บท
ตั้งค่า

Chapter 3 : ตามรักคืนใจ (NC เบาๆ)

เช้าวันอาทิตย์เวลา 11.33 น.

แสงตะวันสาดเข้าระเบียงห้องนอน ทำให้สัตวแพทย์หนุ่มลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงียมือขวาจับที่ใบหน้าซี๊ดปากเหยเก

“เจ็บชะมัด .. โอยยย หิวแล้วมีอะไรกินบ้างไหมเนี่ย?”

ลูกขึ้นเดินไปในครัวอย่างเคยชิน

เช่นเดิมปลอบขวัญได้ทำกับข้าวที่เขาชอบรอไว้ เขียนโน๊ตติดไว้

“หมูทอดยอดคะน้าที่ชินทร์ชอบกิน และต้มจืดตำลึง ทานและทายาด้วยขวัญตั้งไว้ให้แล้ว ห่วงใย” ปลอบขวัญ

ชายหนุ่มยิ้มส่ายหัวเล็กน้อยพูดกับตัวเองเบา ๆ

“เป็นอย่างนี้ กี่ปี กี่ปี ก็ไม่เปลี่ยนนะปลอบขวัญเพื่อนรัก”

นั่งลงทานข้าวไม่ลืมคว้าโทรศัพท์ กดไปหาแฟนสาว

​Rrrrrrrrr Rrrrrrrrr Rrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrr

โทรศัพท์ดังอยู่หลายสาย แต่ไม่มีคนรับสายจนสายตัดทิ้งไป สัตวแพทย์หนุ่มโทรย้ำอีกครั้งมีคนรับสายพูดออกมาอย่างงัวเงียหัวเสีย แต่ทว่าไม่ใช่เสียงของผู้หญิงที่คุ้นหู กลับกลายเป็นเสียงของผู้ชายที่เขาไม่คุ้นเคย

“ฮัลโล โทรมาทำไมนักหนาวะคนจะหลับจะนอน!!!!” ปลายสายกระแทกเสียง เพราะเพิ่งบรรเลงเพลงรักเสร็จไปไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ

“มึงเป็นใคร!!!! มารับโทรศัพท์แฟนกูได้ยังไง?”

สัตวแพทย์หนุ่มเลือดขึ้นหน้าลุกขึ้น ทั้งตกใจ ทั้งโมโห

“เอาจริงมึงคงไม่อยากรู้หรอกว่ากูเป็นใคร ไอ้หน้าหล่อ”

ปลายสายพูดยั่วให้สัตวแพทย์หนุ่มโมโห

“มึง!!!! มึง!!!!”

ชายหนุ่มโมโหสุด ๆ แทบไม่อยากจะเชื่อว่ามัญญ่าที่เขารักและไว้ใจจะทำกับเขาได้

“เอาน่า .. ตอนนี้เมียมึงก็เป็นเมียกูแล้ว อยากสนุกด้วยกันสามคนวันไหนนัดมาเลยนะ กูพร้อม ฮ่าๆๆๆๆๆ”

ปลายสายทิ้งระเบิดก้อนใหญ่ไว้ แล้วปิดเครื่องทันที ชินทร์พยามยามโทรกลับแต่ไม่สามารถติดต่อได้ มือถือราคาแพงรุ่นใหม่ล่าสุดถูกขว้างกระทบกำแพงทันที

'เปรี๊ยะ!!!!'

หน้าจอแตกละเอียด ชินทร์เดินวนไปมา เหมือนหนูติดจั่น ตะโกนโหกเหวกโวยวายเหมือนคนบ้า แม้เขาจะรู้มาบ้างว่ามัญญ่าไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อย หัวสมัยใหม่แต่ไม่คิดว่าว่าจะสมัยใหม่จนมั่วได้ใจขนาดนี้ 

“ทำไม ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้!! มัญญ่า!! ชินทร์อุตส่าห์รักและไว้ใจทำไมทำกับชินอย่างนี้ โว้ยยยยยย!!!! ฮือๆๆๆๆๆ”

...

ณ โรงบาลสัตว์ปันรัก

สาวอวบยกข้อมือดูนาฬิกา บอกเวลาว่าเที่ยงแล้วจึงหยิบมือถือโทรหาชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง

“เที่ยงแล้ว ชินทร์น่าจะตื่นแล้วโทรหาสักหน่อยซิ”

“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”

“เอ...แบตหมดเหรอ? ช่างเถอะค่อยเจอกันตอนเย็นแล้วกัน”

“คุณหมอขวัญ ๆ มีข่าวดีมาบอกค่ะ คิคิ”

ผู้ช่วยสัตวแพทย์คนสวยเดินเข้ามาอย่างถือวิสาสะ ด้วยว่าเที่ยงแล้วจะชวนปลอบขวัญไปทานข้าว สาวอวบเลิกคิ้วถามเป็นการสงสัย

“มีอะไรจ๊ะหนูส้ม? น้ำเสียงตื่นเต้นเชียว”

“ก็พรุ่งนี้ จะมีหมอใหม่ย้ายมาจากโรงบาลเพื่อนสัตว์มาทำงานที่เราค่ะ คิคิ .. ได้ยินมาว่าหล่อมากกกกก เท่มากกกกกก ดีกรีจบจากต่างประเทศเลยนะคะและตอนนี้ยังไม่มีแฟนเลยค่ะ หนูนี่ตั้งตารอเลยค่ะ คิคิคิ”

ผู้ช่วยสาวพูดไปหัวเราะไป ปลอบขวัญขันในกิริยาของเธอ ปลอบขวัญเองไม่ค่อยจะตื่นเต้นสักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะ ในหัวใจของเธอ มีชินทร์ อยู่จนเต็มแล้วกระมังปลอบขวัญยิ้มส่ายหัวเล็กน้อย

...

เวลา 16.30 น.

ปลอบขวัญเลิกงาน รีบขับรถกลับคอนโดทันที เพราะโทรหาชินทร์ทั้งวันก็ปิดเครื่อง หวั่นว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อมาถึงก็ต้องตกใจ ข้าวของกระจัดกระจาย ทั้งหมอน ผ้าห่ม ถ้วยชามในครัวแตกกระจาย แว้ปแรกก็คิดถึงชินทร์ขึ้นมา

“ชินทร์!!!! ชินทร์เป็นอะไรหรือเปล่า?!!”

ปลอบขวัญไม่โกรธ แต่กลับเห็นใจชินทร์มากขึ้น

“ขวัญ ขวัญ มัญญ่าเขาไปนอนกับคนอื่น ฉันจะทำยังไงดีขวัญ? ฮือๆๆๆ ฉันอุตส่าห์ไว้ใจ เขาชอบออดอ้อน เป็นผู้หญิงที่ฉันไม่เคยเจอมาก่อน รูปร่างหน้าตา ก็ดี การศึกษาก็ดี ฉันรู้ ๆ ว่าเขาเป็นคนสมัยใหม่ เขามีคนผ่านเข้ามาในชีวิตมากมายแต่ฉันคิดว่าเขาน่าจะจบที่ฉัน หยุดที่ฉันได้ แต่วันนี้ วันนี้ มัญญ่า หลอกฉันมาตลอดเลยเหรอขวัญ ฉันเจ็บนะเว้ย!!! ฮือๆๆๆ ” 

ชินทร์ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนเด็ก ปลอบขวัญไม่เคยเห็นชินทร์เป็นแบบนี้มาก่อน ชินทร์มั่นใจในความหล่อพ่อรวยมาก ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้ชินทร์ร้องไห้ได้เลยตั้งแต่คบกันมา 10 ปี ปลอบขวัญนั่งคุกเข่าโอบกอดชินทร์อย่างห่วงใยสุดหัวใจ ชินทร์กอดปลอบขวัญไว้ใบหน้าซุกที่หน้าอกของหญิงสาวอย่างลืมตัว ร้องไห้ตัวสั่นเทา

...

โรงแรมสามดาว

“ซี๊ด!!!!...อ่า!!!!โอ้ววว”เพลงราคะกำลังบรรเลงอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยหลังจากสองหนุ่มสาวหลับเป็นตายหลังกิจกรรมตอน 11 โมง มัญญ่า ร้องโอดครวนครางเสียงหลง แน่นอนเธอแทบจะสำรักความสุขที่สหรัฐมอบให้ทั้งวัน เธอไม่เคยเจอใครที่อึดและทนเหมือนสหรัฐมาก่อน แม้แต่ชินทร์ที่มีแต่คนตั้งฉายาว่าเจ้าชู้ตัวพ่อก็ตาม ก็ไม่อาจสู้รสสวาทของสหรัฐได้

“แรง ๆ เลยค่ะที่รัก โอ้ววว!!!! แรงอีกค่ะที่รักขาาาาา..แรงอีก...อ้าาาา!!!!”

มัญญ่าในท่าคุกเข่า ที่ กำลังถูกแรงอัดสะโพกจากข้างหลังทำให้เธอเสียวแทบสำลักความสุข

“โอ้วววว!!!! ชอบมากไหมจ๊ะที่รัก? พี่จะแทงให้คลานกลับบ้านเลยคอยดู โอ้ววววว...ซี๊ดดดด!!!!” สะโพกผายถูกบดขยี้ บีบเค้นเคล้าคลึงอย่างเมามัน สหรัฐยิ้มพอใจ ที่หญิงสาวติดกับดักราคะของเขา เขาบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ลดละจนมัญญ่าลืมเรื่องชินทร์ไปในที่สุด

...

ชินทร์ร้องไห้จนพอใจ ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว แม้เขาไม่อาจลืมเรื่องมัญญ่าได้แต่เขาต้องเดินหน้าต่อไปและตั้งใจว่า ไม่อาจหวนกลับไปคบกับมัญญ่าได้อีก น่าแปลกที่เขารู้สึกเสียใจมาก แต่ก็แค่เวลาสั้น ๆ เท่านั้น แม้จะรู้สึกเฮิร์ตอยู่แต่ก็รู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน แต่คิดว่าอยากจะพักสมองสักระยะ เพื่อค้นหาหัวใจของตัวเองดูว่า ทำไมใจนึงเสียใจแต่อีกใจรู้สึกดีขึ้นเบาขึ้น อย่างบอกไม่ถูก

“ขวัญเราจะไปอยู่นอกเมืองสักพักนะ เราทำคอกม้าไว้ที่นั่น”

“อ้าว..จริงเหรอ? คอกม้าใหญ่ไหมชินทร์? และมีอะไรให้ขวัญช่วยไหม?”

หญิงสาวดีใจที่ชายหนุ่มเศร้าน้อยลง

“ไม่ต้องหรอก จริง ๆ เรากะเซอร์ไพรส์มัญญ่าน่ะ เมื่อสร้างเสร็จเรา ว่าจะขอเขาแต่งงานแล้วไปใช้ชีวิตกันที่นั่นน่ะ นี่ก็เพิ่งเริ่มทำ ก็คงต้องทำให้เสร็จต่อไป คุณพ่อคุณแม่ก็ลงทุนให้แล้ว”ชายหนุ่มบรรยายเสียงเรียบ

“แล้วจะไปเมื่อไหรล่ะ?”

หญิงสาวเอ่ยถามแบบใจหาย

“กินข้าว เสร็จก็ไปเลย ไปพักที่โน่นแหละ พักกาย พักใจ สักหน่อย”

“ดีเลยนะ..ติดต่อมาบ้างนะชินทร์ ฉันเป็นห่วง”

ชายหนุ่มพยักหน้ายิ้มให้เล็กน้อยแม้จะรู้สึกดีไม่น้อยในความห่วงใยนั้น แต่ก็คิดว่ามันคงไม่มีความรู้สึกใดนอกจากเพื่อนที่ห่วงเพื่อนท่านั้น เขาเองก็แปลกใจที่ความโศกเศร้า อาลัยอาวรณ์มัญญ่า เมื่อตอนกลางวันมันหายไปไหนเกือบหมด รู้สึกดีและเบาขึ้นเมื่อตอนเย็นที่ปลอบขวัญโอบกอดเขา เขาเองก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว

ปลอบขวัญเองแม้จะอวบ ชอบใส่เสื้อตัวใหญ่ ๆ แต่เธอก็ดูสวยไม่หยอก ขนาดไม่แต่งหน้า ตาที่โตได้รูป ขนตายาวงอนโค้งสวย ปากบางชมพู แก้มที่แดงระเรื่อยังสะดุดตา ชินทร์เองกลัวใจตัวเองเหลือเกินที่จะอดใจไม่ได้เมื่ออยู่กันสองคน

ในตอนนี้ปลอบขวัญไม่เหมือนเด็กกะโปโลเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เธอสวยขึ้นตอนไหนเขาเองก็ไม่รู้เลย ตอนปีหนึ่งที่ปลอบขวัญเขามาในรั้วมหาวิทยาลัยครั้งแรก ก็ได้จับคู่กับเขาในการร่วมรับน้องด้วยกัน ปลอบขวัญเป็นคนเจ้าเนื้อและมีความมั่นใจในตัวเองไม่น้อยความสะสวยก็ไม่หยอก จึงถูกรุ่นพี่แกล้งและท้าทายตลอด ชินทร์เองไม่ชอบที่มีคนข่มเหงกัน เขาจึงคอยปกป้องปลอบขวัญทุกครั้ง จนเริ่มสนิทกัน ชินทร์เป็นที่ชื่นชอบของสาว ๆ ปลอบขวัญก็เป็นแม่สื่อแม่ชักให้แทบจะทุกคน ความสนิทสนมเพิ่มมากขึ้นถึงขั้นคอยสับรางเรื่องสาว ๆ ให้ชินทร์ จดแล็กเชอร์ให้ชินทร์ ทำงานแทนชินทร์ แทบจะทุกอย่างโดยไม่ปริปากบ่น

เมื่อมีหนุ่ม ๆ เข้ามาขายขนมจีบปลอบขวัญ ชินทร์ก็จะเป็นไม้กันหมาทุกครั้ง จนปลอบขวัญไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยสักคน ปลอบขวัญแหวใส่ชินทร์ไปหลายครั้ง เพราะตอนชายหนุ่มมีแฟนเธอก็คอยเป็นแม่สื่อให้ แต่พอเธอจะมีแฟนบ้าง เขากลับไม่ให้มีเลย ชายหนุ่มยอมทิ้งแฟนของตัวเองเพื่อมาคอยตามปลอบขวัญต้อยๆๆๆ จนปลอบขวัญอัดอัด ต้องบอกเลิกรากับคนที่มาจีบไปทุกคน

ชายหนุ่มเผลอจ้องหน้าร่างอวบคิดถึงความหลัง

"ชินทร์..ชินทร์..มองอะไร ? แกมองหน้าฉันทำไม?”

ปลอบขวัญขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย 

“ปะ..เปล่า แล้วฉันจะไลน์หานะ.. ไปละ”

ชายหนุ่มรีบปฏิเสธเสียงสูง ลุกขึ้นเดินออกจากห้องแก้เก้อ

“ฉันไปส่งไหม?”

“ไม่ต้องหรอก เด๋วเอ็มมารับคุยกันแล้ว”

ปลอบขวัญเดินไปส่งหน้าห้องมองชินทร์เดินไปที่ลิฟต์จนสุดตาเดินกลับไปเก็บกวาดห้องและทำกิจวัตรประจำวันต่อ 

...

เช้าของอีกวัน

ชินทร์โอนเงินเข้าบัญชีปลอบขวัญแทนคำขอโทษที่ทำให้ข้าวของในห้องของปลอบขวัญเสียหาย พังไปหลายอย่าง ปลอบขวัญตื่นขึ้นมา มองเห็นยอดเงินบัญชีก็ตาโต

ชินทร์มักจะทำแบบนี้เสมอ ไม่ว่าทำอะไรผิด หรือหากต้องการขอบคุณเธอ เขาก็จะโอนเงินเข้าบัญชี แทนคำขอโทษ หรือขอบคุณอยู่เสมอ แม้หญิงสาวจะปฏิเสธและโอนเงินคืนกลับไป แต่เขาก็ไม่ยอมรับคืน โอนคืนกลับมาให้ทุกครั้ง ปลอบขวัญจึงรับไว้โดยปฏิเสธไม่ได้ ทำให้ตอนนี้เธอมีเงินเก็บอยู่มากพอสมควร เพราะลำพังที่บ้านของเธอก็โอนมาให้จากกิจการสวนผลไม้ และงานประจำที่โรงพยาบาลสัตว์ปันรัก และเคสพิเศษที่คนไข้ขอร้องให้เธอไปเป็นหมอส่วนตัวให้กับบรรดาน้องหมาน้องแมวอีก เธอจึงไม่ขัดสนเรื่องค่าใช้จ่ายเลย

"โอ้โห วันนี้ป๋าจัดหนัดจัดเต็ม โอนมาเป็นแสนเลยแฮะ .. ดีเลยวันนี้จะไปช็อปถ้วยชามใหม่ให้หนำใจเลย ิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิอิอิ"

สาวอวบสาวเท้าเข้าห้องน้ำอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงานอย่างสดชื่นด้วยหน้าตาที่แจ่มใส

...

เมื่อมาถึงโรงพยาบาลวันนี้บรรยากาศที่ โรงพยาบาลครึกครื้นเป็นพิเศษทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีลูกค้า บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่พากันเดินวนไปที่ห้องคุณหมอคนใหม่อย่างไม่ลดละมีทั้งคุณหมอคนอื่นๆ คุณผู้ช่วยสัตวแพทย์ ไม่เว้นแม้กระทั่งคุณแม่บ้าน ก็พากันมาต้อนรับคุณหมอคนใหม่กันเกรียวกราว

“หนูส้ม คุณหมอคนใหม่มาแล้วเหรอจ๊ะ? เสียงเจี๊ยวจ๊าวกันใหญ่เลย”

“อ้าวคุณหมอขวัญ มาแล้วเหรอคะ? .. ใช่ค่ะคุณหมอคนใหม่มาแล้วค่ะ .. หมอขวัญไปต้อนรับกันนะคะ คิคิ .. เช้านี้ยังไม่มีลูกค้าเลยค่ะ”

“ไม่ล่ะจ่ะ..เด๋วเห็นคุณหมอคนใหม่ว่าที่แฟนส้ม แล้วพี่ละลาย .. หมอคนใหม่มาตกหลุมรักพี่ หนูส้มจะทำยังไงล่ะ กลัวหนูส้มอกหัก คิคิ”

บอกปฏิเสธพร้อมหยอกกลับหนูส้มไป เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องได้ร่วมงานกันอยู่แล้ว ไว้แนะนำตัวตอนร่วมงานกันเลยดีกว่า

'ก็อกๆๆ'

“เชิญค่ะ” ปลอบขวัญอ่านแฟ้มน้องหมาบอกเชิญโดยไม่เงยหน้าจากแฟ้ม

“สวัสดีครับ น้องขวัญ”

เสียงคุ้นหูทำให้หญิงสาวต้องเงยหน้า ตะลึง รีบฉีกยิ้ม

“คุณหมอทะเล....สวัสดีค่ะพี่ตั้ม” ปลอบขวัญยกมือไหว้ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า

“สวัสดีครับน้องขวัญ..สบายดีนะครับ”พร้อมส่งกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ให้ปลอบขวัญ ทำเอาผู้ช่วยและพนักงานในโรงพยาบาลส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด ปลอบขวัญรับช่อดอกไม้อย่างเขินอาย หน้าแดงไม่รู้ตัว

“สะ..สบายดีค่ะ พี่ตั้มล่ะคะ เป็นไงบ้าง? สิบกว่าปีแล้วนะคะที่ไม่ได้เจอกัน..ขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะ ยังจำได้หรือคะว่าขวัญชอบดอกกุหลาบสีขาว”

“จำได้สิครับ เรื่องของขวัญพี่จำได้หมดแหละ” ชายหนุ่มรื้อฟื้นอดีต ปลอบขวัญรู้สึกร้อนที่ใบหูขค้นมาอย่างบอกไม่ถูก

...

พี่ตั้ม หมอตั้ม หรือหมอทะเล หมอผู้โด่งดังเรื่องกระดูกของสัตว์ทุกชนิด ในวงการสัตวแพทย์เขาเป็นที่เลื่องลือในชื่อหมอทะเลผู้ดามกระดูกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ ปลอบขวัญก็เพิ่งจะได้ยินมาจากหมอชินทร์ ที่มาเล่าให้ฟัง ตอนที่ชินทร์ไปอบรมที่ต่างประเทศ ว่าได้เจอหมอคนนี้ พอเอารูปให้ดูก็รู้ว่าเป็นพี่ตั้มของเธอ แต่เพราะคิดว่า หมอตั้มคงไม่คิดจะกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยแล้ว เธอจึงไม่เคยเล่าอะไรให้ชินทร์ฟังเลย

...

หมอตั้มที่เป็นรักครั้งแรกของปลอบขวัญ สมัยที่เธออยู่ ม.2 ปลอบขวัญเป็นคนมั่นใจตั้งแต่เด็กชอบหอบดอกกุหลาบสีขาวมาให้พี่ตั้มซึ่งตอนนั้นเรียนอยู่ชั้น ม.5 ทุกวัน ตั้มเป็นที่ป๊อบปูล่ามากในหมู่สาวๆ ทั้ง ม.ต้น และ ม.ปลาย แต่เลือกที่จะเปิดใจให้ปลอบขวัญเพราะเป็นคนมั่นใจในตัวเอง กล้าคิดกล้าพูด กล้าแสดงออก และ ตลก แม้จะมีโทรศัพท์ที่เริ่มมีบทบาทกับผู้คนมากขึ้น แต่ปลอบขวัญและตั้มก็เลือกที่จะเขียนจดหมายถึงกัน จนตั้มจบ ม.ปลาย และไปเรียนต่อสัตวแพทย์ชื่อดังในต่างประเทศ ปลอบขวัญรักสัตว์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็อยากเรียนสัตวแพทย์ด้วย หวังว่าสักวันเธอจะได้พบเจอคนที่เป็นรักแรกอีกครั้ง ตั้งแต่ตั้มไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ทั้งสองก็ไม่ติดต่อกันอีกเลยเพราะปลอบขวัญเองเมื่อจบ ม.3 ก็ย้ายเข้ามาเรียนในเมืองหลวงจดหมายที่ส่งให้ตั้มทุกเดือนเป็นระยะเวลาถึง 4 ปีเต็ม ตั้มก็ไม่เคยตอบกลับมาเลยแม้แต่ฉบับเดียว ปลอบขวัญจึงตัดใจตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะสัตวแพทยศาสตร์ได้ ปลอบขวัญก็ได้เจอกับชินทร์ เอ้ และ หมวย ที่เป็นเพื่อนกันมาจนถึงตอนนี้

...

ตั้มไปเรียนต่างประเทศ เจอเพื่อนใหม่ คนกลุ่มใหม่ จนตั้งใจลืมสัญญาระหว่างเขากับปลอบขวัญว่าจะเขียนจดหมายถึงกันทุกเดือน เขาตั้งใจไม่ตอบจดหมายของปลอบขวัญ เพราะเขามีสังคมใหม่ มีแฟนใหม่

ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ปลอบขวัญส่งจดหมายไปให้เขา เขาแทบไม่เปิดอ่านด้วยซ้ำ จนกระทั้งตั้มอกหักจากแฟนฝรั่งในตาน้ำข้าว ได้มีโอกาสทบทวนตัวเอง และเปิดอ่านจดหมายที่ปลอบขวัญส่งมาให้ ทำให้ตั้มรู้สึกผิด ที่ทิ้งปลอบขวัญไป

สองปีก่อนกลับไทยตั้มตั้งใจจะเดินทางไปเที่ยวประเทศต่าง ๆ ตามที่ตั้งใจไว้ จนไปเจอฟ้า เพื่อนสนิทสมัยเด็กของปลอบขวัญที่ญี่ปุ่น เขาถึงได้รู้ว่า ปลอบขวัญทำงานที่โรงบาลสัตว์ปันรัก แต่เนื่องด้วยมีพันธะสัญญากับเพื่อนเก่าว่าจะไปช่วยเพื่อนที่โรงพยาบาลเพื่อนสัตว์ก่อน เขาจึงไปทำงานในโรงพยาบาลของเพื่อนก่อนเกือบปี และสร้างโรงพยาบาลสัตว์ของตนไว้ที่ต่างจังหวัดไปคู่กันด้วย

...

เมื่อหมดพันธะสัญญากับเพื่อนแล้ว หมอตั้มรีบมาสมัครที่โรงพยาบาลสัตว์ปันรักทันที หวังมาสานสัมพันธ์กับปลอบขวัญต่อ เพราะเขาคิดว่าไม่มีใครรักและมั่นคงกับเขา ได้เท่ากับปลอบขวัญอีกแล้ว

“พี่หวังว่า น้องขวัญจะยังไม่มีแฟนนะครับ”

ชายหนุ่มขอความหวัง

“ยังค่ะ”

ตอบไปเขินไป

"งั้นเย็นนี้ .. ไปทานข้าวกับพี่นะครับ"

ส่งสายตาหวานเยิ้ม เว้าวอนขอโอกาส ปลอบขวัญเขินบิดตัวไปมา หน้าแดง เจ้าหน้าที่ที่มามุงดูด้วยความสงสัย กรี๊ดกร๊าดส่งเสียงแซว

"ค่ะ"

ปลอบขวัญกระพริบตาถี่ ๆ ตอบรับอย่างปฏิเสธไม่ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel