่าไม่ทราบฝ่าย แต่เขาก็คิดเอาไว้แล้วล่ะ ว่าจะต้องถามหาความจริงจากคนซ้อนให้ได้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอกันแน่
"ทางขวาค่ะ เลี้ยวขวาเข้าไปในซอย"
เสียงหวานร้องบอกอีกครั้ง เนื่องจากเส้นทางข้างหนาเป็นถนนตัดเข้าสู่ชายหาด และนั่นอาจจะเป็นเส้นทางที่คนร้ายมาดักรอเธออยู่ก่อนแล้วก็ได้
ปลาวาฬตัดสินใจทำตามคำขอและเลี้ยวเข้าไปยังเส้นทางรกร้างอีกครั้ง ก่อนจะพบว่ามันคือถนนที่ไม่มีแม้แต่แสงไฟจากหลอดนีออนสักดวง
ใบหน้าคมสันเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เพราะนอกจากเขาจะไม่ชำนาญเส้นทางแล้ว ถนนสายนี้ทั้งสายยังเต็มไปด้วยซากปรักหักพังของศาลพระภูมิเก่าที่ผู้คนนำมาทิ้งไว้เกือบตลอดเส้นทางอีก
บ้าเอ๊ย!
ปืนก็กลัว ผีก็กลัว ให้ตายสิ