บทที่2ชายแปลกหน้ากับค่ำคืนหวามๆ
จาคอบยกยิ้มมุมปาก เขาคืบคลานเข้าไปใกล้ๆ อีกหนึ่งฝ่ามือ...
ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายเจิดจ้าท่ามกลางบรรยากาศมึนมัว พิชชาวีร์เขม้นมอง ดวงตาเธอหรี่ปรือเกือบจะปิดลงรอมร่อ มีจำนวนแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดเกินกว่าที่ตัวเองกำหนดไว้ เธอมึนเมาและกำลังสับสน? จนมองเห็นผู้ชายแปลกหน้าตรงหน้าเป็นเทพบุตรสุดหล่อ นัยน์ตาสีฟ้าสดเป็นประกาย มันชวนให้หลงใหลและคล้อยตาม สติอันน้อยนิดรางเลือน ก่อนจะวูบดับลงไปแบบปิดสวิตช์
“โอ๊ะ!” จาคอบเกือบถลาเข้าไปรับไม่ทัน จู่ๆ ผู้หญิงแปลกหน้าแสนสวยก็ฟุบฮวบลงมาดื้อๆ
“ผู้หญิงคนนี้พวกเราเจอก่อน!!!” ชายหนุ่มผอมแห้งสามคนถลันเข้ามายืนจังก้า เขาส่งเสียงขุ่นเขียวและโอบล้อมจาคอบเอาไว้ ชายหนุ่มกระชับร่างอวบอุ่นในอ้อมแขนแน่นขึ้น เขาปรายตาประเมินกำลังของทุกๆ คน พร้อมที่จะลงมือและคงสามารถล้มทั้งหมดภายในเวลา3นาที เมื่อดูแล้วไม่มีใครน่ากลัวสักคน “แล้วไง! พวกนายเจอก่อน แต่เธอไม่สนพวกนายนี่นา แล้วเวลานี้ใครเจอก่อนไม่สำคัญ เท่ากับว่าตอนนี้เธออยู่ในอ้อมแขนของฉัน!” จาคอบเอ่ยเสียงนิ่งๆ เขาหรี่เปลือกตาลง กวาดมองไอ้หนุ่มวัยละอ่อนแบบไม่กริ่งเกรง
“เห้ย! พูดหมาๆ แบบนี้ได้ไงวะไอ้ฝรั่งกระจอก ที่นี่ประเทศไทยนะโว้ยอย่ามาทำเป็นกร่าง เดี๋ยวจะเจ็บตัวฟรี!”
“อื้อหึ! ใช่ไทยแลนด์ ฉันยืนอยู่บนประเทศไทย แต่ทำไมฉันต้องกลัวคำขู่ของพวกนายด้วยล่ะ” จาคอบเอนตัวหญิงสาวให้พิงพนักเก้าอี้ เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืนพร้อมกับขยับตัวเตรียมความพร้อม หากถูกล้อมคงต้องป้องกันตัวเอง
“จัดการไอ้ฝรั่งขี้นกนี่ให้ยับเลยว่ะ หมูเขาจะหาม...ดันเสือกเอาคานเข้ามาสอด กระทืบแม่งให้จมตีน!” ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นหัวโจก เขาตะโกนสั่งเพื่อน ขยับตัวพรึ่บพั่บเตรียมจะเข้าตะลุมบอน แต่ก็ต้องถอยกลับ ถอยกรูดไม่เป็นกระบวนท่า เมื่อจาคอบควักอาวุธคู่กายขึ้นมาจากซอกเอว มัจจุราชสีเงินวาวระยับ มันสะท้อนกับแสงไฟวิบวับ ชายหนุ่มยกอาวุธคู่กายเล็งปลายกระบอกปืนไปที่กลุ่มหนุ่มๆ ผอมแห้ง เขาไม่ได้คิดจะใช้มันแค่อยากขู่ ไม่อยากให้เรื่องลุกลามไปไกลเกินกว่าอำนาจที่เขามี
“โห! แค่นี้ต้องใช้ปืน พี่ชายอยากเอาอีนี่ก็เอาไปเลย! พวกฉันหาจับเหยื่อคนใหม่ก็ได้ ไปล่ะไม่อยากมีเรื่อง” พวกมันทั้งหมดฉากหลบวิถีกระสุนกันอลหม่าน สภาวะตึงเครียดก็กลับสู่สภาพเดิม จาคอบเก็บอาวุธประจำตัวเก็บไว้ที่ซอกรักแร้เหมือนเดิม ชายหนุ่มส่ายหน้ามองผู้หญิงต้นเรื่องนิ่งๆ เธอเมาหมดสติ จนไม่รู้ว่าเกือบจะหมดอนาคตหากตกไปอยู่ในกำมือของหนุ่มเดนตายพวกนั้น แต่ใช่ว่าเธอจะปลอดภัย!!! เมื่อเธอกำลังจะตกอยู่ในห้วงอันตรายที่สุด เพราะเขาก็เป็นชายหนุ่มทั่วๆ ไปที่ไร้ศีลธรรมเฉกเช่นผู้ทรงศีล เขาไม่อาจรับรองได้หากมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างกัน ก็ต้องไปต่อว่าพระพรหมเอาเอง ที่ชักพาให้เธอมาเจอกับผู้ชายเถื่อนๆ เช่นเขา
“พี่ๆ ใครจะจ่ายค่าเครื่องดื่ม” บาร์เทนเดอร์หนุ่มถามเบาๆ เมื่อมันเป็นหน้าที่รับผิดชอบของเขา
“คิดที่ฉันเลยก็ได้” ชายหนุ่มส่งบัตรเครดิตให้พนักงาน และประคองพิชชาวีร์ขึ้นมาในอ้อมแขน บาร์เทนเดอร์หนุ่มรีบรูดการ์ดกดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมด ก่อนจะรีบส่งคืนให้กับจาคอบ เมื่อเขารู้ว่าค่ำคืนนี้คงเป็นสวรรค์ชั้นฟ้าของชายหนุ่มเลยเมื่อเขาเก็บได้ผู้หญิงสวยโสภาไว้ในอ้อมแขน
“โชคดีพี่ เบาๆ ล่ะ คุณผู้หญิงดูไม่ค่อยกร้านโลกเท่าไหร่” คำแนะนำเหมือนจะหวังดี แต่มันแฝงแววเหยียดๆ ตามติดมาด้วย เพราะไม่มีผู้หญิงดีๆ ที่ไหน มาดื่มเหล้าเพียงลำพังในที่ที่ แสนจะอันตรายกับสวัสดิภาพของตัวเอง จาคอบยกยิ้มมุมปากเขาพอจะรู้ว่าเธอดูอ่อนเดียงสา มันเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนี้นะ? มันจึงทำให้เธอมาอยู่ที่นี่ในเวลานี้ กับสภาพที่ไม่น่าดูเท่าไหร่
ชายหนุ่มคว้ากระเป๋าสะพายของพิชชาวีร์ขึ้นมาคล้องไว้ที่หัวไหล่ เขาช้อนอุ้มเรือนกายโปร่งระหงไว้ในวงแขน เหมือนว่าเธอเบาแสนเบา ก่อนจะเดินผ่านกลุ่มหนุ่มๆ ไปโดยที่ไม่มีใครกล้าคัดค้าน สายตาหลายคู่มองตามจาคอบไป มีทั้งยินดีและอิจฉาที่ชายหนุ่มได้ผู้หญิงอวบอัดไปอุ่นเตียงในค่ำคืนนี้