บทที่ 6 ผิดต่อเพื่อน
“ก็ไม่ทำอะไร ฉันไม่ได้รักยัยปี่ ฉันจะแต่งงานกับหนูลีคนเดียวเท่านั้น” ไวทย์พูดไปก็ดื่มไปกับเพื่อนๆจนลืมแขกที่ทยอยกันกลับจนเหลือแค่เพื่อนๆที่ยังดื่มกินกันด้วยความสนุกขณะเจ้าของงานกำลังมึนเมาได้ที่
อนลเดินไปที่ลิฟต์ตามที่วนาลีเขียนในกระดาษว่าเธอรอเขาอยู่ที่ห้องสวีทพร้อมกับแนบการ์ดเข้าห้องมาให้ อนลก็ร้อนใจกลัวว่าหญิงสาวจะเป็นอะไรและไม่เข้าใจว่าทำไมวลาลีถึงไปอยู่ที่ห้องสวีทได้
“เป็นอะไรวะ” อนลเซไปพิงผนังลิฟต์แล้วส่ายหน้าร่างกายร้อนวูบวาบจนขนลุก “บ้าเอ้ย” ชายหนุ่มสบถเสียงดังเขาไม่ใช่ไก่อ่อนที่ไม่รู้ว่าตัวเองถูกวางยาปลุกเซ็กส์ก่อนจะเดินออกจากลิฟต์ไปที่ห้องของวลาลีอย่างรวดเร็ว
“ก๊อกๆ.”
อนลเคาะประตูแล้วก็สอดการ์ดเข้าไปประตูก็เปิดออกร่างสูงก็เดินเข้าไปในห้องมองหาหญิงสาวที่นัดเขามาก็ไม่เห็นก่อนจะเดินไปดูในห้องนอน
“หนูลี” อนลครางในลำคอเมื่อเห็นร่างบางอวบอิ่มขาวโพลนนอนบิดตัวไปมาอยู่กลางเตียงด้วยคววามทรมาน
“ร้อน อื้ออ ลีร้อน ช่วยด้วยค่ะ” วลาลีมองเห็นเงาคนเข้ามาในห้องก็เรียกร้องขอความช่วยเหลือ
“หนูลีเป็นอะไรครับ” อนลเดินไปที่เตียงก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมร่างของแฟนเพื่อน
“พี่ไวทย์ ช่วยลีด้วย อื้ออ อ่าา ลีร้อน อื้ออ..” วลาลีพูดไปมือก็ดึงผ้าห่มออกจากกายคิดว่าเป็นแฟนหนุ่มจึร้องขอความช่วยเหลือ
“หนูลีมีสติหน่อยครับ ผมไม่ใช่นายไวทย์ เดี๋ยวผมไปตามนายไวทย์ก่อนนะครับ” อนลข่มความต้องการที่ประทุขึ้นมาเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มแต่มือนุ่มปัดป่ายร่างกายของเขาไปมา
“มะ ไม่ คุณนลช่วยลีด้วย อื้ออ ลีร้อนไม่ไหวแล้ว อ่าา ซี้ดด อื้ออ..” วลาลีครองสติแทบไม่อยู่เมื่อร่างกายของเธอต้องการปลดปล่อยจนลมหายใจหอบกระชั้นสองมือบีบนวดสองเต้าอวบอิ่มอย่างแรงหน้าตาบิดเบี้ยวตัวแดงก่ำ
อนลมองร้างบางเปลือยเปล่าพยายามช่วยเหลือตัวเองจากความทรมานด้วยความผิดชอบชั่วดีตีกันวุ่นแล้วร่างกายของเขาที่โดนยาปลุกเซ็กส์ก็ไม่ต่างจากวลาลี มือหนาลูบไล้ผิวนุ่มไปตามลำตัวอวบอิ่มแล้วก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มบดจูบขยี้อย่างดูดื่มดุดันเมื่อความกำหนัดมันพุ่งพล่านตามความแรงของยาปลุกเซ็กส์ที่ถาโถมเข้าใส่สองหนุ่มสาวอย่างบ้าคลั่งจนไม่มีสติว่าทำอะไรลงไปนอกจากปลดปล่อยความทรมานที่อัดแน่นในกายให้มันหายครั้งแล้วครั้งแล้วครั้งเล่ากว่าฤทธิ์ยาจะหมดทั้งสองก็สะบักสะบอมสลบตามกัน
ส่วนไวทย์ก็ดื่มหนักจนเมามายทำให้ธรรศกับรณชัยที่เมาน้อยกว่าก็ให้คนขับรถของไวทย์พาเจ้านายกลับไปที่คอนโดท่ามกลางสายตาของรสรินกับกานดาที่คอยดูไวทย์และรายงานปรีชญาที่นั่งรออยู่ที่รถเพราะกลัวไวทย์จะตามวลาลีไปพอเพื่อนโทรมาบอกว่าไวทย์กำลังกลับเพื่อนกำลังจะกลับเธอจึงเตรียมตัวรอก่อนจะบอกให้คนขับรถ ขับตามไปที่คอนโดรอจนพวกเขาแยกกันเข้าห้องพักของใครของมันปรีชญาก็บอก สุบันคนขับรถของไวทย์ว่าเธอจะดูแลชายหนุ่มเองทำให้สุบันจำต้องออกจากห้องแล้วกลับไปที่ห้องพักของเขาที่อยู่ชั้นล่าง เพราะเห็นเพื่อนทั้งสองของเธอมาด้วย
“พวกเธอกลับไปได้แล้ว” ปรีชญาบอกเพื่อนเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเธอ
“แหมทีอย่างนี้ไล่เพื่อนเลยนะยัยปี่” กานดาแซวเพื่อน
“ถ้าเธอได้คุณไวทย์สมใจแล้วก็อย่าลืมสัญญานะจ้ะปี่” รสนันส์ทวงสัญญากับเพื่อนที่บอกให้เธอสองคนช่วยหากสำเร็จจะซื้ตั๋วทัวร์ยุโรปให้แถมพ็อกเก็ตมันนี่ให้อีก
“ไม่ลืมหรอกน่า พวกเธอเตรียมตัวไปเที่ยวได้เลย”
“งั้นขอให้เธอได้สมหวังนะจ้ะปี่..”
“ขอให้สมหวังนะเพื่อนรัก”
กานดากับรสนันส์เดินออกจากห้องพักของไวทย์ก็เหลือแต่ปรีชญาที่อยู่ในห้องก่อนหญิงสาวจะเดินไปในห้องนอนของไวทย์แล้วถอดชุดของเธอออกกองข้างเตียงทั้งชั้นนอกชั้นในจนเปลือยเปล่าอย่างไม่อายเพราะไวทย์นอนเมาจนไม่มีสติก่อนจะถอดเสื้อของชายหนุ่มออก
“พี่ไวทย์ถอดเสื้อก่อนค่ะจะได้เช็ดตัว” ปรีชญาพูดเบาๆแล้วถอดเสื้ออกจากตัวของชายหนุ่มได้สำเร็จ
“อื้มม หนูลี..” ไวทย์ครางเบาๆในใจก็คิดถึงแฟนสาวเพราะวลาลีมีการ์ดเข้าออกคอนโดของเขาแต่เคยมาแค่ครั้งเดียวนานแล้ว
“ขยับตัวหน่อยสิคะปี่จะถอดกางเกงให้” ปรีชญากัดฟันบอกไวทย์แล้วถอดกางเกงออกจนร่างใหญ่เหลือแต่กางเกงในตัวเดียวจึงเช็ดตัวให้เขาและไม่พอใจที่ชายหนุ่มเอาแต่พร่ำเพ้อถึงแฟนสาว
“หนูลีจ๋า หนูลีกาบมาหาพี่แล้วช่ายม้าย..”
“อุ้ยย..” ปรีชญาถลาไปตามแรงดึงของไวทย์ล้มลงในอ้อมกอดของเขากอดรัดแน่นเพราะคิดว่าเป็นแฟนสาวก่อนจะตะโบมจูบด้วยความคิดถึง
“อื้มม พี่ อึ้กก คิดถึงหนูลี หนูลีจ๋าม่ายโกดพี่แล้วช่ายม้าย..” ไวทย์พูดไปปากและมือก็ปลุกเร้ากายสาวจนเร่าร้อนเธอก็ตอบสนองเขาอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน สองร่างรุกเร้ากันอย่างดุเดือดไวทย์สอนรักแฟนสาวอย่างถึงพริกถึงขิงปลดปล่อยความทรมานอัดอั้นใส่เต็มที่จนหมดแรงไปด้วยกัน
เวลา05.10น.
วลาลีลืมตาขึ้นช้าๆมองไปรอบๆห้องที่ไม่คุ้นตาก่อนจะคิดออกว่าไวทย์ให้เธอมารอในห้องแล้วเธอก็ร้อนมากจนอยากอาบน้ำจึงถอดเสื้อผ้าออกแต่ไปไม่ถึงห้องน้ำเพราะร่างกายของเธอมันเสียวซ่านจึงล้มตัวนอนบนเตียงจากนั้นล่ะไวทย์มาหาเธอนี่ วลาลีขยับแล้วร้องครางเบาๆด้วยความเจ็บระบมมองคนที่นอนกรนเบาๆอยู่ข้างเธอแล้วยกมือขึ้นปิดปาก
ไม่ใช่ไวทย์แต่เป็นอนลเพื่อนของเขา วลาลีนั่งตัวแข็งทื่อในหัวตันไปหมดคิดอะไม่ออกน้ำตาก็ไม่มีจะไหลก่อนจะลุกขึ้นช้าๆขยับร่างกายที่ร้าวระบมลงจากเตียงเก็บเสื้อผ้าที่เธอถอดทิ้งไว้เดินกระย่องกระแย่งเข้าห้องน้ำแล้วมองสภาพน่าสมเพชของตัวเองในกระจกก่อนจะรีบล้างหน้าล้างตาแล้วใส่เสื้อผ้าย่องออกจากห้องขณะที่อนลยังนอนหลับสนิทแล้วกลับบ้าน
“ฮือๆ ฮืออๆๆ ทำไม ฮืออๆ ทำไมเป็นแบบนี้ ฮืออๆๆ..” เมื่อถึงบ้านหญิงสาวก็ล้มตัวลงนอนแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นจนหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าและโชคดีที่พี่สาวเธอไปพักผ่อนกับครอบครัวแฟนหนุ่มที่สวิตฯไม่งั้นเธอคงโดนซักฟอกแน่
อนลตื่นขึ้นมาปากคอแห้งผากชายหนุ่มก็ลุกขึ้นเพื่อจะไปหาน้ำดื่มแต่มองรอบห้อง
“นี่มันโรงแรมเรานี่ เมื่อคืน เฮ้ย หนูลี.” อนลมองข้างกายก็ไม่เห็นวลาลีมีแต่ร่องรอยของหญิงสาวและกลิ่นหอมของเธออบอวลอยู่ในห้อง “หนูลีครับ” อนลลุกขึ้นทั้งที่เปลือยเปล่าเข้าไปดูในห้องน้ำก็ไม่เห็นแต่ยังมีร่องรอยของคนใช้เพราะผ้าขนหนูยังเปียกอยู่ “หนูลีไปแล้วเหรอ” อนลจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อลงไปสอบถามที่ล็อบบี้ว่าวลาลีออกไปตอนไหนแล้วค่อยกลับมาสะสางเรื่องเมื่อคืนว่าใครเป็นคนทำแต่ไม่มีใครเห็นว่าวลาลีออกไปตอนไหนจนอนลเรียกดูกล้องวงจรปิดก็เห็นร่างเล็กเดินกระย่องกระแย่งไปที่ประตูแล้วไปขึ้นแท็กซี่ที่หน้าโรงแรมชายหนุ่มจึงให้พนักงานก็อปปี้ภาพจากห้องงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนเมื่อคืนนี้ให้ทั้งหมดก่อนจะกลับคอนโดและจนกินอะไรไม่ลงนอกจากกาแฟแก้วเดียว
