ตอนที่ ๗ ขอความช่วยเหลือ
หุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ถูกซื้อขายเสร็จภายในวัน ส่วนอีกสิบห้าเปอร์เซ็นต์เบรเดนไม่ได้ต่อรองซื้อขาย แต่เพียงเวลาผ่านไปแค่สามเดือนดูท่าบริษัทที่เขาซื้อหุ้นมาจะประกาศขายหุ้นอีกครั้งแล้ว
ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ทยอยกันขายหุ้นเพราะการบริหารงานของเปรม ถึงเป็นคนหนุ่มไฟแรงแต่กลับไม่มีประสบการณ์ใด ๆ คู่แข่งก็มีมากธุรกิจผลิตอาหารเสริมในตอนนี้มีคู่แข่งตีตลาดมากขึ้นในทุก ๆ วัน
“ทางนั้นส่งข่าวมาแล้วครับ” โรเบิร์ตเดินเข้ามารายงานเจ้านายที่นั่งดื่มไวน์แดงข้างริมสระว่ายน้ำ
“อืม เตรียมรถให้พร้อม” เขาวางแก้วในมือแล้วกระโจมลงไปในสระว่ายน้ำอีกเพียงหนึ่งรอบจึงขึ้นมาจากสระน้ำ เตรียมตัวใหม่อีกครั้งเพื่อไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่มีเพื่อน ๆ ของเขารออยู่
“ที่กบดานแห่งใหม่ของมึง?” วาดิมเอ่ยถามเมื่อเธียรเดินนำลงมายังชั้นใต้ดิน ตลอดทางเดินถูกปูเอาไว้ด้วยพรมสีแดงมีแสงไฟให้ความสว่างตลอดทางเดิน ด้านหน้ายังมีการ์ดร่างใหญ่ที่เดินนำทาง
เมื่อมาถึงประตูไม้สองบานใหญ่มีชายร่างกำยำอีกสองคนยืนคุมอยู่หน้าประตูทางเข้า เมื่อประตูเปิดออก ด้านในยังมีประตูอีกบานที่ใหญ่ไม่แพ้กัน เมื่อเดินผ่านจะพบกับห้องใหญ่ ที่ไม่คิดว่าจะมีสถานที่แห่งนี้อยู่ภายในตึกกลางเมือง
“ที่ละลายทรัพย์” เธียรยิ้มแล้วเดินตามการ์ดคนเดิมขึ้นมานั่งยังห้องด้านบน ที่สามารถมองเห็นบรรยากาศด้านล่างได้
“มีอะไรให้กูสนใจบ้าง” เบรเดนนั่งที่โซฟาแล้วพาดขายาวไปที่โต๊ะกระจกกว้างตรงหน้า บนโต๊ะมีเครื่องดื่มและแก้วเตรียมพร้อมเอาไว้ให้แล้ว
“มีทุกอย่าง มึงอยากได้อะไรได้หมด หรือมึงอยากลงไปเล่นข้างล่างก็ได้ เปิดบิลกูเอาไว้เลย” เธียรหยิบแก้วขึ้นมาแล้วเทเหล้าราคาแพงยกขึ้นดื่ม “สนใจไหม ที่นี่เป็นของคนรู้จัก”
“เสี่ยงเกินไป” วาดิมที่ทำธุรกิจสีเทากล่าวอย่างรวดเร็ว ประเทศนี้ไม่ค่อยเอื้ออำนวยธุรกิจแบบนี้ หากเปิดได้ก็คงเปิดได้เพียงไม่นาน คงไม่คุ้มค่าเหนื่อยที่จะได้รับ
“แล้วมึงต้องการแบบไหน เห็นบอกว่าสนใจธุรกิจด้านนี้” เขาหันไปมองเบรเดนและวาดิม
“ช่วงนี้กูไม่ว่าง” เบรเดนหันมองไปทางเธียร ที่รู้ทุกเรื่องว่าตอนนี้เขาต้องการทำอะไร
“ปลาใหญ่ติดเบ็ดแล้ว เมื่อไหร่มึงจะลากขึ้นจากน้ำสักทีละ” เธียรถามต่อ “ว่าแต่มึงช่วงนี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ไม่ค่อยอยู่ที่ไทยบ่อยเหมือนเมื่อก่อน หรือว่ามึงมีผู้หญิงที่นั่น” เขาหันหน้าถามเพื่อนอีกคนที่เอาแต่นั่งเงียบ
“......” วาดิมเงียบเสียง เพียงเท่านี้เพื่อนทั้งสองก็เดาไม่ยากแล้ว เหตุผลที่ทำให้เขาบินลัดฟ้าไปกลับอยู่ทุกเดือนคงไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากเรื่องหัวใจ
ปึก! เสียงดังเหมือนมีอะไรกระทบที่ประตูห้อง ทำให้ชายหนุ่มทั้งสามหันมองหน้ากัน เธียรเป็นคนลุกเดินออกไปพร้อมกับปืนในมือที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา
“วันนี้ มึงไม่ยอมจ่ายหนี้ แต่กลับจะมาขอเพิ่ม นายกูไม่ยอมให้แล้ว หนี้ตอนนี้สิบล้านดอกอีกหนึ่งล้าน เป็นสิบเอ็ดล้านวันนี้ต้องจ่ายดอกก่อน ไม่งั้นนายกูไม่ยอม” เสียงของการ์ดคนหนึ่งดังขึ้น
เธียรทำเพียงแง้มประตูออกไปดูเท่านั้น เมื่อมองเห็นชายหนุ่มที่เคยเห็นหน้าจึงปิดประตูแล้วเดินตรงมาหาเพื่อนอีกครั้ง
“ปลาเน่ามันก่อเรื่องอีกแล้ว” เขาหันหน้าไปพูดกับเบรเดน ก่อนวางปืนลงที่โต๊ะ
“??” วาดิมทำสีหน้าตั้งคำถาม ก่อนที่เบรเดนจะลุกเดินออกไปดูแต่เขาก็ทำเช่นเดียวกับเธียร ที่แง้มประตูดูคนที่อยู่ด้านนอกเพียงเท่านั้น
ตอนนี้ชายหนุ่มคนนั้นถูกการ์ดหิ้วปีกไปแล้ว ทันใดนั้นสายตาของเขากลับมองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังเดินและวิ่งตามหลังของชายคนนั้นไป เขาทำเพียงยกยิ้มมุมปากแล้วเดินออกมาเผื่อจะได้เห็นอะไรสนุก ๆ บ้าง
“ไหนเงินมึง ที่บอกจะเอามาจ่ายดอก” ชายหนุ่มลูกน้องเจ้าของที่แห่งนี้ถามขึ้น
ในห้องสี่เหลี่ยมที่แสงสว่างมีเพียงเล็กน้อย ชายหนุ่มที่ถูกหิ้วปีกมาตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนพื้นใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลฟกช้ำที่เกิดขึ้นหมาด ๆ ด้านข้างยังมีหญิงสาวที่กำลังนั่งตัวสั่นอยู่บนพื้น
“นี่ไง กูเอามันมาขัดดอกก่อน บอกเฮียหน่อยว่ากูจะหาเงินมาใช้หนี้เร็ว ๆ นี้แน่นอน”
“ผู้หญิงคนนี้ ค่าตัวจะถึงหนึ่งล้านได้ยังไง เฮียไม่ยอมหรอก มึงรีบไปหาเงินมาจ่ายดอกวันนี้เลย”
“ให้กูพูดกับเฮียหน่อยสิ นี่ของดีเลยนะไม่เคยผ่านมือชาย หน้าตาสวยซ่อนรูปดูไม่รู้เลยเหรอ กูว่าเฮียต้องชอบแน่ ๆ”
“พี่เปรม พี่ทำแบบนี้ไม่ได้นะ หนูไม่อยากไปขัดดอกให้พี่ พี่เป็นหนี้เขามากแค่ไหนแล้วพ่อรู้หรือเปล่า” ไข่มุกหันหน้าไปถาม เธอไม่น่าโง่ตามเขามาที่แห่งนี้
เปรมบอกว่านัดลูกค้าเอาไว้ ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องแบบนี้เขาถึงกลับยอมเอาตัวของเธอมาขัดดอก หนี้ที่ไม่ได้เป็นคนสร้างกลับต้องมาเป็นเบี้ยล่างให้เปรมได้สุขสบาย เธอไม่ยอมให้เป็นแบบนี้หรอก
“หุบปาก!! ถ้าแกอยากให้แม่ของแกอยู่สุขสบายก็ทำตามที่ฉันบอกตอนนี้ซะ!”
“ไม่! หนูกลัว หนูไม่ทำหรอก” ไข่มุกพูดแล้วรีบวิ่งออกมายังด้านนอก เธอชนเข้ากับเบรเดนที่เดินตามมาพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่วิ่งตามหลังมา “ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วย!”
“มึงเป็นใคร มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง” การ์ดชุดดำเอ่ยถาม “ส่งผู้หญิงคนนั้นมา แล้วออกไปจากที่นี่ซะ!” เขาออกคำสั่ง
“.....” เบรเดนมองไข่มุกที่หลบอยู่ทางด้านหลัง เธอกำลังใช้มือดึงเสื้อของเขา
“ไม่นะ ช่วยด้วยนะคะ ฉันยอมทำทุกอย่างฉันไม่อยากไปขัดดอกใช้หนี้พวกเขา” เธอส่ายหน้าไปมา ให้เขาช่วยเหลือหากวันนี้รอดไปได้จะตอบแทนเขาอย่างแน่นอน
“ยอมทำทุกอย่างจริงเหรอ?” เขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้ ไข่มุกรีบพยักหน้าตอบรับ “รู้ใช่ไหมว่า...หากเธอคืนคำจะเจอกับอะไร”
“ฉันไม่คืนคำแน่นอนค่ะ ช่วยฉันด้วยนะคะ” เธอรบเร้าให้เขารีบช่วยเหลือแล้วพาเธอออกไปจากที่แห่งนี้ หากเธอรอดออกไปเธอจะบอกทุกเรื่องให้กับแม่ได้รับรู้
“หนี้เท่าไหร่” เบรเดนหันหน้าไปคุยกับชายชุดดำ
“สิบเอ็ดล้าน”
“เงินไม่ใช่น้อย ๆ เธอคงต้องตอบแทนให้มันสมน้ำสมเนื้อหน่อยแล้วนะ” เขาหันมาพูดคุยกับไข่มุกอีกครั้ง ก่อนที่จะเซ็นเช็คอย่างรวดเร็วให้กับชายชุดดำตรงหน้า
หญิงสาวถูกดึงให้ออกมาจากสถานที่แห่งนี้ เบรเดนยัดเธอเข้ามาในรถยนต์ของตนเองก่อนที่จะพากลับมาที่วิลล่าของเขา โรเบิร์ตเดินออกมาต้อนรับ ทั้งบนโต๊ะในห้องรับแขกยังมีเอกสารวางเอาไว้
เบรเดนหยุดนิ่งตรงเอกสารที่ให้เลขาเตรียมเอาไว้ให้ อ่านทบทวนเพียงไม่นานก่อนที่มันจะถูกยื่นมาตรงหน้าของไข่มุก เธอรับแล้วอ่านข้อความในกระดาษสีขาวขนาดเอ4 ความยาวเพียงสองหน้ากระดาษมีชื่อของเธอเขียนติดเอาไว้ที่บรรทัดด้านล่าง
“สัญญากู้ยืมเงิน” เบรเดนทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา จ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย
“ฉัน…” แม้ว่าเงินที่เขาใช้หนี้ให้ จะเป็นเงินที่ตนเองไม่ได้ใช้สักบาท สุดท้ายก็เป็นเธอที่เอ่ยขอความช่วยเหลือจากเขา ถือว่าเป็นหนี้ที่แลกจากการกลายเป็นผู้หญิงขัดดอก มาใช้หนี้เป็นตัวเงินแทนมันคงดีกว่าอยู่มาก “สัญญาข้อสุดท้าย คุณจะให้ทำอะไรคะ”
“......” ชายหนุ่มหันมองไปทางโรเบิร์ตที่ยืนนิ่ง ก่อนที่เลขาหนุ่มจะเดินเข้ามาหาเธอ
“เชิญทางนี้ครับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ ถึงภาษาไทยจะไม่ได้ชัดเจนเหมือนเจ้านายแต่ยังฟังรู้เรื่องมากกว่าคนต่างประเทศบางคนอยู่หลายเท่า
“จะพาฉันไปไหนคะ” ไข่มุกเดินตามหลังมาแต่ก็ยังสงสัยจึงถามขึ้น ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกกว้างก่อนที่โรเบิร์ตจะผายมือเชิญให้เธอเข้าไปด้านใน
“อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลยครับ เดี๋ยวคุณชายจะขึ้นมาอีกสามสิบนาทีครับ อย่าลืมนะครับว่าคุณเซ็นสัญญาไปแล้วยกเลิกไม่ได้นะครับ” เลขาหนุ่มกล่าวเมื่อมองเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของหญิงสาวตรงหน้า
“ค่ะ” เสียงประตูห้องปิดลง เธอหันมองไปรอบบริเวณห้องที่กว้างใหญ่ ขนาดห้องนอนของเธอยังไม่ใหญ่ขนาดนี้ เตียงนอนก็ใหญ่จึงลองนั่งลงไป รับรู้ได้ถึงความนุ่มนิ่ม
ไข่มุกกลายเป็นเด็กเธอทิ้งตัวลงนอนกลิ้งไปมา ก่อนที่มือเล็กจะวางทับสิ่งของบางอย่าง นั้นก็คือเครื่องอาบน้ำพร้อมเสื้อผ้าที่ต้องเปลี่ยนใส่
เสียงน้ำในห้องน้ำหยุดลงไปแล้ว ไข่มุกเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับชุดคลุมอาบน้ำสีขาว บนศีรษะของเธอยังมีผ้าเช็ดตัวผืนเล็กอีกผืนที่คลุมเอาไว้ผมที่เปียกน้ำถูกเป่าให้แห้งในเวลาอันรวดเร็ว
เธอหยิบชุดที่วางอยู่บนเตียงขึ้นมาดู แล้วต้องขมวดคิ้วเพราะไม่คิดว่าชุดนี้จะปกปิดอะไรได้ ชุดนอนเบาบางสีขาวหากเธอสวมใส่คงมองทะลุเห็นไปถึงไหนต่อไหน เคยเห็นแต่ตามร้านขายชุดนอน ไม่เคยซื้อมาสวมใส่สักครั้ง
สุดท้ายเธอต้องกลั้นหายใจสวมใส่ชุดผ้าเนื้อบางอย่างจำใจ หากแต่ยังสวมชุดคลุมทับเอาไว้ปิดบังความเขินอายให้ลดน้อยลงไปได้บ้าง
เสียงเปิดประตูทำให้ไข่มุกหันมองผู้มาเยือน เบรเดนใช้ลำตัวพิงที่ขอบประตูหันมองมาทางเธอ ในมือของเขายังมีแก้วไวน์แดงที่ยังดื่มไม่หมด สายตาคมจ้องมองตรงมายังหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างเตียงนอน
“ถอด” เขากล่าวเสียงเรียบแล้วสาวเท้าตรงมานั่งที่ปลายเตียงนอน “หูหนวกหรือไง”
“ถะ…ถอดอะไรคะ” ไข่มุกกระชับชายเสื้อคลุมอาบน้ำไม่ยอมทำตามที่เขาบอก จะให้เธอถอดชุดคลุมในตอนนี้คงได้มองเห็นเรือนร่างที่มีเพียงผ้าเนื้อบางที่ปิดอะไรไม่มิดอย่างแน่นอน
“จะถอดดี ๆ หรือจะให้ฉันถอดให้” เขาลุกเดินนำแก้วไวน์มาวางที่โต๊ะมุมห้อง
“ถะ…ถอดเองค่ะ นี่คือสัญญาข้อสุดท้ายใช่ไหมคะ” ถึงจะกลัวแต่ก็ยังอยากจะถามให้แน่ใจว่านี้คือข้อตกลงสุดท้ายที่เธอเซ็นสัญญาไปใช่หรือไม่ หนีจากการขัดดอกเธอก็ต้องมาพบเจอกับเรื่องแบบนี้อยู่ดีสินะ ทำไมชีวิตของเธอถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้
“......” เบรเดนเดินเข้ามาใกล้ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงมา รับรู้ได้ถึงลมหายใจที่ผสมกับไวน์แดงที่ดื่มไป ยังมีกลิ่นของบุหรี่ติดมาเล็กน้อยแต่เป็นกลิ่นที่ทำให้เธอประหลาดใจไม่รังเกียจแต่กลับชอบ
“ใกล้เกินไปแล้วค่ะ” ไข่มุกขยับออกห่างแต่กลับถูกวงแขนของเขารั้งเอวเอาไว้
“ยังมีใกล้มากกว่านี้” เขายกยิ้มมุมปากเมื่อมองเห็นสองแก้มที่แดงระเรืองเพราะความเขินอาย ร่างบอบบางในอ้อมแขนดูสั่นเหมือนลูกนกที่ตกจากรัง แต่กลับกระตุ้นเลือดในกายของเขาให้ร้อนผ่าว