บทที่1 (2)
ร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นแค่เข่า ผิวของเขาค่อนข้างขาว ใบหน้าที่ได้รูปรับกับจมูกโด่งริมฝีปากสีระเรื่ออิ่มเต็ม ไม่หนาและไม่บางจนเกินไป ส่วนดวงตาของเขาถูกปกปิดไว้ด้วยแว่นกันแดดสีดำอันใหญ่
“หนึ่งคิดว่าดีแล้วเหรอที่จะทำอย่างนี้” คุณมารตีเอ่ยถามบุตรชายคนเดียวด้วยสีหน้ากังวล
“ผมคิดดีแล้วครับ ผมต้องการใครสักคนมาดูแล” ภควัฒน์เอ่ยตอบเสียงนุ่ม “คุณแม่คุณพ่ออย่าห่วงเลย ทำตามที่ผมบอกนั่นแหละ พรุ่งนี้ตอนสายคนที่จะมาสัมภาษณ์คงมาไม่ต่ำกว่าสิบ ผมตาบอด ยังไงคุณพ่อคุณแม่ช่วยผมดูด้วยก็แล้วกัน”
คุณมารตีหันไปสบตากับสามีพร้อมกับถอนหายใจยาว แม้ว่าเธอจะไม่ชอบแผนของลูกชาย แต่เธอก็ขัดเขาไม่ได้ วิธีที่เธอคิดว่าไม่เข้าท่า แต่สามีกลับเห็นด้วย “ตามใจ เอาไงก็เอากัน”
พูดจบหญิงสูงวัยก็ลุกขึ้นเดินจากไป ทิ้งให้สองหนุ่มต่างวัยนั่งมองตามหลังของเธอไปจนลับตา
“คุณแม่คงไม่พอใจมาก” ภควัฒน์หันมากล่าวกับบิดา
“เป็นธรรมดาที่แม่ของแกจะไม่พอใจ” คุณคำรณถอนหายใจด้วยความอึดอัด “แม่ของแกเขาหวังกับสะใภ้ไว้มาก ผิดหวังก็เป็นของแน่อยู่แล้ว”
“ท่านต้องการณัฐนารีมาเป็นสะใภ้ แต่ผมไม่ชอบผู้หญิงที่มีแต่ความสวยบวกรวย แต่ทำอะไรไม่เป็นแบบนั้นมาเป็นเมีย”
“แกไม่ต้องคิดมากหรอก พ่อตามใจแก ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ชอบคนไหนเลือกคนนั้น ส่วนแม่ของแกพ่อจะคุยเอง”
“ขอบคุณครับคุณพ่อที่เข้าใจผม”
“พ่อกับแม่พร้อมที่จะเข้าใจแกเสมอ เพียงแต่แม่ของแกมีความทิฐิเรื่องผู้หญิงกับชาติตระกูลมากไปหน่อย แล้วสักวันเขาก็จะเข้าใจแกเอง”
“ครับคุณพ่อ”
“เอาล่ะพ่อขอตัวไปคุยกับแม่ของแกก่อน แกก็กลับไปพักเถอะ พรุ่งนี้งานที่แกวางเอาไว้จะทำให้แกปวดหัวไม่น้อย” คุณคำรณลุกขึ้นยืน ร่างสูงใหญ่ที่ยังดูปราดเปรียวเดินจากไปอีกคน ปล่อยให้ลูกชาย สุดหล่อนั่งอยู่เพียงลำพัง
ภควัฒน์ลุกขึ้นไปยืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ความคิดของชายหนุ่มล่องลอยไปไกล พรุ่งนี้แล้วจะเป็นวันตัดสินชี้ชะตาของเขา เนื่องจากที่เขาประกาศรับสมัครพี่เลี้ยงดูแลคนตาบอด ซึ่งก็คือเขานั่นเอง
แต่จริงๆ แล้วเขาไม่ได้ตาบอด เขาต้องทำอย่างนี้เพราะเขาอยากจะเจอผู้หญิงที่รักเขาจริงๆ สักคน ไม่ใช่รักเขาที่รูปร่างหน้าตาหรือฐานะ
ถ้าหากในวันพรุ่งนี้เขาเลือกคนใดคนหนึ่งมา และไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เขาอาจจะต้องทำตามที่มารดาต้องการ คือการแต่งงานกับ ณัฐนารี น้องสาวของเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนกัน ตามความประสงค์ของคุณมารตี
เขาเคยเจอกับณัฐนารีมาบ้าง ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา เพราะนอกจากความสวยแล้วณัฐนารีไม่มีอะไรดีเลย ชายหนุ่มหวังว่าในวันพรุ่งนี้เขาจะเจอผู้หญิงที่ไม่รักวัตถุรอบกายเขา แต่รักที่จิตใจของเขา เพราะการเลือกพี่เลี้ยงพรุ่งนี้คือการเลือกคู่ครองนั่นเอง
และถ้าหากสวรรค์มีตาคงประทานคู่ครองที่เขาต้องการมาให้ และถ้าเป็นไปได้ ขอหญิงสาวที่เคยมีความทรงจำครั้งอดีตมาให้เขาจะ ดีมาก
เฮ้อ แต่จะเป็นไปได้เหรอ ในเมื่อเขาไม่เจอกับเธอคนนั้นมานานหลายปีแล้ว ไม่รู้ว่ากาลเวลาที่ผ่านมา เธอจะเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง
ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากให้เธอมาเห็นประกาศเขาแล้วมาสมัคร เขาเชื่อว่าร่องรอยแห่งความทรงจำที่เหลืออยู่จะทำให้เขาจำเธอได้ ‘วีรยา’
ภายในห้องเช่าเก่าโทรม ปานพรนั่งมองอาการของยายสายด้วยความเป็นห่วง ยาที่เธอจัดมาให้ยายกินดูแล้วคงจะไม่ค่อยได้ผล ยายสายไม่มีอาการดีขึ้นเลย เธอพยายามเช็ดตัวให้ทั้งคืน จวบจนกระทั่งถึงเช้าวันนี้แล้วเธอยังไม่ได้หลับตานอน
“ป่านเอ๊ยเอ็งจะไปสมัครงานทำไมไม่อาบน้ำแต่งตัวเสียทีล่ะ เดี๋ยวไปไม่ทันเขานะลูก ยายสายลืมตาขึ้นมาถามหลานเมื่อเห็นว่า อีกฝ่ายยังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ลุกไปอาบน้ำแต่งตัว
“ยายรู้หรือจ้ะว่าฉันจะไปสมัครงานวันนี้” หญิงสาวถามอย่างสงสัย
“อ้าว ก็เมื่อวานเอ็งกลับจากซื้อยามาถึงก็เล่าให้ยายฟังว่าจะไปสมัครเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ตาบอด เอ็งลืมแล้วหรือ”
ปานพรยิ้มเชียว “ไม่ลืมหรอกค่ะยาย แต่ป่านไม่อยากคาดหวังเลย เฮ้อ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวป่านไปเตรียมตัวก่อนนะคะ ยายนอนพักเถอะ”
“ไม่ต้องห่วงยายหรอกป่าน เอ็งเอายามาไว้ใกล้ๆ ยายก็พอ”
“จ้ะยาย”
หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ไม่ห่าง เธอรีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปสอบสัมภาษณ์ เธอหวังว่าจะโชคดีได้ถูกเลือก จะได้มีเงินพายายไปหาหมอเสียที