บทที่ 2
"เชี่ย! ไอ้แซฟ"
คีรีร้องตะโกนเสียงดังลั่น ก่อนจะถลาเข้ามาหาเพื่อนที่หงายหลังลงไปนอนอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเหลอหลา ทำอะไรไม่ถูก ในขณะที่คนอื่นๆ ได้แต่นั่งตกอกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าคนที่คอแข็งประมาณหนึ่งของกลุ่มจะน็อกได้ในช็อตที่สาม
"อะ เอาไงดีวะไอ้วาฬ ไอ้แซฟมันจะตายไหมนั่น"
มือหนาของเจ้าของชื่อยื่นลงไปแตะที่คอและจมูกของเพื่อนตามลำดับ ก่อนจะให้คำตอบด้วยการสั่นศีรษะปฏิเสธ
"มันแค่หลับไปเท่านั้นล่ะ"
"ตะ แต่มันไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ" ซิทรินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล เพราะไม่เคยเห็นพี่ชายฝาแฝดเมาแล้วมีอาการย่ำแย่เท่านี้มาก่อน
"แล้วมึงจะเอายังไง" คีรีถามคนต้นเรื่อง
"เดี๋ยวขอผ้าเย็นมาให้มันก่อนก็แล้วกัน"
ว่าจบร่างสูงก็หันไปส่งสัญญาณมือเรียกบริกรให้เข้ามารับออเดอร์อีกครั้ง แล้วชี้ไปที่ซองผ้าเย็นซึ่งถูกฉีกใช้งานกับไมเคิลไปแล้ว
และเมื่อบริกรพยักหน้าเสร็จสรรพ เขาก็พบว่าคีรีพยุงร่างของแซฟไฟร์ขึ้นมานั่งบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
"ไม่น่าเลยไอ้แซฟ ท่าเมื่อกี้โคตรตลกอะ รู้อย่างนี้กูน่าจะแอบตั้งกล้องไว้ถ่ายรูปแบล็คเมลล์มันตอนตื่น แบบนั้นคงตลกพิลึก ไม่อยากจะคิดถึงหน้ามันตอนที่ได้เห็นสภาพของตัวเองเมื่อกี้เลย" คีรีบอกกลั้วหัวเราะ แต่ก็ยังไม่วายห่วงเพื่อนด้วยการจับยึดร่างของคนเมาเอาไว้แน่น เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะหงายหลังร่วงจากเก้าอี้อีกรอบ
เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นละก็... ตายแน่!
"เดี๋ยวกูดูมันเอง" ซิทรินอาสาดูแลพี่ชายด้วยตัวเอง
"เออ มึงสลับที่กับกูนี่"
เมื่อตกลงและเปลี่ยนตำแหน่งที่นั่งกันเรียบร้อยแล้ว ปลาวาฬที่พึ่งได้รับผ้าเย็นมาไว้ในครอบครองก็รีบฉีกซองและใช้ผ้าในมือซับไปตามใบหน้าเห่อร้อนของคนเมาทันควัน
"อาการมันเอาเรื่องอยู่นะเว้ย" คีรีว่า
"เออ ไม่คิดว่ามันจะหนักขนาดนี้"
"แล้วมึงน่ะ ไหวหรอ"
ปลาวาฬนิ่งเงียบไปสำรวจความผิดปกติของร่างกายตัวเองอย่างช้าๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เมาหัวราน้ำ ทว่าสติสัมปชัญญะก็ไม่มีเต็มเปี่ยมอย่างเช่นในคราแรก
"ก็ยังพอไหวนะ กูยังมีสติ"
"แต่มึงต้องขับมอเตอร์ไซค์กลับโรงแรมนะเว้ย" คีรีท้วง
"ไม่ต้องห่วงหรอกไอ้คี เดี๋ยวกูแดกน้ำเย็นให้ชื่นใจสักหน่อยก็หายละ" คนที่คอแข็งที่สุดในกลุ่มบอก
"มึงแน่ใจนะว่าไหว กูไม่อยากอ่านข่าวดับสยองหน้าหนึ่งของมึงนะเว้ย"
คนโดนเพื่อนแช่งเหวี่ยงค้อนวงใหญ่ไปให้คนพูด ก่อนที่จะหยิบแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาดื่มไปอึกใหญ่ เพื่อดับความร้อนรุ่มในร่างกายเขาที่เกิดจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
"มึงโอเคแน่นะ" ซิทรินถามด้วยอีกคน
"เออดิ"
"ความจริงเราอัดกันไปบนแท็กซี่ก็ได้นะ มอเตอร์ไซค์ค่อยกลับมาเอาพรุ่งนี้" คีรีเสนอ เพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากเพื่อนเสี่ยงเอาชีวิตมาที่ไว้ที่นี่
"กูไม่ได้อาการหนักขนาดนั้น กูยังไหว"
"อย่ามาทำเป็นเท่นะ กูไม่ใช่สาวๆ ที่มึงจะเต๊าะเล่นไปวันๆ ได้นะเว้ยไอ้วาฬ กูมีลูกมีเมียแล้ว" คนมีครอบครัวแล้วกล่าวติดตลก ทำเอาคนที่ยังสติทั้งโต๊ะหลุดหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
"แล้วทำไมรถยังไม่มาสักทีวะ" ซิทรินถาม
"เออ นั่นดิ"
ปลาวาฬหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูด้วยความแปลกใจ แต่ไม่พบความเคลื่อนของรถโดยสารที่ตนเรียกไว้ก่อนหน้า แถมอีกฝ่ายยังไม่มีการตอบกลับมาอีกด้วย
"อะไรวะเนี่ย"
"อ้าว... ฉิบหาย แล้วแบบนี้พวกกูจะกลับยังไงเนี่ย" คีรีบ่น
"ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวกูไปบอกให้คนที่เคาน์เตอร์ช่วยเรียกรถให้ดีกว่า" คนต้นเรื่องหาทางออกได้เสร็จสรรพ ก่อนรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ เนื่องจากอาการของแซฟไฟร์ดูย่ำแย่กว่าที่คิด
และก็...
แหวะ!
อือ... มันแย่กว่าคิดจริงๆ ด้วย
ปลาวาฬจ้องมองเศษอาหารที่เพื่อนรักพึ่งกินเข้าไปเมื่อช่วงหัวค่ำผสมปนเปกับกับแกล้มจำนวนหนึ่งที่เปรอะเปื้อนเป็นวงกว้างอยู่บนแขนเสื้อเชิ้ตของเขาด้วยสีหน้าเครียดขรึม ก่อนจะไล่มองเพื่อนร่วมโต๊ะที่ยังมีสติอยู่ทีละคน
ซิทรินแค่นหัวเราะออกมาด้วยความขบขันปนสะใจ ขณะที่คีรีเองก็แทบกลั้นรอยยิ้มกว้างเอาไว้ไม่อยู่
"เป็นยังไงล่ะมึง โดนซะบ้าง"
"แล้วทำไมมึงไม่จับหน้าพี่มึงหันไปทางอื่นวะซิทริน"
แฝดคนน้องที่ยังมีสติครบถ้วนหัวเราะรวน แล้วว่า "เรื่องอะไรกูจะต้องให้มันมาอ้วกใส่กูล่ะ มึงมอมเหล้ามัน มึงก็รับผิดชอบไปสิ"
"ไอ้เวร! "
เสียงสบถอย่างหัวเสียของปลาวาฬส่งผลให้คีรีกับซิทรินหัวเาะออกมาอย่างพึงพอใจ เขาจึงเลือกที่จะถอดเสื้อทิ้งไว้ แล้วเดินไปคุยกับคนที่เคาน์เตอร์คิดเงินแทน
"น้องๆ "
"ครับ? "
ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมาใช้ประกอบคำพูด แล้วอธิบายว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกับเขา
"พอดีพี่เรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่นตัวนี้ แต่ทางนั้นเขาเงียบไปเลย น้องพอจะเรียกรถให้พวกพี่ได้ไหม กลุ่มพี่มีคนเมาตั้งสองคน"
เด็กหนุ่มที่น่าจะอายุไม่เกินยี่สิบสองปีพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน ก่อนจะควานหาสมุดโทรศัพท์ซึ่งเป็นที่เก็บเบอร์โทรของรถโดยสารที่ผู้จัดการร้านมักจะเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการให้ทางร้านเรียกรถให้เสมอ
"เอ๊ะ! ไปไหนวะ"
"ว่าไงน้อง" ปลาวาฬถามความคืบหน้า เนื่องจากคู่สนทนามีท่าทางหน้านิ่วคิดขมวด ขณะที่กำลังก้มหาของบางอย่าง
"เดี๋ยวพี่รอผู้จัดการร้านก่อนแปปนึงนะครับ ผมไม่รู้ว่าพี่หวานเขาเอาสมุดโทรศัพท์ไปเก็บไว้ตรงไหน"
ร่างสูงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เพราะเขาเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรขนาดนั้น
"ไอ้วาฬๆ "
เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงตะโกนเรียก พลางขมวดคิ้วเป็นเชิงถาม
"ไอ้ไมค์กับไอ้แซฟแม่งแข่งกันอ้วกแล้ว มึงรีบเรียกรถด่วนเลย" คีรีตะโกนเร่ง เพราะตอนนี้ที่โต๊ะสองหนุ่มกำลังวุ่นวายกันใหญ่
ปลาวาฬถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม ก่อนจะหันมาเร่งเด็กหนุ่มตรงหน้า แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ขยับปากพูด ก็มีเสียงของใครบางคนดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน
"มีอะไรหรอ บอย"
"โห... มาสักทีนะครับพี่หวาน"