บทที่ 2
“เอาลูกนั้นล่ะพี่ลูกหนู เล็งซ้ายนิด ขวาหน่อย ซ้ายอีกนิ้ด ขวาอีกหน่อย ซ้าย...”
โป๊ก!
มะเหงกกลางอากาศถูกเขกลงมาที่หัวเต็มๆ คนที่กำลังชี้แนะบอกเป้าถึงกับร้องโอ๊ย แล้วหันมามองหญิงสาวร่างเล็กเพรียว อยู่ในชุดเอี๊ยมยีนสีซีด เสื้อแขนสั้นสีดำ ที่กำลังมองเขาด้วยสายตาเหี้ยมๆ แล้วเอาหนังสติ๊กในมือทำท่าจะเล็งใส่เขา เล่นเอาชายหนุ่มตัวเล็ก ผมหยิกฟูถึงกับร้องจ๊าก
“อะไรน่ะพี่ลูกหนู ไม่เอานะ ไม่อยากเป็นเป้า”
“บอกดีๆ ไม่ได้หรือยังไงวะ ไอ้ก้อยกุ้ง แหมม ซ้ายๆ ขวาๆ อยู่นั่นล่ะ เดี๋ยวก็..”
ว่าแล้วก็ทำท่าจะยิงเขาอีกหน จนต้องโบกมือห้ามให้วุ่นวาย
“ก็ผมมองไม่ชัดนี่นา ต้องกะองศาดีๆ พี่ลูกหนูก็รู้ว่าผมตาส่อนนิดๆ เป้าคลาด”
ว่าแล้วเจ้าตัวก็ทำตาโต ให้คนตรงหน้าเห็นชัดๆ รินทร์รญามองหน้าของลูกน้องคนสนิท อดอมยิ้มขำไม่ได้ ก็พ่อก้อยกุ้งนี่ตาส่อนนิดๆ จริงๆ แต่ก็แสร้งทำหน้าดุ
“ก็บอกมาสิ เดี๋ยวเล็งเอง ยิงเองได้ ไม่ต้องช่วยหรอกย่ะ จะลองฝีมือสักหน่อย ว่ายังจะแม่นแบบเดิมไหม?”
ว่าแล้วก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์ จนลูกน้องหนุ่มคู่ใจทำหน้ายุ่ง
“คิดจะทำอะไรน่ะลูกพี่”
“เอาน่า”
เฟี้ยว!
ตุ๊บ!
กระสุนดินเหนียวถูกปล่อยออกไป ตัดขั้วลูกชมพู่ที่เธอกำลังเล็งไว้พอดี รินทร์รญายิ้มสวย ขณะที่คนกำลังมองลุ้นอยู่เป่าปากเปี๊ยว และเอ่ยชมลูกพี่เสียงลั่น
“ว้าวๆเจ๋งมากพี่ ฉั๊วะเลย”
“หึๆ ต้องฉั๊วะเดียวขาดนี่ล่ะ สิ่งที่พี่ต้องการล่ะ”
หน้าตาของรินทร์รญาพาให้สงสัยนัก ว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่ หญิงสาวยักคิ้วให้กับก้อยกุ้ง แล้วเอ่ยถามเสียงที่ลดให้เบาลงโดยอัตโนมัติ เหมือนเกรงว่าใครจะผ่านมาได้ยินเข้า
“ว่าแต่รังมดแดงบนต้นมะม่วงที่เคยเห็นอยู่แถวๆ บ้านไม้ซุง ยังอยู่มะ”
“อยู่สิพี่ลูกหนู รังบะเริ่มเลย นี่พวกผมกะจะสอยมาทำก้อยไข่มดแดงอยู่ไม่กี่วันนี้ล่ะ พูดแล้วก็น้ำลายสอ อยากกินจัง ท่าทางจะเด็ด” เขาสูดปากกลืนน้ำลาย รินทร์รญารีบสั่นหน้า
“ห้ามไปยุ่งกะรังนั้นนะ อยากกินไปหารังอื่น พี่มีแผนจะใช้รังมดแดงรังนั้น”
“เอ๋?”
“เอาน่า...มาลองเป้าอีกสักสองสามลูก เพื่อความมั่นใจในฝีมือ เวลาทำจริงๆ จะได้ไม่พลาด”
รินทร์รญายักคิ้วให้กับก้อยกุ้ง ที่กำลังมองเธออย่างสงสัย แล้วก็เริ่มมองหาเป้าหมายทดสอบความแม่นของตนอีกหน
หญิงสาวมองไปทางบ้านไม้ซุง บ้านหลังเล็กที่เธอได้เป็นของขวัญวันเกิดครอบยี่สิบห้าปีด้วยสายตาวาวระยับ ที่เธอยอมให้หมอนั่นเข้าไปอยู่ในบ้านแสนรักของเธอได้เพราะมีเหตุผลน่ะสิ เพราะเธอรู้จักบ้านนั้นทุกตารางนิ้วเลยก็ว่าได้ ทางหนีทีไล่ การเข้านอกออกใน มันแสนจะมีประโยชน์เมื่อศัตรูในวัยเด็ก ไม่สินะ ไม่แค่วัยเด็ก หมอนั่นยังกวนเธอมาจนเธอโตบรรลุนิติภาวะนี่ล่ะ เมื่อมาถึงที่แล้วก็ต้องจัดการต้อนรับเสียหน่อย
ลูกชมพู่หล่นลงมาอีกหลายลูก ก้อยกุ้งวิ่งตามเก็บ บางลูกเขาอดไม่ไหวกับสีและกลิ่นของมันเลยกัดกิน ช้ำนิดหน่อยแต่ก็หวานสดอร่อย เขามองหน้าของลูกพี่สาวอย่างสงสัย ว่ากำลังคิดทำอะไรอีกหนอ ถึงได้มีสีหน้ารื่นรมย์ปานนั้น
เธอกวักมือเรียกเขาไปใกล้ ก่อนจะกระซิบอะไรสองสามคำ ก้อยกุ้งทำหน้างงๆ พิกล แต่ก็รีบเดินไปทางบ้านไม้ซุงตามที่ลูกพี่บอกแต่โดยดี
มองหลังคาบ้านแล้วก็ยิ้มเยาะ ร่างบางแฝงตัวเร้นไปตามพงหญ้าสูงบ้าง ต้นไม้บ้าง จนใกล้กับต้นมะม่วงที่เธอหมายตาไว้ รังมดแดงขนาดใหญ่ลอยอยู่บนศีรษะ หญิงสาวยิ้มกริ่ม แล้วหามุมเหมาะๆ ดูแล้วดูอีกว่าขั้วของรังอยู่ตรงไหน งานนี้ชักช้าไม่ได้ ต้องเปรี้ยงเดียวจอด
เมื่อมองทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว กะระยะทุกสิ่งไว้แล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่รอเวลา รินทร์รญาตัดสินใจเลือกหาที่ซุ่ม ตามองตรงหน้าอย่างคาดหวัง งานนี้ล่ะเธอได้รับน้องใหม่ สนุกสาสมใจแน่ๆ
ตายแน่ๆ นายธาม!
.....
ธีรัชเปิดประตูรับ เมื่อได้ยินเสียงเคาะรัวๆ ชายร่างผอม ตัวเล็ก ผมหยิกฟูท่าทางทะเล้น ยืนยิ้มเผล่ให้เขา อวดฟันหลอชัดเจน
“สวัสดีครับคุณธาม คุณโตให้มาเชิญไปกินข้าวเย็นครับ”
“ตั้งข้าวเร็วจัง เพิ่งจะบ่ายสามเอง”
ชายหนุ่มก้มมองนาฬิกา ทางนั้นอ้าปากค้าง ก่อนจะรีบเปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว
“อ้อ พอดีว่า คุณโตอยากจะคุยด้วยนิดหน่อยก่อนกินข้าวเย็นน่ะครับ เห็นว่าจะคุยเรื่อง...เรื่อง...”
“เอ...เรื่องงานที่จะให้ทำหรือเปล่านะ”
ธีรัชบ่นพึมพำ ก้อยกุ้งที่มีระดับการฟังดีกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว รีบถือโอกาสเออออ
“เรื่องงานครับ ท่านบอกว่าอยากให้ไปด่วนเลย”
“เดี๋ยวผมตามไปครับ ลุงโตอยู่ที่ไหนตอนนี้”
“อยู่ในสวนแปลงทดลอง ทางนี้ครับๆ ผมพาไปเอง ออกทางข้างหลังจะไวกว่า”
กุลีกุจอขันอาสา แล้วยิ้มกว้างอวดฟันหลอให้อีกรอบ ธีรัชที่ไม่คิดอะไรมาก เดินตามหลังก้อยกุ้งไปต้อยๆ คนเดินนำพาเหยื่อไปเชือด กลับเหงื่อแตกซิก เมื่อพาเขาออกทางประตูหลังบ้าน หวังว่าลูกพี่คงไม่พลาดนะ
ประตูหลังบ้านไม้ซุงเปิดออก ร่างเล็กผอมเดินนำ ตามด้วยร่างสูงใหญ่ คนที่กำลังซุ่มจัดการอยู่เหนี่ยวหนังสติ๊กในมือ ก่อนจะชิงจัดการแบบนัดเดียวจอด!
ตุ๊บ!
“โอ๊ยๆๆๆอะไรวะเนี่ย”
รังมดแดงขนาดใหญ่ ตกลงบนศีรษะของธีรัชทันทีอย่างเหมาะเจาะ คนทำมองดูภาพตรงหน้าด้วยความสะใจอยู่พักหนึ่ง ลงมือถ่ายคลิปเก็บไว้ดูชัยชนะ ก็ภาพเขาร้องโวยวายเต้นเร่าๆ มีรังมดแดงอยู่บนตัว มันน่าขำจะตายไป ก้อยกุ้งตัวล่อเหยื่อเอง รีบกระโดดโหยงหนีไปให้ไกล เพราะเริ่มถูกมดแดงโจมตีเหมือนกัน
ดูจนสะใจแล้วกำลังจะรีบหนี แต่ร่างบางเล็กกลับลื่นถลา เจ้ากรรมนักใครมาทิ้งเปลือกกล้วยไว้แถวบริเวณนี้หนอ เสียงร้องว้ายเพราะตกใจ และคนที่ลื่นพรวดออกมาจากดงไม้ ทำให้ธีรัชที่สลัดรังมดแดงหลุดแล้วเห็นหล่อนเข้าเต็มตา ทั้งหลักฐานคือหนังสติ๊กที่อยู่คามือ
“ยัยตัวแสบ!”