Chapter 4 : เพ็ชรเม็ดงาม
ชินทร์ไปอยู่นอกเมืองได้ 1 เดือนแล้ว เขาตัดสินใจเปลี่ยนเบอร์โทรและตัดมัญญ่าออกไปจากชีวิตทุกอย่างมีเพียงพ่อแม่พี่น้อง และ เพื่อนสนิทในกลุ่มเท่านั้นที่รู้
ชินทร์ทำฟาร์มม้าขายตั้งแต่อยู่มัธยมปลายแล้ว โดยเริ่มจากทางบ้านซื้อม้าให้ 1 คู่ เป็นของขวัญวันเกิด เขาจึงต่อยอดธุรกิจด้วยการขายลูกม้า เพื่อเป็นอาชีพเสริม และทำเรื่อยมาจนเป็นอาชีพหลัก
ตอนนี้เขากำลังสร้างแลนด์มาร์คเพื่อให้คนอื่นไปท่องเที่ยวที่นอกเมือง เป็นฟาร์มเลี้ยงสัตว์เล็กๆ มีทั้งคอกม้า สวนสนุกสำหรับเด็ก ร้านอาหาร สถานที่ถ่ายรูป เขายังขยายฟาร์มม้าให้ใหญ่กว่าสมัยเรียนมหาลัยเพื่อรองรับแม่พันธุ์ที่เพิ่มมากขึ้น และยังเป็นหมอประจำตัวของม้าที่เขาขายอีกด้วย ชินทร์ไม่จำเป็นต้องเข้าไปทำงานในโรงพยาบาลของพ่อที่ปลอบขวัญทำงานอยู่ก็ได้ เพราะรายได้หลักส่วนใหญ่ก็มาจากการขายลูกม้า และรักษาม้าของเขาที่ขายไป แต่เพราะพ่อของเขาอยากให้เป็นผู้สืบทอดธุรกิจ พ่อจึงขอให้เขาเข้าไปเรียนรู้งานบ้างเมื่อมีเวลาว่าง
Rrrrrrrrr Rrrrrrrrr Rrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ของชินทร์ดังขึ้นหลายสายเมื่ออีกฝ่ายไลน์มาไม่มีคนอ่าน
“ว่าไงขวัญ โทษที เรายุ่งอยู่อ่ะ”
“ไม่อ่านไลน์กันบ้างเลยเหรอ? เป็นไงบ้าง? ขวัญเป็นห่วง”
“ก็ สบายดี ทั้งกายและใจ แค่นี้ก่อนนะไปคุมงานก่อน”
ชินทร์ไม่อยากพูดคุยกับใครมากนัก แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่อยากคุย เขาอยากทำงานให้บ้าคลั่งไปเลย เพื่อลืมมัญญ่า นางกากีคนนั้น แม้กระทั่งไลน์กลุ่มเพื่อนสนิท ที่ทุกคนบอกว่าจะมาเยี่ยมชินทร์ที่ฟาร์มเขาก็ไม่ได้อ่าน
...
โรงพยาบาลสัตว์ปันรัก
ความสัมพันธ์ของ คุณหมอปลอบขวัญและคุณหมอตั้มกำลังเป็นที่พูดถึงของเจ้าหน้าที่และพนักงานหลายคนโดยเฉพาะ ผู้ช่วยสัตวแพทย์ส้ม ถึงกับอยู่ไม่ติดที่ หมอตั้มจีบปลอบขวัญแบบรุกหนัก
“คุณหมอขวัญ กับคุณหมอตั้มเป็นแฟนเก่ากันเหรอคะ?..หนูอ่ะอิจฉ้า อิจฉา .. คิคิ”
“เปล่าหรอก ก็แค่ ป๊อบปี้เลิฟสมัยมัธยมอ่ะหนูส้ม” สาวอวบพูดแก้เก้อไม่ทันเสร็จเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
‘ก็อก ก็อก ก็อก’
“อรุณสวัสดิ์จ้าน้องขวัญ หนูส้ม ทานมื้อเช้ากันหรือยัง พี่เอาก๋วยเตี๋ยวลุยสวนมาฝาก มากินด้วยกันม่ะ”
หนุ่มใหญ่พูดไปด้วยแกะไปด้วย
“อุ้ย!!!!!!! ส้มทานมาแล้วค่ะ เชิญคุณหมอทั้งสองเลยค่ะ .. ส้มลืมไปว่าต้องไปให้อาหารเจ้าด็อกกี้ค่ะ ส้มไปก่อนนะคะ”
ยิ้มอาย ๆ เหล่ตาไปที่ปลอบขวัญเป็นการแซว แล้วเปิดประตูออกไป ปลอบขวัญยิ้มเขิน ๆ
ที่จริงปลอบขวัญอยากให้หนูส้มอยู่เป็นเพื่อนมากกว่าเพราะเธอรู้สึกค่อนข้างอึดอัดที่ ตั้มพยายามแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ ของเธอจนออกนอกหน้า ในใจเธอก็รู้สึกดี แต่มีบางอย่างที่กลับเปลี่ยนไป ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเธอรู้สึกยังไงกับพี่ตั้มของเธอกันแน่
“ขวัญจ๊ะ เสาร์นี้ไปดูหนังกันไหม? เรื่องใหม่เข้าโรงหนังตลกที่ขวัญชอบเลย”
“ขวัญนัดเพื่อนจะไปดูฟาร์มของเพื่อนอีกคนที่กำลังสร้างที่นอกเมืองอ่ะค่ะ”
ปลอบขวัญตอบเลี่ยง ๆ เพื่อไม่ให้เสียมารยาท
“จริงดิ พี่ไปด้วยได้ไหม? อยากไปดูเป็นแนวทางเหมือนกันเผื่ออนาคต เราจะได้สร้างฟาร์มในฝันของเราไง”
ชายหนุ่มตาลุกวาว และอยากไปแนะนำตัวกับเพื่อน ๆ ของหญิงสาวด้วย
“ไปสิคะ ไปด้วยกัน” ปลอบขวัญยิ้มแห้ง ๆ พยักหน้า มันเป็นความอึดอัดที่บอกใครไม่ได้จริง ๆ แต่ก็คิดเข้าข้างตัวเองว่ามันคงต้องใช้เวลาสักพัก ในการเปิดรับพี่ตั้มเข้ามาในหัวใจที่มีชินทร์อยู่ในนั้น
ตั้มทานไปด้วยคุยไปด้วยอย่างสนุกสนาน ปลอบขวัญเองก็ลดความอึดอัดลงมาก จนก๋วยเตี๋ยวและน้ำที่หมอตั้มซื้อมาหมดแล้ว
“น้องขวัญคะเย็นนี้ไปทานข้าวด้วยกันนะคะ” ตั้มอ้อนหนัก ก่อนที่จะขอตัวไปประจำที่ห้องของตัวเอง
"ดะ..ได้ค่ะ"
ปลอบขวัญยิ้มหวานตอบรับแม้จะรู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย ที่รับปากไป แต่ก็ยังดีกว่าที่ปฏิเสธแล้วหมอตั้มต้องมาคอยตามตื้อจนเธอต้องใจอ่อนยอมไปด้วยจนได้ พอหมอตั้มออกไปสาวอวบก็โล่งอกขึ้นมาทันที เตรียมตัวรับเคสต่อไป
หมอตั้มเดินออกมาจากห้องตรวจของปลอบขวัญ รู้ตัวทันทีว่าความรู้สึกของปลอบขวัญตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง เขาไม่เคยเห็นปลอบขวัญนิ่งขรึมแบบนี้มาก่อน รอยยิ้มที่เห็นฟันแทบทุกซี่ก็แทบจะไม่มีให้เขาเห็น
แต่ในเมื่อปลอบขวัญบอกเองว่ายังไม่มีใคร เขาก็จะไม่ลดละความพยายาม เขาจะแก้ไขอดีตที่เคยทิ้งปลอบขวัญไปแม้แต่จดหมายเขาก็ไม่คิดที่จะเขียนหาปลอบขวัญ เพราะในตอนนั้นมันเป็นความคิดโง่ ๆ ของเขาคนเดียวว่ายังไงเสีย เขาก็ได้ดีกว่าปลอบขวัญแน่
แต่วันนี้ เขารู้แล้ว ว่าเขาคิดผิด เพ็ชรอย่างปลอบขวัญกำลังจะหลุดมือเขาไปแล้ว เขาจะต้องกำให้แน่นที่สุดเพื่อไม่ให้เพ็ชรเม็ดนี้ไปเป็นของคนอื่น ตั้มจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ปลอบขวัญอยู่ใกล้เขามากที่สุด
“รักแท้แพ้ใกล้ชิด สู้ๆ นะไอ้ทะเล”
ตั้มพูดกับตัวเองเบาๆ
...
เช้าวันเสาร์
ปลอบขวัญตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น โทรนัดเอ็มเพื่อนสนิทในกลุ่ม ซึ่งเป็นคนเดียวที่รู้ที่รู้ว่าฟาร์มของชินทร์อยู่ที่ไหน
“เอ็มเดี๋ยวขวัญพารถไปนะ พอดีมีคนขอไปด้วยอ่ะ”
“เห้ย!!!! จริงดิขวัญ? แฟนเหรอวะ?”
ปลายสายหยอกทีเล่นทีจริง
“ยังไม่ใช่หรอก แค่ดู ๆ กันไปอ่ะ”
“เห้ย..จริงหรือวะเนี่ย? งั้นเดี๋ยวเจอกันแก แต่เรื่องแกมีแฟน เรื่องนี้ต้องขยายนะ อิอิ” ปลายสายไม่รอช้า รีบวางสายประกาศก้องลงกลุ่มไลน์
**ในกลุ่มไลน์**
เอ็ม : เห้ยพวกมึง ไอขวัญจะขายออกแล้วเว้ยยยย 5555555
เติ้ล : จิงดิ?
แพรว : เห้ยยยย
เอ้ : พามาแนะนำตัวเลยยยยย
หมวย: ใครวะๆๆๆๆๆ
ในกลุ่มไลน์เม้าท์กันอย่างสนุกปาก จนปลอบขวัญต้องเข้าไปปราม
ปลอบขวัญ : ก็แค่รักแรกสมัยเรียนอ่ะแกรรรร ตอนนี้อะไรก็ไม่ชัดเจน
หมวย : เออ ๆ ๆ แกมีแฟนพวกเราก็ดีใจด้วย นึกว่าจะขึ้นคานซะแล้วเพื่อนเรา อิอิ
เอ้ : เคร ๆ เจอกันเอ็มมาแระ
ปลอบขวัญนัดทุกคนมารวมตัวกันที่ชั้นล่างของคอนโดของเธอ รวมทั้งหมอตั้มด้วย หมอตั้มเองก็มารออยู่ก่อนแล้ว ปลอบขวัญลงมาสมทบ
“อ้าวพี่ตั้มมานานหรือยังคะ?” หญิงสาวทักทายสดใส
“ไม่นานค่ะ .. วันนี้แต่งตัวน่ารักจัง” เสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อนสบายตากับกางเกงยีนต์ตัวโปรด
“อะไร?..ขวัญก็แต่งแบบนี้ทุกวัน” สาวอวบพูดแก้เขิน
“เอ้าขวัญ ไปกันเลยป่ะไม่ต้องลงรถแล้วนะ..หวัดดีครับพี่” เอ็มขับรถมาที่หน้าหอคอนโดของปลอบขวัญพอดีทักทายยกมือไหว้ตั้ม ตั้มพยักหน้ายิ้มให้ขึ้นรถทางคนขับ ให้ขวัญเป็นฝ่ายนั่งเฉย ๆ
“เห้ย!!!!! พวกแกขับรถให้ด้วยอ่ะ แมนอ่ะ” แพรวคนรู้ใจของเอ้เมื่อเห็นพฤติกรรมของตั้มก็เกิดอาการปลื้ม
เอ็มที่นั่งข้างคนขับเสริมทับ “มันก็ธรรมดาช่วงโปรไง แบบถือกระเป๋าให้ ขับรถให้ไรงี้”
“ก็ดูเหมาะกับไอขวัญดีนะ ว่าไหมหมวย?” เอ็มซึ่งเป็นคนขับรถขอกำลังเสริมจากแฟนสาวที่นั่งเบาะหลัง
“อืมมม..ดูนิ่งดี ไม่รู้ว่าเจ้าชู้ลึกหรือเปล่าดิ ถ้าเป็นไอชินทร์มันเจ้าชู้ให้เห็นไง แต่คนนี้ โนคอมเม้นว่ะ”
หมวยออกความคิดเห็นจนทุกคนสงสัย
“ทำไมต้องไปเปรียบกับไอชินทร์วะ?”
แพรวถามแทนเพื่อน ๆ
“อ้าว .. นี่อย่าบอกนะว่าพวกมึงไม่รู้ ว่าไอสองคนนี้มันรู้สึกยังไงต่อกัน?"
“ไม่อ่ะฉันก็เห็นมันสองคนเป็นเพื่อนปกตินี่”
แพรวขมวดคิ้วสงสัย
“นั่นสิ แกไปรู้อะไรมาวะหมวย?”
แม้แต่เอ็มที่เป็นแฟนของหมวยก็ยังสงสัย
“เออ ๆ ๆ ช่างเถอะ คิดเสียว่าฉันเข้าใจผิดแล้วกัน ขวัญมันจะมีแฟนแล้ว เราก็ไม่อยากให้มันเขวว่ะ” หมวยบอกปัด ๆ เพราะขึ้เกียจตอบคำถาม
“ไม่ได้!!!! แกรูอะไรมาบอกฉันเดี๋ยวนี้นังหมวย” แพรวเค้นถามคาใจ
“ก็ไม่มีอะไร .. ฉันก็แค่สังเกตว่าเวลาไอชินทร์กะไอขวัญมันอยู่ด้วยกันอ่ะ มันชอบส่งสายตาปิ๊งๆๆๆ ให้กัน ฉันสังเกตหลายครั้งแล้ว แต่พวกมันอ่ะ ไม่รู้ใจตัวเองไง” หมวยอธิบาย
“ไอ้ขวัญมันอาจจะรอคนนี้อยู่ก็ได้ ก็เห็นมันบอกรักครั้งแรก”
แพรวเฉไฉ
“แล้วถ้ามันรอคนนี้ ทำไมมันรีบปฎิเสธว่าไม่มีอะไรทุกอย่างยังไม่ชัดเจนวะ”
หมวยทิ้งคำถามให้เพื่อน ๆ เก็จ จนทุกคนร้องอ๋อ
...
นั่งบนรถประมาณ 2 ชั่วโมงรถก็วิ่งมาถึงฟาร์มของชินทร์ที่อยู่ห่างออกมานอกเมือง เพื่อน ๆ ทุกคนตื่นเต้นที่จะได้เห็นฟาร์มของชินทร์ที่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่าเพื่อนๆมา ทุกอย่างกำลังเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ปลอบขวัญตื่นเต้น ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนคนขับที่แอบมองนึกเอ็นดู ตั้มหวังสักวันว่าจะสร้างฟาร์มแบบนี้ไว้เป็นของขวัญแต่งงานให้ปลอบขวัญให้ได้ รอยยิ้มที่สดใสของปลอบขวัญในวันนี้ทำให้เขามีความสุขเหลือเกิน มองรอยยิ้มที่สดใสนั้นแล้วคิดในใจดังๆ
“พี่ตั้มจะต้องชนะใจน้องขวัญให้ได้!!!!”
