บทที่่ 5 พลาดท่า
“นี่ยัยนันท์แกเห็นมั้ยว่าวันนี้ยัยปี่กับคุณไวทย์เขาเหมาะสมกันมากเลยนะเธอ” กานดาเดินเข้ามายืนล้างมือแล้วเหลือบมอง วลาลีขณะพูดกับรสนันท์
“นั่นสิเหมือนจัดงานแต่งเลยนะเธอ คุณไวทย์กับยัยปี่ควงกันต้อนรับแขกน่ะ อิจฉาจริงๆเลย อุ้ย วลาลี ขอโทษด้วยจ้ะ คิกๆๆ..” รสนันท์พูดแล้วหันไปหัวเราะกับกานดา
“ไม่เป็นไรค่ะ” วลาลีพูดจบก็เดินออกไปจากห้องน้ำเข้าไปในงานยืนแอบอยู่ใกล้ๆประตูเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตหยิบแก้วน้ำส้มที่พนักงานเอามาให้ยกขึ้นดื่มคิดตามที่สองสาวเพื่อนของปรีชญาพูดมันก็จริงปรีชญาเหมาะสมกับไวทย์ทั้งฐานะ การศึกษาและยังสวยน่ารัก อย่างที่เธอเทียบไม่ได้เลยวลาลีดื่มน้ำส้มจนหมดแก้วและลังเลใจว่าจะอยู่ต่อหรือกลับดีและรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว
“คุณวลาลีใช่มั้ยคะ”
“เอ่อ ค่ะ,”
“คือคุณไวทย์ให้มาพาคุณวลาลีไปรอที่ห้องพักค่ะ เดี๋ยวเขาจะตามขึ้นไปค่ะ” ต้อยคนรับใช้ของคุณสุรางค์เดินมาบอกวลาลีตามที่ได้รับคำสั่งจากคุณหนูของเธอว่าให้พาวลาลีไปรอที่ห้องสวีทชั้นบนสุดที่จองไว้
“แต่ว่า..”
“ไปเถอะค่ะเดี๋ยวคุณไวทย์ตามไปค่ะ” ต้อยคะยั้นคะยอวลาลีที่จำต้องเดินตามไปที่ลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนสุดแล้วไปนั่งรอไวทย์ในห้องสวีท
“เอ่อ,พี่คะ.”
“พี่จะไปบอกคุณไวทย์ให้นะคะว่าคุณวลาลีรออยู่ที่ห้องแล้ว..” ต้อยเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วเพื่อไปแจ้งคุณหนูของเธอ
อนลนั่งดื่มและคุยกับเพื่อนรักทั้งสองแต่เขาไม่วายมองหาวลาลีที่หายไปห้องน้ำนานแล้วยังไม่กลับมา
“น้องแป๋ม ทำไมหนูลีไปห้องน้ำนานจังหลงทางหรือเปล่า”
“นั่นสิคะพี่อนล งั้นแป๋มไปดูหนูลีก่อนนะคะ”
“พี่ไปด้วยครับ ฉันไปห้องน้ำนะเดี๋ยวมา.” อนลบอกเพื่อนแล้วลุกขึ้นเดินไปพร้อมกับแป๋มเพื่อไปดูวลาลีแต่ไม่เจอชายหนุ่มก็เดินกลับเข้ามาในงานก็เจอเพื่อนของปรีชญา
“คุณอนลคะ จะไม่ดื่มกับพวกเราหน่อยเหรอคะ” กานดาดักอนลแล้วแกล้งเรียกเด็กเสิร์ฟที่ถือถาดเคร่องดื่มรอจังหวะอยู่ให้มาหา
“ได้สิครับ คนสวยขอทั้งที” อนลหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับสองสาวแล้วยกขึ้นดื่มก่อนจะคุยกับพวกเธอแต่สายตามองหาวลาลี
“รสได้ข่าวว่าคุณอนลกำลังจะหมั้นจริงหรือเปล่าคะ” รสนันท์ชวนอนลคุยเพราะเธอได้ข่าวว่าแม่ของอนลทาบทาบลูกสาวเพื่อนให้ลูกชาย
“ข่าวโคมลอยครับ ผมยังสนุกกับงานไม่คิดจะมีครอบครัวตอนนี้ครับ” อนลตอบเพื่อนของปรีชญาแล้วยกดไวน์ดื่มหมดแก้ว
“งั้นแสดงว่าสาวๆคนอื่นก็ยังมีสิทธิ์สิคะ.” กานดาอดเสียดายอนลไม่ได้แต่เพื่อนยืนยันว่าเป็นอนลเธอก็ไม่ขัด
“ครับผม.”
“งั้นกานดาจะขอสิทธิ์นั้นได้มั้ยคะ.”
“ก็ลองดูสิครับ” อนลยิ้มให้กานดาที่อ่อยเขาซึ่งๆหน้า ก่อนจะมีเด็กเสิร์ฟเอากระดาษมาให้ อนลอ่านแล้วก็มองหาเจ้าของวันเกิดแต่ไม่เห็น
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” อนลบอกสองสาวก่อนจะเดินออกจากห้องงานเลี้ยงมีสายตาของสองสาวมองตามแล้วไฟว์มือกัน
“เสียดายคุณอนลอ่ะเธอ” กานดาพูดขึ้น
“เอาน่ากานดา มีผู้ชายอีกเยอะแยะ ไปหายัยปี่กันเถอะ” รสรินกับกานดาก็เดินไปหาปรีชญาที่นั่งยืนร่วมตัดเค้กกับพ่อแม่ของไวทย์ แล้วพยักหน้าให้ว่าทุกอย่างเรียบร้อย
ไวทย์ตัดเค้กเสร็จก็มองหาแฟนสาวไม่เจอก็เดินมาถามน้องสาวที่โต้ะ
“แป๋มหนูลีล่ะ”
“นี่ค่ะพี่ไวทย์” วรนันท์ยื่นกระดาษเล็กๆให้ไวทย์
“ทำไมหนูลีกลับไม่บอกพี่” ไวทย์อ่านข้อความในกระดาษที่โชติกายื่นให้แล้วพึมพำเบาก่อนจะนั่งลงกับเพื่อน
“งานเข้าแล้วล่ะไอ้ไวทย์” ธรรศว่าเพื่อนที่มีปรีชญาเดินเกาะแขนไปทั่วงานอย่างไม่เกรงใจแฟนสาวของเพื่อน
“หนูลีเป็นคนมีเหตุผลน่า” ไวทย์ชักไม่แน่ใจและเขาก็ช้าไม่ได้แล้วพรุ่งนี้ต้องคุยกับวลาลีให้เข้าใจ
“งานเข้าแล้วล่ะไอ้ไวทย์” ธรรศว่าเพื่อนที่มีปรีชญาเดินเกาะแขนไปทั่วงานอย่างไม่เกรงใจแฟนสาวของเพื่อน
“หนูลีเป็นคนมีเหตุผลน่า” ไวทย์ชักไม่แน่ใจและเขาก็ช้าไม่ได้แล้วพรุ่งนี้ต้องคุยกับวลาลีให้เข้าใจ
“ไอ้นลมันไปไหนวะ”
“นั่นสิหายไปนานแล้วว่ะ.”
“เมื่อกี้แป๋มเห็นคุยกับเพื่อนพี่ปี่อยู่ด้านโน้นค่ะ” โชติกาบอกญาติผู้พี่กับเพื่อนก่อนทุกคนจะดื่มและคุยกันแล้วไวทย์ก็ไปนั่งคุยกับผู้ใหญ่
“ว่าไงนายไวทย์เมื่อไหร่จะแต่งงานล่ะ หนูปี่สวยแบบนี้เดี๋ยวก็มีหนุ่มมาฉกไปหรอกอย่ามัวแต่ช้าสิหลาน” สมบัติพ่อของโชติกาแซวหลานชายที่ยังครองตัวเป็นโสดและไม่มีวี่แววว่าจะแต่งงานสักทีและมีคนเดียวที่เป็นข่าวด้วยกันบ่อย
“คงอีกไม่นานครับคุณน้า เดี๋ยวผมจะพาแฟนมาให้รู้จักครับ ที่จริงวันนี้ก็มานะครับแต่กลับไปก่อน”
“อะไรนะ ตาไวทย์จะมีแฟนได้ยังไงในเมื่อคบกับหนูปี่อยู่ไม่ใช่เหรอ” คุณสุรางค์มองหน้าไวทย์และถามกลางโต้ะทำให้ไวทย์หันไปมองปรีชญา
“คือผม..” ไวทย์อ้าปากจะพูดแต่แม่ขอเขาส่ายหน้าจึงทำให้ชายหนุ่มหยุด
“คุณแม่คะ มันไม่ใช่..”
“น้าไม่ยอมนะตาไวทย์ ตอนนี้ทุกคนก็เข้าใจว่าหนูปี่เป็นแฟนเราอย่างนี้ลูกสาวน้าก็เสียหายสิ เธอจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอหวาน” สุรางค์พูดขึ้นอย่างไม่พอใจเพราะข่าวของไวทย์กับปรีชญามีออกสื่อบ่อยๆและยังออกงานด้วยกันอีก แล้วมาบอกว่ามีแฟนอย่างนี้ลูกสาวเธอก็เสียหายแล้วจะเอาหน้าไปไว้ไหนในสังคม
“ปิ้กใจเย็นๆก่อนนะ” จารุมลบอกเพื่อนที่ไม่พอใจลูกชายของเธอทั้งที่คุยกันแล้วว่าจะไม่ยุ่งเรื่องของลูกๆและปล่อยให้พวกเขาจัดการกันเอง แล้วไวทย์ก็พูดออกสื่อตลอดว่าปรีชญาเป็นน้องสาวไม่ใช่แฟนทำไมเพื่อนถึงโวยวายและไม่เข้าใจ
“เธอก็พูดได้สิหวาน ลูกชายเธอไม่เสียหายนี่”
“คุณปิ้ก เบาๆสิอายคนอื่นเขาบ้าง” ดิลกปรามภรรยาที่โวยวายด้วยความไม่พอใจ
“คุณดามอย่ามาห้ามฉัน เรื่องนี้ฉันไม่ยอมแน่ ตาไวทย์ต้องรับผิดชอบที่ทำให้ลูกเราเสียหาย”
“เอาอย่างนี้นะคุณปิ้ก เราค่อยนัดคุยกันนะครับ ที่นี่ไม่เหมาะจะคุยเรื่องในครอบครัวครับ” ต่อลาภบอกเพื่อนของภรรยาที่เอาแต่โวยวาย
“นัดมาละกันนะหวานฉันขอตัวก่อน คุณดามหนูปี่กลับบ้าน” สุรางค์พุดจบก็ลุกขึ้นเรียกสามีและลูกสาวกลับบ้าน
“คุณแม่คะ” ปรีชญายังไม่อยากกลับแต่เห็แม่กำลังโกรธก็ยกมือไหว้ทุกคนก่อนจะลุกตามแม่กับพ่อเดินออกไปจากงาน
“แกไปมีแฟนตอนไหนนายไวทย์.” ดิลกถามลูกชายลูกชาย
“สองปีแล้วครับคุณพ่อ ผมรอให้เธอเรียนจบก่อนและวันนี้จะพามาแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่รู้จักแต่เธอกลับไปก่อนครับ.”
“อย่าบอกนะว่าหนูลีเป็นแฟนเรา” ชลาลัยแม่ของโชติกาถามหลานชายเพราะมีวลาลีคนเดียวที่มางานวันเกิดของหลานชาย
“ครับน้าแหว๋ว หนูลีเป็นแฟนผมครับ” ไวทย์ตอบอย่างหนักแน่น
“ตาไวทย์นะตาไวทย์ เฮ้อ แม่กลับบ้านก่อนนะพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน ไปค่ะคุณพี่ พี่กลับก่อนนะแหว๋ว คุณบั้ด.” จารุมลบอกน้องสาวกับน้องเขย
“งั้นแหว๋วกลับพร้อมพี่หวานเลยดีกว่าค่ะ ไปค่ะคุณ” ชลาลัยก็ลุกขึ้นกลับพร้อมพี่สาวพี่เขยส่วนลูกสาวก็ยังสนุกอยู่จึงให้คนขับรถกลับมารับ
ไวทย์ก็หมดสนุกจึงเอาแต่ดื่มเพราะเรื่องของปรีชญา มันเกิดอะไรขึ้นทั้งที่ทุกคนก็รู้ว่าเขารักปรีชญาเหมือนน้องสาวแล้วเธอไปบอกแม่ของเธอว่าคบกับเขาได้ยังไง
“เกิดอะไรขึ้นวะ” รณชัยถามเพื่อที่มานั่งด้วยแล้วเอาแต่ดื่ม
“งานเข้าน่ะสิ ฉันบอกพ่อกับแม่ว่ามีแฟนแล้ว แต่น้องปี่ดันไปบอกแม่ของเธอว่าคบกับฉันทั้งที่รู้ว่าฉันคุณน้าปิ้กก็โวยวายน่ะสิ อยากจะบ้าจริงๆ” ไวทย์ยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มเหมือนกับน้ำเปล่า
“กูว่าแล้วไง งานเข้ามึงแล้วไงไอ้ไวทย์” ธรรศพูดขึ้นเขาคิดอยู่ว่าปรีชญาไม่ปล่อยไวทย์แน่แต่ไม่คิดว่าจะเล่นแบบนี้
“แล้วแกจะทำยังไงวะ”
