บท
ตั้งค่า

บทที่ 9

บ้านน้อยหลังนั้นออกจะเล็กเกินไปสักหน่อย เพราะมาร่าได้ยินเสียงที่คนทั้งสองพูดจากันอยู่ ขณะที่เดินจากห้องนั่งเล่นไปยังห้องนอน แต่ก็พยายามให้ความสนใจของตัวมุ่งอยู่แต่การเทผงกาแฟใส่ลงในขวด และเอาที่เหลือในกล่องเก็บเข้าไว้ในตู้เก็บของ เธอกําลังหยิบกล่องแข็งทําขนมปังออกมาพอดีตอนที่ทั้งสองเดินเข้ามาในครัว

“ตอนนี้ก็เป็นเรื่องของคุณแล้วนะคะซิน คุณสํารวจอะไรต่อมิอะไรไปคนเดียวก็แล้วกัน” ซีลีนเอ่ย “ฉันจะออกไปเอาของในรถ เดี๋ยวเดียวเท่านั้นละค่ะ”

เมื่อผู้หญิงคนนั้นออกจากครัวไปแล้ว มาร่าออกจะรู้สึกขัดเขินที่ซินแคลร์ บูคาแนน ยังคงยืนอยู่ในครัว เธอ เปิดกล่องแข็งออก เอื้อมมือไปหยิบขวดบรรจุ ขณะที่เทแป้งใส่ลงในขวด ก็ตระหนักถึงความเคลื่อนไหวที่เกิดอยู่ ใกล้ตัว มีการตรวจสอบเกี่ยวกับเครื่องมือเครื่องใช้ ตุ้เก็บของต่าง ๆ

“ฉันซื้อทุกอย่างจากรายการที่คุณให้มาไว้พร้อมหมดแล้วละค่ะ” มาร่าบอกให้เขาทราบ “คิดว่าคุณหาของที่ ต้องการได้ไม่ยากหรอกค่ะ”

“นั่นสิ” เขาตอบเรียบ ๆ “รู้สึกว่าคุณจัดทุกอย่างไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยดีแล้ว” คําพูดของเขาคล้ายจะเป็น การตั้งข้อสังเกตมากกว่าจะเป็นคําชม

ละอองแข็งจากกล่องเคลือบอยู่บนพื้นเคาน์เตอร์ มาร่าจึงเอาผ้าชุบน้ำทําความสะอาดเสีย เมื่อเสร็จเรียบร้อย ก็พอดีกับที่เขาเดินออกไปยังห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ซีลีนสวนเข้ามา ไม่มีสิ่งใดจะช่วยสกัดกันเสียงพูดของคนทั้งสองไว้มิให้เธอได้ยิน

“ฉันได้แก้วไวน์มาแล้วละค่ะ ซิน ก็เลยถือแชมเปญติดมือมาด้วย เพื่อฉลองบ้านหลังน้อยน่ารักหลังนี้กันหน่อย ไงคะ” เสียงของซีลีนชวนเชิญอยู่ “ถังน้ำแข็งที่เราแช่ขวดแชมเปญมา ทําให้มันเย็นพอดีเลยค่ะ เปิดสิคะ ซิน”

มาร่าแสร้งทําเป็นหูทวนลมกับถ้อยเจรจาที่ดังอยู่ในห้องขางเคียง ขณะที่เธอจัดเรียงขวดเครื่องเทศใส่ลงในกระเช้าของมัน

“ไม่อยากรอไว้ฉลองตอนหลังหรอกหรือ” แม้จะมีคําถามนั้น แต่เสียงจกไม้ถือกก็ดังขึ้น ซึ่งทําให้คําถามไวร้ความหมายลงในทันที แต่กระนั้น ซีลีนก็ยังตอบอยู่ดี ด้วยน้ำเสียงทุ้มๆนุ่มนวล

“นี่เป็นอาทิตย์แรกนะคะที่ฉันได้ตัวคุณมาไว้ครอบครองคนเดียว ไม่ต้องได้ยินเสียงโทรศัพท์ ไม่มีเรื่องงาน เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ต้องมีใครมารบกวนทั้งสิ้น” เธอเน้นเสียงในประโยคสุดท้าย ก่อนที่จะยกแก้วขึ้นอํานวยอวยพร ให้ทั้งเขาและตัวเธอเอง “สําหรับอาทิตย์แรกที่เราได้อยู่ด้วยกันตามลําพังค่ะ”

มีเสียงแก้วใส ๆ กระทบกัน แล้วก็เงียบไป สัญชาตญาณภายในเหมือนจะออกคําสั่งให้มาร่าเงียบไว้ จงอย่าให้การที่ตัวเองยืนอยู่ในบ้านเล็กหลังนี้เป็นที่เปิดเผยออกมา แต่กระนั้น ก็ดูเหมือนเธอจะไม่อาจทําตามคําสั่งได้

“อือม์...คุณรู้แล้วนะคะว่าคืนนี้เราจะมีความสุขกันมากแค่ไหน” เสียงซีลีนตอบคําถามของตัวเธอเองอยู่ โดยมิได้เปิดโอกาสให้ซินพูดอะไรออกมาเลย “คืนนี้เราจะต้องติดไฟในเตาผิงให้เต็มที่เลย แล้วเราก็นอนมันตรงหน้าเตาผิงนั่นแหละ แล้วก็...”

กล้ามเนื้อในท้องไส้ของมาร่าดูจะหดตัวลงเป็นก้อน ความเครียดเคร่งในอารมณ์ดูจะคุกคามเธออยู่ สถานการณ์ที่กําลังดําเนินอยู่ในขณะนี้ ทําให้เธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนเส้นประสาทกําลังถูกทําลายลง เธอรีบหยิบ ๆ ของออกมาจากถุงกระดาษ และจัดวางทุกสิ่งให้เข้าที่โดยเร็วที่สุด

เมื่อมาหยุดอยู่ตรงประตูที่จะเข้าสู่ห้องนั่งเล่น มาร่าก็เกิดความไม่แน่ใจขึ้นมา บุคคลทั้งสองกําลังจุมพิตกันอย่างดื่มด่ำอยู่หน้าเตาผิง อ้อมแขนทั้งสองของซีลีนโอบอยู่รอบคอเขาพร้อม ๆ กับที่พยายามจับแก้วแชมเปญไว้มั่น มือข้างหนึ่งของเขาก็ทาบทับอยู่ตรงชายโครงของเธอ แทบจะกอดดกำเนินทรวงไว้ด้วยซ้ำ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งนั้นก็กระชับร่างสาวผมแดงไว้กับเรือนกายที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ และมือข้างนั้นก็ยังถือแก้วอยู่ด้วย

มาร่าตั้งท่าจะเดินกลับเข้าไปในครัว รอให้การจุมพิตอันอาบอยู่ด้วยไฟเสน่หานี้สิ้นสุดลงเสียก่อน แต่แล้วก็หยุดตัวเองไว้ ทําไมเธอจะต้องให้การจุมพิตของบุคคลทั้งสองนี้ มาสร้างความอึดอัดใจให้เกิดขึ้นด้วยเล่า ถ้าจะมีสักฝ่ายหนึ่งที่รู้สึกกระดากต่อการที่เธอบุกรุกเข้ามา ก็ให้เป็นฝ่ายโน้นดีกว่า เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เธอจึงก้าวเข้าไปในห้องนั่งเล่น

“ขอโทษนะคะ ฉันเห็นจะต้องขอตัวกลับก่อน” เธอร้องบอกออกไป ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งคู่ค่อย ๆ ผละออกจากกันช้าๆ ราวกับแสนเสียดาที่เธอเข้ามาขัดจังหวะ ในขณะที่กําลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความรื่นรมย์เช่นนี้ ซีลีนยกมือขึ้นปัดปอยผมที่ปรกอยู่บนช่วงแก้มท่าที่ดูจะมีความขัดเขินอยู่บ้าง แต่แววในดวงตาที่พราวแสงนั้นบอกให้รู้ถึงความสุขสมที่เธอกําลังได้รับอยู่ และเพิ่มความหวานยิ่งขึ้นเมื่อเหลือบแลไปทางซิน

“อ๋อ...ขอโทษด้วยนะ คุณเพรนทิส” ซีลีนเป็นผู้เอ่ยคําขออภัยออกมา ในขณะที่ซินแคลร์ บูคาแนนเพียง แต่ยกแก้วแชมเปญขึ้นจิบ “เราลืมตัวกันไปหน่อย”

ซึ่งมาร่าอดที่จะคิดอยู่ในใจไม่ได้ว่า ถ้อยคํานั้นน่าจะเป็นความจริงแต่เฉพาะฝ่ายหญิงเท่านั้น เพราะเมื่อมองไปยังคู่เชยของเจ้าหล่อน เธอก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า ซินแคลร์ จะรู้สึกเช่นนั้นตามไปด้วยอย่างแท้จริงหรือเปล่า ท่าทางของเขาเหมือนจะสามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเองไว้ได้อย่างดีเสมอ

“ไม่จําเป็นต้องขอโทษอะไรนี่คะ” มุมปากของเธอหยักขึ้น แต่ไม่ค่อยจะเหมือนรอยยิ้มเท่าไรนัก

ซินแคลร์ บูคาแนน ขยับตัว ซึ่งทําให้มาร่าต้องหันไปมองเขา อกเสื้อเผยอออกจากกัน ด้วยกระดุมถูกปลด ออกจนเกือบหมด มือทั้งสองข้างซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกง ซึ่งทําให้มาร่าตระหนักได้ในทันทีว่า ประสาททุกส่วนใน เรือนกายของเขากําลังตื่นตัวเต็มที่เช่นเดียวกันกับเธอ

“ผมยังไม่ได้ขอบคุณคุณเลยที่ทําให้เรามั่นใจได้ว่าจะมีอาหารกินตลอดอาทิตย์นี้” เขาเอ่ยขึ้น

“ไม่จําเป็นหรอกค่ะ คุณบูคาแนน” มาร่าตอบ “เพราะคุณได้มอบเงินพิเศษอีกจํานวนหนึ่งไว้ให้ฉันแล้ว นี่คะ เอาละค่ะ ฉันหวังว่าคุณคงพอใจบ้านหลังนี้นะคะ และถ้าคุณหรือภรรยาต้องการอะไรเป็นพิเศษมากไปกว่านี้ ติด ต่อฉันได้ทุกเวลาเลยค่ะ”

เสียงหัวเราะของซีลีนดังลั่นขึ้นทันทีที่มาร่าพูดจบ แต่พอรู้ตัวก็รีบยกมือขึ้นอุดปากไว้ ดวงตาเป็นประกายพราวเสน่ห์ขึ้นมาทันทีเมื่อเหลือบแลไปทางซิน

“ที่รักขา เห็นไหมว่าเขาคิดว่าเราแต่งงานกันแล้ว”

“นั่นสิ” น้ำเสียงของเขาดูจะห่างไกลจากคําว่า ‘ขบขัน’ อยู่มาก เขาเลิกคิ้วสูงเมื่อหันไปมองคู่เชยผมสีแดง ฉานคนนั้น “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาได้ความคิดนั้นมาจากไหน”

มาร่าเชิดหน้าขึ้นสูงกว่าเดิม ดูเหมือนมันจะเป็นการแสดงออกเพียงอย่างเดียวที่เธอพอจะทําให้คนอื่น ๆ รู้ได้ว่า ตัวเองกําลังตกใจอยู่ เธอได้ตั้งข้อสันนิษฐานผิดไปถนัด โดยเฉพาะที่เข้าใจไปว่าชายหญิงคู่นี้แต่งงานแล้ว และเกิดความไม่มั่นใจขึ้นมา ถ้าจะลองตั้งข้อสันนิษฐานอีกสักครั้ง ด้วยเกรงว่าจะเป็นเรื่องผิดพลาดอีกเช่นกัน

“อันที่จริงมันก็เป็นความผิดของผมเองละครับ คุณเพรนทิส” ซินยอมรับผิดเสียเอง แต่ก็มิได้แสดงว่าเขาจะรู้สึกเสียใจต่อความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น “คือผมไม่ได้แนะนําซีลีนให้คุณรู้จักตั้งแต่ตอนที่เรามาถึง เอาละครับ เมื่อเป็น เช่นนี้ก็เห็นจะต้องแนะนําให้รู้จักกันเสียก่อน คุณเพรนทิสครับ นี่คือซีลีน เทย์เลอร์ เป็นเพื่อนสนิทของผม...ซีลีนนี่คือคุณเพรนทิสนะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel