บท
ตั้งค่า

บทที่ 8

เบื้องหลังสีฟ้าหม่นของดวงตาคู่นั้น มันคล้ายจะมีเลศนัยอะไรบางอย่างเต้นเร่าอยู่ มาร่าคิดว่าเธอได้เห็นแววเช่นนั้นมาสองครั้งสองหนแล้ว และมันทําให้เธอสํานึกถึงสัญญาณแห่งอันตราย มากกว่าจะเป็นสัญญาณแห่งความไม่พอใจ คล้ายแววตาของแมวขณะที่กําลังล่อหลอกเหยื่ออย่างสําราญใจ

“ผมคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างคงจะเตรียมไว้ให้ผมพร้อมแล้วใช่ไหมครับ” เขาเอ่ยถามขึ้นอีก

และตอนนี้เองที่มาร่านึกขึ้นมาได้ว่าเธอยืนขวางทางเข้าบ้านไว้

“ใช่ค่ะ” เธอก้าวถอยไปทางข้างหลัง เพื่อให้เขาเดินตามเข้ามา “ฉันเพิ่งจะเอาเครื่องกระป๋องต่าง ๆ ที่คุณสั่งซื้อเก็บเข้าที่”

เขาเพิ่งจะก้าวเท้าข้ามธรณีประตูเข้ามาตอนที่มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น

“ซินขา จะให้ฉันเอากระเป๋าเดินทางลงด้วยไหมคะนี่”

มาร่าตวัดสายตามองเลยร่างเขาไปยังรถคันสีเทาที่จอดอยู่ข้างรถสเตชั่นแว็กก้อนของเธอทันที สาวสวยผมแดงฉานคนหนึ่งกําลังก้าวลงมาจากที่นั่งข้างคนขับ เสื้อสีขาวเนื้อแพรแทบจะมิได้กลัดกระดุมเลยสักเม็ด เผยให้เห็นความยองใยของนวลเนื้อเหนือทรวงอย่างเด่นชัด ท่อนล่างเป็นกางเกงรัดรูปสีน้ำเงินเข้ม นอกเหนือจากเรือนร่างและ ใบหน้าที่บอกแววชวนเชิญอยู่เป็นนิจแล้ว บรรยากาศที่เจ้าหล่อนพยายามสร้างขึ้นคือความเป็นสุภาพสตรีชั้นสูงใน

สังคม ผู้เคยชินกับชีวิตหรูหรา

“ทิ้งไว้ก่อนเถอะ” เขาตอบ “เดี๋ยวผมไปแบกเข้ามาเอง”

เธอถอนสายตาจากสตรีผู้มีเรือนผมสีสันน่าทึ่งคนนั้น เหลือบมองหน้าผู้ชายคนที่กําลังเดินเข้ามาในตัวบ้านแวบหนึ่ง ขณะเดียวกันก็คิดในใจว่า ผู้ชายคนนี้จะต้องชื่อซินแคลร์ บูคาแนน แน่นอน เพราะผู้หญิงคนนั้นเรียกเขาสั้น ๆ ว่า “ซิน”

มาร่าทั้งไม่พอใจและแปลกใจในการปรากฏตัวของผู้หญิงคนนี้อยู่ด้วยเหตุผล 2 ประการ เธอรู้ว่าในขณะนี้ ความสนใจทั้งมวลของเธอมุ่งอยู่แต่ซินแคลร์ บูคาแนน เพียงคนเดียว ดังนั้น สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นอันเป็นการทําลายความสนใจที่เธอมีต่อเขาลง ย่อมทําให้เธอเสียหลักไป ประการที่สองก็คือ ระยะเวลาที่ผู้หญิงคนนั้นนั่งรออยู่ในรถก่อนหน้าที่จะแสดงตัวออกมาให้เห็น มาร่าคิดว่า ที่จริงแล้วผู้หญิงผมแดงคนนี้น่าจะเดินเคียงคู่มากับเขามากกว่าเพราะภรรยาแทบทุกคนมักจะแสดงออกถึงความสนใจใคร่รู้ อยากจะเห็นบ้านใหม่ที่สามีเช่าไว้ด้วยกันทั้งนั้น

ขณะนี้ ซินแคลร์ บูคาแนน เดินเข้ามาภายในบ้าน แล้ว และมาร่าก็หันไปให้ความสนใจกับเขาเช่นเดิม เธอรู้ อยู่ว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นตัวบ้านจริง ๆ มิใช่เพียงแค่รูปภาพที่ส่งไปให้ดู ดังนั้น เธอก็ควรจะต้องให้เขา ได้ทําความคุ้นเคยกับสถานที่เสียก่อน

“ห้องนี้เป็นห้องนั่งเล่นนะคะ” เธอเอ่ยขึ้น ซึ่งตอนนั้นเขาก็ได้ใช้สายตากวาดมองไปรอบ ๆ ห้องอยู่แล้ว พิจารณาดูการตกแต่งและมุมสบายต่าง ๆ จากสีหน้าของเขา มาร่าไม่อาจรู้ได้ว่าเขามีความผิดหวังต่อสิ่งที่ได้เห็นอยู่หรือไม่ แต่ก็คิดว่าควรจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อเป็นการแก้ตัว มิให้เขามีความรู้สึกว่าบ้านหลังนี้มันออกจะว่างเปล่าเกินไป “ก็อย่างที่คุณเบนเนตที่ได้บอกให้คุณทราบแล้วนั่นแหละค่ะ ว่าบ้านหลังนี้ยังตกแต่งไม่เสร็จ ถ้าคุณต้องการฉันก็จะ...”

“ไม่ต้องหรอก ส่วนที่เหลือผมทําเองได้” เขาปฏิเสธข้อเสนอของเธอที่จะช่วยตกแต่งห้องเพิ่มเติมให้ก่อนที่ เธอจะทันพูดได้จบประโยคเสียด้วยซ้ำ “เตาผิงนั่นใช้ได้หรือเปล่าครับ”

“ใช้ได้ค่ะ เราตรวจตราเรื่องการระบายลมในปล่องควันเรียบร้อยแล้ว” มาร่ารับรองทันที “เมื่อ 2-3 อาทิตย์ นี้ คุณเบนเนตท์กับฉันก็ทดลองติดไฟดูแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่มีปัญหาอะไร”

สายตาของเขาบอกให้เธอรู้ว่า เขากําลังมองเห็นภาพโรแมนติคระหว่างตัวเธอกับฮาร์ฟ เบนเนตท์ อยู่ แต่โดยความเป็นจริงแล้ว คนที่ทําการซ่อมแซมทุกสิ่งทุกอย่างให้อยู่ในสภาพดีก็คือพวกคนงานที่จ้างมา แต่มาร่าก็มองไม่เห็นความจําเป็นที่จะต้องอธิบายให้เขาฟัง

“แล้วเชื้อฟืนล่ะครับ” เขาถามต่อ

“ทางด้านหลังบ้านมีกองพฟืนอยู่นะคะ ถ้าไม่พอคุณจะเก็บกิ้งไม้แห้ง ๆ ในป่ามาใช้ได้ ขอแต่เพียงว่าอย่าถึงกับตัดต้นไม้ลงก็แล้วกัน”

ทันใดนั้น เธอก็มองเห็นภาพผู้ชายคนหนึ่งที่เปลือยกายท่อนบน เดินเก็บกิ่งไม้ในราวป่า เพื่อเอามาใช้เป็น เชื้อไฟ ในมโนภาพนั้นเธอมองเห็นแม้ละอองเหงื่อที่ฉาบอยู่บนผิวหน้าที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามทั้งต้นแขนและทรวงอก ภาพนั้นคล้ายกับจะมีชีวิตจริงๆ และทําให้เธอรู้สึกถึงอารมณ์วาบหวามที่บังเกิดขึ้น ที่มันสร้างความหวั่นไหวให้เกิดมากยิ่งขึ้นก็ตรงที่เธอไม่สามารถจะหักห้ามจิตใจมิให้คิดถึงเขาในแง่นั้นได้เท่านั้น

มาร่ารีบเบือนหน้าหนีเสียจากเขา ทำลายเวทมนตร์อันเป็นประหนึ่งสายใยที่รัดรึงจิตใจของตัวเองไว้ลง และก็ตอนนั้นเองที่สาวสวยผมแดงก้าวผ่านประตูเข้ามา รอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมาร่าในครั้งนี้ คล้ายกับว่าเธอได้เฝ้ารอเวลาอยู่นานแล้วที่จะต้อนรับสาวสวยคนนี้ให้เดินเข้ามาชมบ้านหลังน้อย แต่น่าเสียดายที่เจ้าหล่อนมิได้ชำเลืองมองมาทางมาร่าด้วยซ้ำ

ดวงตาสีน้ำตาลของเจ้าหล่อนทอเป็นประกายพราวด้วยความตื่นเต้น ขณะที่กวาดไปรอบ ๆ ห้องรับแขกเล็กๆ นั้น เมื่อเธอเดินเข้ามาหยุดอยู่เคียงข้างซินแคลร์ บูคาแนน สีหน้าก็บ่งบอกถึงความปราโมทย์และสมหวังดังที่ได้ตั้งใจไว้ เธอกกกอดแขนของเขาไว้เบียดร่างเข้าไปหา

“น่ารักจังเลยค่ะ ซิน” เธอเอ่ยขึ้น “มันดูมีความเป็นชนบท แล้วก็ดูแปลกตาดีออก คุณมองเห็นภาพเก้าอี้ นวมแบบโบราณตัวใหญ่ ๆ ที่ตั้งอยู่หน้าเตาผิงบ้างไหมคะ ฉันว่าเราคงสนุกมากเลยถ้าจะช่วยกันแต่งบ้านหลังนี้”

สีหน้าของเขาบอกความเอ็นดู ผสมกับความขบขันในความตื่นเต้นแบบเด็ก ๆ ของหญิงสาว เรือนผมที่คล้ายกับปอยเมฆสีแดงเคลียอยู่กับช่วงไหล่ และมาร่าก็บังเกิดความรู้สึกว่าท่าที่ที่ผู้หญิงคนนี้เคลียคลออยู่กับเขา มันออกจะมากเกินความจําเป็น

“นี่...ซีลีน รู้สึกว่าคุณตั้งอกตั้งใจที่จะหาช่องทางใช้เงินของผมเสียเหลือเกินนะ” เสียงที่พูดนั้นกึ่งยั่วเย้าถึง ประชด สีหน้าแฝงอยู่ทั้งความรักและความเหี้ยมเกรียม

ผู้หญิงคนที่ชื่อซีลีนดูเหมือนจะเลือกเอาในประการแรก มาร่านั้นไม่อยู่ในฐานะที่จะร่วมตัดสินใจอะไรด้วยได้ และก็เห็นอยู่แล้วว่าซีลีนมีความคุ้นชินกับธรรมชาตินิสัย และอารมณ์ของเขา รวมทั้งความมั่นใจในตัวเองอยู่

“คุณก็รู้นะคะ ซิน ว่าที่คุณพูดมาน่ะมันไม่ตรงต่อความจริงเลย” สาวสวยผมแดงปฏิเสธ “ถ้าจะให้ถูกเผง ละก้อ คุณจะต้องพูดว่า ฉันยินดีที่จะใช้เงินของใครก็ได้ทั้งนั้นแหละค่ะ” เธอเปล่งเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ “ฉันน่ะภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่เดียวละที่ตัวเองไม่ใช่คนมีอคติในเรื่องนี้ มาเถอะค่ะ มาดูกระท่อมหลังนี้กันให้ทั่วก่อนดีกว่า”

ซินแคลร์ บูคาแนน เหลือบสายตามองมาทางมาร่าแวบหนึ่ง ดูเหมือนมันจะมีแววคล้ายร้อนใจแฝงอยู่ด้วย ซึ่งมาร่าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาต้องการอะไร ดังนั้น เธอจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาที่จะเป็นผู้อธิบายเรื่องนี้เอง

“คุณอยากจะให้ฉันพาชมให้ทั่ว หรือว่าจะอยากเดินดูเองล่ะคะ” เธอเอ่ยถามขึ้น

“เราดูเองได้ คงไม่หลงหรอกน่า” เขารับรองด้วยน้ำเสียงกระด้าง

“นั่นน่ะสิคะ เรื่องหลงนะคงจะยาก” ซีลีนเปล่งเสียงหัวเราะออกมากับคําพูดประโยคนั้นของตน ซึ่งมาร่ามี ความรู้สึกว่ามันเป็นน้ำเสียงที่หยันเยาะ มากกว่าจะรู้สึกขบขันจริง ๆ

“ถ้าเช่นนั้น ฉันก็ขอตัวก่อน” เธอตอบโต้ด้วยความชาเย็น “ฉันจะกลับไปเก็บเครื่องกระป๋องให้เข้าที่เรียบร้อย” เธอหยุดเว้นระยะ มองหน้าสาวสวยผมแดงแวบหนึ่ง “นอกเสียจากคุณจะ...”

“เชิญตามสบายเถอะครับ คุณเพรนทิส” ซินแคลร์ บูคาแนน เป็นคนตัดบทขึ้นซึ่งทําให้มาร่าอดสงสัยไม่ได้ว่า เขาเป็นคนที่ชอบขัดจังหวะการพูดของคนอื่นเช่นนี้เสมอ หรือเมื่อพูดจบแล้วเขาก็ก้มลงมองหน้าสาวสวยในวงแขน “ซีลีนเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ที่สุด โดยเฉพาะกับเรื่องการครัว” เขาวิจารณ์อย่างไม่เกรงใจแม้แต่น้อย

ซึ่งเจ้าตัวหล่อนก็ยิ้มหวานกับคําเหน็บแนมแกมประชดชุดนั้น

“ซินเขารู้จักฉันดี” เธอถอนใจ ดวงตาคู่สีน้ำตาลเหลือบแลมาทางมาร่า “แต่จริง ๆ แล้วฉันก็ไม่เคยเอ่ยอ้าง เลยว่าตัวเองมีความสามารถในห้องนั้น”

“ฉันแน่ใจค่ะว่าคุณจะต้องทําทุกอย่างที่อยากทําได้ดีที่สุด” มาร่าสนองรับอย่างสุภาพ ไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้ต้องรู้สึกเสียหน้า เพราะมีเธออยู่ด้วย

แต่ทว่า คําพูดประโยคนั้น กลับเรียกเสียงหัวเราะ จากซินแคลร์ บูคาแนน ซึ่งทําให้ซีลีนตบหน้าเขาเบา ๆ อย่างหยอกล้อ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเรื่องขบขันส่วนตัวระหว่างคนทั้งสอง ซึ่งมาร่าไม่ต้องการจะมีส่วนร่วมด้วยอีก ต่อไป ดังนั้น เธอจึงหันหลังให้ และเดินกลับเข้าไปในครัว เงียบ ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel