บทที่ 1
เฮ้ยๆ เฮ้ยๆ เฮ้ยๆ
เฮ้ยยย!
เสียงร้องเชียร์ให้เพื่อนที่แพ้เกมพนันในค่ำคืนนี้ดื่มเหล้าจนหมดขวดดังแข่งกับเสียงอึกกระทึกครึกโครมของบทเพลงจังหวะมันๆ บีทหนักๆ ภายในผับชื่อดังย่านตัวเมืองของจังหวัดภูเก็ต
ห้าหนุ่มหล่อที่นานๆ ทีจะโคจรมาเจอกันสักครั้งประสานเสียงหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่คนถูกมอมเหล้าจะก้มศีรษะทิ่มลงบนโต๊ะหินอ่อนเย็นเฉียบ แล้วสลบเหมือดไปทันทีที่เสียงหัวเราะของพวกเขาเงียบลง
"เฮ้ย! ไอ้ไมค์"
ซิทรินที่ยืนอยู่ใกล้กับไมเคิลมากที่สุดยื่นมือออกไปเขย่าตัวเพื่อนพลางตะโกนเรียกอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเหลอหลา เพราะไม่คิดว่าอดีตหนุ่มป็อปประจำผับยามค่ำคืนที่บอสตันเมื่อสี่ปีก่อนจะคออ่อนได้ง่ายดายขนาดนี้
"แม่ง! เกิดอะไรขึ้นกับไอ้ไมค์วะ มีเมียไม่กี่ปีแม่งคออ่อนได้ขนาดนี้เลยหรอ"
แซฟไฟร์ แฝดผู้พี่ของซิทรินพูดพลางกลั้วหัวเราะ ก่อนจะสั่นศีรษะด้วยความอิดหนาระอาใจ เนื่องจากคืนนี้คนเมาต้องกลายเป็นภาระอันหนักอึ้งของพวกเขาแน่ๆ
"ปกติไอ้ไมค์มันก็คออ่อนอยู่แล้วนะ เวลาสั่งเครื่องดื่มแต่ละทีก็เน้นไปทางค็อกเทลซะมากกว่า ไม่อย่างนั้นเมื่อก่อนมันคงไม่มีแรงลากสาวไปต่อที่ห้องได้ทุกคืนหรอก" คีรีบอกติดตลก ในขณะที่สมาชิกที่คอแข็งที่สุดในกลุ่มพยักหน้าเห็นด้วย
"จริงของมึง"
ซิทรินสั่นศีรษะแรงๆ เพื่อปฏิเสธตัวภาระทันควัน เนื่องจากคืนนี้หนุ่มโสดอย่างเขายังต้องการใช้ชีวิตโสดให้คุ้มค่าด้วยการลากใครสักคนกลับไปนอนกกที่ห้องอย่างที่ควรจะเป็น
"กูยกมันให้มึงเลยไอ้คี มึงแต่งงานแล้วนี่ คงไม่อยากนอกกายเมียที่บ้านหรอกใช่ไหม"
"กู? " เจ้าของชื่อเอ่ยพลางชี้นิ้วเข้าหาตัว
"เออ มึงนั่นแหละ"
"แล้วทำไมต้องเป็นกู"
"ก็เพราะว่ามัน มัน และกู โสดน่ะสิ" ซิทรินไขข้อข้องใจและชี้นิ้วไปทางพี่ชายฝาแฝดของตนกับปลาวาฬที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจในอภิสิทธิ์ที่ตัวเองมี
"ไม่เอาดิวะ กว่าเมียกูจะยอมให้ออกมาแรดกับพวกมึงได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะเว้ย แล้วทำไมกูต้องมารับผิดชอบไอ้ไมค์มันด้วยเนี่ย" คีรีแย้งหน้าเครียด เพราะไมเคิลเวลาเมาคือความหายนะโดยแท้ ที่ทำเอาเขาเข็ดขยาดไม่มีวันลืม
"ตอนมันเมาแล้วอ้วกเรี่ยราดตั้งแต่ในผับยันหอนี่ยังติดตากูอยู่เลย แค่นึกภาพตอนนั้นก็แทบจะพ่นข้าวเย็นออกมาแล้วเนี่ย" แซฟไฟร์บอก แล้วทำท่าทางพะอืดพะอมเกินจริง
ปลาวาฬหัวเราะให้กับท่าทางของคนข้างตัว ก่อนจะยกแขนขึ้นไปกอดคอเพื่อนรักเอาไว้แน่น แล้วพูดบ้าง
"เวลามึงเมาก็ไม่ต่างจากมันหรอกโว้ย! "
"ไม่จริงอะ" แซฟไฟร์เถียง
ทว่าสองหนุ่มร่วมโต๊ะที่ยังคงมีสติอยู่กลับพร้อมใจกันพยักหน้าสนับสนุนคำพูดของปลาวาฬเสียนี่
"กูเนี่ยนะ เมาเหมือนมัน"
"เออดิ"
"ไม่จริง" คนที่ไม่เคยเห็นตัวเองตอนเมาปฏิเสธเสียงแข็ง
เป็นเหตุให้คนที่อยากแกล้งเพื่อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วส่งเสียงหัวเราะ แล้วหันไปส่งสัญญาณมือเรียกบริกรให้เข้ามารับออเดอร์ที่โต๊ะทันที
"บอลข่านวอดก้าขวด"
"ไอ้วาฬ! " คีรีตะโกนเสียงดังลั่น เพื่อปรามคนที่กล้าสั่งแอลกอฮอล์ขึ้นชื่อเรื่องความแรงมาพิสูจน์คนที่ไม่เชื่อว่าตัวเองเมาแล้วเรื้อนขนาดไหนด้วยสีหน้าหวาดหวั่นเต็มขั้น
"อะไร"
"บอลข่านวอดก้านี่มันแรงระดับท็อปเลยนะเว้ย"
คนถูกตำหนิไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้คนข้างตัวเป็นเชิงท้าทาย ซึ่งแน่นอนว่างานนี้คนโดนหยามเกียรติอย่างแซฟไฟร์ไม่มีทางยอมถอยอยู่แล้ว
"อย่านะแซฟ" ซิทรินรีบปรามแฝดพี่ของตน
"เออ กูว่ามึงอย่าเสี่ยงเลยแซฟ กูกับไอ้ซิทรินแบกมึงกับไอ้ไมค์กลับโรงแรมไม่ไหวนะเว้ย แค่คนเดียวก็จะตายห่าละ" คีรีรีบบอก แล้วยื่นมือออกไปตบบ่าเพื่อปรามคนใจร้อนให้ประมาณตน
"กูไม่เมาหรอกน่า"
ปลาวาฬระบายรอยยิ้มกว้าง แล้วยกนิ้วโป้งให้ผู้ท้าชิงทันควัน
"ไอ้วาฬ มึงอย่าเล่นอะไรแผลงๆ นะเว้ย" คีรีหันมาขอร้องคนต้นเรื่องเสียงเครียด
"มึงจะกลัวอะไรวะคี ไอ้แซฟมันยังไม่กลัวเลย"
"เวร" คีรีอุทานเสียงเครียดและหันไปมองหน้าซิทรินอย่างยอมรับในชะตากรรม
ที่แน่ๆ คืนนี้พวกเขาต้องหอบเพื่อนที่เมาจนคอพับอย่างน้อยสองคนกลับที่พัก และถ้าหากเป็นอย่างนั้นละก็...
"เดี๋ยวก่อนไอ้วาฬ" คีรีเรียกไว้
"มีอะไร"
"คืนนี้มีมึงคนเดียวที่ขับมอเตอร์ไซค์มา มึงต้องไปเรียกแท็กซี่ให้พวกกูก่อน"
คนที่คอแข็งที่สุดในกลุ่มสั่นศีรษะราวกับคำขอของเพื่อนเป็นเรื่องไร้สาระ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือมากดหาแอปพลิเคชั่นสำหรับเรียกรถโดยสารล่วงหน้า แล้วกรอกข้อมูลลงไปก่อนจะโชว์ให้คู่สนทนาดูว่าเขาได้ทำตามคำขอเรียบร้อยแล้ว
"ดี แล้วมึงแน่ใจนะ ว่ามึงจะไหว"
คิ้วหนาเลิกขึ้นสูง ก่อนจะชี้นิ้วมาที่ตัว
"กูเคยไม่ไหวด้วยหรือไง"
คีรีส่งเสียง 'เหอะ' ออกมาหนึ่งคำด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะพยักหน้าให้คนตรงหน้าอย่างยอมแพ้
"บอลข่านวอดก้ามาแล้วครับ"
เสียงพนักงานเสิร์ฟดังขึ้น พร้อมกับวางขวดวอดก้าสีใสลงบนโต๊ะตรงหน้าของพวกเขาทั้งสี่
"จัดมา! " คนถูกท้าบอก
"หวังว่ามึงจะได้เห็นสภาพอันน่าอนาถของตัวเร็วๆ นี้"
ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลขึงมองเพื่อนรักด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะเป็นฝ่ายใจร้อนหยิบขวดวอดก้าไปรินใส่แก้วของตนกับเพื่อนเสียเอง
"กูจะล้มมึงให้ดู" แซฟไฟร์ประกาศ
"ถ้าคิดว่าทำได้ก็เอา"
สิ้นคำพูดของปลาวาฬ การดวลเหล้าของทั้งคู่ก็เป็นไปอย่างดุเดือดตามประสาคนที่มีนิสัย 'ฆ่าได้หยามไม่ได้' เหมือนกัน
ทว่าอึกแรกที่ไหลผ่านลำคอลงไปก็ทำเอาใบหน้าคมสันของแซฟไฟร์แดงเถือกขึ้นมาทันที
"พอเถอะแซฟ" ซิทรินรีบปรามพี่ชาย
"ตามึงแล้วไอ้วาฬ"
ปลาวาฬกดยิ้มมุมปากอย่างมั่นใจ ก่อนจะหยิบแก้วช็อต ขึ้นมาจรดริมฝีปากและจัดการกรอกมันลงคอไปด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่พึ่งดื่มลงไปเมื่อสักครู่ไม่มีผลใดๆ ต่อร่างกายของเขาเลยแม้แต่น้อย
คนโดนท้าจัดการเทวอดก้าช็อตที่สอง และส่งมันลงคอ
"แซฟ! " ซิทรินตะโกนเพื่อปรามพี่ชายฝาแฝด
คนต้นเรื่องจึงทำแบบเดียวกันในทันที
ใบหน้าคมสันของหนุ่มลูกครึ่งเห่อร้อนเหมือนพึ่งเอาหน้าไปอังอยู่ใกล้เตาไฟ ทว่าเขายังคงไม่ยอมแพ้
มือหนายื่นออกไปหยิบแก้วช็อตที่สาม ที่คราวนี้ผู้ท้าเป็นคนรินให้เองกับมือพลางกัดฟันกรอด
"กู... อึก! "
ยังเอ่ยท้าทายไม่ทันจบประโยด ร่างสูงใหญ่ของแซฟไฟร์ก็หงายหลังร่วงจากเก้าอี้ทันที
โครม!