ปรารถนาราคะ

53.0K · จบแล้ว
ไหมขวัญ
16
บท
9.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“ไปเสม็ด” เกวิลนทวนคำเสียงตื่นแล้วรีบถามต่อ “ไปกลับหรือค้างคืน”“ค้างคืน” ชมพูนุชตอบอย่างไม่คิดจะปิดบัง นั่นทำให้เกวลินตาโต เดินเข้าไปจับต้นแขนของชมพูนุชเพื่อให้อีกฝ่ายมองหน้าของเธอ“นี่อย่าบอกนะว่าเธอกับแทน...”“แล้วถ้าใช้เธอจะทำไม” ชมพูนุชถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่คนฟังกลับนิ่งไม่ได้“เธอก็รู้ว่าแทนคือผู้ชายที่ฉันรัก แล้วเธอจะยัง...” พูดยังไม่ทันจบชมพูนุชก็พูดแทรกขึ้นทันควัน“ยังกล้าพูดเหรอว่าแทนคือผู้ชายที่เธอรัก ทั้งๆ ที่เพิ่งกลับมาจากหาผู้ชายอีกคน และอีกอย่างเธอเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอว่าถ้าสงสารเขาก็เอาไว้เอง ตอนนี้ฉันเอาเขาไว้แล้วเธอจะมาทวงคืนอีกทำไม”

นิยายปัจจุบันนิยายรักนิยายรักโรแมนติกนอกใจรักแรกพบโรแมนติกรักหวานๆดราม่า

ตอนที่ 1

โครม!!!

เสียงดังลั่นจากหน้าบ้านในเช้าวันหยุดทำให้เจ้าของบ้านสาวรีบวิ่งมาชะเง้อคอดู สิ่งที่เห็นคือท้ายรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่พังรั้วสีขาวทะลุเข้ามาจอดอยู่ภายในบริเวณบ้านของพวกเธอ

“เสียงอะไรน่ะ” เกวลินวิ่งหน้าตื่นมาถามชมพูนุชที่ชะเง้อคอมองออกไปที่หน้าบ้าน

“รถที่ไหนก็ไม่รู้มาชนรั้วบ้านเรา” ชมพูนุชตอบแล้วเอาไม้กวาดวางพิงพนังบ้าน ก่อนจะรีบลงบันไดกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปที่หน้าบ้าน โดยมีเกวลินวิ่งตามไปติดๆ

“เป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้” เกวลินบ่นกับตัวเอง แล้วชะเง้อไปมองเห็นเจ้าของรถเปิดประตูลงมาพอดีจึงร้องถามอย่างเป็นห่วง “เป็นอะไรหรือเปล่าคะคุณ”

“ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มปิดประตูแล้วเดินมาหาสองสาว “ผมต้องขอโทษพวกคุณด้วยนะครับที่ขับรถประมาทไปหน่อย” แทนไทโค้งตัวแสดงการขอโทษสองสาวอย่างสำนึกผิด “เดี๋ยวผมจะรีบจัดการซ่อมแซมให้เสร็จ...แต่ว่าผมขอเอาของไปเก็บก่อนได้ไหมครับ”

สองสาวมองไปที่ท้ายกระบะรถก็เห็นข้าวของมากมายวางอยู่บนนั้น “คุณจะย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้เหรอคะ” ชมพูนุชหมายถึงบ้านข้างๆ ที่คนเช่าเก่าย้ายออกไปนานร่วมอาทิตย์แล้ว

“ครับ”

“ดีเลยค่ะ ปล่อยให้เป็นบ้านร้างน่ากลัวออก” เกวลินลูบต้นแขนป้อยๆ เมื่อเพื่อนตีเบาๆ “ก็มันจริงนี่น่าดึกๆ มองมาที่บ้านหลังนี้ทีไรขนลุกทุกที”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไม่ใช่คนขี้กลัว ยังไงผมขอตัวไปเอาของลงก่อนนะครับ จะได้รีบมาซ้อมรั้ว”

“วันหลังก็ได้ค่ะ คุณขนของมาเหนื่อยๆ ไหนจะต้องขนลงอีก ซ้อมพรุ่งนี้ก็ได้” ชมพูนุชท้วงอย่างเกรงใจ เพราะดูของหลังรถของชายหนุ่มแล้วมันก็เยอะเอาการอยู่ แม้มันจะไม่ได้มีของใหญ่ๆ อย่างโต๊ะตู้เตียงก็ตาม แต่ขนคนเดียวก็คงเหนื่อยเอาเรื่อง

“ใช่ค่ะ พรุ่งนี้วันอาทิตย์ คุณคงไม่ได้ไปทำงานหรอกมั้ง ใช่ไหมคะ” เกวลินเสริมอีกแรง

“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะลุกมาซ่อมให้แต่เช้าเลย งั้นตอนนี้ผมขอตัวนะครับ”

สองสามมองตามร่างสูงที่เดินไปเปิดท้ายรถที่บุบยุบจากแรงกระแทก แล้วเกลินก็ใช้ไหล่กระแทกเพื่อเบาๆ “หล่อเนาะ ท่าทางนิสัยดีด้วย”

“เรื่องหล่อไม่เถียงนะ แต่นิสัยคงต้องดูกันยาวๆ ฉันไปกวาดบ้านต่อดีกว่า”

“รอฉันด้วย” เกวลินเดินเร็วตามชมพูนุชพลางเอี้ยวตัวกลับมา แล้วก็สบเข้ากับดวงตาคมของเพื่อนบ้านหนุ่มเข้าพอดี ชายหนุ่มส่งยิ้มมาให้เธอเลยยิ้มตอบกลับเล็กน้อยแล้วเดินก้มหน้าอมยิ้มเข้าบ้านไป

“คุณครับคุณ”

เสียงร้องเรียกดังมาจากด้านหลังทำให้ชมพูนุชที่หิ้วของพะรุงพะรังเอี้ยวตัวกลับไปมอง เมื่อเห็นว่าคนที่เรียกนั้นเป็นเพื่อนบ้านคนใหม่จึงหยุดเดินแล้วยิ้มให้อีกฝ่ายน้อยๆ

“กำลังจะกลับบ้านเหรอครับ”

“ค่ะ”

“มารถอะไรครับ”

“สองแถวค่ะ”

“งั้นกลับด้วยกันดีกว่านะครับ มาผมช่วยถือ ซื้ออะไรเยอะแยะครับเนี่ย” ไม่รออีกฝ่ายอนุญาตแทนไทแย่งเอาของในมือของหญิงสาวมาถือเสียเอง

“ซื้อตุนไว้นะคะ ขี้เกียจออกมาซื้อบ่อยๆ” ชมพูนุชตอบพลางเดินตามร่างสูงไปอย่างขัดไม่ได้

“ดีนะครับทำกับข้างกินเองประหยัดดี แต่ผมขี้เกียจ กินตามสั่งหรือไม่ก็ก๋วยเตี๋ยว ขี้เกียจหนักๆ ก็ต้มม่ามา” ชายหนุ่มพูดเสียงกลั้วหัวเราะ

“แล้วที่ซื้อไปนี่ล่ะคะ” ชมพูนุชพยักพเยิดไปที่ถุงของสดในมืออีกข้างของชายหนุ่ม “นี่เหรอครับ” มือใหญ่ยกถุงผักสองสามอย่างและหมูสดของตัวเองขึ้นมามอง “พรุ่งนี้ผมจะทำกับข้าวใส่บาตรครับ...ย้ายบ้านใหม่ทั้งทีเลยอยากจะทำบุญบ้างอะไรบ้าง อีกอย่างพรุ่งนี้วันหยุดด้วย ตื่นแต่เช้าทำกับข้าวใส่บาตรเสร็จจะได้ซ่อมรั้วบ้านให้คุณเลยไงครับ” แทนไทบอกก่อนจะยกของในมือตัวเองวางไว้ท้ายกระบะ จากนั้นก็หันไปเอาส่วนที่เหลือจากชมพูนุชมาวาง “คุณจะแวะที่ไหนก่อนกลับหรือเปล่าครับ”

“ไม่ค่ะ”

“ถ้าจะแวะที่ไหนก็บอกนะครับไม่ต้องเกรงใจ”

“ถ้านึกได้แล้วจะบอกนะค่ะ” ชมพูนุชตอบรับแล้วเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างในพลางอมยิ้มขำๆ ดูๆ ไปผู้ชายคนนี้ก็ดูเป็นคนดีมีน้ำใจเหมือนอย่างที่เกวลินว่าอยู่เหมือนกัน

เสียงรถวิ่งมาจอดหน้าบ้านข้างๆ ทำให้เกวลินที่กำลังจะออกไปข้างนอกชะเง้อคอดู แล้วคิ้วเรียวสวยก็ขมวดมุ่นเมื่อเห็นเพื่อนสนิทลงจากรถของเพื่อนบ้านคนใหม่ ด้วยความข้องใจทำให้เธอยืนรอชมพูนุชยังไม่ออกจากบ้าน

“นี่เธอออกไปข้างนอกกับ...ชื่ออะไรก็ไม่รู้”

“แทน” ชมพูนุชบอกหลังจากที่เธอกับเขาเพิ่งมีโอกาสแนะนำตัวเองตอนที่นั่งรถกลับบ้านมาด้วยกัน “ฉันออกไปคนเดียวแต่บังเอิญขากลับเจอคุณแทนที่ตลาด เขาเลยชวนมาด้วย ฉันก็เลยมา”

“คุณแทนเขาไปซื้ออะไร” เกวลินกระแซะถามอย่างอยากรู้

“ซื้อของไว้ทำกับข้าวใส่บาตรพรุ่งนี้น่ะ”

“หล่อ...ใจบุญหาได้ที่ไหนถ้าไม่ใช่ข้างบ้าน” เกวลินพูดพลางเต้นเร้าๆ ป้องปากหัวเราะคิกคัก “ก็คงงั้นแหละมั้ง ว่าแต่นี่เธอจะไปไหน...ค่ำแล้วนะ”

“ตอนแรกว่าจะออกไปกินข้าวนอกบ้าน แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจละ กินข้าวเป็นเพื่อนเธอดีกว่า เข้าบ้านกันเถอะ เดี๋ยวฉันช่วยทำกับข้าว จะโทร.ยกเลิกนัดด้วย” ว่าแล้วเกวลินก็แบ่งของในมือชมพูนุชไปถือแล้วเดินนำเข้าบ้าน

“แฟนเธอจะไม่โกรธเหรอ”

“แฟนที่ไหน เพื่อนร่วมงานกันทั้งนั้น และที่ฉันว่าจะไปนี่ก็ใช่จะไปกันสองคนที่ไหนกันเล่า สี่ห้าคนแน่ะ ขาดฉันคนหนึ่งงานไม่ล่มหรอกน่า” เกวลินบอกพลางยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ

“แล้วคนที่มารับมาส่งทุกวันก็ไม่ใช่เหรอ” ชมพูนุชถามอย่างสงสัย จริงๆ เรื่องคบผู้ชายเธอไม่ได้ซักไซ้เกวลินมากนัก เห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว

“หือ...” เกวลินส่ายหน้าหวือ “ทางผ่านเลยไปกลับด้วยกันเฉยๆ แต่ฉันก็ช่วยออกค่าน้ำมันบ้างเหมือนกันนะ...ว่าแต่เธอจะซักฉันทำไมเนี่ย”

“ก็...แปลกใจที่เธอว่ายังโสด ทั้งที่ฉันเห็นว่าหัวกะไดบ้านไม่เคยจะแห้ง”

“ก็ฉันมีสิทธิ์เลือกนี่ ก็ขอใช้สิทธิ์หน่อยเถอะ ใครจะเหมือนเธอ...” ปรายตามองพลางอมยิ้ม ใช้ไหล่กระแทกหยอกเย้าเพื่อนเบาๆ

“เลิกกันได้ครึ่งเดือนแล้วมั้ง”

“ไม่จริง!” เกวลินอุทานอย่างตกใจ ก็คนคู่นี้คบกันมายาวนานมาก ตั้งแต่สมัยเธอกับชมพูนุชทำงานที่เดียวกัน มันก็หลายปีมาแล้ว จนตอนนี้ต่างย้ายไปทำคนละที่

“จริงที่สุดเลยละ มันเต็มทีแล้ว”

“ถ้าเธอไม่พูดฉันไม่รู้เลยนะเนี่ย ไม่เห็นมีช่วงไหนที่ท่าทีเหมือนคนอกหักรักคุดสักนิด”

“คงเพราะเราระหองระแหงกันมานาน ฉันเลยทำใจไว้บ้างแล้วด้วยมั้ง พอเจอเข้าจริงๆ เลย ไม่ได้ฟูมฟาย แต่ตอนอยู่คนเดียวมันก็มีเศร้าบ้างละนะ” ชมพูนุชบอกพลางยิ้มอ่อนๆ

“ไหนๆ พรุ่งนี้ก็วันหยุด คืนนี้เรามาฉลองความเป็นโสดกันดีกว่า” เกวลินบอกอย่างกระตือรือร้น “ก็ดี” ซึ่งชมพูนุชก็ไม่คิดจะปฏิเสธนานๆ จะได้ดื่มและกินด้วยกันเสียที เพราะส่วนใหญ่เกวลินนั้นชอบออกไปสังสรรค์เฮฮาปาร์ตี้นอกบ้านมากกว่า ผิดกับเธอที่ชอบอยู่บ้าน

แม้เมื่อคืนจะดื่มและกินหนักไปหน่อยแต่ในเช้าตรู่ชมพูนุชก็สามารถตื่นมาหุงข้าวทำกับข้าวเพื่อรอใส่บาตรในช่วงหกโมงเช้า หลังจากเตรียมทุกอย่างเสร็จก่อนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า สุดท้ายก็ไม่ลืมที่จะไปเคาะห้องปลุกเกวลินที่กำชับเอาหนักหนาตั้งแต่เมื่อคืนว่าห้ามลืมเด็ดขาด

แต่ก็เคาะอยู่นานกว่าคนในห้องจะมาเปิดประตูให้ด้วยท่าทางงัวเงีย “มีอะไรมาเคาะประตูแต่เช้าเชียว” บอกแล้วยกมือป้องปากหาว

“อาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว อีกไม่ถึงชั่วโมงฉันจะลงไปใส่บาตรแล้วนะ”

ได้ยินอย่างนั้นคนที่อ้าปากหาวก็ชะงักแล้วเบิกตากว้าง เหมือนพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ “เอ่อ! จริงด้วย ลืมไปเลยนะเนี่ย ขอบใจนะ ขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนเดี๋ยวไม่ทัน” พูดจบก็รีบวิ่งไปกลับเข้าไปในห้องและวิ่งออกไปเข้าห้องน้ำที่มีเพียงห้องเดียวในบ้านอย่างเร่งรีบ

“จริงๆ เลย ตัวเองบอกแท้ๆ แต่ดันลืม” ชมพูนุชส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเดินไปหยิบโต๊ะพับเพื่อวางของใส่บาตรไปตั้ง

ทั้งสองสาวช่วยกันยกของที่จะใส่บาตรมาวางที่โต๊ะที่ชมพูนุชเตรียมเอาไว้ ก่อนพระท่านจะมาถึง และก็ไม่ต่างกับเพื่อนบ้านหนุ่มคนใหม่

“อ้าว! อรุณสวัสดิ์ค่ะ ใส่บาตรเหมือนกันเหรอคะ” เกวลินที่รู้เรื่องนี้อยู่แล้วแสร้งถามเหมือนแปลกใจ “มาวางที่โต๊ะด้วยกันสิคะ มาค่ะ” ไม่รอให้อีกฝ่ายปฏิเสธหรือตอบรับ เกวลินรีบเดินเข้าไปช่วยถือกับข้าวที่ชายหนุ่มใส่ถุงเอาไว้และดอกไม้ที่วางอยู่บนปากโถชามข้าวมาวางที่โต๊ะ

“ขอบคุณครับ พวกคุณใส่บาตรทุกเช้าเลยหรือครับ”

ชมพูนุชที่อ้าปากจะปฏิเสธว่าจะใส่เฉพาะเช้าวันหยุดเท่านั้น ต้องรีบหุบปากเมื่อเกวลินจีบปากจีบคอรับและพูดเป็นตุเป็นตะ ทั้งที่อยู่ด้วยกันมานี้คือครั้งแรกที่เกวลินยอมตื่นแต่เช้ามาใส่บาตร

“ค่ะ พอดีไม่ค่อยมีเวลาเข้าวัดทำบุญเท่าไหร่ก็อาศัยช่วงเช้าที่ตื่นแต่เช้าหน่อยมาใส่บาตรเอานะคะ”

“ดีนะครับ ผมนานๆ จะได้ใส่ที นี้ถ้าไม่คิดว่าย้ายบ้านใหม่ผมคงยังนอนไม่ตื่นแน่ๆ” ชายหนุ่มบอกเสียงกลั้วหัวเราะพร้อมกับลูบท้ายทอยอย่างเขินๆ

“เอาไว้วันไหนคุณอยากใส่บาตรบอกนะคะ ฉันจะได้ทำกับข้าวเผื่อ”

“ขอบคุณครับ พระท่านมาแล้วครับ” ชายหนุ่มรีบบอกเมื่อเห็นพระสามรูปเดินมา

“อุ๊ย!” เกวลินอุทานอย่างตกใจ เมื่อมือเธอไปปัดโดนทัพพีที่จะตักข้าวใส่บาตรของตัวเองตกพื้น “เอาไงล่ะทีนี้ จะกลับไปเอาอันใหม่พระท่านก็มาถึงแล้ว ฉันขอใส่บาตรด้วยคนได้ไหมคะ” ว่าแล้วเธอก็ขยับไปยืนข้างๆ เพื่อนบ้านคนใหม่ เอื้อมมือไปจับทัพพีอันเดียวกันกับชายหนุ่มเพื่อตักข้าวเตรียมใส่บาตร

“คุณตักข้าว ผมเอาดอกไม้และกับข้าวใส่ดีกว่านะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ใส่ด้วยกันนี่แหละ ทำบุญร่วมกันตักบาตรร่วมขันจะได้กลับมาเจอกันทุกชาติไป”

“ยัยลิน! มาใส่กับฉันดีกว่าไหม” ชมพูนุชเอ่ยปากเรียกเมื่อเห็นว่าเพื่อนออกอาการมากเกินไป

“ไม่เป็นไรหรอกครับ”

และเกวลินก็ไม่ไปจริงๆ เธอทำตามความตั้งใจจนกระทั่งใส่บาตรเสร็จ

“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จผมจะมาซ่อมรั้วให้นะครับ” แทนไทบอกสองสาว

“ค่ะ” ชมพูนุชรับคำพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินถือโถชามเข้าบ้าน โดยให้เกวลินเป็นคนเก็บโต๊ะตามมาทีหลัง

“มากินด้วยกันไหมคะ” เกวลินเอ่ยปากชวน “เอ่อ...ฉันคิดว่ากินข้าวหลายๆ คนมันสนุกดี และอีกอย่างพวกเราจะได้ทำความรู้จักกันในฐานะเพื่อนบ้านให้มากขึ้นด้วยไงคะ”

“งั้นเอาไว้เป็นมื้อเย็นดีกว่าไหมครับ เราจะได้มีเวลาคุยกันมากขึ้นหน่อย เพราะเช้าผมว่าจะรีบกินรีบมาซ่อมรั้วบ้านให้พวกคุณน่ะครับ”

“ก็ดีค่ะ ตกลงตามนั้นนะคะ” เกวลินส่งยิ้มสดใสให้ก่อนจะยกโต๊ะเข้าบ้านไปอย่างอารมณ์ดีกว่าปกติ

“อารมณ์ดีจริงนะ ถ้าใส่บาตรตอนเช้าแล้วทำให้อารมณ์ดีอย่างนี้น่าลุกมาใส่ทุกวันนะฉันว่า” ชมพูนุชที่กำลังล้างโถข้าวเก็บเอ่ยปากล้อ เมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้าบ้านมาด้วยอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“ถ้าคุณแทนใส่ทุกวันฉันจะยอมก็ได้”

“ตกลงเธอสนใจคุณแทนใช่ไหม” ชมพูนุชถามออกไปตรงๆ และอีกฝ่ายก็ไม่คิดจะปิดบังจึงตอบกลับมาตรงๆ ว่า

“ใช่ ผู้ชายหล่อ นิสัยดี น่ารักขนาดนี้ไม่สนใจก็บ้าแล้ว” เกวลินพูดพร้อมกับทำสีหน้าเพ้อฝัน

“แต่ก็ไม่น่าออกอาการขนาดนี้หรือเปล่า”

“ไม่ละ สำหรับฉันถ้าชอบก็เดินหน้าลุยโลด สมัยนี้รอผู้ชายรุกก่อนไม่ทันกินกันพอดี ผู้ชายแท้ยิ่งหายากๆ อยู่ขืนช้าหมาได้คาบไปกิน”

“แล้วแน่ใจได้ไงว่าเขายังไม่มีใคร” คำถามของชมพูนุชทำให้เกวลินต้องหลุดจากความเพ้อฝันไปชั่วครู่ ก่อนหญิงสาวจะยักไหล่ “ภายในวันนี้ฉันรู้แน่นอน”

“อย่าบอกน่ะว่าแกจะเดินไปถามเขาตรงๆ น่ะ อย่าเชียวนะ” ชมพูนุชรีบเอ่ยเตือน

“บ้าสิ ฉันถามได้แนบเนียนกว่านั้นย่ะ มากินข้าวได้แล้ว กินเสร็จฉันจะไปซ่อมรั้ว ไม่ใช่สิไปให้กำลังใจคนซ่อมรั้ว” พูดจบเกวลินก็ปิดปากหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ เห็นอย่างนั้นแล้วชมพูนุชได้แต่ส่ายศีรษะ ท่าจะเป็นเอามาก