ตอนที่ 3 เด็กเนิร์ดอ่ะนะ
“พอแค่นี้เหอะ แฮกระบบแล้วลบทั้งหมดซะ เอาแค่นี้พอ ค่าตบฉันไม่ได้แพงขนาดนั้น”
“นับว่านางยังโชคดีที่เจอตันหยงของเรา ถ้าเป็นฉันนะยัยนี่ไม่ได้เกิดอีกแน่”
“ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง เหลือทางรอดให้เธอบ้างเถอะ”
“โอเค ตามนั้น”
ตันหยงเริ่มแฮกเข้าระบบของกล้องวงจรปิดและลบภาพของนางแบบสาวตั้งแต่เมื่อคืนนี้จนกระทั่งเข้าห้องไปกับนายทุนออกจนหมด แคทที่นั่งดูอยู่ได้แต่ส่ายหน้าเสียดาย
“เฮ้อ…แกจะใจดีไปหรือเปล่านะ”
“ไม่หรอก แกคิดว่าฉันจะใจดีแบบนั้นเลยเหรอ ฉันสำรองไฟล์เอาไว้อีกที่หนึ่งแล้ว เอาไว้วันไหนเธอแว้งกัดขึ้นมา วันนั้นฉันจะไม่ใจอ่อนอีก”
“ต้องแบบนี้สิถึงจะเป็นตันหยงของแท้ ว่าแต่…คุณนายคนนั้นคงหวงลูกชายมากเลยนะถึงได้ทำถึงขนาดนี้”
“แกก็เห็นเบื้องหลังแล้วนี่ ถ้าแกเป็นแม่ของเขาแกจะไม่กันผู้หญิงแบบนั้นออกจากชีวิตลูกแกเหรอ”
“ก็…นะ ที่จริงน่าจะให้เขาเห็นธาตุแท้เธอเองสิจะได้ตัดสินใจได้ว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ คนเป็นแม่ก็ไม่น่าจะยุ่งกับชีวิตลูกชายขนาดนั้นป่าววะแก”
“พูดยาก คนรวยมักจะทำอะไรที่เราไม่เข้าใจเสมอแหละ”
“นั่นสินะ เอาละเราจะเอาระบบแฮกเกอร์ของมายแองเจิลนี่ออกจากที่นี่เลยไหม”
“ไม่ต้อง ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง เก็บเอาไว้ก่อน”
“นี่เธอจ๋า นี่เป็นที่ที่แปดแล้วนะ เซิร์ฟเวอร์จะรับไม่ไหวเอานะ”
“ฉันสั่งสำรองเพิ่มให้แกแล้ว ทีนี่เลิกบ่นได้หรือยัง”
“อู๊วว เทพตันหยงจงเจริญ นี่แกเอาเงินค่าจ้างไปซื้อเซิร์พเวอร์เพิ่มเลยเหรอ”
“ในส่วนของทิปน่ะคุ้มค่าก็ลงทุน ไปก่อนนะ”
“นี่ วันนี้จะไปไหนอีกละ"
“แกลืมแล้วเหรอว่าเราเป็นนักศึกษาฝึกงานน่ะ”
“เออ จริงด้วย ไปเถอะ ๆ แต่ทำไมต้องเป็นโรงพยาบาลด้วยนะ”
“ระบบปฏิบัติการที่โรงพยาบาลที่ผิดพลาดไม่ได้ นั่นไม่ใช่การฝึกงานที่คู่ควรและท้าทายความสามารถของว่าที่โปรแกรมเมอร์หรอกเหรอ อย่าบ่นรีบไปเปลี่ยนชุดเถอะ”
“จ้า ๆ ไปจ้า”
โรงพยาบาล
“สวัสดีนักศึกษาทุกคน วันนี้จะให้พวกคุณแบ่งแผนกไปรับผิดชอบตามจุดต่าง ๆ นะครับ เอาละ แต่ละคนจะมีเอกสารส่งตัวอยู่แล้ว จากนี้อีกสามเดือนก็ขอให้พวกคุณเรียนรู้ให้มากนะครับ”
""ขอบคุณค่ะ/ครับ""
“แคท แกไปที่ไหน”
“แผนกฉุกเฉิน แกละ”
“อายุรกรรม”
“ฉุกเฉินอยู่ชั้นหนึ่ง อายุรกรรมชั้นสี่ ห้องอาหารอยู่ชั้นสิบเอ็ด เอาเป็นว่าตอนเที่ยงมาเจอกันที่ห้องอาหารนะ”
“โอเคแยกกัน”
“แยกกัน”
ตันหยงเดินตามเพื่อนอีกสามคนคือส้ม กิต และน้ำไปที่แผนกอายุรกรรม เธอไม่ค่อยสนิทกับใครในนี้เท่าไหร่นัก เพราะเธอเป็นพวกเด็กเนิร์ดที่อยู่ในห้องเรียนที่ไม่ค่อยจะสุงสิงกับใคร
“ถึงแล้วละ นี่ ๆ ได้ยินว่าหมอแผนกอายุรกรรมหล่อมากเลยนะ”
“เหรอ ส้มแกนี่รู้ดีจริง ๆ เลย เอ่อ ตันหยงเธอก็ไปที่แผนกอายุรกรรมเหรอ”
“อ้อ..เอ้อใช่”
“เราชื่อกิตนะ ที่จริงอยากทักทายเธอมานานแล้วละแต่เหมือนเธอจะไม่ค่อยคุยกับคนอื่นเลย”
“อ้อ ใช่เรา…คุยไม่ค่อยเก่งนะ”
“เด็กเนิร์ดอ่ะนะ พูดยาก”
“ส้ม!!”
น้ำพยายามปรามส้ม เพื่อนคณะเดียวกันที่พูดแขวะตันหยงขึ้น แม้ว่าทั้งสองจะไม่ค่อยได้คุยกัน แต่ส้มก็นับว่าเป็นคนสวยของคณะวิศวะ เธอเป็นรองแค่ดาวคณะและดาวมหาลัยเท่านั้น เมื่อลิฟต์ถึงชั้นเจ็ด แต่ละคนก็เดินออกมา
“ตันหยงเอาเอกสารมาสิ เราจะรวบรวมและไปส่งให้”
“อ้อ ขอบใจนะ…กิต”
“ไม่เป็นไรจากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะ”
“ได้เลย”
“งั้นพวกเรานั่งรอตรงนี้เถอะ”
น้ำชวนทุกคนมานั่ง แต่เมื่อกำลังเดินไปพวกเธอก็พบคุณหมอที่เดินออกมาจากห้องพักส่วนตัวมาที่ เค้าน์เตอร์ ส้มหันไปมองเขาด้วยความสนใจทันทีพร้อมกับเดินไปที่กิตเพื่อจะแย่งเอกสารในมือเขาและเดินไปที่เค้าน์เตอร์เอง
“สวัสดีค่ะ นักศึกษาฝึกงานค่ะ นี่เอกสารค่ะไม่ทราบว่า…”
เธอเอ่ยทักคุณหมอหนุ่มแว่นที่ดูท่าทางใจดีที่ยืนอยู่หน้าเค้าน์เตอร์และทำสายตาหวานให้เขา แต่เขากลับหันมามองเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย ตันหยงหันไปมองด้วยความอยากรู้ในทันที แม้ว่าจะผ่านแว่นตานั้นแต่เธอก็จำเขาได้แม่นยำ
“เอ่อ….”
“นักศึกษา เค้าน์เตอร์ก็อยู่ที่นี่ นั่นเจ้าหน้าที่ที่จะรับเรื่องให้คุณ ผมเป็นหมอไม่ได้มีหน้าที่ตอบคำถามของคุณ”
เขาตอบและคว้าแฟ้มบางอย่างและเดินออกจากเค้าน์เตอร์นั้นไปทันทีทิ้งให้ส้มที่ยืนถือเอกสารอยู่ที่แทบจะร้องไห้อยู่แล้วเพราะความอับอาย กิตรีบเดินไปหาเธอทันทีพร้อมกับรีบยื่นเอกสารและมีเจ้าหน้าที่ยืนรออยู่
“คุณหมอที่นี่ดุจังเลยเนอะ”
“นั่นสิ ดุจนไม่น่าเข้าไปคุยด้วยเลยทางที่ดีห่าง ๆ เอาไว้ชีวิตน่าจะปลอดภัยมากกว่า”
“ตันหยงพูดตลกจังเลย คิดไม่ถึงว่าเธอเป็นคนตลกแบบนี้ น่าแปลกที่ไม่ค่อยได้คุยกันเลย”
“เราเป็นคนคุยไม่เก่งน่ะ แล้วก็…”
“เรารู้ ข่าวลือที่บอกว่าเธอหยิ่งนั่นใช่ไหม แต่เราคิดว่าเธอแค่เริ่มคุยกับคนอื่นไม่เป็นใช่ไหม”
“ขอบใจที่เข้าใจนะน้ำ ยินดีที่ได้ฝึกงานร่วมกัน สามเดือนนี้ก็ฝากตัวด้วย”
“ยินดี ๆ เราคงได้คุยกันบ่อยขึ้นนะ เรารู้ว่าเธอเก่งมาก”
“ไม่หรอก ก็เรียนเหมือน ๆ กันนั่นแหละ เอาตัวรอดไป”
น้ำหัวเราะกับคำพูดที่ตันหยงพูด ที่จริงเพื่อน ๆ ในคณะก็ไม่ได้จะเข้าหายากขนาดนั้น แต่ตันหยงไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครเพราะเหตุผลบางอย่าง เธอไม่ได้มีพร้อมเหมือนคนอื่น พ่อแม่เสียเพราะอุบัติเหตุตอนเธออยู่ปีหนึ่ง ทิ้งหนี้สินมากมายเอาไว้ให้ ตั้งแต่นั้นเธอต้องขายบ้านและรถยนต์ของพ่อ สมบัติทั้งหมดให้กลายเป็นเงินเพื่อจะได้มาจ่ายค่าเทอม
หากไม่ได้พบแคท เพื่อนสนิทที่ยื่นมือเข้ามาช่วยในบางครั้งที่ลำบาก ตันหยงก็คิดว่าเธอคงมาไม่ได้ถึงขนาดนี้ ทั้งหางานพิเศษให้ทำตลอดจนงานที่ต้องปลอมตัวเพื่อ แฮกระบบและรับงานเหมือนวันก่อน ที่เธอทำได้เพราะทุกครั้งเธอต้องปลอมตัวและสวมวิกทุกครั้งเธอจึงมีความมั่นใจ
“ตันหยง ไปกันเถอะ”
“อ้อ ไปกัน”
ห้องทำงานที่พวกเธอถูกส่งมาเป็นเหมือนกับศูนย์ระบบของคอมพิวเตอร์ แต่ละคนมีโต๊ะเป็นของตัวเองแต่คอมพิวเตอร์มีเพียงสองเครื่อง ในห้องมีโต๊ะประชุมเล็กตั้งอยู่ตรงกลางห้อง
“พวกเธออยู่ในห้องนี้นะ ระบบงานก็ตามนี้ช่วงแรกจะให้ศึกษาเรื่องเอกสารไปก่อน นี่เธอน่ะ”
“หนูเหรอคะ”
“ใช่เธอนั่นแหละ เอาเอกสารนี้ออกไปข้างนอกและถ่ายเอกสารมาให้เพื่อน ๆ กรอกที”
“อ่อ น้ำ เอาไปสิ ไปถ่ายเอกสาร”
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมองหน้าของส้มทันทีและสั่งเสียงแข็งเมื่อเห็นว่าน้ำรับเอกสารนั้นมา
“หยุดก่อน ฉันสั่งเธอไม่ได้สั่งเพื่อนเธอ”
“แต่ว่างานถ่ายเอกสารนี่ใช่งานของโปรแกรมเมอร์เหรอคะ”
“เธอชื่ออะไร ฉันจะได้รายงาน…”
“ก็ได้ค่ะ!!”
“นี่เธอขึ้นเสียงเหรอ”
“ก็ได้ค่ะ ส้มไปเอง”
เธอดึงเอกสารจากมือน้ำจนกระดาษบาดไปที่นิ้ว น้ำไม่กล้าร้องแต่ตันหยงรีบหยิบกระดาษเปียกในกระเป๋าออกมาเช็ดแผลให้
“เจ็บไหมน้ำ ถือไว้ก่อนนะเรามีพลาสเตอร์”
“ขอบใจนะตันหยง”
“ไม่เป็นไร ๆ”
ไม่นานส้มก็เดินเอาเอกสารที่เดินไปถ่ายเอกสารมาส่งให้กับทุกคนอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ทุกพฤติกรรมอยู่ในสายตาของ"วิชุดา หรือ พี่ออย" หัวหน้าที่ดูแลเด็กฝึกงานในครั้งนี้จนหมด
“เอาละ แนะนำตัวเองหน่อย ฉันชื่อวิชุดา เรียกพี่ออยก็ได้”
""สวัสดีค่ะพี่ออย""