บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 เด็กฝึกงานชั้นเจ็ด

"เอาละ ในเมื่อรู้จักกันแล้ว แผนกของเราส่วนใหญ่ก็จะเป็นระบบที่ส่งผลตรวจไปที่ห้องแล็บระบบที่จัดส่งนี้ต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์นำทาง แต่ละครั้งคุณหมอจะส่งหลอดที่ต้องตรวจมาที่ท่อนี้และกดส่งชั้นที่ต้องตรวจสอบ

“อี๊ หมายถึง…”

ส้มถึงกับอุทานออกมาในทันที วิชุดานึกเอาไว้แล้วว่าเธอน่าจะเป็นคนที่เรื่องเยอะที่สุดแต่เธอก็พยายามเก็บอารมณ์เอาไว้มากที่สุดเพราะเธอเป็นผู้ใหญ่

“ใช่ อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ มีทั้งเลือด ปัสสาวะ อุจจาระของคนไข้ ทุกอย่าง หน้าที่ของพวกเธอคือดูแลระบบพวกนี้ให้ทำงานให้เป็นปกติ ไม่อย่างนั้น”

“อย่าบอกนะคะว่า….เราต้องถือพวกนั้นไปส่งน่ะ”

“ก็ดูแลให้เครื่องทำงานตามปกติก็แล้วกัน เอาละวันแรกก็ไม่มีอะไรมาก เดี๋ยวจะพาไปรู้จักกับคนในแผนกทั้งหมด”

“รวมถึงคุณหมอด้วยไหมคะ”

วิชุดาข่มใจครั้งแล้วครั้งเล่ากับความอยากรู้อยากเห็นของนักศึกษาคนนี้ เธอไม่ตอบแต่เดินนำทุกคนออกมาเพื่อแนะนำแต่ละคนให้รู้จัก

“นี่พี่ขวัญ พี่อ้อม พยาบาลประจำเค้าน์เตอร์กะนี้ ยังมีอีกสองคนที่จะมาสลับเอาไว้พวกเธอมาเข้ากะแล้วค่อยแนะนำอีกที”

“สวัสดีค่ะพี่อ้อม พี่ขวัญ”

“สวัสดีค่ะทุกคน”

“คุณหมอประจำในแผนกเรามีสามท่าน หมอชลดา หมอนิรุตน์ และคุณหมอตะวัน”

“คุณหมอชลดาคะ เด็กฝึกงานค่ะ”

“หมอชลดา หมอหญิงเพียงคนเดียวในแผนกออกมายืนยิ้มเพื่อรับไหว้ทุกคนที่เข้ามาฝึกงาน เธอเป็นคุณหมอใจดีที่ยิ้มให้ทุกคน กล่าวทักทายเล็กน้อยและกลับเข้าห้องเพื่อรอตรวจคนไข้”

“คุณหมอนิรุตน์คะ เด็กฝึกงานค่ะ”

“อ้อ สวัสดีทุกคน ตามสบายนะ คนสวยฝากดูแลด้วยนะ ผมไปห้องผ่าตัดก่อน คุณหมอตะวันล่วงหน้าไปแล้ว”

“ได้ค่ะคุณหมอ”

“ว๊า คุณหมอตะวันไม่อยู่ น่าเสียดายจัง”

“ส้ม สำรวมหน่อย”

“อะไรละน้ำ กระทุ้งอยู่ได้เป็นบ้าอะไร”

“เอาละ บอกไว้อีกอย่าง กฎระเบียบของพวกเธอไม่ต่างกับเจ้าหน้าที่ที่นี่ อ่านและจำให้ขึ้นใจอย่าสร้างความวุ่นวายและอย่าเสียมารยาท..กับคุณหมอ และขอเตือนว่าอย่าได้ถามเรื่องส่วนตัวกับคุณหมอเป็นอันขาด”

พวกเธอเดินกลับเข้ามาในห้องทำงานและนั่งอ่านกฎระเบียบของโรงพยาบาลรวมไปถึงงานที่ต้องแบ่งหน้าที่กันดูแล ส้มเริ่มอิดออดและรู้สึกว่าเบื่อกับการที่จะต้องดูแลระบบนี้ขึ้นมา

“แย่จังเลย เรื่องอะไรต้องมาทำหน้าที่เฝ้าเครื่องส่งฉี่ละเนี่ย เฮ้อ”

“นี่ตันหยงเที่ยงนี้ไปกินข้าวที่ไหนเหรอ”

“นัดกับแคทเอาไว้ว่าจะลองไปกินที่ห้องอาหารน่ะ ไปด้วยกันไหมกิต”

“เอาสิ ๆ พวกเธอละ ไปไหม”

“ไป ๆ เราไปด้วย”

“นี่พวกเธอไม่เบื่อบ้างเหรอ อยู่ในโรงบาลทั้งวันแล้วยังต้องกินข้าวในห้องอาหารโรงบาลอีก ไม่เอาด้วยหรอก เหม็นกลิ่นยาฆ่าเชื้อ ไปกินข้างนอกดีกว่าอยากกินสเต๊ก”

“เราไปด้วยนะตันหยง”

“น้ำ!!”

ส้มมองหน้าเพื่อนที่จู่ ๆ ก็จะทิ้งเธอไปกับตันหยง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้คอยตามเธออยู่ตลอดเวลา น้ำหันมามองหน้าส้มที่ยังไม่พอใจและเอาแต่ใจตัวเองไม่เลิก

“ส้ม เราว่าจะลองกินที่นี่ดู มันสะดวกและไม่เสียเวลา อีกอย่างช่วงนี้คงต้องรัดเข็มขัดเรื่องการใช้จ่ายแล้วด้วย”

“แต่ว่า..แค่สเต๊กเองนะ”

“ไม่ละ เราไม่ไป ส้มไปเองเถอะนะมื้อนี้เราขอตัว ไปกันเลยไหม”

“ไปสิ”

ส้มถูกเพื่อนทิ้งเป็นครั้งแรก เธอเริ่มหันมามองหน้าตันหยงและเริ่มไม่พอใจนิด ๆ

“ตามใจพวกเธอเถอะ”

ห้องอาหารชั้น 11

“ตันหยง ทางนี้ ๆ”

แคทมาถึงก่อนแล้วและยังจองโต๊ะเอาไว้แล้ว เธอแปลกใจเมื่อเห็นเพื่อนอีกสองคนตามมาด้วย

“เธอชื่อ..น้ำ และนายก็กิตติสินะ”

“ว๊าว ยอดไปเลย แคทจำชื่อเพื่อนในคลาสแม่นจังเลย”

“แน่นอนสิ แม้ว่าจะไม่ค่อยสนิทกับใครแต่เรื่องจำชื่อคนน่ะเราแม่นมากเลยละ เอาละไปสั่งข้าวกันเถอะ อาหารที่นี่น่ากินทุกอย่างเลย”

พวกเขาผลัดกันไปสั่งอาหาร ตันหยงกับแคทนั่งรอน้ำและกิตที่เดินไปซื้อข้าวอยู่ที่โต๊ะและเริ่มแลกเปลี่ยนกันว่าแต่ละคนได้ดูแลเรื่องอะไร

“ก็ดูไม่น่าเบื่อดีนะ แต่ออกจะเหมาะกับคนที่ใจแข็งนิดหนึ่ง เพราะคนไข้ที่เข้ามาแต่ละคนคือ…ช่างเถอะ ว่าแต่เห็นพวกนั้นคุยกันว่าหมอที่แผนกหล่อมากเลยนี่ เจอหรือยังละ ที่แผนกฉุกเฉินมองใครก็เหมือนกันหมดเพราะทุกคนใส่แต่แมส”

“เป็นความบังเอิญที่วินาศสันตะโรเลยละแก”

“ว่ายังไงนะ แกจะบอกว่า….”

ตันหยงกระซิบบอกบางอย่างกับแคทจนเธอตกใจจนหลายคนเริ่มหันมามอง

“แก โลกมันกลมหรือพรหมลิขิตละนี่”

“พรหมลิขิตบ้าอะไร เขายังไม่เห็นหน้าฉัน จำไม่ได้และ…บุคลิกนั่นผิดกับที่เคยเจอเลย เขาด่ายัยส้มไปชุดใหญ่ที่เดินไปถามเขาเรื่องเอกสาร”

“แกแน่ใจนะว่าเขาจะจำแกไม่ได้”

“แก อยากสลับแผนกกับฉันไหม”

“เอ้อ…ถ้าเป็นก่อนหน้านี้คงได้แหละ แต่ตอนนี้รายงานตัวแล้วนี่”

""เฮ้อ….""

“ถอนหายใจอะไรกันทั้งสองคน ไปเถอะ อาหารน่ากินมากเลยเดี๋ยวเราเฝ้าโต๊ะให้ เราซื้อเสร็จแล้ว”

“เอาวะ กองทัพเดินด้วยท้อง ไป”

กิตมองหน้าสองสาวที่เรียกความฮึดขึ้นมาอย่างน่าประหลาดจนเขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อทั้งคู่เดินออกไปเลือกอาหาร ซึ่งเรียกได้ว่าเรียกความสนใจให้คนที่ห้องอาหารได้มากพอสมควรเพราะทั้งคู่เป็นนักศึกษาที่หน้าตาดี

แคทแม้ว่าจะไม่ได้มีตำแหน่งดาวคณะหรือดาวมหาลัยแต่เธอแค่ไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลยไม่ได้ลงแข่งเท่านั้น ตันหยงเองก็เช่นกัน

“นี่ ดูสิ น่ารักมากเลยว่ะ”

“อ๋อน้องคนนั้นอยู่แผนกฉุกเฉิน”

“ไม่ อีกคนสิคนที่ผมสั้นนั่นน่ะ ขาวอย่างกับเจ้าหญิงหิมะ”

“ไม่รู้ว่ะ”

“เหมือนจะอยู่ชั้นสี่ หรือชั้นเจ็ดนี่แหละ”

“ต้องสืบ ๆ”

“พอเถอะ จัดการในสต๊อกให้เรียบร้อยก่อนเถอะ”

ดูเหมือนว่าสองคนที่ถูกพูดถึงจะไม่รู้เรื่องเลยว่าในตอนนี้พวกเธอล้วนเป็นที่พูดถึงทั้งโรงพยาบาล

สองสัปดาห์ผ่านไป

“โอ๊ย ไม่ไหวแล้วนะ วันๆใช้แต่เอาเอกสารไปให้คนโน้นคนนี้ นี่มันงานอะไรกัน”

“ส้ม เราเป็นแค่เด็กฝึกงาน เขาสั่งให้ทำอะไรก็ทำเถอะน่า”

“นั่นสิครับ ทุกงานก็สำคัญหมดนั่นแหละ”

“นี่พวกเธอไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเหรอ ตันหยง เธอเองก็ยอมทำงานเบ๊นี่เหรอ”

“เบ๊ ส้มเธอก็พูดเกินไป งานทุกงานมันก็เกี่ยวข้องกันทั้งนั้นแหละ”

“ใช่สิ เธอไม่เคยเอา…อีพวกนั้นไปส่งที่ห้องแล็บนี่”

“ก็เครื่องไม่เคยมีปัญหานี่ แล้วจะให้ฉันเอาไปส่งได้ยังไง”

“ย่ะ ไม่ต้องอวดก็ได้มั้งว่าเก่งน่ะ”

“ส้ม เราว่าไปสงบสติอารมณ์ก่อนเถอะ”

“แหมน้ำ พอมีเพื่อนเรียนเก่งเป็นเด็กเนิร์ดนี่เถียงเก่งขึ้นเยอะเลยเนอะ”

“ว่าไงนะ พูดใหม่สิ”

“ทำไม เธอมีปัญหาอะไร”

“ตันหยง”

วิชุดาเข้ามาห้ามสงครามครั้งนี้ได้ทัน เธอสังเกตถึงความผิดปกติได้ในทันทีแต่ก็ไม่พูดออกมา

“ตันหยง ออกมานี่หน่อย”

“ค่ะพี่ออย”

ตันหยงยังมองส้มอย่างไม่พอใจเมื่อเดินตามออยออกไป ก่อนถึงเค้าน์เตอร์ ออยจึงหันมา

“เกิดอะไรขึ้น”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะก็แค่เรื่องไร้สาระ พี่ออยมีอะไรให้หยงทำเหรอคะ หยงกำลังเบื่อเลยค่ะ”

“อะไรกัน คนอื่นชอบบ่นว่าไม่ใช่หน้าที่โปรแกรมเมอร์ แต่เรากลับของานทำเหรอ”

“อย่าพูดถึงเลยค่ะ ว่าแต่พี่ออยมีอะไรเหรอคะ”

“มานี่สิ มาดูคอมพิวเตอร์ให้พี่ทีสิพี่จนปัญญาแล้วละ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel